คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 227

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,185 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2232/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความน่าเชื่อถือของพยานหลักฐานการจับกุมยาเสพติด: การพิจารณาความสอดคล้องและรายละเอียดปลีกย่อย
คำเบิกความของพยานโจทก์มีข้อเท็จจริงสอดคล้องต้องกันโดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการตรวจค้นพบของกลางในคดี ประกอบกับเจ้าหน้าที่ของสำนักคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เข้าทำการจับกุมและตรวจค้นกระเป๋าในทันทีที่ส่งมอบ ซึ่งพบเฮโรอีนของกลางบรรจุอยู่ในกระเป๋า พยานโจทก์ล้วนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่โดยตรงเกี่ยวกับการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดต่อ พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ ไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน จึงไม่มีเหตุที่จะทำให้ระแวงสงสัยว่าจะเบิกความให้เป็นผลร้ายหรือปรักปรำจำเลย และไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นการสร้างเรื่องเชื่อมโยงบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อเอาผิดแก่จำเลย หรือเพื่อเอาผลงานการจับกุม แม้จะเบิกความแตกต่างและขัดแย้งกันบ้างเกี่ยวกับจำนวนผู้ที่เข้าจับกุม การซุ่มดูเหตุการณ์ก่อนเข้าทำการจับกุม จุดที่มีการส่งมอบของกลาง ตลอดจนการนำตัวจำเลยไปที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)ก็ตาม แต่ข้อแตกต่างดังกล่าวล้วนเป็นเพียงพลความหาใช่เป็นสาระสำคัญอันจะทำให้น้ำหนักในการรับฟังพยานโจทก์ลดน้อยลงไปจนไม่อาจรับฟังได้ว่ามีเหตุเกิดขึ้นจริงดังที่พยานโจทก์เบิกความไม่ และเมื่อพิจารณาแผนที่เกิดเหตุภาพถ่ายสถานที่เกิดเหตุประกอบการเดินเผชิญสืบ เมื่อฟังประกอบพยานบุคคลของโจทก์แล้ว ทำให้พยาน-หลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น หาใช่ผู้จับกุมทำงานเพียงเพื่อผลงานการ
(จรัญ หัตถกรรม - นาม ยิ้มแย้ม - สุรินทร์ นาควิเชียร)ศาลอาญา นายประจักษ์ เกียรติ์อนุพงศ์ศาลอุทธรณ์ นายเสริมศักดิ์ ผลัดธุระ
นายอารมณ์ จำปานิล - ย่อ
เยาวลักษณ์ พ/ท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2232/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจับกุมและตรวจค้นยาเสพติด: พยานหลักฐานเชื่อมโยงสอดคล้องเชื่อได้ว่าจำเลยกระทำผิด
คำเบิกความของพยานโจทก์มีข้อเท็จจริงสอดคล้องต้องกันโดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการตรวจค้นพบของกลางในคดีประกอบกับเจ้าหน้าที่ของสำนักคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)เข้าทำการจับกุมและตรวจค้นกระเป๋าในทันทีที่ส่งมอบซึ่งพบเฮโรอีนของกลางบรรจุอยู่ในกระเป๋าพยานโจทก์ล้วนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่โดยตรงเกี่ยวกับการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อนจึงไม่มีเหตุที่จะทำให้ระแวงสงสัยว่าจะเบิกความให้เป็นผลร้ายหรือปรักปรำจำเลยและไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นการสร้างเรื่องเชื่อมโยงบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อเอาผิดแก่จำเลยหรือเพื่อเอาผลงานการจับกุมแม้จะเบิกความแตกต่างและขัดแย้งกันบ้างเกี่ยวกับจำนวนผู้ที่เข้าจับกุมการซุ่มดูเหตุการณ์ก่อนเข้าทำการจับกุมจุดที่มีการส่งมอบของกลางตลอดจนการนำตัวจำเลยไปที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)ก็ตามแต่ข้อแตกต่างดังกล่าวล้วนเป็นเพียงพลความหาใช่เป็นสาระสำคัญอันจะทำให้น้ำหนักในการรับฟังพยานโจทก์ลดน้อยลงไปจนไม่อาจรับฟังได้ว่ามีเหตุเกิดขึ้นจริงดังที่พยานโจทก์เบิกความไม่และเมื่อพิจารณาแผนที่เกิดเหตุภาพถ่ายสถานที่เกิดเหตุประกอบการเดินเผชิญสืบเมื่อฟังประกอบพยานบุคคลของโจทก์แล้วทำให้พยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อถือยิ่งขึ้นหาใช่ผู้จับกุมทำงานเพียงเพื่อผลงานการจับกุมและจับกุมจำเลยจากสถานที่หนึ่งแล้วนำมาผูกเรื่องเชื่อมโยงกับการจับกุมพวกของจำเลยดังที่จำเลยฎีกาไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1919/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำรับสารภาพชั้นสอบสวนไม่เพียงพอที่จะลงโทษจำเลย ต้องมีพยานหลักฐานอื่นสนับสนุน
โจทก์ไม่มีพยานรู้เห็นว่าจำเลยเป็นผู้ลักทรัพย์คงมีหลักฐานเพียงว่าในคืนเกิดเหตุมีคนร้ายลักยางพาราแผ่นของผู้เสียหายไปข้อนำสืบเบื้องต้นที่ว่าจำเลยเป็นคนร้ายมาจากคำรับของจำเลยต่อพนักงานสอบสวนและต่อบุคคลที่รู้เห็นในขณะนั้นเป็นพยานบอกเล่าที่จำเลยได้บอกแก่พนักงานสอบสวนจริงแต่จะรับฟังว่าจำเลยได้กระทำการลักทรัพย์ไปจริงตามที่ได้บอกเล่าไว้หรือไม่นั้นต้องมีพยานอื่นมาสนับสนุนให้รับฟังได้ว่าเป็นจริงตามที่จำเลยได้บอกเล่าแก่พนักงานสอบสวนลำพังแต่คำรับสารภาพในชั้นสอบสวนเพียงรับฟังได้ว่าจำเลยได้บอกกล่าวไว้เช่นนั้นจะรับฟังลงโทษจำเลยได้นั้นจะต้องมีพยานอื่นสนับสนุนด้วยเมื่อโจทก์มีแต่คำรับสารภาพชั้นสอบสวนจึงยังไม่เพียงพอที่จะรับฟังลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1919/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำรับสารภาพในชั้นสอบสวนไม่เพียงพอที่จะลงโทษจำเลย จำเป็นต้องมีพยานหลักฐานอื่นสนับสนุน
โจทก์ไม่มีพยานรู้เห็นว่าจำเลยเป็นผู้ลักทรัพย์ คงมีหลักฐานเพียงว่า ในคืนเกิดเหตุมีคนร้ายลักยางพาราแผ่นของผู้เสียหายไป ข้อนำสืบเบื้องต้นที่ว่าจำเลยเป็นคนร้ายมาจากคำรับของจำเลยต่อพนักงานสอบสวน และต่อบุคคลที่รู้เห็นในขณะนั้นเป็นพยานบอกเล่าที่จำเลยได้บอกแก่พนักงานสอบสวนจริง แต่จะรับฟังว่าจำเลยได้กระทำการลักทรัพย์ไปจริงตามที่ได้บอกเล่าไว้หรือไม่นั้น ต้องมีพยานอื่นมาสนับสนุนให้รับฟังได้ว่าเป็นจริงตามที่จำเลยได้บอกเล่าแก่พนักงาน-สอบสวนลำพังแต่คำรับสารภาพในชั้นสอบสวนเพียงรับฟังได้ว่าจำเลยได้บอกกล่าวไว้เช่นนั้น จะรับฟังลงโทษจำเลยได้นั้นจะต้องมีพยานอื่นสนับสนุนด้วย เมื่อโจทก์มีแต่คำรับสารภาพชั้นสอบสวน จึงยังไม่เพียงพอที่จะรับฟังลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1919/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำรับสารภาพในชั้นสอบสวนไม่เพียงพอที่จะลงโทษจำเลย จำเป็นต้องมีพยานหลักฐานอื่นสนับสนุน
โจทก์ไม่มีพยานรู้เห็นว่าจำเลยเป็นผู้ลักทรัพย์คงมีหลักฐานเพียงว่าในคืนเกิดเหตุมีคนร้ายลักยางพาราแผ่นของผู้เสียหายไปข้อนำสืบเบื้องต้นที่ว่าจำเลยเป็นคนร้ายมาจากคำรับของจำเลยต่อพนักงานสอบสวนและต่อบุคคลที่รู้เห็นในขณะนั้นเป็นพยานบอกเล่าที่จำเลยได้บอกแก่พนักงานสอบสวนจริงแต่จะรับฟังว่าจำเลยได้กระทำการลักทรัพย์ไปจริงตามที่ได้บอกเล่าไว้หรือไม่นั้นต้องมีพยานอื่นมาสนับสนุนให้รับฟังได้ว่าเป็นจริงตามที่จำเลยได้บอกเล่าแก่พนักงานสอบสวนลำพังแต่คำรับสารภาพในชั้นสอบสวนเพียงรับฟังได้ว่าจำเลยได้บอกกล่าวไว้เช่นนั้นจะรับฟังลงโทษจำเลยได้นั้นจะต้องมีพยานอื่นสนับสนุนด้วยเมื่อโจทก์มีแต่คำรับสารภาพชั้นสอบสวนจึงยังไม่เพียงพอที่จะรับฟังลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1919/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำรับสารภาพชั้นสอบสวนไม่เพียงพอที่จะลงโทษจำเลย หากไม่มีพยานหลักฐานอื่นสนับสนุน
โจทก์ไม่มีพยานรู้เห็นว่าจำเลยเป็นผู้ลักทรัพย์ คงมีหลักฐานเพียงว่า ในคืนเกิดเหตุมีคนร้ายลักยางพาราแผ่นของผู้เสียหายไปข้อนำสืบเบื้องต้นที่ว่าจำเลยเป็นคนร้ายมาจากคำรับของจำเลยต่อพนักงานสอบสวน และต่อบุคคลที่รู้เห็นในขณะนั้นเป็นพยานบอกเล่าที่จำเลยได้บอกแก่พนักงานสอบสวนจริง แต่จะรับฟังว่าจำเลยได้กระทำการลักทรัพย์ไปจริงตามที่ได้บอกเล่าไว้หรือไม่นั้นต้องมีพยานอื่นมาสนับสนุนให้รับฟังได้ว่าเป็นจริงตามที่จำเลยได้บอกเล่าแก่พนักงานสอบสวนลำพังแต่คำรับสารภาพในชั้นสอบสวนเพียงรับฟังได้ว่าจำเลยได้บอกกล่าวไว้เช่นนั้น จะรับฟังลงโทษจำเลยได้นั้นจะต้องมีพยานอื่นสนับสนุนด้วย เมื่อโจทก์มีแต่คำรับสารภาพชั้นสอบสวน จึงยังไม่เพียงพอที่จะรับฟังลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1672/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขืนกระทำชำเรา: พยานหลักฐานทางการแพทย์ไม่เด็ดขาด ศาลเชื่อพยานผู้เสียหาย
แพทย์ได้ตรวจช่องคลอดของผู้เสียหายพบว่ามีความผิดปกติโดยกำเนิดโดยอุจจาระจะผ่านทางช่องคลอดมากกว่าจะออกไปทางทวารหนักเพราะมีช่องกว้างกว่าจากเหตุเช่นนี้อาจจะทำให้เยื่อพรหมจารีผู้เสียหายยังอยู่คงเดิมไม่พบรอยฟกช้ำของอวัยวะเพศและไม่พบอสุจิในช่องคลอดแต่ข้อเท็จจริงดังกล่าวก็ใช่ว่าจะเป็นเครื่องยืนยันเด็ดขาดว่าจะไม่มีการข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายหากผู้เสียหายเบิกความโดยละเอียดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นศาลก็ฟังว่าจำเลยกับพวกข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1672/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดปกติทางกายภาพกับหลักฐานการข่มขืน: การพิสูจน์ความผิดทางอาญา
ช่องคลอดของผู้เสียหายมีอาการผิดปกติโดยกำเนิด แพทย์ตรวจพบก้อนอุจจาระในช่องคลอด ซึ่งตามปกติจะมีผนังกั้นระหว่างช่องคลอดกับทวารหนักกรณีของผู้เสียหายแพทย์ผู้ตรวจร่างกายยืนยันไม่ได้ว่าจะมีการผ่านการร่วมประเวณีเพราะเป็นทางผ่านของอุจจาระ โดยอุจจาระจะผ่านทางช่องคลอดมากกว่าจะออกไปทางทวารหนัก ฉะนั้น การที่เยื่อพรหมจารียังอยู่คงเดิม ไม่พบรอยฟกช้ำของอวัยวะเพศตลอดจนไม่พบอสุจิอาจเป็นเพราะความผิดปกติของช่องคลอดของผู้เสียหาย จึงไม่ใช่ว่าจะเป็นเครื่องยืนยันเด็ดขาดว่าจะไม่มีการข่มขืนกระทำชำเรา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 979/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานไม่เพียงพอและขัดแย้งกัน ศาลฎีกาพิพากษากลับให้ยกฟ้องคดีจำหน่ายกัญชา
คดีนี้โจทก์ไม่ได้นำตัวสายสืบที่ทำการล่อซื้อกัญชาของกลางมาเป็นพยานคงมีแต่พยานผู้จับกุมจำนวน2ปากแต่พยานทั้งสองปากนี้เบิกความเป็นพิรุธขัดต่อเหตุผลแตกต่างกันในข้อสาระสำคัญแม้จำเลยรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนไว้ก็ตามอีกทั้งจำเลยยังบอกถึงที่ซ่อนของกัญชาอีกส่วนหนึ่งถ้ากัญชาดังกล่าวเป็นของจำเลยจริงจำเลยก็คงไม่บอกให้พยานโจทก์ทราบเพราะเป็นการผิดวิสัยของผู้กระทำผิดทั่วไปประกอบกับกัญชาอยู่ห่างกระท่อมของจำเลยถึง500เมตรจึงเป็นเหตุพิรุธสงสัยไม่น่าเชื่อว่าจำเลยให้การรับสารภาพโดยสมัครใจส่วนกัญชาที่ค้นพบก็ยังมีเหตุสงสัยไม่น่าเชื่อเช่นกันว่าเป็นของจำเลยต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา227วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 623/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำรับสารภาพที่ได้มาโดยสมัครใจและพยานหลักฐานประกอบ เชื่อถือได้แม้ไม่มีประจักษ์พยาน
แม้ คำรับสารภาพของจำเลยทั้งใน ชั้นจับกุมและ ชั้นสอบสวนจะเป็น พยานบอกเล่าที่ใช้เป็นพยานหลักฐานได้เพียงนำไปฟังประกอบกับพยานหลักฐานอื่นของโจทก์ก็ตามแต่ คำเบิกความพนักงานสอบสวนพยานโจทก์ที่ว่าพยานเป็นผู้สอบสวนจำเลยและจำเลยได้ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นคำเบิกความของ ประจักษ์พยานในข้อที่ว่ามีการสอบสวนโดยพนักงานสอบสวนคนใดและจำเลยให้การชั้นสอบสวนว่าอย่างไร พนักงานสอบสวนเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหน้าที่ไปตามอำนาจหน้าที่โดยไม่มีส่วนได้เสียกับคู่กรณีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดและไม่ปรากฏว่ามีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อนข้อระแวงเรื่องจะแกล้งเบิกความปรักปรำจำเลยย่อมไม่มีทั้งคำเบิกความของพยานดังกล่าวที่เกี่ยวกับการสอบสวนจำเลยก็ไม่มีพิรุธที่ทำให้ไม่น่าเชื่อว่าพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนโดยไม่ชอบรูปคดีเชื่อได้ว่าจำเลยได้ ให้การรับสารภาพทั้งในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน โดยสมัครใจตามความจริง แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นการกระทำความผิดของจำเลยและพวกแต่เมื่อฟังคำเบิกความของพนักงานสอบสวนกับคำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนประกอบกันเชื่อได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยได้ร่วมกับพวกทำการลักรถยนต์ของผู้เสียหายไปจำเลยจึงมีความผิดตามฟ้อง
of 119