พบผลลัพธ์ทั้งหมด 794 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1714/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานพยายามฆ่าโดยประเมินเหตุแห่งการกระทำและข้อต่อสู้ของผู้กระทำผิด
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าเพื่อป้องกัน เกินสมควรแก่เหตุ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 60,68, 69 ให้จำคุก 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่า โดยบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 60, และ 72ให้จำคุก 2 ปี เช่นนี้ เป็นการพิพากษาแก้มาก ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 17/2515)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1714/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานพยายามฆ่า และการใช้ดุลยพินิจลงโทษที่แตกต่างกันในแต่ละศาล
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าเพื่อป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80,60,68,69 ให้จำคุก 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่า โดยบันดาลโทสะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80,60, และ 72 ให้จำคุก 2 ปี เช่นนี้ เป็นการพิพากษาแก้มาก ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 17/2515)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1273/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 และ 69 การโต้แย้งข้อเท็จจริงในฎีกา
ที่จะเป็นป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 ต้องมีองค์ประกอบสุดท้ายว่า ได้กระทำพอสมควรแก่เหตุด้วย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยฟังว่าจำเลยกระทำเกินสมควรแก่เหตุตามมาตรา 69 จำเลยฎีกาโต้แย้งข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นต่างไปจากข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังมาเพื่อให้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ เช่นนี้ เป็นฎีกาเถียงข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยฟังว่าจำเลยกระทำเกินสมควรแก่เหตุตามมาตรา 69 จำเลยฎีกาโต้แย้งข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นต่างไปจากข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังมาเพื่อให้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ เช่นนี้ เป็นฎีกาเถียงข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1139/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สำคัญผิดในข้อเท็จจริงและการป้องกันตัว: ศาลยกฟ้องคดีทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย
จำเลยได้ยินเสียงคนร้องทางฝั่งคลองตรงข้าม เข้าใจว่ามีเรื่องทะเลาะกัน จึงเดินลุยน้ำข้ามไปดู พอถึงก็ถูกคนตีที่แสกหน้าล้มลง เห็นคนตีวิ่งหนีไปทางทิศเหนือ แล้วมีคนวิ่งมาจากทางทิศเหนืออีก ซึ่งจำเลยเข้าใจว่าเป็นคนร้ายจะเข้ามาทำร้ายจำเลย จำเลยจึงใช้มีดดาบฟันคนที่วิ่งเข้ามานั้น 1 ทีถูกศีรษะกลับปรากฏว่าเป็นนายดินผู้ตายซึ่งเป็นญาติกัน ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยสำคัญผิดในข้อเท็จจริง กระทำป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1139/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สำคัญผิดในข้อเท็จจริง ป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่เป็นความผิดอาญา
จำเลยได้ยินเสียงคนร้องทางฝั่งคลองตรงข้าม เข้าใจว่ามีเรื่องทะเลาะกัน จึงเดินลุยน้ำข้ามไปดู พอถึงก็ถูกคนตีที่แสกหน้าล้มลง เห็นคนตีวิ่งหนีไปทางทิศเหนือ แล้วมีคนวิ่งมาจากทางทิศเหนืออีก ซึ่งจำเลยเข้าใจว่าเป็นคนร้ายจะเข้ามาทำร้ายจำเลย จำเลยจึงใช้มีดดาบฟันคนที่วิ่งเข้ามานั้น 1 ทีถูกศีรษะกลับปรากฏว่าเป็นนายดินผู้ตายซึ่งเป็นญาติกัน ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยสำคัญผิดในข้อเท็จจริง กระทำป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 892/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันผู้อื่นเกินสมควรแก่เหตุ: การยิงในสถานการณ์ชุลมุนและความจำเป็นในการพิจารณาบุคคลและอาวุธ
จำเลยตั้งใจยิงคนร้ายที่ปล้ำอยู่กับบุตรสาวและบุตรเขยของจำเลยในน้ำลึกถึงเอว เพื่อช่วยให้บุตรสาวและบุตรเขยพ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายที่กำลังมีอยู่ โดยไม่พินิจพิจารณาให้รอบคอบเสียก่อนว่าคนไหนเป็นคนร้าย คนไหนเป็นบุตรสาวบุตรเขย คนร้ายมีอาวุธอะไรหรือไม่ เมื่อลูกกระสุนปืนที่จำเลยยิงพลาดไปถูกบุตรเขยถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนาเพื่อป้องกันผู้อื่นเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 416/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การใช้ขวานป้องกันการถูกประทุษร้ายด้วยอาวุธปืน
ผู้ตายกับพวกเข้าไปในเขตรั้วบ้านของจำเลยในเวลาวิกาลในลักษณะที่จะลักทรัพย์ เมื่อภรรยาจำเลยฉายไฟไปเห็นผู้ตายก็ยกปืนจ้องไปทางภรรยาจำเลยเช่นนี้ ถือได้ว่าเป็นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายที่ใกล้จะถึง จำเลยย่อมมีสิทธิกระทำเพื่อป้องกันได้ และการที่จำเลยหยิบขวานด้ามไม้ยาวประมาณ 1 แขน ใบขวานเป็นเหล็กมีคม กว้าง 3 นิ้ว ยาว 12 นิ้ว มาจากข้างฝาในขณะนั้นเองโดยมิได้เตรียมมาก่อน เหวี่ยงฟันผู้ตายไป 4 ทีติด ๆ กัน ในเวลาฉุกละหุกที่จำเลยไม่อาจคาดคิดได้ว่าจะต้องฟันหรือเหวี่ยงไปกี่ทีจึงจะพอยับยั้งผู้ตายมิให้ใช้อาวุธปืนยิงได้ จึงเป็นการกระทำไปพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 244/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวด้วยอาวุธร้ายแรงเมื่อถูกกลุ้มรุมทำร้ายด้วยอาวุธมีด ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
ผู้เสียหายกับพวกอีกหลายคนกลุ้มรุมทำร้ายจำเลยผู้เสียหายใช้มีดดาบยาว 1 เมตรฟันจำเลยถูกที่แก้มแล้วจะฟันซ้ำจำเลยจึงชักปืนพกสั้นยิงไปหลายนัด กระสุนปืนถูกผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส การที่จำเลยใช้ปืนยิงในขณะที่ถูกผู้เสียหายกับพวกรุกไล่ติดตามฟันในระยะกระชั้นชิดเป็นพัลวันอยู่เช่นนี้ ถือได้ว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 118/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยเจตนาฆ่า ไม่ถือเป็นการป้องกันตัว แม้ผู้ตายจะส่งเสียงเอะอะล่วงอำนาจ
จำเลยทำผู้ตายฝ่ายเดียว เพราะผู้ตายส่งเสียงเอะอะในโรงงานที่จำเลยเป็นยามเฝ้า เป็นทำนองล่วงอำนาจจำเลยเท่านั้นไม่เป็นป้องกัน
มีดที่จำเลยใช้แทงผู้ตายเป็นมีดปลายแหลมด้ามยาว 3 นิ้วฟุต ตัวมีดยาวประมาณ 5 นิ้วฟุต กว้างประมาณ 1 นิ้วฟุต จำเลยแทงผู้ตายที่หน้าท้องบาดแผลยาว 5 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร ทะลุถึงตับเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ผู้ตายถึงแก่ความตายทันที การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
มีดที่จำเลยใช้แทงผู้ตายเป็นมีดปลายแหลมด้ามยาว 3 นิ้วฟุต ตัวมีดยาวประมาณ 5 นิ้วฟุต กว้างประมาณ 1 นิ้วฟุต จำเลยแทงผู้ตายที่หน้าท้องบาดแผลยาว 5 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร ทะลุถึงตับเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ผู้ตายถึงแก่ความตายทันที การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 118/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยเจตนาฆ่าเมื่อไม่มีเหตุป้องกันตนเอง
จำเลยทำผู้ตายฝ่ายเดียว เพราะผู้ตายส่งเสียงเอะอะในโรงงานที่จำเลยเป็นยามเฝ้า. เป็นทำนองล่วงอำนาจจำเลยเท่านั้น ไม่เป็นป้องกัน
มีดที่จำเลยใช้แทงผู้ตายเป็นมีดปลายแหลมด้ามยาว 3 นิ้วฟุต ตัวมีดยาวประมาณ 5 นิ้วฟุต กว้างประมาณ 1 นิ้วฟุต จำเลยแทงผู้ตายที่หน้าท้องบาดแผลยาว 5 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร ทะลุถึงตับเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ผู้ตายถึงแก่ความตายทันที การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
มีดที่จำเลยใช้แทงผู้ตายเป็นมีดปลายแหลมด้ามยาว 3 นิ้วฟุต ตัวมีดยาวประมาณ 5 นิ้วฟุต กว้างประมาณ 1 นิ้วฟุต จำเลยแทงผู้ตายที่หน้าท้องบาดแผลยาว 5 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร ทะลุถึงตับเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ผู้ตายถึงแก่ความตายทันที การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย