พบผลลัพธ์ทั้งหมด 794 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนทางอาญา: กรณีผู้ถูกข่มขู่ด้วยอาวุธและตอบโต้เพื่อความปลอดภัยของตนเอง
ผู้ตายกับจำเลยเป็นข้าราชการตำรวจสถานีเดียวกันมีเรื่องโกรธเคืองกันอย่างรุนแรงมาก่อน คืนเกิดเหตุมีงานเลี้ยงที่หอประชุม เมื่องานเลิกแล้วผู้ตายพบจำเลยที่หน้าหอประชุม ผู้ตายเดินเข้าไปหาจำเลยโดยประสงค์ร้ายพร้อมกับพูดว่า'วันนี้เป็นวันตายของมึง' และมีตำรวจด้วยกันเดินเข้าไปด้วยจำเลยเดินถอยหลัง ผู้ตายเดินตามและชักปืนพกออกมา จำเลยเดินถอยหลังไปจนติดหอประชุมจึงใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย 1 นัด ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำเพื่อป้องกันชีวิตของตนให้พ้นจากภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง พอสมควรแก่เหตุ ส่วนที่มีการด่าทอและกล่าวคำผรุสวาทกันก่อน เมื่อจำเลยมิได้เป็นฝ่ายก่อเหตุวิวาทและไม่มีเจตนาจะวิวาทกับผู้ตาย การป้องกันดังกล่าวจึงเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 96/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ไม่ถือเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
การกระทำซึ่งจะเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายตาม ป.อ.มาตรา68ต้องเป็นการกระทำโดยเจตนาจำเลยเอาอาวุธปืนออกมาขู่ผู้ตายและทำปืนลั่นโดยประมาทถูกผู้ตายถึงแก่ความตายไม่ใช่กระทำโดยเจตนาการกระทำของจำเลยจึงมิใช่เป็นการป้องกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 58/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายจากเหตุทำร้ายด้วยอาวุธอันตรายต่อเนื่อง
จำเลยกับส.ผู้ตายเป็นตำรวจประจำสถานีตำรวจเดียวกันจำเลยมีบาดแผลที่เข่าเป็นเหตุให้เดินไม่ถนัดต้องนุ่งกางเกงขาสั้นผู้ตายก่อเหตุขึ้นด้วยการเข้ามาตบแผลที่เข่าจำเลยแล้วด่าจำเลยหาว่าจำเลยเอาเรื่องไปฟ้องผู้บังคับบัญชาและชกหน้าจำเลย1ทีต่อจากนั้นก็เอากรรไกรตัดหญ้าง้างออกจะหนีบคอจำเลยจำเลยหลบและปัดป้องทำให้หนีบคอไม่ได้ผู้ตายก็รวบกรรไกรจ้วงแทงศีรษะจำเลยเมื่อจำเลยหลบกรรไกรปักลงที่ม้านั่งผู้ตายยังใช้กรรไกรพุ่งแทงจำเลยในระดับลูกตาหรือหน้าผากอีกจำเลยหลยกรรไกรไปถูกคานยึดขาม้านั่งที่กองไว้ด้านหลังกรรไกรหลุดจากมือผู้ตายผู้ตายบีบคอจำเลยอีกจำเลยดิ้นรนจนตกจากม้านั่งลงไปที่พื้นมือผู้ตายหลุดจากคอผู้ตายตามไปชกจำเลยอีกพฤติการณ์ของผู้ตายเป็นการแสดงเจตนาที่จะฆ่าจำเลยให้ตายและติดตามทำร้ายจำเลยด้วยวิธีต่างๆติดต่อกันจำเลยจึงชักปืนพกออกมาและยิงผู้ตายไปติดๆกัน2นัดทันทีโดยมิได้เล็ง(กระสุนปืนถูกผู้ตาย1นัด)ในเวลาฉุกละหุกเช่นนั้นจำเลยย่อมไม่มีโอกาสจะหลบหนีได้พ้นเพราะจำเลยมีแผลที่เข่าเดินไม่ถนัดกรรไกรตัดหญ้าก็ตกอยู่ใกล้ๆผู้ตายผู้ตายอาจนำมาใช้ทำร้ายจำเลยถึงตายได้จำเลยยิงผู้ตายเพื่อป้องกันเช่นนั้นเป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 58/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายเมื่อถูกทำร้ายด้วยอาวุธอันตรายต่อเนื่อง
จำเลยกับ ส. ผู้ตายเป็นตำรวจประจำสถานีตำรวจเดียวกันจำเลยมีบาดแผลที่เข่าเป็นเหตุให้เดินไม่ถนัดต้องนุ่งกางเกงขาสั้น ผู้ตายก่อเหตุขึ้นด้วยการเข้ามาตบแผลที่เข่าจำเลย แล้วด่าจำเลยหาว่าจำเลยเอาเรื่องไปฟ้องผู้บังคับบัญชา และชกหน้าจำเลย 1 ที ต่อจากนั้นก็เอากรรไกรตัดหญ้าง้างออกจะหนีบคอจำเลย จำเลยหลบและปัดป้องทำให้หนีบคอไม่ได้ ผู้ตายก็รวบกรรไกรจ้วงแทงศีรษะจำเลย เมื่อจำเลยหลบ กรรไกรปักลงที่ม้านั่ง ผู้ตายยังใช้กรรไกรพุ่งแทงจำเลยในระดับลูกตาหรือหน้าผากอีก จำเลยหลย กรรไกรไปถูกคานยึดขาม้านั่งที่กองไว้ด้านหลัง กรรไกรหลุดจากมือผู้ตาย ผู้ตายบีบคอจำเลยอีก จำเลยดิ้นรนจนตกจากม้านั่งลงไปที่พื้น มือผู้ตายหลุดจากคอ ผู้ตายตามไปชกจำเลยอีกพฤติการณ์ของผู้ตายเป็นการแสดงเจตนาที่จะฆ่าจำเลยให้ตาย และติดตามทำร้ายจำเลยด้วยวิธีต่างๆ ติดต่อกัน จำเลยจึงชักปืนพกออกมาและยิงผู้ตายไปติดๆกัน 2 นัดทันทีโดยมิได้เล็ง (กระสุนปืนถูกผู้ตาย 1 นัด) ในเวลาฉุกละหุกเช่นนั้นจำเลยย่อมไม่มีโอกาสจะหลบหนีได้พ้น เพราะจำเลยมีแผลที่เข่าเดินไม่ถนัดกรรไกรตัดหญ้าก็ตกอยู่ใกล้ๆ ผู้ตาย ผู้ตายอาจนำมาใช้ทำร้ายจำเลยถึงตายได้จำเลยยิงผู้ตายเพื่อป้องกันเช่นนั้น เป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 49/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงเพื่อป้องกันตัวต้องพิจารณาจากการเป็นผู้เริ่มก่อเหตุ หากผู้ถูกยิงไม่ได้เริ่มก่อน การอ้างป้องกันตัวจึงฟังไม่ได้
จำเลยได้ใช้ปืนยิงผู้ตายเนื่องมาจากจำเลยเป็นฝ่ายท้าทายผู้ตายให้ออกไปยิงกับจำเลยจำเลยจะอ้างว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันตัวหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 49/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงเพื่อป้องกันตัวต้องเกิดจากการถูกข่มขู่หรือทำร้ายก่อน การท้าทายเพื่อวิวาทไม่ถือเป็นการป้องกันตัว
จำเลยได้ใช้ปืนยิงผู้ตายเนื่องมาจากจำเลยเป็นฝ่ายท้าทายผู้ตายให้ออกไปยิงกับจำเลยจำเลยจะอ้างว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันตัวหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4955/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันเกินสมควรแก่เหตุและการทำร้ายร่างกาย: ศาลฎีกาพิจารณาบาดแผลและเจตนาของผู้กระทำ
การที่จำเลยใช้มีดโต้ฟันผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านของจำเลยในเวลากลางคืน 1 ที ทำให้เกิดบาดแผลฉกรรจ์ยาว 6 เซนติเมตร กะโหลกศีรษะใต้บาดแผลแตกเป็นแนวยาวไปตามบาดแผลยาว 5 เซนติเมตร แสดงว่าจำเลยฟันโดยแรงขณะผู้เสียหายเพิ่งโผล่ออกมาจากใต้แคร่ ในสภาพที่ผู้เสียหายซ่อนตัวอยู่ใต้แคร่ซึ่งอยู่ในเขตจำกัด จำเลยอาจจะใช้วิธีการอื่นที่จะสกัดกั้นไม่ให้ผู้เสียหายออกมาและเรียกร้องให้ผู้อื่นมาช่วยจับผู้เสียหายไว้ได้ ทั้งมีทางที่จะสังเกตได้ทันทีว่าผู้โผล่ออกมาเป็นใคร จะเกิดภัยแก่จำเลยเพียงใดหรือไม่ ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ จำเลยใช้มีดฟันผู้เสียหายกะโหลกศีรษะแตกเป็นแนวยาว 5เซนติเมตรแพทย์ลงความเห็นว่ารักษานานกว่า 21 วันหายแต่ได้ความว่าผู้เสียหายรับการรักษาอยู่โรงพยาบาล 6-7 วันแล้วถูกส่งตัวไปสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก 9 วันจึงกลับบ้านไม่ปรากฏว่าหลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้วต้องไปรับการรักษาที่ใดอีกหรือไม่ แสดงว่าบาดแผลของผู้เสียหายรักษาไม่เกิน 20 วัน จึงถือไม่ได้ว่าผู้เสียหายได้รับอันตรายถึงสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4884/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำผิดฐานทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย แม้มีเจตนาป้องกันทรัพย์สิน แต่เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุและไม่ชอบด้วยกฎหมาย
การที่ ส. ผู้ตายได้เข้าไปในบริเวณบ่อปลาของนายจ้างของจำเลย เพื่อจะเกี่ยวหญ้า ซึ่งจำเลยไม่มีสิทธิทำร้ายผู้ตายได้เมื่อจำเลยขึงลวดไว้ ภายในรั้วลาดหนามที่ล้อมรอบบริเวณบ่อเลี้ยงปลาของนายจ้างและ ปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าไปตามลวดนั้นผู้ตายมาถูกสายไฟฟ้าของจำเลยเข้า ถึงแก่ความตาย ถือไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันสิทธิของผู้อื่น โดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3973/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการวิวาทและการพกพาอาวุธ กรณีจำเลยพร้อมเผชิญหน้าแม้ถูกทำร้ายก่อน
การที่จำเลยพกมีดออกจากบ้านและไปนั่งรอผู้ตายในลักษณะ ที่ แสดงว่าจำเลยพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับผู้ตายแม้ผู้ตายจะเป็น ฝ่ายลงมือทำร้ายจำเลยก่อน ตามพฤติการณ์แห่งคดีถือได้ว่าจำเลย สมัครใจวิวาทต่อสู้กับผู้ตายการที่จำเลยทำร้ายผู้ตายจึงไม่เป็นการป้องกัน และจากบาดแผลซึ่งผู้ตายถูกแทงโดยแรงที่อวัยวะสำคัญ ถือได้ว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3973/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการวิวาทและการพกพาอาวุธ เตรียมใจเผชิญหน้าถือเป็นการสมัครใจวิวาท
การที่จำเลยพกมีดออกจากบ้านและไปนั่งรอผู้ตายในลักษณะ ที่แสดงว่าจำเลยพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับผู้ตาย แม้ผู้ตายจะเป็น ฝ่ายลงมือทำร้ายจำเลยก่อน ตามพฤติการณ์แห่งคดีถือได้ว่าจำเลยสมัครใจวิวาทต่อสู้กับผู้ตาย การที่จำเลยทำร้ายผู้ตายจึงไม่เป็นการป้องกัน และจากบาดแผลซึ่งผู้ตายถูกแทงโดยแรงที่อวัยวะสำคัญ ถือได้ว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย