พบผลลัพธ์ทั้งหมด 357 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 967/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาทจากการเล่นแชร์ล้ม: ผู้ทรงโดยชอบตามกฎหมายมีสิทธิเรียกเงินได้ทันที
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็คจำนวน 10,000 บาทซึ่งจำเลยเป็นผู้สั่งจ่าย จำเลยให้การว่าเช็คตามฟ้องไม่สมบูรณ์เพราะจำเลยไม่ได้ลงวันที่สั่งจ่าย โจทก์หรือบุคคลอื่นไม่ได้ตกลงกับจำเลยให้ลงวันที่สั่งจ่ายตามที่ปรากฏ เช็คพิพาทและเช็คอื่นๆ อีก 13 ฉบับๆ ละ 10,000 บาทจำเลยออกให้ ฮ.หัวหน้าวงแชร์เนื่องจากจำเลยประมูลแชร์ได้เพื่อให้ ฮ. นำเช็คนั้นไปมอบให้ลูกวงแชร์คนอื่นๆ ถือไว้เป็นประกัน และ ฮ. ต้องเก็บเงินจากลูกวงมามอบให้จำเลย แต่ ฮ. เก็บเงินมาให้จำเลยขาดไป28,000 บาท อ้างว่าลูกวงแชร์ยังไม่จ่ายให้แล้ว ฮ. หลบหนีไป โจทก์เล่นแชร์ด้วยผู้หนึ่งยังไม่ได้ประมูลหากโจทก์ประมูลได้ต้องมอบเช็คให้ ฮ. มาเก็บเงินจากจำเลย โจทก์ไม่มีสิทธินำไปขึ้นเงิน หากโจทก์รับโอนเช็คก็รับโอนโดยไม่สุจริต ดังนี้ ตามคำให้การจำเลยแสดงว่า ฮ. ได้เก็บเงินค่าแชร์จากโจทก์มอบให้จำเลยไปแล้วเงินจำนวนนี้เป็นเงินที่จำเลยยืมตามวิธีเล่นแชร์ซึ่งจำเลยจะต้องใช้คืนโจทก์เมื่อโจทก์ประมูลแชร์ได้เป็นการจ่ายเช็คโดยมีเจตนาจะให้ผูกพันชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย แต่ตามคำให้การจำเลยแสดงว่าวงแชร์ล้มและนายวงหลบหนี ถือได้ว่าการเล่นแชร์เลิกกันไป โจทก์จึงชอบที่จะเรียกให้จำเลยชำระเงินยืมได้ทันทีดังนั้นตั้งแต่วันแชร์ล้มโจทก์ชอบที่จะลงวันสั่งจ่ายในเช็คและนำไปขึ้นเงินจากธนาคารได้ ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย และวันสั่งจ่ายที่ลงในเช็คเป็นวันที่ถูกต้องแท้จริง จำเลยผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดต่อโจทก์ตามข้อความในเช็คไม่จำเป็นต้องฟังข้อเท็จจริงอื่นใดต่อไปอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 967/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คไม่สมบูรณ์แต่ใช้ได้เมื่อวงแชร์ล้ม ผู้ทรงเช็คมีสิทธิเรียกเงินได้ทันที
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็คจำนวน 10,000 บาท ซึ่งจำเลยเป็นผู้สั่งจ่าย จำเลยให้การว่าเช็คตามฟ้องไม่สมบูรณ์เพราะจำเลยไม่ได้ลงวันที่สั่งจ่าย โจทก์หรือบุคคลอื่นไม่ได้ตกลงกับจำเลยให้ลงวันที่สั่งจ่ายตามที่ปรากฏ เช็คพิพาทและเช็คอื่น ๆ อีก 13 ฉบับ ๆ ละ 10,000 บาท จำเลยออกให้ ฮ. หัวหน้าวงแชร์เนื่องจากจำเลยประมูลแชร์ได้ เพื่อให้ ฮ. นำเช็คนั้นไปมอบให้ลูกวงแชร์คนอื่น ๆ ถือไว้เป็นประกัน และ ฮ. ต้องเก็บเงินจากลูกวงมามอบให้จำเลย แต่ ฮ. เก็บเงินมาให้จำเลยขาดไป 28,000 บาท อ้างว่าลูกวงแชร์ยังไม่จ่ายให้แล้วฮ. หลบหนีไป โจทก์เล่นแชร์ด้วยผู้หนึ่งยังไม่ได้ประมูล หากโจทก์ประมูลได้ต้องมอบเช็คให้ ฮ. มาเก็บเงินจากจำเลย โจทก์ไม่มีสิทธินำไปขึ้นเงิน หากโจทก์รับโอนเช็คก็รับโอนโดยไม่สุจริต ดังนี้ ตามคำให้การจำเลยแสดงว่า ฮ. ได้เก็บเงินค่าแชร์จากโจทก์มอบให้จำเลยไปแล้ว เงินจำนวนนี้เป็นเงินที่จำเลยยืมตามวิธีเล่นแชร์ซึ่งจำเลยจะต้องใช้คืนโจทก์เมื่อโจทก์ประมูลแชร์ได้ เป็นการจ่ายเช็คโดยมีเจตนาจะให้ผูกพันชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย แต่ตามคำให้การจำเลยแสดงว่าวงแชร์ล้มและนายวงหลบหนี ถือได้ว่าการเล่นแชร์เลิกกันไป โจทก์จึงชอบที่จะเรียกให้จำเลยชำระเงินยืมได้ทันที ดังนั้น ตั้งแต่วันแชร์ล้มโจทก์ชอบที่จะลงวันที่สั่งจ่ายในเช็คและนำไปขึ้นเงินจากธนาคารได้ ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย และวันสั่งจ่ายที่ลงในเช็คเป็นวันที่ถูกต้องแท้จริง จำเลยผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดต่อโจทก์ตามข้อความในเช็ค ไม่จำเป็นต้องฟังข้อเท็จจริงอื่นใดอีกต่อไปอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 612-615/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คสั่งจ่าย-ปฏิเสธการจ่ายเงิน-การออกเช็คแทนกัน-การรับผิดตามเช็ค-หน้าที่พิสูจน์
โจทก์กู้เงินจำเลยและจำนองที่ดินไว้เป็นประกัน ต่อมาโจทก์ออกเช็คสั่งจ่ายเงินให้จำเลยเพื่อชำระหนี้จำนองดังกล่าวบางส่วน และจำเลยได้รับเงินตามเช็คนั้นแล้วดังนี้ แม้มิได้มีการจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองบางส่วนแต่เมื่อสัญญาจำนองระบุไว้ว่าผู้รับจำนองยินยอมให้แบ่งไถ่ถอนจำนองได้ทั้งการจำนองที่ดินนี้เป็นการจำนองเพื่อประกันเงินกู้ การผ่อนชำระต้นเงินกู้บางส่วนหาต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่ผลตามกฎหมายจึงมิใช่ว่าโจทก์มิได้ชำระหนี้เงินกู้ให้จำเลยดังจำเลยอ้าง
กรณีคู่ความซึ่งมีหน้าที่นำสืบพยานภายหลังต้องถามค้านพยานของฝ่ายที่นำสืบก่อนไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 วรรคแรก(ข) นั้น หมายความว่าเพื่อพิสูจน์ข้อความอย่างใดอย่างหนึ่งอันเกี่ยวด้วยการกระทำหรือถ้อยคำ หรือหนังสือซึ่งพยานที่มาเบิกความได้กระทำขึ้น ดังนั้น เมื่อโจทก์เป็นฝ่ายมีหน้าที่นำพยานมาสืบก่อน แต่ตัวโจทก์ซึ่งจำเลยอ้างว่าจำเลยเป็นผู้ออกเช็คให้ได้ถึงแก่กรรมเสียก่อนที่จะมาเบิกความแม้จะมีผู้เข้ามาเป็นคู่ความแทนที่และได้มาเบิกความต่อศาลก็ตามก็มิใช่ผู้ที่จำเลยออกเช็คให้โดยตรง จึงมิใช่กรณีที่จำเลยต้องถามค้านไว้ก่อนตามบทกฎหมายดังกล่าว
โจทก์ออกเช็คพิพาทให้จำเลยแทนเช็คฉบับก่อนที่จำเลยอ้างว่าหายไปเมื่อปรากฏว่าจำเลยได้นำเช็คฉบับที่อ้างว่าหายนั้นไปขึ้นเงินได้แล้วโจทก์ไม่ต้องรับผิดตามเช็คฉบับพิพาทอีก
กรณีคู่ความซึ่งมีหน้าที่นำสืบพยานภายหลังต้องถามค้านพยานของฝ่ายที่นำสืบก่อนไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 วรรคแรก(ข) นั้น หมายความว่าเพื่อพิสูจน์ข้อความอย่างใดอย่างหนึ่งอันเกี่ยวด้วยการกระทำหรือถ้อยคำ หรือหนังสือซึ่งพยานที่มาเบิกความได้กระทำขึ้น ดังนั้น เมื่อโจทก์เป็นฝ่ายมีหน้าที่นำพยานมาสืบก่อน แต่ตัวโจทก์ซึ่งจำเลยอ้างว่าจำเลยเป็นผู้ออกเช็คให้ได้ถึงแก่กรรมเสียก่อนที่จะมาเบิกความแม้จะมีผู้เข้ามาเป็นคู่ความแทนที่และได้มาเบิกความต่อศาลก็ตามก็มิใช่ผู้ที่จำเลยออกเช็คให้โดยตรง จึงมิใช่กรณีที่จำเลยต้องถามค้านไว้ก่อนตามบทกฎหมายดังกล่าว
โจทก์ออกเช็คพิพาทให้จำเลยแทนเช็คฉบับก่อนที่จำเลยอ้างว่าหายไปเมื่อปรากฏว่าจำเลยได้นำเช็คฉบับที่อ้างว่าหายนั้นไปขึ้นเงินได้แล้วโจทก์ไม่ต้องรับผิดตามเช็คฉบับพิพาทอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 612-615/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้จำนองบางส่วน, เช็คค้ำประกัน, และการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับชำระหนี้
โจทก์กู้เงินจำเลยและจำนองที่ดินไว้เป็นประกัน ต่อมาโจทก์ออกเช็คสั่งจ่ายเงินให้จำเลยเพื่อชำระหนี้จำนองดังกล่าวบางส่วน และจำเลยได้รับเงินตามเช็คนั้นแล้ว ดังนี้ แม้มิได้มีการจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองบางส่วน แต่เมื่อสัญญาจำนองระบุไว้ว่าผู้รับจำนองยินยอมให้แบ่งไถ่ถอนจำนองได้ ทั้งการจำนองที่ดินนี้เป็นการจำนองเพื่อประกันเงินกู้ การผ่อนชำระต้นเงินกู้บางส่วนหาต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่ ผลตามกฎหมายจึงมิใช่ว่าโจทก์มิได้ชำระหนี้เงินกู้ให้จำเลยดังจำเลยอ้าง
กรณีคู่ความซึ่งมีหน้าที่นำสืบพยานภายหลังต้องถามค้านพยานของฝ่ายที่นำสืบก่อนไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 วรรคแรก (ข) นั้น หมายความว่าเพื่อพิสูจน์ข้อความอย่างใดอย่างหนึ่งอันเกี่ยวด้วยการกระทำหรือถ้อยคำ หรือหนังสือซึ่งพยานที่มาเบิกความได้กระทำขึ้น ดังนั้น เมื่อโจทก์เป็นฝ่ายมีหน้าที่นำพยานมาสืบก่อน แต่ตัวโจทก์ซึ่งจำเลยอ้างว่าจำเลยเป็นผู้ออกเช็คให้ได้ถึงแก่กรรมเสียก่อนที่จะมาเบิกความ แม้จะมีผู้เข้ามาเป็นคู่ความแทนที่และได้มาเบิกความต่อศาลก็ตาม ก็มิใช่ผู้ที่จำเลยออกเช็คให้โดยตรง จึงมิใช่กรณีที่จำเลยต้องถามค้านไว้ก่อนตามบทกฎหมายดังกล่าว
โจทก์ออกเช็คพิพาทให้จำเลยแทนเช็คฉบับก่อนที่จำเลยอ้างว่าหายไป เมื่อปรากฏว่าจำเลยได้นำเช็คฉบับที่อ้างว่าหายนั้นไปขึ้นเงินได้แล้ว โจทก์ก็ไม่ต้องรับผิดตามเช็คฉบับพิพาทอีก
กรณีคู่ความซึ่งมีหน้าที่นำสืบพยานภายหลังต้องถามค้านพยานของฝ่ายที่นำสืบก่อนไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 วรรคแรก (ข) นั้น หมายความว่าเพื่อพิสูจน์ข้อความอย่างใดอย่างหนึ่งอันเกี่ยวด้วยการกระทำหรือถ้อยคำ หรือหนังสือซึ่งพยานที่มาเบิกความได้กระทำขึ้น ดังนั้น เมื่อโจทก์เป็นฝ่ายมีหน้าที่นำพยานมาสืบก่อน แต่ตัวโจทก์ซึ่งจำเลยอ้างว่าจำเลยเป็นผู้ออกเช็คให้ได้ถึงแก่กรรมเสียก่อนที่จะมาเบิกความ แม้จะมีผู้เข้ามาเป็นคู่ความแทนที่และได้มาเบิกความต่อศาลก็ตาม ก็มิใช่ผู้ที่จำเลยออกเช็คให้โดยตรง จึงมิใช่กรณีที่จำเลยต้องถามค้านไว้ก่อนตามบทกฎหมายดังกล่าว
โจทก์ออกเช็คพิพาทให้จำเลยแทนเช็คฉบับก่อนที่จำเลยอ้างว่าหายไป เมื่อปรากฏว่าจำเลยได้นำเช็คฉบับที่อ้างว่าหายนั้นไปขึ้นเงินได้แล้ว โจทก์ก็ไม่ต้องรับผิดตามเช็คฉบับพิพาทอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 254/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับผิดในเช็คของหุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด และอำนาจกรรมการลงลายมือชื่อ
จำเลยมิได้อุทธรณ์ว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม เพราะมิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้ชำระหนี้ให้โจทก์ด้วยมูลหนี้อะไร และโจทก์ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายอย่างไร ดังที่จำเลยให้การตัดฟ้อง จำเลยกลับอุทธรณ์ว่า เมื่อโจทก์มิได้นำสืบถึงการเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายหรือนำสืบถึงมูลหนี้เช็คตามฟ้อง จึงเป็นคำฟ้องที่เคลือบคลุม ฎีกาข้อนี้ของจำเลยจึงมิได้เป็นข้อที่ยกขึ้นมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ไม่ใช่ปัญหาที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
การที่บริษัทโจทก์จดทะเบียนว่า กรรมการสองนายมีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท หมายความว่า กรรมการ 2 คน ไม่ว่าชายหรือหญิงร่วมกันลงชื่อแทนบริษัทโจทก์ได้
จำเลยออกเช็คชำระหนี้ให้โจทก์แทนห้างหุ้นส่วนจำกัดซึ่งจำเลยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ และเป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิด จำเลยจึงต้องรับผิดตามเช็คนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1077 (2), 900
การที่บริษัทโจทก์จดทะเบียนว่า กรรมการสองนายมีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท หมายความว่า กรรมการ 2 คน ไม่ว่าชายหรือหญิงร่วมกันลงชื่อแทนบริษัทโจทก์ได้
จำเลยออกเช็คชำระหนี้ให้โจทก์แทนห้างหุ้นส่วนจำกัดซึ่งจำเลยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ และเป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิด จำเลยจึงต้องรับผิดตามเช็คนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1077 (2), 900
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1463-1464/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คสั่งจ่ายแก่ผู้ถือ โอนได้โดยการส่งมอบ ผู้รับโอนมีอำนาจฟ้องได้ การเล่นแชร์ไม่เกินวัตถุประสงค์นิติบุคคล
จำเลยร่วมเล่นแชร์และประมูลแชร์ได้ไปแล้ว ได้ออกเช็คไว้ให้เพื่อให้ผู้ประมูลได้ภายหลังนำไปขึ้นเงินได้ทันที เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายแก่ผู้ถือ จึงโอนกันได้เพียงการส่งมอบ เมื่อโจทก์เป็นผู้เล่นแชร์วงนี้ด้วย และรับโอนเช็คเหล่านี้มาจากผู้เล่นคนอื่น ๆ โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทโดยชอบ จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 989 และมาตรา 914
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คดังกล่าว โดยบรรยายฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คและจำเลยเป็นผู้สั่งจ่าย การบรรยายฟ้องของโจทก์จึงชัดเจนเพียงพอที่จะทำให้จำเลยเข้าใจสภาพแห่งข้อหาและหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องชำระเงินตามเช็คพิพาทเหล่านี้แล้ว ไม่จำต้องบรรยายว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายด้วยมูลหนี้อะไร มีผู้สลักหลังให้มาหรืออย่างไร ฯลฯ
การเล่นแชร์เป็นสัญญาชนิดหนึ่ง มุ่งหมุนเวียนเงินมาจับจ่ายใช้สอยโดยผลัดกันยืมแล้วผ่อนใช้ การที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดเล่นแชร์เพื่อหาเงินมาใช้ในการดำเนินกิจการของนิติบุคคลเช่นนี้ จึงไม่เป็นการนอกเหนือวัตถุประสงค์
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คดังกล่าว โดยบรรยายฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คและจำเลยเป็นผู้สั่งจ่าย การบรรยายฟ้องของโจทก์จึงชัดเจนเพียงพอที่จะทำให้จำเลยเข้าใจสภาพแห่งข้อหาและหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องชำระเงินตามเช็คพิพาทเหล่านี้แล้ว ไม่จำต้องบรรยายว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายด้วยมูลหนี้อะไร มีผู้สลักหลังให้มาหรืออย่างไร ฯลฯ
การเล่นแชร์เป็นสัญญาชนิดหนึ่ง มุ่งหมุนเวียนเงินมาจับจ่ายใช้สอยโดยผลัดกันยืมแล้วผ่อนใช้ การที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดเล่นแชร์เพื่อหาเงินมาใช้ในการดำเนินกิจการของนิติบุคคลเช่นนี้ จึงไม่เป็นการนอกเหนือวัตถุประสงค์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1463-1464/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาท ผู้ทรงเช็คโดยชอบ ฟ้องเรียกเงินตามเช็คได้ แม้ไม่ได้ระบุรายละเอียดการรับเช็ค
จำเลยร่วมเล่นแชร์และประมูลแชร์ได้ไปแล้ว ได้ออกเช็คพิพาทไว้ให้เพื่อให้ผู้ประมูลได้ภายหลังนำไปขึ้นเงินได้ทันที เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายแก่ผู้ถือ จึงโอนกันได้เพียงการส่งมอบ เมื่อโจทก์เป็นผู้เล่นแชร์วงนี้ด้วย และรับโอนเช็คเหล่านี้มาจากผู้เล่นคนอื่นๆ โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทโดยชอบ จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 989 และมาตรา 914
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คดังกล่าว โดยบรรยายฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คและจำเลยเป็นผู้สั่งจ่าย การบรรยายฟ้องของโจทก์จึงชัดเจนเพียงพอที่จะทำให้จำเลยเข้าใจสภาพแห่งข้อหาและหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องชำระเงินตามเช็คพิพาทเหล่านี้แล้ว ไม่จำต้องบรรยายว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายด้วยมูลหนี้อะไร มีผู้สลักหลังให้มาหรืออย่างไร ฯลฯ
การเล่นแชร์เป็นสัญญาชนิดหนึ่ง มุ่งหมุนเวียนเงินมาจับจ่ายใช้สอยโดยผลัดกันยืมแล้วผ่อนใช้ การที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดเล่นแชร์เพื่อหาเงินมาใช้ในการดำเนินกิจการของนิติบุคคลเช่นนี้ จึงไม่เป็นการนอกเหนือวัตถุประสงค์
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คดังกล่าว โดยบรรยายฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คและจำเลยเป็นผู้สั่งจ่าย การบรรยายฟ้องของโจทก์จึงชัดเจนเพียงพอที่จะทำให้จำเลยเข้าใจสภาพแห่งข้อหาและหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องชำระเงินตามเช็คพิพาทเหล่านี้แล้ว ไม่จำต้องบรรยายว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายด้วยมูลหนี้อะไร มีผู้สลักหลังให้มาหรืออย่างไร ฯลฯ
การเล่นแชร์เป็นสัญญาชนิดหนึ่ง มุ่งหมุนเวียนเงินมาจับจ่ายใช้สอยโดยผลัดกันยืมแล้วผ่อนใช้ การที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดเล่นแชร์เพื่อหาเงินมาใช้ในการดำเนินกิจการของนิติบุคคลเช่นนี้ จึงไม่เป็นการนอกเหนือวัตถุประสงค์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1403/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คลงวันในภายหลังไม่ขาดอายุความ หากมีเจตนาให้ลงวันเมื่อต้องการเบิก
ผู้สั่งจ่ายออกเช็คซึ่งไม่ลงวัน แต่ด้วยเจตนาให้ผู้ทรงจดวันลงในเช็คเองเมื่อต้องการเบิกเงินจากธนาคาร แม้ผู้ทรงกรอกวันลงหลังจากที่ผู้สั่งจ่ายออกเช็คเป็นเวลา 2 ปี ก็ไม่ขาดอายุความ 1 ปี ตามมาตรา 1002
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3015/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความต้องมีเจตนาคืนเช็ค การผ่อนชำระหนี้ตามเช็คไม่ใช่การระงับหนี้
บันทึกของพนักงานสอบสวนมีความว่า 'ต่อมาในวันนี้ ได้เรียกนายฮั่งตังแซ่อึ้ง (คือจำเลยที่ 1) พร้อมกับนายไพบูลย์แสงเจริญตระกูล (คือโจทก์) ทั้งสองฝ่ายมา สถานีตำรวจนครบาลพระโขนง 1 ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วทางฝ่ายนายฮั่งตังแซ่อึ้ง ได้รับว่าตนได้ขอยืมเงินสด จำนวน 50,000 บาท จากนายไพบูลย์แสงเจริญตระกูล ไปจริงและได้ออกเช็คของธนาคารไทยพัฒนาทั้งสองฉบับ ไว้เป็นหลักค้ำประกันเงินที่ขอยืมไปจริง ในวันนี้ได้ทำการตกลงกันได้ความว่า ทางฝ่ายนายฮั่งตัง แซ่อึ้ง ยินยอมผ่อนชำระให้เป็นรายเดือน เดือนละ2,000 บาท โดยจะนำเงินมาชำระให้ในวันที่ 15 ของทุก ๆ เดือน จนกว่าจะหมดจำนวนเงินที่ค้างอยู่ เห็นว่าทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ จึงได้จัดทำบันทึกไว้เป็นหลักฐาน' ดังนี้ หาเข้าลักษณะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความไม่ เพราะมิได้กล่าวถึงการคืนเช็คหรือยกเลิกเพิกถอนเช็ค เป็นเพียงความตกลงในการผ่อนชำระหนี้ตามเช็คเท่านั้น สิทธิและความรับผิดชอบระหว่างโจทก์และจำเลยที่ 1 ตามเช็คนั้นยังคงมีอยู่หาได้ระงับสิ้นไปไม่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขอให้จำเลยที่ 1 ใช้เงินตามเช็คทั้งสองฉบับได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3015/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันทึกข้อตกลงผ่อนชำระหนี้เช็ค ไม่ถือเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ สิทธิเรียกร้องตามเช็คยังคงมีอยู่
บันทึกของพนักงานสอบสวนมีความว่า "ต่อมาในวันนี้....... ได้เรียกนายฮั่งตัง แซ่อึ้ง (คือจำเลยที่ 1) พร้อมกับนายไพบูลย์ แสงเจริญตระกูล (คือโจทก์) ทั้งสองฝ่ายมาสถานีตำรวจนครบาลพระโขนง 1 ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วทางฝ่ายนายฮั่งตัง แซ่อึ้ง ได้รับว่าตนได้ขอยืมเงินสด จำนวน 50,000 บาท จากนายไพบูลย์ แสงเจริญตระกูล ไปจริงและได้ออกเช็คของธนาคารไทยพัฒนาทั้งสองฉบับ....... ไว้เป็นหลักค้ำประกันเงินที่ขอยืมไปจริง ในวันนี้ได้ทำการตกลงกันได้ความว่าทางฝ่ายนายฮั่งตัง แซ่อึ้ง ยินยอมผ่อนชำระ ให้เป็นรายเดือน เดือนละ 2,000 บาท โดยจะนำเงินมาชำระให้ในวันที่ 15 ของทุก ๆ เดือนจนกว่าจะหมดจำนวน เงินที่ค้างอยู่ เห็นว่าทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้จึงได้จัดทำบันทึกไว้เป็นหลักฐาน" ดังนี้ หาเข้าลักษณะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความไม่ เพราะมิได้กล่าวถึงการคืนเช็คหรือยกเลิกเพิกถอนเช็ค เป็นเพียงความตกลงในการผ่อนชำระหนี้ตามเช็คเท่านั้น สิทธิและความรับผิดชอบระหว่างโจทก์และจำเลยที่ 1 ตามเช็คนั้นยังคงมีอยู่หาได้ระงับสิ้นไปไม่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขอให้จำเลยที่ 1 ใช้เงินตามเช็คทั้งสองฉบับได้