คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 900

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 357 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 335/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกเงินจากตั๋วแลกเงินและเช็ค ผู้รับอาวัลต้องรับผิดตามมูลหนี้เดิม และดอกเบี้ยตามกฎหมาย
บรรยายฟ้องว่า ชั้นแรกจำเลยออกตั๋วแลกเงิน โดยจำเลยลงชื่อเป็นผู้สั่งจ่ายนำมาขายให้โจทก์ ต่อมาโจทก์ทวงถามเงินที่จำเลยรับไปจากผู้จ่ายไม่ได้ จึงทวงถามจากจำเลย จำเลยกลับนำเช็คทั้ง 3 ฉบับซึ่งเป็นเช็คลงวันที่ล่วงหน้าโดยบุคคลภายนอกเป็นผู้สั่งจ่ายมาโอนขายให้โจทก์อีก เพื่อเป็นการชำระหนี้ตามตั๋วแลกเงินในการนี้จำเลยลงนามสลักหลังเป็นผู้รับอาวัลเช็คทั้ง 3 ฉบับด้วย เช็คถึงกำหนด ปรากฏว่าบุคคลภายนอกนั้นไม่มีเงินในบัญชีธนาคาร โจทก์จึงฟ้องเรียกเงินตามเช็คจากจำเลยเป็นผู้รับอาวัลดังนี้ เป็นเรื่องที่โจทก์บรรยายฟ้องให้ทราบถึงมูลหนี้เดิมว่าเป็นมาอย่างไรบัดนี้จำเลยต้องรับผิดชอบต่อโจทก์อย่างไร หาใช่เป็นเรื่องโจทก์ฟ้องเรียกร้องทั้งหนี้ตามตั๋วแลกเงินและหนี้ตามเช็คไม่ ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องที่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 แล้ว
ข้อกำหนดให้คิดดอกเบี้ยตามที่โจทก์นำสืบมิได้ระบุไว้ในตั๋วแลกเงินฉะนั้น แม้โจทก์จะมีพยานบุคคลมาสืบได้ความว่าจำเลยตกลงยอมเสียดอกเบี้ยให้โจทก์ร้อยละ 15 ต่อปี หามีผลบังคับให้จำเลยต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราตามที่โจทก์นำสืบมาไม่ กรณีต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 968(2) ที่บัญญัติให้ผู้ทรงตั๋วแลกเงินมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยในอัตราเพียงร้อยละห้าต่อปีนับแต่วันที่ตั๋วแลกเงินถึงกำหนดเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 335/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชอบด้วยกฎหมายของฟ้อง และอัตราดอกเบี้ยตามตั๋วแลกเงิน
บรรยายฟ้องว่า ขั้นแรกจำเลยออกตั๋วแลกเงินโดยจำเลยลงชื่อเป็นผู้สั่งจ่ายนำมาขายให้โจทก์ ต่อมาโจทก์ทวงถามเงินที่จำเลยรับไปจากผู้จ่ายไม่ได้ จึงทวงถามจากจำเลย จำเลยกลับนำเช็คทั้ง 3 ฉบับซึ่งเป็นเช็คลงวันที่ล่วงหน้า โดยบุคคลภายนอกเป็นผู้สั่งจ่ายมาโอนขายให้โจทก์อีก เพื่อเป็นการชำระหนี้ตามตั๋วแลกเงิน ในการนี้จำเลยลงนามสลักหลังเป็นผู้รับอาวัลเช็คทั้ง 3 ฉบับด้วย เช็คถึงกำหนดปรากฏว่าบุคคลภายนอกนั้นไม่มีเงินในบัญชีธนาคาร โจทก์จึงฟ้องเรียกเงินตามเช็คจากจำเลยในฐานที่จำเลยเป็นผู้รับอาวัล ดังนี้ เป็นเรื่องที่โจทก์บรรยายฟ้องให้ทราบถึงมูลหนี้เดิมว่าเป็นมาอย่างไร บัดนี้จำเลยต้องรับผิดชอบต่อโจทก์อย่างไร หาใช่เป็นเรื่องโจทก์ฟ้องเรียกร้องทั้งหนี้ตามตั๋วแลกเงินและหนี้ตามเช็คไม่ ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องที่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำข้อบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 แล้ว
ข้อกำหนดให้คิดดอกเบี้ยตามที่โจทก์นำสืบมิได้ระบุไว้ในตั๋วแลกเงิน ฉะนั้น แม้โจทก์มีพยานบุคคลมาสืบได้ความว่าจำเลยตกลงยอมเสียดอกเบี้ยให้โจทก์ร้อยละ 15 ต่อปี หามีบทบังคับให้จำเลยต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราตาที่โจทก์นำสืบหาไม่ กรณีต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 968(2) ที่บัญญัติให้ผู้ทรงตั๋วแลกเงินมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยในอัตราเพียงร้อยละห้าต่อปี นับแต่วันที่ตั๋วแลกเงินถึงกำหนดเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1414/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้สั่งจ่ายเช็คต้องรับผิดต่อผู้ทรงเช็ค แม้มีการผิดสัญญาหรือฉ้อฉลระหว่างผู้ทรงเช็คคนก่อน
เมื่อไม่ปรากฏว่ามีการคบคิดกันฉ้อฉลระหว่างผู้ทรงเช็คกับผู้ทรงเช็คคนก่อน ผู้สั่งจ่ายเช็คจะต้องรับผิดต่อผู้ทรงตามเช็คที่ตนสั่งจ่าย ผู้สั่งจ่ายจะอ้างข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันเฉพาะตนกับผู้ทรงเช็คคนก่อนมาใช้ยันต่อผู้ทรงเช็คคนหลังหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 549/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: คดีอาญาใช้เช็คไม่มีเงิน กับ คดีแพ่งเรียกใช้เงินตามเช็ค ไม่ถือเป็นฟ้องซ้ำ
แม้จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ในศาลชั้นต้นเรื่องฟ้องซ้ำ จำเลยก็ยกขึ้นมาคัดค้านในชั้นฎีกาได้
คดีก่อนโจทก์ฟ้องทางอาญาขอให้ลงโทษจำเลยฐานใช้เช็คไม่มีเงิน แต่คดีหลังโจทก์ฟ้องทางแพ่งขอให้จำเลยใช้เงินตามเช็คที่จำเลยเป็นสั่งจ่าย แม้ว่าจะเป็นเช็คฉบับเดียวกันกับที่พิพาทกันในคดีอาญา ก็ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะเป็นคนละเรื่องคนละประเด็นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 549/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: คดีอาญาใช้เช็คไม่มีเงิน กับ คดีแพ่งเรียกใช้เงินตามเช็ค ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
แม้จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ในศาลชั้นต้นเรื่องฟ้องซ้ำ
จำเลยก็ยกขึ้นมาคัดค้านในชั้นฎีกาได้
คดีก่อนโจทก์ฟ้องทางอาญาขอให้ลงโทษจำเลยฐานใช้เช็คไม่มีเงินแต่คดีหลังโจทก์ฟ้องทางแพ่งขอให้จำเลยใช้เงินตามเช็คที่จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายแม้ว่าจะเป็นเช็คฉบับเดียวกันกับที่พิพาทกันในคดีอาญาก็ไม่เป็นฟ้องซ้ำเพราะเป็นคนละเรื่องคนละประเด็นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้คดีเช็ค: ผู้สั่งจ่ายไม่สามารถปฏิเสธการจ่ายเงินให้ผู้ทรงเช็ค เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่าการโอนเช็คเป็นการฉ้อฉล
เมื่อโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คจำเลยจะอ้างว่าจำเลยออกเช็คให้บุคคลที่สามโดยถูกบุคคลที่สามหลอกลวง มาเป็นข้อต่อสู้กับโจทก์หาได้ไม่ เว้นแต่การโอนจะได้มีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉล ซึ่งตกเป็นหน้าที่ของจำเลยจะต้องนำสืบ หาใช่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงจะต้องสืบว่าได้รับโอนเช็คมาอย่างไรไม่
ในเรื่องเช็ค จำเลยให้การต่อสู้เพียงว่าโจทก์ได้รับโอนมาโดยไม่สุจริต แต่ไม่ได้กล่าวว่าไม่สุจริตอย่างไร ย่อมไม่มีประเด็นที่จะสืบ
ป.พ.พ.มาตรา 916 ที่ห้ามไม่ให้ยกขึ้นต่อสู้กับผู้ทรงนั้น ได้รวมตลอดถึงห้ามผู้สั่งจ่ายด้วย และมาตรานี้ ซึ่งบัญญัติถึงเรื่องตั๋วแลกเงินก็อนุโลมมาใช้ในเรื่องเช็คได้ เพราะไม่ขัดกับสภาพแห่งตราสาร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้ทรงเช็ค – การต่อสู้ของผู้สั่งจ่าย – การพิสูจน์การโอนเช็ค
เมื่อโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คจำเลยจะอ้างว่าจำเลยออกเช็คให้บุคคลที่สามโดยถูกบุคคลที่สามหลอกลวง มาเป็นข้อต่อสู้กับโจทก์หาได้ไม่เว้นแต่การโอนจะได้มีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉล ซึ่งตกเป็นหน้าที่ของจำเลยจะต้องสืบ หาใช่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงจะต้องสืบว่าได้รับโอนเช็คมาอย่างไรไม่
ในเรื่องเช็ค จำเลยให้การต่อสู้เพียงว่าโจทก์ได้รับโอนมาโดยไม่สุจริต แต่ไม่ได้กล่าวว่าไม่สุจริตอย่างไร ย่อมไม่มีประเด็นที่จะสืบ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916 ที่ห้ามไม่ให้ยกขึ้นต่อสู้กับผู้ทรงนั้น ได้รวมตลอดถึงห้ามผู้สั่งจ่ายด้วย และ มาตรานี้ซึ่งบัญญัติถึงเรื่องตั๋วแลกเงิน ก็อนุโลมมาใช้ในเรื่องเช็คได้ เพราะไม่ขัดกับสภาพแห่งตราสาร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 788/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของตัวการและตัวแทน, การจำกัดอำนาจตัวแทน, และการฟ้องเรียกหนี้ตามเช็ค
ข้อจำกัดอำนาจของตัวแทนไม่ให้ตัวแทนกู้ยืมเงินได้นั้นเป็นการภายในระหว่างตัวการกับตัวแทนถ้าบุคคลภายนอกไม่รู้ถึงข้อจำกัดดังกล่าวตัวการย่อมไม่พ้นความรับผิด
ที่ตัวแทนต้องรับผิดในเมื่อตัวการอยู่ต่างประเทศนั้นเป็นการเพิ่มความรับผิดให้แก่ตัวแทน หาได้หมายความว่าตัวการหมดความรับผิดไม่
การฟ้องเรียกหนี้ตามเช็คที่ออกให้โดยตัวแทน เพื่อชำระหนี้เงินที่ตัวแทนได้รับจากโจทก์ไปใช้ในกิจการของตัวการนั้น ไม่ใช่การฟ้องเรียกเงินตามเช็คโดยเฉพาะเพราะฉะนั้น จึงต้องบังคับตามกฎหมายว่าด้วยตัวการตัวแทนไม่ใช่บังคับตามกฎหมายว่าด้วยตั๋วเงิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 788/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของตัวการและตัวแทนตามกฎหมายตัวการตัวแทน กรณีเช็คและการจำกัดอำนาจ
ข้อจำกัดอำนาจของตัวแทนไม่ให้ตัวแทนกู้ยืมเงินได้นั้น เป็นการภายในระหว่างตัวการกับตัวแทน ถ้าบุคคลภายนอกไม่รู้ถึงข้อจำกัดดังกล่าวตัวการย่อมไม่พ้นความรับผิด
ที่ตัวแทนต้องรับผิดในเมื่อตัวการอยู่ต่างประเทศนั้น เป็นการเพิ่มความรับผิดให้แก่ตัวแทน หาได้หมายความว่าตัวการหมดความรับผิดไม่
การฟ้องเรียกหนี้ตามเช็คที่ออกให้โดยตัวแทน เพื่อชำระหนี้เงินที่ตัวแทนได้รับจากโจทก์ไปใช้ในกิจการของตัวการนั้น ไม่ใช่การฟ้องเรียกตามเช็คโดยเฉพาะ เพราะฉะนั้น จึงต้องบังคับตามกฎหมายว่าด้วยตัวการตัวแทน ไม่ใช่บังคับตามกฎหมายว่าด้วยตั๋วเงิน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 394/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสุจริตของผู้ทรงเช็คและการเรียกร้องเงินตามเช็ค ผู้สั่งจ่ายต้องพิสูจน์การไม่สุจริต
บรรยายฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คธนาคารฮอลันดาโดยสุจริต 10,000 บาท ซึ่งจำเลยเป็นผู้สั่งจ่าย. ดังนี้ไม่จำต้องกล่าวว่าโจทก์ได้เช็คนั้นจากผู้ใด ก็ถือว่ากล่าวข้อความชัดแจ้งดีแล้วหาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่
เมื่อโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบและสุจริตแล้ว ก็มีสิทธิโดยชอบที่จะเรียกเงินตามเช็คนั้นจากผู้สั่งจ่ายได้.
of 36