คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 880

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 273 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1969/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ขนส่งต่อความเสียหายของสินค้า และสิทธิของผู้รับตราส่งในการฟ้องเรียกค่าเสียหายโดยตรง
ผู้ขนส่งจะต้องรับผิดในการที่ของสูญหายหรือบุบสลายหรือส่งชักช้า อันเกิดแต่ความผิดของผู้ขนส่งคนอื่นหรือบุคคลอื่นซึ่งตนหากได้มอบหมายของนั้นไปอีกทอดหนึ่ง
ถ้าของนั้นได้ส่งไปโดยมีผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดผู้ขนส่งทั้งนั้นจะต้องรับผิดร่วมกันในการสูญหายบุบสลายหรือส่งชักช้า
ใบรับใบตราส่งหรือเอกสารอื่นๆ ทำนองนั้นก็ดี ซึ่งผู้ขนส่งออกไปให้แก่ผู้ส่งนั้น ถ้ามีข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งประการใด ความนั้นเป็นโมฆะเว้นแต่ผู้ส่งจะได้ตกลงด้วยโดยชัดแจ้ง
แม้สินค้าที่ส่งจะมีประกันภัยไว้ เมื่อสินค้าเกิดความเสียหายเพราะความผิดของผู้ขนส่ง ผู้รับตราส่งย่อมฟ้องผู้ขนส่งให้รับผิดชดใช้ค่าเสียหายได้โดยตรง หาจำต้องฟ้องผู้รับประกันภัยก่อนไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1969/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ขนส่งต่อความเสียหายของสินค้าและข้อยกเว้นความรับผิด
ผู้ขนส่งจะต้องรับผิดในการที่ของสูญหายหรือบุบสลายหรือส่งชักช้า อันเกิดแต่ความผิดของผู้ขนส่งคนอื่นหรือบุคคลอื่นซึ่งตนหากได้มอบหมายของนั้นไปอีกทอดหนึ่ง
ถ้าของนั้นได้ส่งไปโดยมีผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดผู้ขนส่งทั้งนั้นจะต้องรับผิดร่วมกันในการสูญหายบุบสลายหรือส่งชักช้า
ใบรับใบตราส่งหรือเอกสารอื่นๆ ทำนองนั้นก็ดี ซึ่งผู้ขนส่งออกไปให้แก่ผู้ส่งนั้น ถ้ามีข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งประการใด ความนั้นเป็นโมฆะเว้นแต่ผู้ส่งจะได้ตกลงด้วยโดยชัดแจ้ง
แม้สินค้าที่ส่งจะมีประกันภัยไว้ เมื่อสินค้าเกิดความเสียหายเพราะความผิดของผู้ขนส่ง ผู้รับตราส่งย่อมฟ้องผู้ขนส่งให้รับผิดชดใช้ค่าเสียหายได้โดยตรง หาจำต้องฟ้องผู้รับประกันภัยก่อนไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1969/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ขนส่งต่อความเสียหายของสินค้า และสิทธิของผู้รับตราส่งในการเรียกร้องค่าเสียหายโดยตรง
ผู้ขนส่งจะต้องรับผิดในการที่ของสูญหายหรือบุบสลายหรือส่งชักช้า. อันเกิดแต่ความผิดของผู้ขนส่งคนอื่นหรือบุคคลอื่นซึ่งตนหากได้มอบหมายของนั้นไปอีกทอดหนึ่ง.
ถ้าของนั้นได้ส่งไปโดยมีผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดผู้ขนส่งทั้งนั้นจะต้องรับผิดร่วมกันในการสูญหายบุบสลายหรือส่งชักช้า.
ใบรับใบตราส่งหรือเอกสารอื่นๆ ทำนองนั้นก็ดี ซึ่งผู้ขนส่งออกไปให้แก่ผู้ส่งนั้น. ถ้ามีข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งประการใด. ความนั้นเป็นโมฆะเว้นแต่ผู้ส่งจะได้ตกลงด้วยโดยชัดแจ้ง.
แม้สินค้าที่ส่งจะมีประกันภัยไว้. เมื่อสินค้าเกิดความเสียหายเพราะความผิดของผู้ขนส่ง. ผู้รับตราส่งย่อมฟ้องผู้ขนส่งให้รับผิดชดใช้ค่าเสียหายได้โดยตรง หาจำต้องฟ้องผู้รับประกันภัยก่อนไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 194/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเรียกร้องค่าประกันภัยจากสัญญาประกันภัย: การเรียกบุคคลที่ 3 เข้าเป็นจำเลยร่วมไม่ชอบ
ผู้เอาประกันภัยฟ้องเรียกค่าประกันภัยรถยนต์จากผู้รับประกันภัยตามสัญญาประกันภัยนั้นเป็นการเรียกร้องในมูลหนี้ เกิดจากสัญญาประกันภัยระหว่างผู้เอาประกันภัยกับผู้รับประกันภัยเนื่องจากรถที่เอาประกันไว้ถูกชน ไม่มีประเด็นว่าการชนนั้น เป็นความผิดของผู้เอาประกันภัยหรือผู้ทำละเมิด และผู้ทำละเมิดจะเป็นลูกจ้างบุคคลที่ 3 จริงหรือไม่ ก็เป็นข้อที่บุคคลที่ 3 อาจยกขึ้นต่อสู้ได้ กรณีไม่เข้า ป.วิ.พ. มาตรา 57 (3) จำเลยซึ่งเป็นผู้รับประกันจึงหาอาจยื่นคำร้องขอให้เรียกบุคคลที่ 3 เข้ามาเป็นจำเลยร่วมได้ไม่ การที่ให้บุคคลที่ 3 เข้ามาเป็นจำเลยร่วมนั้น นอกจากไม่มีประเด็นความรับผิดไปถึงในเรื่องที่ฟ้องกันนี้ ยังทำให้การพิจารณายุ่งยากไม่สดวกอีกด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 194/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเรียกร้องค่าประกันภัยจากผู้รับประกันภัย ไม่จำเป็นต้องเรียกบุคคลที่ 3 เข้าเป็นจำเลยร่วม หากไม่มีประเด็นความรับผิด
ผู้เอาประกันภัยฟ้องเรียกค่าประกันภัยรถยนต์จากผู้รับประกันภัยตามสัญญาประกันภัยนั้นเป็นการเรียกร้องในมูลหนี้เกิดจากสัญญาประกันภัยระหว่างผู้เอาประกันภัยกับผู้รับประกันภัยเนื่องจากรถที่เอาประกันไว้ถูกชนไม่มีประเด็นว่าการชนนั้นเป็นความผิดของผู้เอาประกันภัยหรือผู้ทำละเมิด และผู้ทำละเมิดจะเป็นลูกจ้างบุคคลที่ 3 จริงหรือไม่ ก็เป็นข้อที่บุคคลที่ 3 อาจยกขึ้นต่อสู้ได้ กรณีไม่เข้า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(3) จำเลยซึ่งเป็นผู้รับประกันจึงหาอาจยื่นคำร้องขอให้เรียกบุคคลที่ 3 เข้ามาเป็นจำเลยร่วมได้ไม่การที่จะให้บุคคลที่ 3 เข้ามาเป็นจำเลยร่วมนั้นนอกจากไม่มีประเด็นความรับผิดไปถึงในเรื่องที่ฟ้องกันนี้ ยังทำให้การพิจารณายุ่งยากไม่สะดวกอีกด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้กระทำละเมิด: ผู้รับประกันภัยมีสิทธิเรียกร้องเท่ากับค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริงต่อผู้เอาประกัน
ผู้รับประกันภัยย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากบุคคลภายนอกได้เพียงเท่ากับจำนวนที่บุคคลนั้นได้กระทำละเมิดต่อผู้เอาประกันภัยเท่านั้น จะเรียกร้องเต็มตามจำนวนที่ผู้รับประกันภัยต้องชำระให้แก่ผู้เอาประกันซึ่งเกินกว่าค่าเสียหายที่บุคคลภายนอกได้กระทำละเมิด หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับประกันภัยมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ละเมิดได้เฉพาะส่วนที่จ่ายตามจริงเท่านั้น
ผู้รับประกันภัยย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากบุคคลภายนอกได้เพียงเท่ากับจำนวนที่บุคคลนั้นได้กระทำละเมิดต่อผู้เอาประกันภัยเท่านั้น จะเรียกร้องเต็มตามจำนวนที่ผู้รับประกันภัยต้องชำระให้แก่ผู้เอาประกันซึ่งเกินกว่าค่าเสียหายที่บุคคลภายนอกได้กระทำละเมิด หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับประกันภัยเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ละเมิดได้จำกัดเฉพาะค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริงต่อผู้เอาประกันภัย
ผู้รับประกันภัยย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากบุคคลภายนอกได้เพียงเท่ากับจำนวนที่บุคคลนั้นได้กระทำละเมิดต่อผู้เอาประกันภัยเท่านั้น จะเรียกร้องเต็มตามจำนวนที่ผู้รับประกันภัยต้องชำระให้แก่ผู้เอาประกันซึ่งเกินกว่าค่าเสียหายที่บุคคลภายนอกได้กระทำละเมิด หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิเรียกร้องของผู้รับช่วงสิทธิจากสัญญาประกันภัย ไม่เป็นการโอนสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
ฟ้องบรรยายว่ารถของจำเลยชนรถยนต์ของผู้เอาประกันภัยจากโจทก์เสียหาย โจทก์ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เอาประกันภัยไปแล้ว โจทก์ได้รับโอนสิทธิเรียกร้องมาเรียกร้องจากจำเลยต่อไปดังนี้เป็นเรื่องที่โจทก์อยู่ในฐานะผู้รับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยซึ่งมีต่อจำเลย โจทก์ย่อมใช้สิทธิในนามของตนเองได้ตาม ม.880,226 หาใช่เป็นเรื่องการโอนสิทธิเรียกร้องอันต้องหาเป็นหนังสือตาม ม.306 ไม่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับช่วงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากประกันภัย: โจทก์มีอำนาจฟ้องในฐานะผู้รับช่วงสิทธิ ไม่จำเป็นต้องมีเอกสารมอบสิทธิ
ฟ้องบรรยายว่ารถของจำเลยชนรถยนต์ของผู้เอาประกันภัยจากโจทก์เสียหาย โจทก์ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เอาประกันภัยไปแล้ว โจทก์ได้รับโอนสิทธิเรียกร้องมาเรียกร้องจากจำเลยต่อไป ดังนี้เป็นเรื่องที่โจทก์อยู่ในฐานะผู้รับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยซึ่งมีต่อจำเลย โจทก์ย่อมใช้สิทธิในนามของตนเองได้ตาม มาตรา 880,226 หาใช่เป็นเรื่องการโอนสิทธิเรียกร้องอันต้องทำเป็นหนังสือตาม มาตรา 306 ไม่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้
of 28