คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 69

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 316 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 411/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: การแทงเพื่อป้องกันภัยคุกคาม และเจตนา
ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน ผู้ตายเป็นน้องสาวจำเลย จำเลยพูดสั่งสอนผู้ตาย ผู้ตายโกรธและโดดเข้าไปจะทำร้ายจำเลยโดยผู้ตายไม่มีอาวุธอะไร จำเลยคว้าได้มีดและแทงไป 1 ที ถูกผู้ตายที่ซอกคอ แผลลึก 3 นิ้วครึ่ง ถือไม่ได้ว่าจำเลยสมัครใจจะวิวาทต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันและกันกับผู้ตาย เห็นได้ว่าจำเลยกระทำไปเพื่อป้องกันตัวให้พ้นภยันตรายที่ใกล้จะถึง แต่การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 411/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: การแทงเพื่อป้องกันตัวในเวลากลางคืนและความร้ายแรงของบาดแผล
ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน ผู้ตายเป็นน้องสาวจำเลยจำเลยพูดสั่งสอนผู้ตาย ผู้ตายโกรธและโดดเข้าไปจะทำร้ายจำเลยโดยผู้ตายไม่มีอาวุธอะไร จำเลยคว้าได้มีดและแทงไป 1 ทีถูกผู้ตายที่ซอกคอ แผลลึก 3 นิ้วครึ่ง ถือไม่ได้ว่าจำเลยสมัครใจจะวิวาทต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันและกันกับผู้ตาย เห็นได้ว่าจำเลยกระทำไปเพื่อป้องกันตัวให้พ้นภยันตรายที่ใกล้จะถึง แต่การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 729/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนเอง/ทรัพย์สินจากผู้บุกรุกและการใช้กำลังสมควรแก่เหตุในสถานการณ์คับขัน
ข้อเท็จจริงได้ความว่า แถวนั้นมีผู้ร้ายชุกชุมฝ่ายผู้ตายมีพวกมาด้วยกันถึง 3 คน บุกรุกเข้ามาลักทรัพย์ในไร่จำเลย จำเลยร้องทักว่า ใคร 2 ครั้ง ฝ่ายผู้ตายก็ใช้กระบองขว้าง 2 ครั้ง พยายามที่จะทำให้จำเลยกับพวกบาดเจ็บ เป็นการใช้กำลังเพื่อประทุษร้ายจำเลยให้เป็นความสะดวกในการที่ผู้ตายจะทการลักทรัพย์ ขณะเกิดเหตุเดือนมืดมองไม่เห็นกัน จำเลยรู้ไม่ได้ว่าผู้ตายกับพวกมีปืนมีมีดติดตัวมาด้วยหรือไม่ การที่จำเลยใช้ปืนยิงต่อสู้ไปนัดเดียวแล้ววิ่งกลับบ้าน แสดงว่าจำเลยมีความกลัวผู้ร้ายอยู่มาก เห็นได้ว่าจำเลยใช้ปืนยิงไปในขณะที่เห็นได้ว่าภยันตรายใกล้จะถึงตัวจำเลยกับพวกอยู่แล้ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นไปพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 729/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ปืนป้องกันตัวจากการบุกรุกและทำร้ายร่างกายเพื่อลักทรัพย์ ศาลเห็นว่าเป็นการกระทำที่สมควรแก่เหตุ
ข้อเท็จจริงได้ความว่าแถวนั้นมีผู้ร้ายชุกชุมฝ่ายผู้ตายมีพวกมาด้วยกันถึง 3 คน บุกรุกเข้ามาลักทรัพย์ในไร่จำเลยจำเลยร้องทักว่าใคร 2 ครั้ง ฝ่ายผู้ตายก็ใช้กระบองขว้าง 2 ครั้ง พยายามที่จะทำให้จำเลยกับพวกบาดเจ็บเป็นการใช้กำลังเพื่อประทุษร้ายจำเลยให้เป็นความสะดวกในการที่ผู้ตายจะทำการลักทรัพย์ขณะเกิดเหตุเดือนมืดมองไม่เห็นกันจำเลยรู้ไม่ได้ว่าผู้ตายกับพวกมีปืนมีมีดติดตัวมาด้วยหรือไม่การที่จำเลยใช้ปืนยิงต่อสู้ไปนัดเดียวแล้ววิ่งกลับบ้าน แสดงว่าจำเลยมีความกลัวผู้ร้ายอยู่มากเห็นได้ว่าจำเลยใช้ปืนยิงไปในขณะที่เห็นได้ว่าภยันตรายใกล้จะถึงตัวจำเลยกับพวกอยู่แล้วการกระทำของจำเลยจึงเป็นไปพอสมควรแก่เหตุไม่มีความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1320/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุในความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยา
สามีจะทำร้ายภรรยาด้วยไม้หลักแจว ภรรยาหนีเข้าห้องเรือนไป สามีก็ติดตามเข้าไปทำร้ายภรรยาให้ได้ ภรรยาจึงใช้ปืนยิง 1 นัด ถูกสามีถึงแก่ความตาย เช่นนี้เป็นการป้องกันตัว แต่เกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1320/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุในความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา
สามีจะทำร้ายภรรยาด้วยไม้หลักแจวภรรยาหนีเข้าห้องเรือนไป สามีก็ติดตามจะเข้าไปทำร้ายภรรยาให้ได้ ภรรยาจึงใช้ปืนยิง 1 นัด ถูกสามีถึงแก่ความตาย เช่นนี้เป็นการป้องกัน แต่เกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 615/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวและการใช้กำลังพอสมควรแก่เหตุเมื่อถูกทำร้ายก่อน
ผู้ตายล่ำใหญ่กว่าจำเลยและประพฤติผิดศีลธรรมต่อนางสาวสมจิตรบุตรเลี้ยงของจำเลยขึ้นก่อน เมื่อเกิดต่อว่ากันขึ้นแล้ว ผู้ตายแทงจำเลยก่อน และเมื่อกอดปล้ำกัน แล้วจำเลยดิ้นไม่หลุด จำเลยจึงต้องแทงผู้ตายไปบ้างเป็นการป้องกันตัว อาวุธของทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างเดียวกัน บาดแผลก็ขนาดเดียวกัน ถือได้ว่าเป็นการพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 615/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุเมื่อถูกทำร้าย ผู้ตายเริ่มลงมือก่อนและมีร่างกายแข็งแรงกว่า
ผู้ตายล่ำใหญ่กว่าจำเลยและประพฤติผิดศีลธรรมต่อนางสาวสมจิตรบุตรเลี้ยงของจำเลยขึ้นก่อนเมื่อเกิดต่อว่ากันขึ้นแล้ว ผู้ตายแทงจำเลยก่อน และเมื่อกอดปล้ำกันแล้วจำเลยดิ้นไม่หลุดจำเลยจึงต้องแทงผู้ตายไปบ้างเป็นการป้องกันตัวอาวุธของทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างเดียวกันบาดแผลก็ขนาดเดียวกันถือได้ว่าเป็นการพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงผู้ต้องสงสัยลักทรัพย์ ไม่เข้าข่ายป้องกันสิทธิโดยชอบธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68
ตอนกลางคืนก่อนเกิดเหตุ ยางแผ่น 4 - 5 แผ่น ของจำเลยหายไป แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนร้าย จำเลยจึงไปแจ้งความต่อผู้ใหญ่บ้านไว้
รุ่งเช้าจำเลยพบยางซ่อนอยู่ในป่าและดักซุ่มรอคอยอยู่ห่างกองยาง 10 วา นาน 3 - 4 ชั่วโมง ผู้ตายก็มาเอายางออกจากที่ซ่อนเดินไปได้ 3 - 4 วา จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย
ดังนี้ถือว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันสิทธิของตน ให้พ้นจากอันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้าย อันละเมิดต่อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 จำเลยจึงมีผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 16/2502

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันสิทธิในทรัพย์สิน: การดักซุ่มรอและยิงขโมยยาง ไม่ถือเป็นการป้องกันโดยชอบธรรม
ตอนกลางคืนก่อนเกิดเหตุ ยางแผ่น 4-5 แผ่น ของจำเลยหายไป แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนร้าย จำเลยจึงไปแจ้งความต่อผู้ใหญ่บ้านไว้ รุ่งเช้าจำเลยพบยางซ่อนอยู่ในป่าและดักซุ่มรอคอยอยู่ห่างกองยาง 10 วา นาน 3-4 ชั่วโมงผู้ตายก็มาเอายางออกจากที่ซ่อนเดินไปได้ 3-4 วา จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ถือว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันสิทธิของตนให้พ้นจากอันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อประมวลกฎหมายอาญามาตรา 68 จำเลยจึงมีผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16/2502)
of 32