พบผลลัพธ์ทั้งหมด 18 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1848/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจปกครองบุตรหลังหย่าและอำนาจคัดค้านการตั้งผู้จัดการมรดกของผู้เยาว์
เมื่อผู้ตายหย่ากับผู้คัดค้านได้ตกลงกันให้ผู้เยาว์ซึ่งเป็นบุตรอยู่ในความอุปการะของผู้ตายตามบันทึกหลังทะเบียนการหย่า ข้อตกลงนี้เป็นแต่เพียงการกำหนดภาระหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์ระหว่างผู้ตายกับผู้คัดค้านตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1522 มิใช่ข้อตกลงในเรื่องอำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ตามมาตรา 1520 อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ภายหลังการหย่ายังอยู่กับผู้ตายและผู้คัดค้านซึ่งเป็นบิดามารดา เมื่อบิดาตาย อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ย่อมตกอยู่แก่มารดาตามมาตรา1566 ผู้คัดค้านจึงเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เยาว์และมีอำนาจยื่นคำร้องคัดค้านการขอตั้งผู้จัดการมรดกแทนผู้เยาว์ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1848/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจปกครองบุตรหลังหย่า และอำนาจคัดค้านการตั้งผู้จัดการมรดกแทนบุตรผู้เยาว์
เมื่อผู้ตายหย่ากับผู้คัดค้านได้ตกลงกันให้ผู้เยาว์ซึ่งเป็นบุตรอยู่ในความอุปการะของผู้ตายตามบันทึกหลังทะเบียนการหย่าข้อตกลงนี้เป็นแต่เพียงการกำหนดภาระหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์ระหว่างผู้ตายกับผู้คัดค้านตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1522 มิใช่ข้อตกลงในเรื่องอำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ตามมาตรา 1520 อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ภายหลังการหย่ายังอยู่กับผู้ตายและผู้คัดค้านซึ่งเป็นบิดามารดาเมื่อบิดาตาย อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ย่อมตกอยู่แก่มารดาตามมาตรา 1566 ผู้คัดค้านจึงเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เยาว์และมีอำนาจยื่นคำร้องคัดค้านการขอตั้งผู้จัดการมรดกแทนผู้เยาว์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3698/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงเจตนาลวงในการทำสัญญาหย่าและการบังคับคดียึดทรัพย์สิน
หนังสือข้อตกลงหย่าและการจดทะเบียนหย่า ผู้ร้องกับจำเลยแสดงเจตนาลวงโดยสมรู้ระหว่างกันกระทำขึ้น หรืออีกนัยหนึ่งเป็นการกระทำขึ้นโดยสมยอมจึงไม่ผูกพันโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ทรัพย์สินที่โจทก์นำยึดจึงเป็นสินสมรสซึ่งผู้ร้องกับจำเลยมีกรรมสิทธิ์ร่วมกันผู้ร้องไม่มีอำนาจมาร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3698/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงเจตนาลวงในการหย่าและการยึดทรัพย์สิน: สิทธิของเจ้าหนี้ต่อสินสมรส
หนังสือข้อตกลงหย่าและการจดทะเบียนหย่า ผู้ร้องกับจำเลยแสดงเจตนาลวงโดยสมรู้ระหว่างกันกระทำขึ้นหรืออีกนัยหนึ่งเป็นการกระทำขึ้นโดยสมยอมจึงไม่ผูกพันโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ทรัพย์สินที่โจทก์นำยึดจึงเป็นสินสมรสซึ่งผู้ร้องกับจำเลยมีกรรมสิทธิ์ร่วมกันผู้ร้องไม่มีอำนาจมาร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 620/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการระบุสิทธิเรียกร้องมรดกเพิ่มเติมในคำพิพากษา
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่า ที่ดินของนางชมตกทอดเป็นของนายกิมนายกิมตายตกทอดเป็นของผู้ร้อง คือภรรยาและบุตรอีก 3 คน ของนายกิม นายเพิ่มอ้างว่าเป็นทายาทของนางชม ยื่นคำคัดค้าน เมื่อศาลพิพากษายกคำร้องของผู้ร้อง ศาลย่อมมีอำนาจจะกล่าวไว้ในคำพิพากษาได้ว่า คำพิพากษาไม่ตัดสิทธิเด็กทั้งสามที่จะร้องขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงว่าตนเป็นบุตรของนายกิมและขอรับมรดกของนายกิมต่อไปได้นั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 620/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการระบุสิทธิทายาทเพิ่มเติมหลังคำพิพากษา
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่า ที่ดินของนางชมตกทอดเป็นของนายกิม นายกิมตายตกทอดเป็นของผู้ร้อง คือภรรยาและบุตรอีก 3 คน ของนายกิม นายเพิ่มอ้างว่าเป็นทายาทของนางชม ยื่นคำคัดค้าน เมื่อศาลพิพากษายกคำร้องของผู้ร้อง ศาลย่อมมีอำนาจจะกล่าวไว้ในคำพิพากษาได้ว่า คำพิพากษาไม่ตัดสิทธิเด็กทั้งสามที่จะร้องขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงว่าตนเป็นบุตรของนายกิม และขอรับมฤดกของนายกิมต่อไปได้นั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 936/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายในกรณีไม่ได้จดทะเบียนสมรส การพิจารณาหลักฐานและระยะเวลาการสมรส
ประมวนแพ่ง ฯ ม. 1519 ถึง 1524 เปนบทบัญญัติกล่าวถึงเด็กเกิดระหว่างมีการสมรสชอบด้วยกดหมาย ม.1524 จึงเปนเรื่องวางวิธีพิสูจน์การเปนบุตรที่เกิดระหว่างมีการสมรสที่ชอบด้วยกดหมายไม่ไช่เปนบทบัญญัติถึงความสมบูรน์ของการเปนบุตร
ม. 1526 ถึง 1531 บัญญัติถึงเรื่องเด็กเกิดระหว่างที่มิได้มีการสมรสกันตามกดหมาย
กดหมายย่อมรับรองหรือรับรู้แต่ฉเพาะการสมรสที่สมบูรน์ตามกดหมายถ้าหากจะมีการรับรอง
การสมรสที่ไม่สมบูรน์สำหรับกรนีไดก็ย่อมบัญญัติไว้ชัดแจ้งไนบทบัญญัตินั้น ๆ
คำว่าสมรสตาม ม.1526 หมายถึงการสมรสที่สมบูรน์ตามกดหมาย
เด็กที่เกิดจากชายที่มิได้จดทะเบียนสมรสกับหยิงนั้น แม้จะรู้กันทั่วไปว่าเปนบุตรของชายก็ไม่ถือว่าเปนบุตรที่ชอบด้วยกดหมายของชาย
บุตรที่ไม่ชอบด้วยกดหมายไม่มีสิทธิได้รับมรดกของบิดา
สาลอุธรน์ยังมิได้พิจารนาข้อเท็ดจิงอันเปนประเด็นสำคันของคดี สาลดีกาย้อนไปไห้พิจารนาแล้วตัดสินไหม่
กรนีที่โจทดีกาแบะชนะคดีตามข้อดีกา แต่สาลดีกาได้ค่ารีชาทำเนียมและค่าทนายเปนพับไป
ม. 1526 ถึง 1531 บัญญัติถึงเรื่องเด็กเกิดระหว่างที่มิได้มีการสมรสกันตามกดหมาย
กดหมายย่อมรับรองหรือรับรู้แต่ฉเพาะการสมรสที่สมบูรน์ตามกดหมายถ้าหากจะมีการรับรอง
การสมรสที่ไม่สมบูรน์สำหรับกรนีไดก็ย่อมบัญญัติไว้ชัดแจ้งไนบทบัญญัตินั้น ๆ
คำว่าสมรสตาม ม.1526 หมายถึงการสมรสที่สมบูรน์ตามกดหมาย
เด็กที่เกิดจากชายที่มิได้จดทะเบียนสมรสกับหยิงนั้น แม้จะรู้กันทั่วไปว่าเปนบุตรของชายก็ไม่ถือว่าเปนบุตรที่ชอบด้วยกดหมายของชาย
บุตรที่ไม่ชอบด้วยกดหมายไม่มีสิทธิได้รับมรดกของบิดา
สาลอุธรน์ยังมิได้พิจารนาข้อเท็ดจิงอันเปนประเด็นสำคันของคดี สาลดีกาย้อนไปไห้พิจารนาแล้วตัดสินไหม่
กรนีที่โจทดีกาแบะชนะคดีตามข้อดีกา แต่สาลดีกาได้ค่ารีชาทำเนียมและค่าทนายเปนพับไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องรับรองบุตร และหลักฐานการยินยอม
อายุความ 1 ปีตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1522 ใช้บังคับสำหรับในกรณีที่ฝ่ายชายผู้เป็นสามีจะฟ้องความตามมาตรา 1520
ฟ้องขอให้รับรองบุตร โจทก์ไม่จำต้องกล่าวในฟ้องว่ามีหนังสือเป็นหลักฐานตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1529(2) และโจทก์นำสืบถึงหนังสือนั้นได้
หนังสือที่จำเลยทำให้โจทก์รับจะเลี้ยงดูโจทก์ย่อมเป็นหลักฐานโดยปริยายแล้วว่า จำเลยทราบแน่ว่าบุตรในครรภ์นั้นเป็นบุตรอันเกิดแต่จำเลย จำเลย จึงยินยอมทำหนังสือรับเลี้ยงดู
ฟ้องขอให้รับรองบุตร โจทก์ไม่จำต้องกล่าวในฟ้องว่ามีหนังสือเป็นหลักฐานตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1529(2) และโจทก์นำสืบถึงหนังสือนั้นได้
หนังสือที่จำเลยทำให้โจทก์รับจะเลี้ยงดูโจทก์ย่อมเป็นหลักฐานโดยปริยายแล้วว่า จำเลยทราบแน่ว่าบุตรในครรภ์นั้นเป็นบุตรอันเกิดแต่จำเลย จำเลย จึงยินยอมทำหนังสือรับเลี้ยงดู