พบผลลัพธ์ทั้งหมด 794 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 976/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายเมื่อถูกทำร้ายร่างกายจนเกิดอันตรายถึงชีวิต
จำเลยเดินมาคนเดียว ผู้ตายกับพวกหลายคนเข้าทำร้ายจำเลยผู้ตายรัดคอจำเลยจนจำเลยหายใจไม่ออก และพวกของผู้ตายก็แทงจำเลย จำเลยจึงใช้มีดแทงผู้ตาย 1 ทีในขณะนั้น เพื่อให้ตนเองพ้นภัยบังเอิญมีดถูกอกผู้ตาย ผู้ตายจึงถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 913/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการวิวาท: การแทงด้วยอาวุธอันตรายถึงแก่ความตาย แม้มีการยั่วยุ ไม่ถือเป็นการป้องกันตัว
จำเลยทำท่าอ้วกและถ่มน้ำลายรดบุตรสาวผู้ตาย ผู้ตายต่อว่าจำเลยในเรื่องนี้ จำเลยพูดจายั่วโทสะผู้ตาย แสดงว่าจำเลยต้องการให้ผู้ตายต่อสู้กับตนหรือจำเลยต้องคาดคะเนได้ว่าผู้ตายจะต้องโกรธถึงขนาดที่จะทำร้ายจำเลย ผู้ตายเงื้อมือจะตบหน้าจำเลย จำเลยจึงใช้เหล็กปลายแหลมยาวประมาณคืบเศษแทงผู้ตายเต็มแรงที่หน้าอกซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญลึกถึง 10 เซนติเมตร ทะลุเข้าช่องปอด เยื่อหุ้มหัวใจและผนังเส้นเลือดแดง โดยผู้ตายไม่มีอาวุธ และผู้ตายได้ถึงแก่ความตาย แม้จำเลยแทงผู้ตายทีเดียวแล้ววิ่งหนี ก็แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า และการกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันเพราะจำเลยสมัครใจวิวาทต่อสู้กับผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 913/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการวิวาท: การแทงด้วยอาวุธอันตรายถึงแก่ความตาย
จำเลยทำท่าอ้วกและถ่มน้ำลายรดบุตรสาวผู้ตาย ผู้ตายต่อว่าจำเลยในเรื่องนี้ จำเลยพูดจายั่วโทสะผู้ตาย แสดงว่าจำเลยต้องการให้ผู้ตายต่อสู้กับตนหรือจำเลยต้องคาดคะเนได้ว่าผู้ตายจะต้องโกรธถึงขนาดที่จะทำร้ายจำเลย ผู้ตายเงื้อมือจะตบหน้าจำเลย จำเลยจึงใช้เหล็กปลายแหลมยาวประมาณคืบเศษแทงผู้ตายเต็มแรงที่หน้าอกซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญลึกถึง 10 เซนติเมตร ทะลุเข้าช่องปอดเยื่อหุ้มหัวใจและผนังเส้นเลือดแดง โดยผู้ตายไม่มีอาวุธ และผู้ตายได้ถึงแก่ความตาย แม้จำเลยแทงผู้ตายทีเดียวแล้ววิ่งหนี ก็แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า และการกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันเพราะจำเลยสมัครใจวิวาทต่อสู้กับผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 683/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิป้องกันทรัพย์สินที่เกินกว่าเหตุ แม้สำคัญผิดว่าผู้เสียหายเป็นคนร้าย
เมื่อจำเลยสำคัญผิดว่าผู้เสียหายเป็นคนร้ายที่เข้าไปลักทรัพย์ของจำเลยที่ใต้ถุนเรือน การที่จำเลยวิ่งไล่ตามผู้เสียหายออกไปนอกบ้าน ย่อมเป็นการใช้สิทธิกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนได้ แต่การที่จำเลยใช้มีดแทงถูกหลังผู้เสียหาย 4 แผลที่ข้อศอก 1 แผลขณะที่วิ่งไล่ไปทัน โดยไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายมีอาวุธหรือแสดงอาการขัดขืนต่อสู้ จึงเป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 69
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 683/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันสิทธิในทรัพย์สิน: การใช้กำลังเกินความจำเป็น แม้สำคัญผิดว่าผู้เสียหายเป็นคนร้าย
เมื่อจำเลยสำคัญผิดว่าผู้เสียหายเป็นคนร้ายที่เข้าไปลักทรัพย์ของจำเลยที่ใต้ถุนเรือน การที่จำเลยวิ่งไล่ตามผู้เสียหายออกไปนอกบ้าน ย่อมเป็นการใช้สิทธิกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนได้ แต่การที่จำเลยใช้มีดแทงถูกหลังผู้เสียหาย 4 แผลที่ข้อศอก 1 แผลขณะที่วิ่งไล่ไปทัน โดยไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายมีอาวุธหรือแสดงอาการขัดขืนต่อสู้ จึงเป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 69
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 559/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาจากการร่วมกันทำร้ายร่างกาย แม้แผลมีดไม่ถึงแก่ชีวิต
จำเลยกับ ส. พี่จำเลยสมัครใจต่อสู้กับผู้ตาย ส. ใช้ปืนยิงและจำเลยใช้มีดแทงถูกผู้ตายหลายแผล ผู้ตายถึงแก่ความตายในวันเกิดเหตุ เช่นนี้จำเลยย่อมมีความผิดฐานเป็นตัวการฆ่าผู้อื่น และการกระทำของจำเลยหาเป็นการป้องกันหรือบันดาลโทสะไม่
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 5 ปี ตามมาตรา 288, 72 จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา ดังนี้ แม้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 288 ศาลฎีกาก็ลงโทษจำเลยหนักกว่าโทษที่ศาลชั้นต้นลงมาไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้อุทธรณ์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 5 ปี ตามมาตรา 288, 72 จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา ดังนี้ แม้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 288 ศาลฎีกาก็ลงโทษจำเลยหนักกว่าโทษที่ศาลชั้นต้นลงมาไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้อุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 559/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย แม้แผลมีดไม่ถึงแก่ชีวิต ก็เป็นตัวการฆ่าผู้อื่นได้
จำเลยกับ ส. พี่จำเลยสมัครใจต่อสู้กับผู้ตาย ส. ใช้ปืนยิงและจำเลยใช้มีดแทงถูกผู้ตายหลายแผล ผู้ตายถึงแก่ความตายในวันเกิดเหตุ เช่นนี้จำเลยย่อมมีความผิดฐานเป็นตัวการฆ่าผู้อื่น และการกระทำของจำเลยหาเป็นการป้องกันหรือบันดาลโทสะไม่
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 5 ปี ตามมาตรา 288, 72 จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา ดังนี้ แม้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 288 ศาลฎีกาก็ลงโทษจำเลยหนักกว่าโทษที่ศาลชั้นต้นลงมาไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้อุทธรณ์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 5 ปี ตามมาตรา 288, 72 จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา ดังนี้ แม้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 288 ศาลฎีกาก็ลงโทษจำเลยหนักกว่าโทษที่ศาลชั้นต้นลงมาไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้อุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 434/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเกินสมควรแก่เหตุ กรณีถูกทำร้ายก่อน และใช้กำลังเกินความจำเป็น
จำเลยเพียงไปต่อว่าผู้ตายด้วยเรื่องที่ผู้ตายกระทำลวนลามภริยาของจำเลย ผู้ตายกลับใช้มือค้ำคอและบีบคอจำเลยล้มลงจำเลยจึงหยิบมีดโต้ฟันส่ง ๆ ไปหลายทีถูกผู้ตายเกิดบาดแผล 9 แผลถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 434/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: การใช้กำลังตอบโต้การถูกทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย
จำเลยเพียงไปต่อว่าผู้ตายด้วยเรื่องที่ผู้ตายกระทำลวนลามภริยาของจำเลย ผู้ตายกลับใช้มือค้ำคอและบีบคอจำเลยล้มลงจำเลยจึงหยิบมีดโต้ฟันส่ง ๆ ไปหลายทีถูกผู้ตายเกิดบาดแผล 9 แผลถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 266/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สำคัญผิดในข้อเท็จจริง: การป้องกันตนโดยชอบธรรม แม้ผู้ตายไม่มีอาวุธ
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ตายไม่มีอาวุธปืน แต่เมื่อพฤติการณ์แห่งคดีมีเหตุผลสมควรทำให้จำเลยสำคัญผิดเข้าใจว่าผู้ตายมีอาวุธปืนและกำลังจะยิงทำร้ายจำเลยในระยะห่างกัน 2 วา อันนับได้ว่าเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงตัวจำเลย จำเลยชอบที่จะใช้สิทธิกระทำเพื่อป้องกันตนได้และการที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายเพื่อป้องกันตนไป 1 นัดในทันทีนั้นการกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 ด้วย ความสำคัญผิดในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 62 วรรคแรก
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5/2514)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5/2514)