พบผลลัพธ์ทั้งหมด 276 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 874/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้ที่ดินไม่มีเอกสิทธิ ผลผูกพันตามเจตนา การส่งมอบ และสิทธิครอบครอง
โจทก์ให้ที่ดินที่ไม่มีหนังสือสำคัญหรือเอกสารสิทธิสำหรับที่แก่จำเลยแม้มิได้มีการทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็มีผลใช้บังคับ เพราะโจทก์ได้ส่งมอบและสละเจตนาครอบครองให้จำเลย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377, 1378 แล้ว โจทก์จึงมีฐานะเป็นผู้ให้ ถ้าจำเลยประพฤติเนรคุณโจทก์ย่อมฟ้องขอถอนคืนการให้ได้จะอ้างว่าการยกให้เป็นโมฆะ เพราะมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หาได้ไม่ เพราะที่ดินชนิดนี้ผู้เป็นเจ้าของมีแต่เพียงสิทธิครอบครองหามีกรรมสิทธิ์ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2261/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกที่ดินให้โดยยังมิได้จดทะเบียน: สิทธิในมรดก
การที่เจ้าของที่ดินได้มายื่นเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมต่อทางอำเภอยกที่ดินซึ่งมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้จำเลย ก็ย่อมแสดงให้เห็นว่าเจ้าของที่ดินประสงค์จะยกที่ดินดังกล่าวให้แก่จำเลยโดยการทำนิติกรรมและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หาใช่เป็นกรณีเจตนาสละการครอบครองไม่ จึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 525 และประมวลกฎหมายที่ดินพ.ศ.2497 มาตรา 4ทวิ เมื่อการให้ยังไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เนื่องจากเจ้าของที่ดินถึงแก่กรรมเสียก่อนนิติกรรมการให้ก็ย่อมไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายที่ดินดังกล่าวจึงยังเป็นมรดกของเจ้าของที่ดินอยู่ โจทก์จึงมีสิทธิขอแบ่งได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1649/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนทรัพย์สินโดยปราศจากข้อตกลงพิเศษ และสิทธิในการขับไล่เมื่อกรรมสิทธิ์เปลี่ยนมือ
จำเลยให้การรับว่าโอนทรัพย์พิพาทยกให้โจทก์ แต่มิได้ต่อสู้ว่าการแสดงเจตนาของจำเลยมิใช่เจตนาอันแท้จริงนิติกรรมย่อมสมบูรณ์ใช้บังคับได้ เมื่อจำเลยไม่มีสิทธิเรียกทรัพย์พิพาทคืนจากโจทก์ คดีจึงไม่จำเป็นที่จะต้องวินิจฉัยว่า จำเลยโอนทรัพย์พิพาทให้แก่โจทก์เพื่อตีใช้หนี้หรือให้โดยเสน่หา เพราะถึงแม้จะวินิจฉัยเป็นประการใด กรรมสิทธิ์ในทรัพย์พิพาทก็ไม่มีทางกลับคืนมาเป็นของจำเลยได้
ตามหนังสือสัญญาให้ที่ดินพิพาทไม่ปรากฏว่ามีข้อตกลงว่าโจทก์จะต้องโอนทรัพย์พิพาทบางส่วนให้แก่บุตรจำเลยเมื่อเติบโตพอสมควร และโจทก์จะต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรจำเลยด้วยดังที่จำเลยกล่าวอ้างแต่อย่างใด ในกรณีที่กฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดงเช่นนี้ จำเลยจะนำสืบพยานบุคคลเพิ่มเติม ตัดทอนหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารนั้นหาได้ไม่ เพราะต้องห้ามมิให้ศาลรับฟังตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คดีนี้พิพาทกันระหว่างโจทก์จำเลยซึ่งเป็นคู่สัญญาโดยเฉพาะ เมื่อทรัพย์พิพาทเป็นของโจทก์ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้ หากบุตรของจำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกมีสิทธิเรียกให้โจทก์ชำระหนี้ประการใด ก็ชอบที่จะฟ้องร้องว่ากล่าวเป็นคดีต่างหาก
ตามหนังสือสัญญาให้ที่ดินพิพาทไม่ปรากฏว่ามีข้อตกลงว่าโจทก์จะต้องโอนทรัพย์พิพาทบางส่วนให้แก่บุตรจำเลยเมื่อเติบโตพอสมควร และโจทก์จะต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรจำเลยด้วยดังที่จำเลยกล่าวอ้างแต่อย่างใด ในกรณีที่กฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดงเช่นนี้ จำเลยจะนำสืบพยานบุคคลเพิ่มเติม ตัดทอนหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารนั้นหาได้ไม่ เพราะต้องห้ามมิให้ศาลรับฟังตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คดีนี้พิพาทกันระหว่างโจทก์จำเลยซึ่งเป็นคู่สัญญาโดยเฉพาะ เมื่อทรัพย์พิพาทเป็นของโจทก์ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้ หากบุตรของจำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกมีสิทธิเรียกให้โจทก์ชำระหนี้ประการใด ก็ชอบที่จะฟ้องร้องว่ากล่าวเป็นคดีต่างหาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 154/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์สินจากสามีที่หย่าแล้ว: บ้านพิพาทเป็นสินเดิมของผู้ร้อง การยกให้บุตรไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
บ้านพิพาทผู้ร้องเอาเงินที่ได้จากการขายบ้านและที่ดินซึ่งเป็นสินเดิมของผู้ร้องซื้อมา บ้านพิพาทจึงเป็นสินเดิมของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1465 (เดิม) ที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น ซึ่งตามพระราชบัญญัติให้ใช้บรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่ พ.ศ.2519 มาตรา 7 ได้บัญญัติให้สินเดิมดังกล่าวเป็นสินส่วนตัว บ้านพิพาทจึงเป็นสินส่วนตัวของผู้ร้อง
ผู้ร้องและจำเลยที่ 2 ได้หย่าและตกลงกันเรื่องทรัพย์สินตามเอกสารหมาย ร.2 ว่า ทรัพย์สิ้นทั้งหมดซึ่งเป็นสินเดิมของผู้ร้องมาก่อนหรือเป็นสินสมรสระหว่างเป็นสามีภรรยายกให้บุตรทั้งสี่คนก็ตาม แต่การยกให้มิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะบ้านพิพาทเป็นอสังหาริมทรัพย์และเป็นสินเดิมของผู้ร้อง แต่การยกให้มิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ การยกให้ไม่มีผลสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 525 บ้านพิพาทยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของจำเลยที่ 2 ตามคำพิพากษาจึงไม่มีสิทธินำยึด
ประเด็นว่าบ้านพิพาทเป็นของผู้ร้องหรือไม่ปัญหาหรือข้อเท็จจริงที่ว่า การที่ผู้ร้องยกบ้านพิพาทให้บุตรเป็นการสมบูรณ์หรือไม่จึงเป็นปัญหาหรือข้อเท็จจริงที่รวมอยู่ในประเด็นดังกล่าววเพราะหากฟังว่าการยกให้มีผลสมบูรณ์บ้านพิพาทก็ไม่ใช่ทรัพย์สินของผู้ร้อง แต่ถ้าการยกให้ไม่สมบูรณ์บ้านพิพาทก็ยังคงเป็นของผู้ร้อง
ผู้ร้องและจำเลยที่ 2 ได้หย่าและตกลงกันเรื่องทรัพย์สินตามเอกสารหมาย ร.2 ว่า ทรัพย์สิ้นทั้งหมดซึ่งเป็นสินเดิมของผู้ร้องมาก่อนหรือเป็นสินสมรสระหว่างเป็นสามีภรรยายกให้บุตรทั้งสี่คนก็ตาม แต่การยกให้มิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะบ้านพิพาทเป็นอสังหาริมทรัพย์และเป็นสินเดิมของผู้ร้อง แต่การยกให้มิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ การยกให้ไม่มีผลสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 525 บ้านพิพาทยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของจำเลยที่ 2 ตามคำพิพากษาจึงไม่มีสิทธินำยึด
ประเด็นว่าบ้านพิพาทเป็นของผู้ร้องหรือไม่ปัญหาหรือข้อเท็จจริงที่ว่า การที่ผู้ร้องยกบ้านพิพาทให้บุตรเป็นการสมบูรณ์หรือไม่จึงเป็นปัญหาหรือข้อเท็จจริงที่รวมอยู่ในประเด็นดังกล่าววเพราะหากฟังว่าการยกให้มีผลสมบูรณ์บ้านพิพาทก็ไม่ใช่ทรัพย์สินของผู้ร้อง แต่ถ้าการยกให้ไม่สมบูรณ์บ้านพิพาทก็ยังคงเป็นของผู้ร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 154/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สินเดิมยกให้บุตรต้องทำหนังสือจดทะเบียน มิฉะนั้นยังเป็นกรรมสิทธิ์เดิมของผู้ยก
บ้านพิพาทผู้ร้องเอาเงินที่ได้จากการขายบ้านและที่ดินซึ่งเป็นสินเดิมของผู้ร้องซื้อมา บ้านพิพาทจึงเป็นสินเดิมของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1465(เดิม)ที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น ซึ่งตามพระราชบัญญัติให้ใช้บรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่พ.ศ.2519 มาตรา 7 ได้บัญญัติให้สินเดิมดังกล่าวเป็นสินส่วนตัว บ้านพิพาทจึงเป็นสินส่วนตัวของผู้ร้อง
ผู้ร้องและจำเลยที่ 2 ได้หย่าและตกลงกันเรื่องทรัพย์สินตามเอกสารหมาย ร.2ว่า ทรัพย์สินทั้งหมดซึ่งเป็นสินเดิมของผู้ร้องมาก่อนหรือเป็นสินสมรสระหว่างเป็นสามีภรรยายกให้บุตรทั้งสี่คนก็ตาม แต่การยกให้มิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะบ้านพิพาทเป็นอสังหาริมทรัพย์และเป็นสินเดิมของผู้ร้อง แต่การยกให้มิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ การยกให้ไม่มีผลสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 525บ้านพิพาทยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของจำเลยที่ 2 ตามคำพิพากษาจึงไม่มีสิทธินำยึด
ประเด็นมีว่าบ้านพิพาทเป็นของผู้ร้องหรือไม่ปัญหาหรือข้อเท็จจริงที่ว่า การที่ผู้ร้องยกบ้านพิพาทให้บุตรเป็นการสมบูรณ์หรือไม่จึงเป็นปัญหาหรือข้อเท็จจริงที่รวมอยู่ในประเด็นดังกล่าว เพราะหากฟังว่าการยกให้มีผลสมบูรณ์บ้านพิพาทก็ไม่ใช่ทรัพย์สินของผู้ร้อง แต่ถ้าการยกให้ไม่สมบูรณ์ บ้านพิพาทก็ยังคงเป็นของผู้ร้อง
ผู้ร้องและจำเลยที่ 2 ได้หย่าและตกลงกันเรื่องทรัพย์สินตามเอกสารหมาย ร.2ว่า ทรัพย์สินทั้งหมดซึ่งเป็นสินเดิมของผู้ร้องมาก่อนหรือเป็นสินสมรสระหว่างเป็นสามีภรรยายกให้บุตรทั้งสี่คนก็ตาม แต่การยกให้มิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะบ้านพิพาทเป็นอสังหาริมทรัพย์และเป็นสินเดิมของผู้ร้อง แต่การยกให้มิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ การยกให้ไม่มีผลสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 525บ้านพิพาทยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของจำเลยที่ 2 ตามคำพิพากษาจึงไม่มีสิทธินำยึด
ประเด็นมีว่าบ้านพิพาทเป็นของผู้ร้องหรือไม่ปัญหาหรือข้อเท็จจริงที่ว่า การที่ผู้ร้องยกบ้านพิพาทให้บุตรเป็นการสมบูรณ์หรือไม่จึงเป็นปัญหาหรือข้อเท็จจริงที่รวมอยู่ในประเด็นดังกล่าว เพราะหากฟังว่าการยกให้มีผลสมบูรณ์บ้านพิพาทก็ไม่ใช่ทรัพย์สินของผู้ร้อง แต่ถ้าการยกให้ไม่สมบูรณ์ บ้านพิพาทก็ยังคงเป็นของผู้ร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 843/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทิศที่ดินเป็นทางสาธารณะมีผลสละที่ดินเป็นสาธารณสมบัติ แม้ไม่ได้จดทะเบียน ก็ไม่มีสิทธิยึดถือเป็นของตน
การอุทิศที่ดินให้ใช้เป็นทางสาธารณะ ย่อมเป็นการสละที่ดินให้เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304กรณีเช่นนี้หาจำต้องจดทะเบียนอย่างการโอนให้แก่เอกชนไม่ การที่โจทก์ซื้อที่ดินรวมทั้งที่พิพาทซึ่งเจ้าของเดิมได้อุทิศให้เป็นทางสาธารณะแล้ว แม้ที่พิพาทอยู่ในเขตโฉนดที่ดินที่โจทก์ซื้อ โจทก์ก็ไม่มีสิทธิจะยึดถือเอาที่พิพาทเป็นของตนได้(อ้างฎีกาที่ 506/2490 และ 640/2510)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2195/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้ที่ดินแก่สุขาภิบาลเพื่อประโยชน์เฉพาะ ไม่ใช่สาธารณประโยชน์ สิทธิในการเรียกคืนยังคงมีอยู่
ยกที่ดิน ตลาดสดและผลไม้ มีโฉนดให้สุขาภิบาลเพื่อหาประโยชน์มาปรับปรุงท้องที่ เป็นการให้แก่สุขาภิบาลโดยเฉพาะ มิใช่ให้ใช้เป็นสาธารณประโยชน์ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304 เมื่อไม่ได้จดทะเบียนการให้ตาม มาตรา 525 ผู้ให้เรียกคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 291/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกที่ดินให้โดยเสน่หาแล้วประพฤติเนรคุณ โจทก์มีสิทธิเรียกคืนได้
ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า ยังไม่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์จึงไม่อาจจดทะเบียนการให้ได้โจทก์มอบการครอบครองที่พิพาทให้จำเลยโดยเจตนายกให้โดยเสน่หาจำเลยได้สิทธิครอบครองที่พิพาทแล้วเมื่อประพฤติเนรคุณต่อโจทก์ โจทก์เรียกถอนคืนการให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 663/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทิศที่ดินเป็นทางสาธารณะโดยปริยาย สัญญาซื้อขายที่ดินสาธารณะเป็นโมฆะ
ประชาชนได้ใช้ที่พิพาทเป็นทางเข้าออกเป็นเวลาสิบ ๆ ปี ก่อนที่จำเลยจะรับโอนกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของ โดยไม่มีการสงวนสิทธิหวงห้ามใด ๆ เลย แม้จะไม่ได้ความว่าผู้ใดอุทิศที่ของตนให้เป็นทางสาธารณะโดยตรงหรือโดยพิธีการ ก็ต้องถือว่าเจ้าของที่ดินเดิมที่เส้นทางนี้ผ่านได้อุทิศที่พิพาทให้เป็นทางสาธารณะโดยปริยายแล้วจำเลยเพิ่งรับโอนที่พิพาทหลังจากที่เจ้าของเดิมได้อุทิศพิพาทไปแล้ว แม้ทางพิพาทจะอยู่ในเขตโฉนดที่ดินของจำเลยก็ตาม จำเลยก็ไม่มีสิทธิที่จะยึดถือเอาเป็นของตนได้
จำเลยเอาที่พิพาทไปทำสัญญาจะซื้อจะขายให้โจทก์สัญญาดังกล่าวจึงเป็นโมฆะจำเลยต้องคืนเงินค่าที่ดินบางส่วนที่รับไปให้แก่โจทก์ และจะเรียกร้องให้โจทก์ปฏิบัติมาตามสัญญาจะซื้อจะขายซึ่งเป็นโมฆะหาได้ไม่
จำเลยเอาที่พิพาทไปทำสัญญาจะซื้อจะขายให้โจทก์สัญญาดังกล่าวจึงเป็นโมฆะจำเลยต้องคืนเงินค่าที่ดินบางส่วนที่รับไปให้แก่โจทก์ และจะเรียกร้องให้โจทก์ปฏิบัติมาตามสัญญาจะซื้อจะขายซึ่งเป็นโมฆะหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 663/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทางสาธารณะโดยปริยาย สัญญาซื้อขายโมฆะ
ประชาชนได้ใช้ที่พิพาทเป็นทางเข้าออกเป็นเวลาสิบ ๆ ปี ก่อนที่จำเลยจะรับโอนกรรมสิทธิเป็นเจ้าของ โดยไม่มีการสงวนสิทธิหวงห้ามใด ๆ เลย แม้จะไม่ได้ความว่าผู้ใดอุทิศที่ของตนให้เป็นทางสาธารณะโดยตรงหรือโดยพิธีการ ก็ต้องถือว่าเจ้าของที่ดินเดิมที่เส้นทางนี้ผ่านได้อุทิศที่พิพาทให้เป็นทางสาธารณะโดยปริยายแล้ว จำเลยเพิ่งรับโอนที่พิพาทหลังจากที่เจ้าของเดิมได้อุทิศทางพิพาทไปแล้ว แม้ทางพิพาทจะอยู่ในเขตโฉนดที่ดินของจำเลยก็ตาม จำเลยก็ไม่มีสิทธิที่จะยึดถือเอาเป็นของตนได้
จำเลยเอาที่พิพาทไปทำสัญญาจะซื้อจะขายให้โจทก์สัญญาดังกล่าวจึงเป็นโมฆะ จำเลยต้องคืนเงินค่าที่ดินบางส่วนทีรับไปให้แก่โจทก์ และจะเรียกร้องให้โจทก์ปฏิบัติมาตามสัญญาจะซื้อจะขายซึ่งเป็นโมฆะหาได้ไม่
จำเลยเอาที่พิพาทไปทำสัญญาจะซื้อจะขายให้โจทก์สัญญาดังกล่าวจึงเป็นโมฆะ จำเลยต้องคืนเงินค่าที่ดินบางส่วนทีรับไปให้แก่โจทก์ และจะเรียกร้องให้โจทก์ปฏิบัติมาตามสัญญาจะซื้อจะขายซึ่งเป็นโมฆะหาได้ไม่