คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 329 (3)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 37 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1101/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใส่ความให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียงโดยเจตนา และการกระทำที่มีลักษณะให้ข้อความหมิ่นประมาทแพร่หลาย
การที่จำเลยทำหนังสือส่งไปยังประธานคณะกรรมการตุลาการและกรรมการตุลาการอื่นทุกคนกล่าวหาว่าโจทก์ซึ่งเป็นกรรมการตุลาการคนหนึ่งผูกใจเจ็บแค้นมารดาจำเลยเพราะมีคดีเรื่องบุกรุกและหาเหตุกลั่นแกล้งจนมารดาจำเลยถึงแก่กรรม แล้วโจทก์ยังมาฟ้องกล่าวหาจำเลยในมูลละเมิดโดยใช้อิทธิพลในฐานะเป็นกรรมการตุลาการทำให้ผู้พิพากษาซึ่งนั่งพิจารณาคดีเกิดความกลัวบีบบังคับให้จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความและไม่ให้ความเป็นธรรมแก่จำเลยในการบังคับคดีตามคำพิพากษาตามยอมดังกล่าว อันทำให้โจทก์ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งที่จำเลยรู้ดีว่าไม่มีมูลความจริง ย่อมแสดงให้เห็นในเบื้องต้นถึงเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ของจำเลย ทั้งจำเลยก็ไม่อาจแก้ตัวได้ว่ากระทำการดังกล่าวเพื่อป้องกันผลประโยชน์อันชอบธรรมของตนหรือเป็นการติชมด้วยความเป็นธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา329(1)(3) เพราะในคดีแพ่งที่โจทก์จำเลยพิพาทกันเกี่ยวกับมูลละเมิด จำเลยก็มีทนายช่วยแก้ต่างจำเลยจึงย่อมทราบดีกว่าขั้นตอนของกระบวนวิธีพิจารณาเป็นอย่างไรและควรปฏิบัติอย่างไรหากเห็นว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรมในปัญหาที่พิพาทกับโจทก์มิใช่ร้องเรียนไปยังบรรดาบุคคลซึ่งจำเลยทราบดีว่าไม่อาจบันดาลใด ๆ ในทางคดีได้แต่กลับเป็นการแสดงเจตนาชัดแจ้งว่า จำเลยมุ่งประสงค์ใส่ความเพื่อทำลายชื่อเสียงของโจทก์ และเป็นการกระทำที่มีลักษณะให้ข้อความหมิ่นประมาทดังกล่าวแพร่หลายไปในวงการของนักกฎหมายและบุคคลอื่น เพื่อให้ผู้ที่ไม่ทราบความจริงเกิดเข้าใจผิดดูหมิ่นเกลียดชังโจทก์อันส่งผลกระทบต่อเกียรติและสถานะในทางสังคมของโจทก์โดยตรงสมดังเจตนาอันแท้จริงของจำเลย จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 422/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การติชมด้วยความสุจริตเพื่อประโยชน์สาธารณะและการป้องกันส่วนได้เสีย ย่อมได้รับการยกเว้นความผิดฐานหมิ่นประมาท
เมื่อมีพฤติการณ์ที่ทำให้จำเลยเชื่อโดยสุจริตใจว่าผู้เสียหายทุจริตในขณะเป็นกรรมการสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการจำเลยจึงกล่าวข้อความเช่นนั้นในขณะพูดหาเสียงให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลซึ่งผู้เสียหายเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งด้วยจึงเป็นการแสดงข้อความโดยสุจริตติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(3) และเนื่องจากจำเลยเป็นผู้สมัครสอบในครั้งนั้นด้วยการกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม ตามมาตรา 329(1)อีกด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การติชมด้วยความสุจริตเพื่อประโยชน์สาธารณะและการป้องกันส่วนได้เสีย ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
การที่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นกรรมการอำนวยการงานฤดูหนาวและกาชาดได้กล่าวต่อจำเลยที่ 2 ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์และจำเลยที่ 2 ที่ 3 ได้นำไปลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ว่าสงสัยว่าผู้เสียหายซึ่งเป็นหัวหน้าแผนกแผนผังและก่อสร้างกับพวกจะร่วมกันทุจริตเงินก่อสร้างนั้นเป็นเพราะมีพฤติการณ์ให้เข้าใจว่าผู้เสียหายกับพวกได้ก่อสร้างสิ่งก่อสร้างแพงกว่าความเป็นจริงส่อไปในทางทุจริต งานนี้เป็นงานกุศลสาธารณประโยชน์ ประชาชนทั่วไปมีส่วนได้เสียเกี่ยวข้องและจำเลยที่ 1 มีส่วนรับผิดชอบในฐานะเป็นกรรมการอำนวยการ จึงถือได้ว่าจำเลยทั้งสามกระทำโดยสุจริต เพื่อความชอบธรรม ป้องกันตนหรือป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม และติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ จึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การติชมการก่อสร้างงานกุศลโดยสุจริต ไม่เข้าข่ายหมิ่นประมาท
การที่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นกรรมการอำนวยการงานฤดูหนาวและกาชาดได้กล่าวต่อจำเลยที่ 2 ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์และจำเลยที่ 2 ที่ 3 ได้นำไปลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ว่าสงสัยว่าผู้เสียหาย ซึ่งเป็นหัวหน้าแผนกแผนผังและก่อสร้างกับพวกจะร่วมกันทุจริตเงินก่อสร้างนั้น เป็นเพราะมีพฤติการณ์ให้เข้าใจว่าผู้เสียหายกับพวกได้ก่อสร้างสิ่งก่อสร้างแพงกว่าความเป็นจริงส่อไปในทางทุจริต งานนี้เป็นงานกุศลสาธารณประโยชน์ ประชาชนทั่วไปมีส่วนได้เสียเกี่ยวข้องและจำเลยที่ 1 มีส่วนรับผิดชอบในฐานะเป็นกรรมการอำนวยการ จึงถือได้ว่าจำเลยทั้งสามกระทำโดยสุจริต เพื่อความชอบธรรม ป้องกันตนหรือป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม และติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ จึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 418/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หมิ่นประมาทจากการวิจารณ์ข่าว: การติชมด้วยความเป็นธรรมต้องไม่ยืนยันข้อเท็จจริงที่เป็นเท็จ
จำเลยประพันธ์และนำพิมพ์โฆษณาในหนังสือพิมพ์ฉบับลงวันที่ 15 สิงหาคม 2521 เมื่ออ่านแล้วได้ความว่า รถยนต์คันที่โจทก์นั่งมาเป็นฝ่ายผิด เจ้าพนักงานตำรวจเข้าปฏิบัติหน้าที่ต่อคู่กรณีตามความเป็นจริงกลับถูกโจทก์ตะคอกด่าว่า"โง่ทำงานไม่เป็น" แล้วโจทก์สั่งให้คนขับรถขับรถยนต์หนีไป โจทก์เป็นคนขนาดเคยเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยกลับเหยียดหยามกฎหมาย ดังนี้ จำเลยจะอ้างว่าข้อความที่จำเลยประพันธ์เป็นการติชมด้วยความเป็นธรรมเกี่ยวกับการกระทำของโจทก์ตามข่าวในหนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 14 สิงหาคม2521 หาได้ไม่ เพราะมีการยืนยันข้อเท็จจริงว่า โจทก์ด่าว่าเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งปฏิบัติตามหน้าที่ทั้ง ๆ ที่รถยนต์ที่โจทก์นั่งมาเป็นฝ่ายผิดแล้วโจทก์ยังให้คนขับรถยนต์หนีไป ซึ่งข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติแล้วว่าโจทก์ไม่ได้ด่าว่าเจ้าพนักงานตำรวจ และไม่ได้สั่งให้คนขับรถยนต์หนีไปจึงเป็นการใส่ความโจทก์อันเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
ในคดีที่ฎีกาได้แต่ปัญหาข้อกฎหมายเมื่อพฤติการณ์ที่ปรากฏในคดีโทษที่ศาลอุทธรณ์กำหนดยังไม่เหมาะสมแก่รูปคดี เพราะข้อความที่จำเลยประพันธ์สืบเนื่องมาจากข่าวของหนังสือพิมพ์ฉบับลงวันที่ 14 สิงหาคม 2521 จำเลยจึงประพันธ์ข้อความในคดีนี้ขึ้นในหนังสือพิมพ์ฉบับวันรุ่งขึ้นในหัวข้อเรื่อง "บุคคลในข่าว" อันเป็นการวิจารณ์ข่าวเพิ่มเติม มิใช่ประพันธ์เรื่องขึ้นใหม่ ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจเปลี่ยนแปลงโทษที่ศาลอุทธรณ์กำหนดไว้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2723/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเผยแพร่ข้อความโดยสุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(3) ไม่ถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยลงข้อความโฆษณาในหนังสือพิมพ์ของจำเลยโดยอาศัยบทความที่เขียนโดยชาวต่างประเทศที่ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ต่างประเทศฉบับหนึ่งซึ่งพิมพ์ออกจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา มีข้อความโดยย่อว่า ซีไอเอ ได้จ่ายเงิน 250 ล้านบาทอุดหนุนหน่วย "นวพล" ที่ซีไอเอ ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยบางคนตั้งขึ้นมาเพื่อกำราบประชาชนและนักศึกษาที่มีกิจกรรมต่อต้านสหรัฐฯโจทก์เป็นผู้เสนอโครงการ "นวพล" นี้โดยมีการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ชั้นสูงของกระทรวงการต่างประเทศและกลาโหมของสหรัฐฯ มาก่อนเงินอุดหนุน "นวพล" นี้ เฉพาะตัวโจทก์ได้รับเงินเดือน ๆ ละ 8 หมื่นบาท ดังนี้ แม้หากจะฟังว่าข้อความตามที่จำเลยลงโฆษณานั้นมีความหมายเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ก็ตามแต่การกระทำของจำเลยเป็นการแสดงข้อความโดยสุจริตด้วยความเป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329(3) ไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2723/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงข้อความโดยสุจริตด้วยความเป็นธรรมเป็นข้อยกเว้นความผิดฐานหมิ่นประมาท
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยลงข้อความโฆษณาในหนังสือพิมพ์ของจำเลยโดยอาศัยบทความที่เขียนโดยชาวต่างประเทศที่ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ต่างประเทศฉบับหนึ่งซึ่งพิมพ์ออกจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา มีข้อความโดยย่อว่า ซีไอเอ ได้จ่ายเงิน 250 ล้านบาทอุดหนุนหน่วย "นวพล" ที่ซีไอเอ ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยบางคนตั้งขึ้นมาเพื่อกำราบประชาชนและนักศึกษาที่มีกิจกรรมต่อต้านสหรัฐฯโจทก์เป็นผู้เสนอโครงการ "นวพล" นี้โดยมีการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ชั้นสูงของกระทรวงการต่างประเทศและกลาโหมของสหรัฐฯ มาก่อนเงินอุดหนุน "นวพล" นี้ เฉพาะตัวโจทก์ได้รับเงินเดือน ๆ ละ 8 หมื่นบาท ดังนี้ แม้หากจะฟังว่าข้อความตามที่จำเลยลงโฆษณานั้นมีความหมายเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ก็ตามแต่การกระทำของจำเลยเป็นการแสดงข้อความโดยสุจริตด้วยความเป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329(3) ไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1752/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อความล้อเลียนบุคคลสำคัญ ไม่เป็นหมิ่นประมาท หากเป็นการยกยอหรือล้อเลียนทั่วไป
ข้อความโฆษณาที่ล้อเลียนคำพูดของผู้เสียหายผู้ซึ่งอยู่ในฐานะที่อาจถูกบุคคลอื่นล้อเลียนได้ด้วยข้อความอย่างเดียวกัน แม้จะหยาบคายหรือกล่าวเกินไปบ้าง แต่ก็รวมอยู่ในข้อความล้อเลียนย่อมไม่เป็นหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1752/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อความล้อเลียนบุคคลสำคัญไม่เป็นหมิ่นประมาท หากเป็นการยกยอหรือล้อเลียนโดยไม่ร้ายแรง
ข้อความโฆษณาที่ล้อเลียนคำพูดของผู้เสียหายผู้ซึ่งอยู่ในฐานะที่อาจถูกบุคคลอื่นล้อเลียนได้ด้วยข้อความอย่างเดียวกัน แม้จะหยาบคายหรือกล่าวเกินไปบ้าง แต่ก็รวมอยู่ในข้อความล้อเลียนย่อมไม่เป็นหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 140/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใส่ความผู้อื่นให้เสียชื่อเสียงจากคำพูดที่ชี้นำว่าการสั่งการขัดขวางพยานทำให้เสียความยุติธรรม ไม่เป็นการติชมโดยสุจริต
จำเลยถูกศาลพิพากษาลงโทษในคดีหนึ่งแล้วมากล่าวว่า'คดีนี้ไม่น่าจะแพ้เลยที่แพ้ก็เพราะเจ้าเมืองสั่งนายอำเภอเมืองไม่ให้ไปเป็นพยาน นายอำเภอเมืองเสียใจร้องไห้ที่ไม่ได้เป็นพยานเจ้าเมืองอย่างนี้ราษฎรได้รับความเดือดร้อน' เช่นนี้ แปลได้ว่า จำเลยว่าการสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดทำให้เสียความยุติธรรมเป็นเหตุให้จำเลยแพ้คดีผู้ปกครองทำอย่างนี้ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ย่อมทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเสียชื่อเสียงหรือถูกดูหมิ่นเกลียดชังเป็นความผิดแล้ว หาใช่เป็นการติชมด้วยความเป็นธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(3) ไม่
of 4