คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 218

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,432 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 479/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอุทธรณ์ในการเทียบเคียงสำนวนคดีอื่นเพื่อใช้ดุลพินิจลงโทษ และความชอบธรรมในการลดโทษซ้อน
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน และปรับ 581 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ เฉพาะอันตราโทษ เป็นจำคุก 3 เดือน และให้รอการลงโทษไว้ภายในกำหนด 2 ปี เป็นการแก้ไขมาก โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงได้
การใช้ดุลพินิจในการลงโทษ ศาลอาจจะพิจารณาหลักเกณฑ์ที่ศาลเคยถือกำหนดในการวางโทษเพื่อเทียบเคียงหยั่งความหนักเบาของโทษได้ ศาลจึงย่อมจะนำสำนวนคดีอื่นมาประกอบการพิจารณาได้ตามที่เห็นสมควร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 479/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลพินิจศาลในการลงโทษอาญา: การเทียบเคียงสำนวนคดีอื่นเพื่อกำหนดโทษที่เหมาะสม
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน และปรับ 581 บาทศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะอัตราโทษ เป็นจำคุก 3 เดือน และให้รอการลงโทษไว้ภายในกำหนด 2 ปี เป็นการแก้ไขมาก โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงได้
การใช้ดุลพินิจในการลงโทษ ศาลอาจจะพิจารณาหลักเกณฑ์ที่ศาลเคยถือกำหนดในการวางโทษเพื่อเทียบเคียงหยั่งความหนักเบาของโทษได้ ศาลจึงย่อมจะนำสำนวนคดีอื่นมาประกอบการพิจารณาได้ตามที่เห็นสมควร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้อำนาจหน้าที่ในทางทุจริต: การจ้างวานกระทำผิดส่วนตัว ไม่อาจลงโทษฐานเจ้าพนักงานใช้อำนาจหน้าที่
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยในกระทงความผิดฐานทำ ตัดฟันชักลากไม้โดยไม่รับอนุญาตในกระทงความผิดฐานใช้ดวงตราผิดกฎหมายและในกระทงความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานจดหนังสือราชการอันเป็นหลักฐานเท็จ จำคุกจำเลย 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนในข้อเท็จจริงแต่แก้โทษลดลงเหลือ 2 ปี เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
บรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานป่าไม้ จำเลยใช้จ้างวานคนไปตัดฟันชักลากไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ไม่ได้กล่าวว่าจำเลยเอาอำนาจในตำแหน่งหน้าที่ราชการไปใช้จ้างวานคนให้กระทำผิดเช่นนั้นด้วยเลย เช่นนี้ จึงเป็นเรื่องที่ใช้จ้างวานให้คนไปกระทำผิดเป็นส่วนตัว ย่อมจะลงโทษจำเลยฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 132 หรือประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดเจ้าพนักงานทุจริตหน้าที่ ต้องมีเจตนาใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยตรง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยในกะทงความผิดฐานทำ ตัดฟัน ชักลากไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตในกะทงความผิดฐานใช้ดวงตราผิดกฎหมายและในกะทงความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานจดหนังสือราชการอันเป็นหลักฐานเท็จ จำคุกจำเลย 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนในข้อเท็จจริง แต่แก้โทษลดลงเหลือ 2 ปี เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
บรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานป่าไม้ จำเลยใช้จ้างวานคนไปตัดฟันชักลากไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ไม่ได้กล่าวว่าจำเลยเอาอำนาจในตำแหน่งหน้าที่ราชการไปใช้จ้างวานคนให้กระทำผิดเช่นนั้นด้วยเลย เช่นนี้ จึงเป็นเรื่องที่ใช้จ้างวานให้คนไปกระทำผิดเป็นส่วนตัว ย่อมจำลงโทษจำเลยฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 132 หรือ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1223/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษในศาลอุทธรณ์เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ไม่อุทธรณ์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 3 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะโทษเป็นจำคุก 1 ปี 6 เดือน ดังนี้เป็นการแก้น้อย ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 17/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1223/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษจำคุกโดยศาลอุทธรณ์และการห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 3 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะโทษเป็นจำคุก 1 ปี 6 เดือนดังนี้ เป็นการแก้น้อย ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 17/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 726/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์โทษกักขัง: ข้อจำกัดและข้อยกเว้นตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวง
ศาลแขวงลงโทษกักขังจำเลย 2 เดือนจำเลยจะอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
โทษกักขังไม่ใช่โทษจำคุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 622/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถราง ชนรถยนต์เก๋ง ศาลฎีกาพิจารณาหลักฐานการกระทำและเหตุผลในการตัดสิน
รถยนต์เก๋งออกพ้นปากตรอกมาคารางรถรางอยู่ก่อนแล้วและไม่สามารถจะแล่นต่อไปในถนนได้ เพราะกำลังมีรถยนต์แล่นผ่านไปมาทั้งจะถอยหลังก็ไม่ได้เพราะจะชนรถยนต์บรรทุกที่แล่นสวนเข้าตรอกไปเวลานั้นจำเลยกำลังขับรถรางมาและจำเลยเห็นรถยนต์เก๋งในระยะไกลประมาณ 30 เมตรจำเลยก็ไม่หยุดหรือเบารถราง แต่จำเลยกลับโบกมือให้รถยนต์เก๋งถอยออกไป ต่อเมื่อเข้ามาในระยะใกล้แล้วจำเลยจึงได้พยายามหยุดรถ แต่หยุดไม่ทันท่วงทีรถรางจึงชนรถยนต์เก๋งเสียหาย เช่นนี้ ถือว่าจำเลยกระทำโดยประมาทตามกฎหมายแล้ว
ฎีกาว่า ศาลฟังข้อเท็จจริงโดยไม่มีพยานหลักฐานในสำนวนสนับสนุน เป็นฎีกาในข้อกฎหมาย
แต่ถ้าฎีกาว่า ศาลฟังโดยมีพยานหลักฐานแต่ไม่ควรฟังดังนั้นเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 622/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถราง ชนรถยนต์เก๋ง ผู้ขับมีหน้าที่ต้องเบารถหรือหยุดเมื่อเห็นรถเก๋งอยู่ในสถานการณ์คับขัน
รถยนต์เก๋งออกพ้นปากตรอกมาคารางรถรางอยู่ก่อนแล้ว และไม่สามารถจะแล่นต่อไปในถนนได้ เพราะกำลังมีรถยนต์แล่นผ่านไปมา ทั้งจะถอยหลังก็ไม่ได้ เพราะจะชนรถยนต์บรรทุกที่แล่นสวนเข้าตรอกไป เวลานั้นจำเลยกำลังขับรถรางมาและจำเลยเห็นรถยนต์เก๋งในระยะประมาณ 30 เมตร จำเลยก็ไม่หยุดหรือเบารถราง แต่จำเลยกลับโบกมือให้รถยนต์เก๋งถอยออกไป ต่อเมื่อเข้ามาในระยะใกล้แล้วจำเลยจึงได้พยายามหยุดรถ แต่หยุดไม่ทันท่วงที รถรางถึงชนรถยนต์เก๋งเสียหาย เช่นนี้ ถือว่าจำเลยกระทำโดยประมาทตามกฎหมายแล้ว
ฎีกาว่า ศาลฟังข้อเท็จจริงโดยไม่มีพยานหลักฐานในสำนวนสนับสนุน เป็นฎีกาในข้อกฎหมาย
แต่ถ้าฎีกาว่า ศาลฟังโดยมีพยานหลักฐานแต่ไม่ควรฟังดังนั้น เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยหากไม่ปฏิบัติตามวิธีพิจารณา
การที่จะเชื่อหรือฟังว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
of 144