พบผลลัพธ์ทั้งหมด 262 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1012/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายโดยผ่านตัวแทนอำพราง: สิทธิในการฟ้องขับไล่และผลกระทบต่อฐานะทางกฎหมายของผู้ซื้อ
โจทย์ฟ้องขับไล่จำเลยโดยอ้างว่าจำเลยอาศัย จำเลยต่อสู้ว่าโรงเรือนและที่พิพาทเป็นของจำเลยซื้อมาจากผู้อื่น แต่ทางการไม่อนุญาตให้ทำนิติกรรมเป็นผู้ซื้อได้ เพราะเป็นคนต่างด้าว จึงมอบให้จำเลยเป็นตัวแทนไปทำนิติกรรมแทนจำเลยดังนี้ ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยเสีย แล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี เป็นการไม่ชอบเพราะถ้าฟังตามคำให้การของจำเลยแล้ว รูปคดีไม่ใช่เรื่องอาศัย โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยได้ จึงต้องฟังพยานต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1012/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายโดยตัวแทนอำพราง: สิทธิในการครอบครองและการฟ้องขับไล่
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยโดยอ้างว่าจำเลยอาศัย จำเลยต่อสู้ว่าโรงเรือนและที่พิพาทเป็นของจำเลย ซื้อมาจากผู้อื่น แต่ทางการไม่อนุญาตให้ทำนิติกรรมเป็นผู้ซื้อได้ เพราะเป็นคนต่างด้าว จึงมอบให้จำเลยเป็นตัวแทนไปทำนิติกรรมแทนจำเลย ดังนี้ ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยเสียแล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี เป็นการไม่ชอบเพราะถ้าฟังตามคำให้การของจำเลยแล้ว รูปคดีไม่ใช่เรื่องอาศัย โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยได้ จึงต้องฟังพยานต่อไป (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 7/2497)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 449/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อฝากที่ดินและการกู้เงิน: ศาลอนุญาตให้สืบพยานได้หากมูลหนี้เป็นไปได้
โจทย์ฟ้องว่า สามีโจทก์ได้ขายฝากที่นาไว้กับจำเลย แต่มีเงินให้ไม่ครบ จำเลยจึงทำเป็นหนังสือสัญญาขอให้ใช้เงินแก่โจทก์ไว้ ศาลจะสั่งให้งดสืบพยานโจทก์เสียหาชอบไม่ เพราะมูลหนี้ตามฟ้องย่อมเป็นไปได้ ไม่เป็นการฝืนความจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 447/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทเรื่องสัญญาซื้อฝากและสัญญากู้เงิน: ศาลอนุญาตให้สืบพยานได้หากมูลหนี้เป็นไปได้
โจทก์ฟ้องว่า สามีโจทก์ได้ขายฝากที่นาไว้กับจำเลยแต่มีเงินให้ไม่ครบ จำเลยจึงทำเป็นหนังสือสัญญากู้เงินให้แก่โจทก์ไว้ขอให้ใช้เงินศาลจะสั่งให้งดสืบพยานโจทก์เสียหาชอบไม่เพราะมูลหนี้ตามฟ้องย่อมเป็นไปได้ไม่เป็นการฝืนความจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1059/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่สามารถมาแถลงการณ์ตามกำหนดนัด ไม่ถือเป็นกระบวนพิจารณาไม่ชอบ
โจทก์อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วขอแถลงการณ์ด้วยวาจาด้วย ศาลอุทธรณ์ได้ออกหมายนัดแถลงการณ์ส่งให้โจทก์ แต่ปรากฏว่าทนายโจทก์เพิ่งได้รับหมายนัดแถลงการณ์นั้นเป็นเวลาภายหลังกำหนดนัดไป 2 ชั่วโมง เศษ จึงไม่สามารถมาแถลงการณ์ตามกำหนดเวลาของศาลได้แต่ก็มิได้จัดการแถลงให้ศาลทราบหรือร้องขอแถลงการณ์อีกแต่ประการใด จนล่วงเลยมาถึง 12 วัน ศาลอุทธรณ์จึงตัดสินคดีไป ดังนี้ ยังไม่มีเหตุที่จะถือว่า ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาคดีไปโดยไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1059/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ร้องขอแถลงการณ์เพิ่มเติมหลังได้รับหมายนัดช้า ไม่ถือเป็นกระบวนพิจารณาไม่ชอบ
โจทก์อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วขอแถลงการณ์ด้วยวาจาด้วย ศาลอุทธรณ์ได้ออกหมายนัดแถลงการณ์ส่งให้โจทก์ แต่ปรากฎว่าทนายโจทก์เพื่งได้รับหมายนัดแถลงการณ์นั้น เป็นเวลาภายหลังกำหนดนัดไป 2 ชั่วโมงเศษ จึงไม่สามารถมาแถลงการณ์ตามกำหนดเวลาของศาลได้แต่ก็มิได้จัดการแถลงให้ศาลทราบหรือร้องขอแถลงการณ์อีกแต่ประการใด จนล่วงเลยมาถึง 12 วัน ศาลอุทธรณ์จึงตัดสินคดีไป ดังนี้ ยังไม่มีเหตุที่จะถือว่า ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาคดีไป โดยไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1705/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดสิทธิในทรัพย์สินมรดก: ศาลยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แม้ไม่ได้มีการโต้แย้งการแบ่งทรัพย์สิน
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่านาพิพาทเป็นของโจทก์ทุกคนที่จะได้รับในฐานะเป็นทายาทของผู้ตาย หาได้ขอให้ศาลแบ่งนาพิพาทไม่ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้แบ่งนาพิพาทระหว่างโจทก์ด้วยกันตามส่วน ก็หามีฝ่ายใดคัดค้านขึ้นมาไม่ โดยเหตุนี้เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่พิพาทเป็นของผู้ตายตกได้แก่โจทก์ในฐานะทายาทจริง ศาลฎีกาก็จำต้องพิพากษายืน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1705/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องแสดงกรรมสิทธิ์ในฐานะทายาทและการแบ่งมรดก ศาลยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่านาพิพาทเป็นของโจทก์ทุกคนที่จะได้รับในฐานะเป็นทายาทของผู้ตาย หาได้ขอให้ศาลแบ่งนาพิพาทไม่เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้แบ่งนาพิพาทระหว่างโจทก์ด้วยกันตามส่วน ก็หามีฝ่ายใดคัดค้านขึ้นมาไม่ โดยเหตุนี้เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่พิพาทเป็นของผู้ตายตกได้แก่โจทก์ในฐานะทายาทจริง ศาลฎีกาก็จำต้องพิพากษายืน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1422/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องแบ่งสินสมรสซ้ำ: ศาลยกฟ้องแต่ให้ฟ้องใหม่ได้ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.148(3)
คดีเดิมศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ตามฟ้องโจทก์ไม่ระบุว่าที่ดินรายพิพาทเป็นสินเดิมหรือสินสมรส ไม่อาจแบ่งแยกได้ตามฟ้องจึงพิพากษายกฟ้องโดยไม่ตัดสิทธิที่จะนำคำฟ้องมายื่นใหม่ตาม ป.ม.วิ.แพ่ง ม. 148(3) ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คดีถึงที่สุดดังนี้ถือว่าศาลอุทธรณ์ให้ฟ้องใหม่ตาม ป.ม.วิ.แพ่ง ม. 148(3) เหมือนกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1422/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องแบ่งสินสมรสซ้ำ และการพิจารณาข้อจำกัดในการฟ้องใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148(3)
คดีเดิมศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ตามฟ้องโจทก์ไม่ระบุว่าที่ดินรายพิพาทเป็นสินเดิมหรือสินสมรส ไม่อาจแบ่งแยกได้ตามฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้องโดยไม่ตัดสิทธิที่จะนำคำฟ้องมายื่นใหม่ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148(3) ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คดีถึงที่สุด ดังนี้ ถือว่าศาลอุทธรณ์ให้ฟ้องใหม่ได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 148(3) เหมือนกัน