พบผลลัพธ์ทั้งหมด 794 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 555/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันสิทธิและบุตรจากการฉุดคร่าโดยชอบด้วยกฎหมาย: เหตุป้องกันตัวที่สมควร
จำเลยเป็นมารดาของนางสาว ศ. ซึ่งถูกผู้ตายเข้าไปฉุดคร่าถึงภายในบ้าน โดยนางสาว ศ. ไม่สามารถดิ้นรนขัดขืนได้เมื่อจำเลยเข้าไปขัดขวางห้ามปรามกลับถูกผู้ตายทำร้ายจนล้มลง การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายไปในเวลาฉุกละหุก4 นัดติด ๆ กัน เป็นเพราะจำเลยไม่มีโอกาสทันพิเคราะห์ว่าผู้ตายมีอาวุธติดตัวหรือไม่ ทั้งไม่มีเวลาไตร่ตรองด้วยว่าหากใช้ปืนยิงขู่เพียงนัดเดียวจะทำให้ผู้ตายเกรงกลัวและหยุดการกระทำที่อุกอาจลงได้ ประกอบกับผู้ตายเป็นชายฉกรรจ์แข็งแรงกว่าจำเลยซึ่งเป็นหญิงและไม่มีทางเลือกที่จะป้องกันด้วยวิธีอื่น การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรณีที่จำต้องกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนและบุตรสาวให้พ้นจากการฉุดคร่าซึ่งเป็นภยันตรายอันปรากฏขึ้นเฉพาะหน้าโดยพอสมควรแก่เหตุ.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 555/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันสิทธิและคุ้มครองบุตรจากภัยอันตรายเฉพาะหน้า การใช้อาวุธปืนเพื่อป้องกันตนเองและบุตรชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยเป็นมารดาของนางสาว ศ. ซึ่งถูกผู้ตายเข้าไปฉุดคร่าถึงภายในบ้าน โดยนางสาว ศ. ไม่สามารถดิ้นรน ขัดขืนได้เมื่อจำเลยเข้าไปขัดขวางห้ามปรามกลับถูกผู้ตายทำร้ายจนล้มลงการที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายไปในเวลาฉุกละหุก 4 นัดติด ๆ กันเป็นเพราะจำเลยไม่มีโอกาสทันพิเคราะห์ว่าผู้ตายมีอาวุธติดตัวหรือไม่ ทั้งไม่มีเวลาไตร่ตรอง ด้วยว่าหากใช้ปืนยิงขู่เพียงนัดเดียวจะทำให้ผู้ตายเกรงกลัวและหยุดการกระทำที่อุกอาจลงได้ประกอบกับผู้ตายเป็นชาย ฉกรรจ์แข็งแรงกว่าจำเลยซึ่งเป็นหญิงและไม่มีทางเลือกที่จะป้องกันด้วยวิธีอื่น การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรณีที่จำต้องกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนและบุตรสาวให้พ้นจากการถูกฉุดคร่า ซึ่งเป็นภยันตรายอันปรากฏขึ้นเฉพาะหน้าโดยพอสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3318/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้ป้องกันตัวจากการข่มขืน: การใช้กำลังที่สมควรแก่เหตุ
จำเลยเป็นหญิงอายุ 20 ปี รูปร่างเล็กกว่าผู้เสียหายซึ่งเป็นชายอายุ 31 ปี และถูกผู้เสียหายปลุกปล้ำเพื่อร่วมประเวณีด้วยในห้องพักของโรงแรม จำเลยได้ต่อสู้ดิ้นรนกับการกระทำของผู้เสียหาย ขณะที่ถูกผู้เสียหายนอนกดทับพยายามจะข่มขืนอยู่นั้น จำเลยดึงมีดคัตเตอร์ออกจากกระเป๋ากางเกงด้านหลังมาทำร้ายผู้เสียหาย เป็นบาดแผลที่บริเวณคอ ความยาว 12 เซนติเมตรกว้าง 1/2 เซนติเมตร และลึก 1 เซนติเมตร แม้เป็นการกระทำโดยแรง ถึงขั้นมีดคัตเตอร์หัก แต่จำเลยก็กระทำครั้งเดียวเหตุที่มีดคัตเตอร์หักก็เป็นไปตามสภาพของมีดคัตเตอร์นั่นเอง ทั้งในสภาพที่ถูกกดทับพยายามจะข่มขืนอยู่นั้น จำเลยย่อมไม่มีทางจะเลือกกระทำต่อส่วนอื่นของร่างกายผู้เสียหายได้ คงกระทำได้แต่ส่วนบนที่ไม่ได้กดทับจำเลยเท่านั้น การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ จำเลยจึงไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3318/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวจากการข่มขืน: การใช้มีดคัตเตอร์เพื่อระงับการประทุษร้ายโดยชอบธรรม
จำเลยเป็นหญิงอายุ20ปีรูปร่างเล็กกว่าผู้เสียหายซึ่งเป็นชายอายุ31ปีและถูกผู้เสียหายปลุกปล้ำเพื่อร่วมประเวณีด้วยในห้องพักของโรงแรมจำเลยได้ต่อสู้ดิ้นรนกับการกระทำของผู้เสียหายขณะที่ถูกผู้เสียหายนอนกดทับพยายามจะข่มขืนอยู่นั้นจำเลยดึงมีดคัตเตอร์ออกจากกระเป๋ากางเกงด้านหลังมาทำร้ายผู้เสียหายเป็นบาดแผลที่บริเวณคอความยาว12เซนติเมตรกว้าง1/2เซนติเมตรและลึก1เซนติเมตรแม้เป็นการกระทำโดยแรงถึงขั้นมีดคัตเตอร์หักแต่จำเลยก็กระทำครั้งเดียวเหตุที่มีดคัตเตอร์หักก็เป็นไปตามสภาพของมีดคัตเตอร์นั่นเองทั้งในสภาพที่ถูกกดทับพยายามจะข่มขืนอยู่นั้นจำเลยย่อมไม่มีทางจะเลือกกระทำต่อส่วนอื่นของร่างกายผู้เสียหายได้คงกระทำได้แต่ส่วนบนที่ไม่ได้กดทับจำเลยเท่านั้นการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุจำเลยจึงไม่มีความผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2665/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: ภยันตรายใกล้ถึงและการใช้กำลังพอสมควร
การที่ผู้ตายกับจำเลยเคยมีเรื่องโกรธเคืองกันมาก่อนและในวันเกิดเหตุผู้ตายกับพวกตามมาพบจำเลยที่สยามฟุตบอลเข้าไปหาอย่างประสงค์ร้าย จำเลยเดินหลบหนีไปแล้ว ผู้ตายกับพวกยังติดตามจำเลยไปอีก เมื่อจำเลยหลบหนีไปถึงใต้ถุนอาคารโรงเรียนติดกับกำแพงซึ่งไม่อาจหลีกเลี่ยงหรือหลบหนีไปทางใดได้อีก ผู้ตายกับพวกจึงตามไปทัน และเมื่อเข้าใกล้ประมาณ2 วา ผู้ตายก็ชัดมีดยาวคืบเศษจะแทงจำเลย โดยที่พวกของผู้ตายอีกคนหนึ่งก็ยืนคุมเชิงอยู่ พฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่าเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง จำเลยได้ชักปืนยิงผู้ตายไปสองนัด เมื่อผู้ตายถูกกระสุนปืนทรุดตัวลง จำเลยก็ไม่ได้ยิงซ้ำอีก เป็นการกระทำเพียงพอกับความจำเป็นในการป้องกันผลร้ายที่อาจเกิดขึ้นแก่จำเลย เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2665/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: ภยันตรายใกล้ถึงและตอบโต้พอสมควรแก่เหตุ
การที่ผู้ตายกับจำเลยเคยมีเรื่องโกรธเคืองกันมาก่อนและในวันเกิดเหตุผู้ตายกับพวกตามมาพบจำเลยที่สยามฟุตบอลเข้าไปหาอย่างประสงค์ร้าย จำเลยเดินหลบหนีไปแล้ว ผู้ตายกับพวกยังติดตามจำเลยไปอีก เมื่อจำเลยหลบหนีไปถึงใต้ถุนอาคารโรงเรียนติดกับกำแพงซึ่งไม่อาจหลีกเลี่ยงหรือหลบหนีไปทางใดได้อีก ผู้ตายกับพวกจึงตามไปทัน และเมื่อเข้าใกล้ประมาณ 2 วา ผู้ตายก็ชัดมีดยาวคืบเศษจะแทงจำเลย โดยที่พวกของผู้ตายอีกคนหนึ่งก็ยืนคุมเชิงอยู่ พฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่าเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง จำเลยได้ชักปืนยิงผู้ตายไปสองนัด เมื่อผู้ตายถูกกระสุนปืนทรุดตัวลง จำเลยก็ไม่ได้ยิงซ้ำอีก เป็นการกระทำเพียงพอกับความจำเป็นในการป้องกันผลร้ายที่อาจเกิดขึ้นแก่จำเลย เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2665/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: ภยันตรายใกล้ถึงและการใช้กำลังพอสมควรแก่เหตุ
การที่ผู้ตายกับจำเลยเคยมีเรื่องโกรธเคืองกันมาก่อนและในวันเกิดเหตุผู้ตายกับพวกตามมาพบจำเลยที่สยามฟุตบอลเข้าไปหาอย่างประสงค์ร้ายจำเลยเดินหลบหนีไปแล้วผู้ตายกับพวกยังติดตามจำเลยไปอีกเมื่อจำเลยหลบหนีไปถึงใต้ถุนอาคารโรงเรียนติดกับกำแพงซึ่งไม่อาจหลีเลี่ยงหรือหลบหนีไปทางใดได้อีกผู้ตายกับพวกจึงตามไปทันและเมื่อเข้าใกล้ประมาณ2วาผู้ตายก็ชัดมีดยาวคืบเศษจะแทงจำเลยโดยที่พวกของผู้ตายอีกคนหนึ่งก็ยืนคุมเชิงอยู่พฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่าเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงจำเลยได้ชักปืนยิงผู้ตายไปสองนัดเมื่อผู้ตายถูกกระสุนปืนทรุดตัวลงจำเลยก็ไม่ได้ยิงซ้ำอีกเป็นการกระทำเพียงพอกับความจำเป็นในการป้องกันผลร้ายที่อาจเกิดขึ้นแก่จำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2577/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวิวาทเมาสุรา การป้องกันตน และการรวมโทษคดีเก่าหลังพ้นระยะรอการลงโทษ
จำเลยและผู้ตายต่างเมาสุราแล้วสมัครใจวิวาทกันจำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้จำเลยจะอ้างว่ากระทำไปเพื่อป้องกันตนโดยชอบด้วยกฎหมายไม่ได้ จำเลยกระทำผิดคดีนี้ระหว่างรอการลงโทษในคดีก่อนถือไม่ได้ว่าโทษในคดีก่อนพ้นไปแล้วก่อนหรือในวันที่พ.ร.บ.ล้างมลทินฯใช้บังคับศาลย่อมนำโทษในคดีก่อนที่รอไว้มารวมกับโทษคดีนี้ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2520/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและการใช้สิทธิป้องกันตนเองเมื่อถูกทำร้ายต่อเนื่อง
จำเลยกับผู้ตายวิวาทชกต่อยกันล. มาห้ามจำเลยจึงหยุดวิวาทกับผู้ตายต่อมาประมาณ2นาทีผู้ตายวิ่งไปเอาไม้ไล่ตีจำเลยอีกจำเลยวิ่งหนีขึ้นไปบนกุฏิสามเณรผู้ตายวิ่งไล่ตามขึ้นไปทำร้ายจำเลยจำเลยแทงผู้ตายเพียงครั้งเดียวด้วยมีดปอกผลไม้ที่เหน็บอยู่ที่ฝาห้องจำเลยไม่มีโอกาสไตร่ตรองว่าจะถูกอวัยวะสำคัญหรือไม่การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2520/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ แม้จะมีการวิวาทก่อนหน้า แต่ผู้ถูกทำร้ายก่อเหตุใหม่ด้วยอาวุธอันตราย
จำเลยกับผู้ตายวิวาทชกต่อยกันล.มาห้ามจำเลยจึงหยุดวิวาทกับผู้ตายต่อมาประมาณ2นาทีผู้ตายวิ่งไปเอาไม้ไล่ตีจำเลยอีกจำเลยวิ่งหนีขึ้นไปบนกุฏิสามเณรผู้ตายวิ่งไล่ตามขึ้นไปทำร้ายจำเลยจำเลยแทงผู้ตายเพียงครั้งเดียวด้วยมีดปอกผลไม้ที่เหน็บอยู่ที่ฝาห้องจำเลยไม่มีโอกาสไตร่ตรองว่าจะถูกอวัยวะสำคัญหรือไม่การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ.(ที่มา-ส่งเสิรมฯ)