พบผลลัพธ์ทั้งหมด 794 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1018/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบธรรม: การแย่งอาวุธและการตอบโต้การคุกคามด้วยอาวุธ
ผู้ตายพกอาวุธปืนมาที่บ้านพักของจำเลยถามจำเลยว่าเมื่อวานผ่านหน้าบ้านบีบแตรรถทำไมและบอกให้จำเลยออกไปนอกบ้านเป็นทำนองท้าทายชวนวิวาททั้งยิงจำเลยได้รับบาดเจ็บจำเลยจึงคว้ามีดปอกผลไม้ตรงเข้าไปกอดปล้ำแย่งปืนและแทงผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้หากจำเลยไม่เข้าแย่งปืนและแทงผู้ตายอาจจะถูกผู้ตายยิงซ้ำอีกได้เพราะภยันตรายของจำเลยยังคงมีอยู่การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1018/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและการใช้กำลังพอสมควรแก่เหตุเมื่อถูกทำร้ายด้วยอาวุธ
ผู้ตายพกอาวุธปืนมาที่บ้านพักของจำเลย ถามจำเลยว่าเมื่อวานผ่านหน้าบ้านบีบแตรรถทำไม และบอกให้จำเลยออกไปนอกบ้านเป็นทำนองท้าทายชวนวิวาท ทั้งยิงจำเลยได้รับบาดเจ็บ จำเลยจึงคว้ามีดปอกผลไม้ตรงเข้าไปกอดปล้ำแย่งปืนและแทงผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ หากจำเลยไม่เข้าแย่งปืนและแทงผู้ตาย อาจจะถูกผู้ตายยิงซ้ำอีกได้เพราะภยันตรายของจำเลยยังคงมีอยู่ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 775/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าโดยบันดาลโทสะและการทำร้ายร่างกาย: ศาลฎีกาพิพากษาแก้โทษจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าโดยบันดาลโทสะ และยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นสำหรับจำเลยที่ 2
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันฆ่าผู้ตาย ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 2 ใช้ไม้ตีผู้ตายได้รับบาดเจ็บแต่ไม่ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 ฆ่าผู้ตาย พิพากษาว่าจำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295ดังนี้ เป็นเรื่องเฉพาะตัวจำเลยที่ 2 หาใช่เหตุลักษณะคดีไม่ เมื่อโจทก์และจำเลยที่ 2 ไม่อุทธรณ์ คดีเฉพาะจำเลยที่ 2 จึงต้องบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ผู้ตายทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นภรรยามิได้จดทะเบียนสมรสของจำเลยที่ 1 แล้วใช้ขวานฟันจำเลยที่ 1จำเลยที่ 1 แย่งขวานได้ก็เหวี่ยงทิ้ง ผู้ตายยังติดตามจะทำร้ายจำเลยทั้งสองซ้ำอีก ดังนี้ การกระทำของผู้ตายจึงเป็นการข่มเหงจำเลยทั้งสองอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม จำเลยที่ 1 ยิงและตีผู้ตายผู้ข่มเหงในขณะนั้น เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ หาใช่เพื่อป้องกันไม่ศาลฎีการับฟังลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าผู้ตายโดยบันดาลโทสะตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 507/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวสำหรับหญิงสาวที่ถูกคุกคามทางเพศและการใช้กำลังเพื่อปกป้องสิทธิของตนเอง
จำเลยเป็นหญิงสาวอายุ 15 ปี ผู้ตายเป็นชายหนุ่มอายุ 18 ปี ไม่มีภรรยา ขณะเกิดเหตุเป็นยามวิกาล ผู้ตายซึ่งดื่มสุราตั้งแต่ตอนเย็นคงจะเห็นโอกาสเหมาะที่จำเลยอยู่ ตามลำพังกับน้องสาวเล็กๆ จึงเข้าไปหาเพื่อแสดงความรักใคร่ ฉันชู้สาวจำเลยไม่ยินยอม จึงเกิดการขู่เข็ญและปลุกปล้ำกันขึ้น การที่มีดผู้ตายตกลงที่พื้น และจำเลยแย่งได้แล้วเหวี่ยงไปข้างหลัง 1 ที มีบาดแผลเพียงเล็กน้อยไม่ ทำให้ถึงตาย ย่อมเป็นการป้องกันสิทธิของตนซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายที่พอสมควรแก่เหตุเพราะหากไม่ กระทำ อาจถูกข่มขืนกระทำชำเราได้ แม้ผู้ตายจะเสียหลักพลัดตกลงไปในน้ำหมดสติจมน้ำถึงแก่ความตาย จำเลยก็ไม่มีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3045/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้กำลังป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุของเจ้าพนักงาน การใช้อาวุธปืนทำร้ายผู้ที่ไม่มีอาวุธ
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่จับกุม พ. เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน ระหว่างทางผู้เสียหายกับพวกรุมทำร้าย พ. ครั้นจำเลยห้ามปรามผู้เสียหายกลับชกจำเลยล้มลง จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้เสียหาย 1 นัด ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส เมื่อฟังไม่ได้ว่าผู้เสียหายมีอาวุธ การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหาย นับได้ว่าเป็นการกระทำเกินสมควรแก่เหตุ จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 69
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2925/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเองโดยชอบด้วยกฎหมาย เมื่อถูกทำร้ายและถูกไล่ติดตามด้วยอาวุธปืน
ผู้ตายเป็นฝ่ายก่อเหตุชกต่อยและยิงจำเลยก่อน จำเลยวิ่งหนีก็ยังติดตามจะใช้อาวุธปืนยิงอีก การที่จำเลยหันกลับมายิงผู้ตายในขณะนั้นถือได้ว่าเป็นการป้องกันสิทธิของตนพอสมควรแก่เหตุ ซึ่งเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายจำเลยไม่มีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา288
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2081/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการใช้มีดแทงที่หน้าอก แม้ถูกผลักเพียงครั้งเดียว ไม่เข้าเหตุป้องกัน
นาย ช.ผู้ตายมาช่วยนางสาว ว. เก็บข้าวของจากห้องพักโดยผู้ตายไม่มีอาวุธติดตัวมาด้วย เมื่อจำเลยพูดไล่ผู้ตายไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยว ผู้ตายใช้มือผลักใบหน้าจำเลย 1 ครั้ง จำเลยก็ใช้มีดแทงผู้ตาย การกระทำของจำเลยไม่ใช่เป็นการกระทำเพื่อป้องกัน และเหตุเท่านี้ยังไม่พอฟังว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม
การที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมซึ่งตัวมีดและด้ามยาวประมาณหนึ่งคืบเศษแทงผู้ตายที่บริเวณหน้าอกอันเป็นอวัยวะส่วนสำคัญของร่างกาย แผลลึกถึง 10 เซนติเมตรทะลุหัวใจ แสดงว่าตั้งใจแทงโดยแรง แม้จะเป็นการแทงเพียงทีเดียว แต่ผู้ตายถึงแก่ความตายหลังเกิดเหตุไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เช่นนี้ถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
การที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมซึ่งตัวมีดและด้ามยาวประมาณหนึ่งคืบเศษแทงผู้ตายที่บริเวณหน้าอกอันเป็นอวัยวะส่วนสำคัญของร่างกาย แผลลึกถึง 10 เซนติเมตรทะลุหัวใจ แสดงว่าตั้งใจแทงโดยแรง แม้จะเป็นการแทงเพียงทีเดียว แต่ผู้ตายถึงแก่ความตายหลังเกิดเหตุไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เช่นนี้ถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2081/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยอาวุธมีคม การกระทำเพื่อป้องกันที่ไม่สมเหตุสมผล
นายช.ผู้ตายมาช่วยนางสาวว. เก็บข้าวของจากห้องพักโดยผู้ตายไม่มีอาวุธติดตัวมาด้วย เมื่อจำเลยพูดไล่ผู้ตายไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวผู้ตายใช้มือผลักใบหน้าจำเลย 1 ครั้ง จำเลยก็ใช้มีดแทงผู้ตายการกระทำของจำเลยไม่ใช่เป็นการกระทำเพื่อป้องกัน และเหตุเท่านี้ยังไม่พอฟังว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม
การที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมซึ่งตัวมีดและด้ามยาวประมาณหนึ่งคืบเศษแทงผู้ตายที่บริเวณหน้าอกอันเป็นอวัยวะส่วนสำคัญของร่างกายแผลลึกถึง 10 เซนติเมตรทะลุหัวใจแสดงว่าตั้งใจแทงโดยแรงแม้จะเป็นการแทงเพียงทีเดียว แต่ผู้ตายถึงแก่ความตายหลังเกิดเหตุไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เช่นนี้ถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
การที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมซึ่งตัวมีดและด้ามยาวประมาณหนึ่งคืบเศษแทงผู้ตายที่บริเวณหน้าอกอันเป็นอวัยวะส่วนสำคัญของร่างกายแผลลึกถึง 10 เซนติเมตรทะลุหัวใจแสดงว่าตั้งใจแทงโดยแรงแม้จะเป็นการแทงเพียงทีเดียว แต่ผู้ตายถึงแก่ความตายหลังเกิดเหตุไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เช่นนี้ถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1119/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนในคดีทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตายจากเหตุวิวาทในวงสุรา ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและอุทธรณ์
จำเลย ผู้เสียหายและผู้ตายต่างเมาสุราแล้วเป็นปากเสียงทะเลาะวิวาทกันในวงสุรา และต่อเนื่องมาจนเกิดเหตุจำเลยแทงผู้เสียหายและผู้ตายเป็นเรื่องต่างสมัครใจวิวาทเข้าทำร้ายกันเนื่องจากขาดสติเพราะเมาสุรา จำเลยจะอ้างว่าเป็นการป้องกันตนโดยชอบหาได้ไม่ผู้ตายมีบาดแผลถึง 8 แผลโดยเฉพาะที่หน้าอกมีถึง 6 แผล และทะลุเข้าหัวใจ เป็นเหตุให้ถึงตายแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1067/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเองโดยชอบด้วยกฎหมายในคดีทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย
ตรงที่เกิดเหตุเป็นที่เปลี่ยวและมืด จำเลยถูกผู้ตายใช้ปืนยิง 1 นัดในระยะกระชั้นชิดถูกที่ท้องจำเลยจำเลยจึงมีสิทธิที่จะกระทำการเพื่อป้องกันตนเองได้ การที่จำเลยใช้มีดทำครัวแทงสวนผู้ตายไปเพียงครั้งเดียวผู้ตายถึงแก่ความตาย ก็แสดงว่ากระทำเพื่อยับยั้งมิให้ผู้ตายยิงจำเลยซ้ำอีก เป็นการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุจำเลยย่อมไม่มีความผิด