พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,432 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยหากไม่ปฏิบัติตามวิธีพิจารณา
การที่จะเชื่อหรือฟังว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1264/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมรู้เห็นการกระทำผิดทางอาญา แม้ไม่ได้ลงมือเอง ศาลริบของกลางได้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยวิวาททำร้ายร่างกายจำเลยรับสารภาพ ศาลลงโทษจำคุกคนละ 3 เดือนจำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอคืนปืนของกลาง ศาลชั้นต้นสั่งว่าแม้จำเลยที่ 1 จะไม่ได้ใช้ปืนของกลางในการวิวาทและไม่ทราบว่าจำเลยที่ 2 ได้นำปืนของกลางมาใช้ในการวิวาทแต่จำเลยที่ 1 ได้ร่วมรู้เห็นและลงมือกระทำผิดร่วมกับจำเลยที่ 2 กรณีไม่เข้าข้อยกเว้นการริบทรัพย์ จำเลยที่ 1 อุทธรณ์เฉพาะข้อริบปืน ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยที่ 1 รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดด้วย พิพากษายืน คดีเช่นนี้จำเลยที่ 1 จะฎีกาว่าไม่รู้และมิได้อนุญาตให้จำเลยที่ 2 นำปืนไปใช้ในการวิวาทอีกต่อไปไม่ได้ เป็นการเถียงข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1264/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมรู้เห็นการใช้ปืนในการทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้ริบปืนได้ แม้เจ้าของปืนไม่ได้ใช้เอง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยวิวาททำร้ายร่างกาย จำเลยรับสารภาพศาลลงโทษจำคุกคนละ 3 เดือน จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอคืนปืนของกลาง ศาลชั้นต้นสั่งว่าแม้จำเลยที่ 1 จะไม่ได้ใช้ปืนของกลางในการวิวาทและไม่ทราบว่าจำเลยที่ 2 ได้นำปืนของกลางมาใช้ในการวิวาท แต่จำเลยที 1 ได้ร่วมรู้เห็นและลงมือกระทำผิดร่วมกับจำเลยที่ 2 กรณีไม่เข้าข้อยกเว้นการริบทรัพย์ จำเลยที่ 1 อุทธรณ์เฉพาะข้อริบปืน ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยที่ 1 รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดด้วย พิพากษายืน คดีเช่นนี้จำเลยที่ 1 จะฎีกาว่าไม่รู้และมิได้อนุญาตให้จำเลยที่ 2 นำปืนไปใช้ในการวิวาทอีกต่อไปไม่ได้ เป็นการเถียงข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 600/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาที่ไม่ชอบด้วยเหตุผลทางกฎหมาย: การโต้แย้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระสำคัญ
ฎีกาที่อ้างว่าศาลล่างวินิจฉัยข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อนจากพยานหลักฐานในสำนวนแต่ความจริงเป็นเพียงว่าศาลล่างไม่เชื่อพยานก็ดีหรือฎีกาที่อ้างว่าคู่ความนำสืบนอกประเด็นคำให้การ แต่ความจริงมีในคำให้การแล้วก็ดีหรือฎีกาที่ขอให้ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงใหม่แล้วอ้างข้อกฎหมายต่างๆ ขึ้นมาตามข้อเท็จจริงที่เกิดใหม่นั้นก็ดี ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 600/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาที่ไม่เข้าข่ายปัญหาข้อกฎหมาย: การโต้แย้งข้อเท็จจริงและการยกข้อกฎหมายใหม่
ฎีกาที่อ้างว่าศาลล่างวินิจฉัยข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อนจากพยานหลักฐานในสำนวน แต่ความจริงเป็นเพียงว่าศาลล่างไม่เชื่อพยานก็ดี หรือฎีกาที่อ้างว่าคู่ความนำสืบนอกประเด็นคำให้การ แต่ความจริงมีในคำให้การแล้วก็ดี หรือฎีกาที่ขอให้ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงใหม่แล้วอ้างข้อ ก.ม.ต่าง ๆ ขึ้นมาตามข้อเท็จจริงที่เกิดใหม่นั้นก็ดี ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ฎีกาในปัญหาข้อ ก.ม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 301/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประมาทขับรถชนคนตาย-บาดเจ็บ: ศาลฎีกายืนโทษจำคุกไม่รอการลงโทษเนื่องจากความร้ายแรง
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือนกับปรับ 1,000บาทโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้แต่ศาลอุทธรณ์แก้เป็นให้จำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษ เช่นนี้จำเลยยื่นฎีกาขอให้รอการลงโทษจำคุกดังศาลชั้นต้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 301/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประมาทขับรถชนคนตายและบาดเจ็บ ศาลฎีกายืนโทษจำคุก ไม่รอการลงโทษ
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน กับปรับ 1000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ แต่ศาลอุทธรณ์แก้เป็นให้จำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษ เช่นนี้ จำเลยยื่นฎีกา ขอให้รอการลงโทษจำคุกดังศาลชั้นต้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 278-279/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสารทางการค้า: การรวมกระทงลงโทษและการคำนวณค่าเสียหาย
การรวมกระทงลงโทษ เมื่อรวมโทษทุกกระทงเข้าด้วยกันแล้ว จะลงโทษเกินกว่าอัตราขั้นได้
การที่จำเลยเขียนชื่อและประทับตราชื่อห้างร้านที่ไม่มีตัวจริงแต่เป็นห้างร้านที่สมมุตขึ้นและใช้ชื่อและประทับตราที่สมมติขึ้นในการออกเช็คสั่งจ่ายหรือสลักหลังเช็คที่ไม่มีห้างร้านตัวจริง เป็นผิดฐานปลอมหนังสือทั้งฉบับ
เช็คเป็นใบสั่งให้จ่ายเงินตาม ก.ม.อาญา ม.225(4) และ ป.ม.อาญา ม.266(4) โดยอยู่ในลักษณะ 21 ป.พ.พ.
คำร้องขอแก้ฟ้องที่ศาลไม่ได้สอบถามคู่ความและมีคำสั่งอย่างไรนั้น ไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้อง แม้ศาลจะได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม และศาลย่อมชี้ขาดคดีนอกฟ้องตามคำร้องที่ไม่ได้สอบถามและมีคำสั่งประการใดนี้ ไม่ได้
การที่จำเลยเขียนชื่อและประทับตราชื่อห้างร้านที่ไม่มีตัวจริงแต่เป็นห้างร้านที่สมมุตขึ้นและใช้ชื่อและประทับตราที่สมมติขึ้นในการออกเช็คสั่งจ่ายหรือสลักหลังเช็คที่ไม่มีห้างร้านตัวจริง เป็นผิดฐานปลอมหนังสือทั้งฉบับ
เช็คเป็นใบสั่งให้จ่ายเงินตาม ก.ม.อาญา ม.225(4) และ ป.ม.อาญา ม.266(4) โดยอยู่ในลักษณะ 21 ป.พ.พ.
คำร้องขอแก้ฟ้องที่ศาลไม่ได้สอบถามคู่ความและมีคำสั่งอย่างไรนั้น ไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้อง แม้ศาลจะได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม และศาลย่อมชี้ขาดคดีนอกฟ้องตามคำร้องที่ไม่ได้สอบถามและมีคำสั่งประการใดนี้ ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 278-279/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกง, ปลอมหนังสือ, การรวมกระทงโทษ และการบังคับคดีนอกฟ้อง: ข้อพิพาทเรื่องการหลอกลวงทางการค้าและการกำหนดโทษ
การรวมกระทงลงโทษ เมื่อรวมโทษทุกกระทงเข้าด้วยกันแล้วจะลงโทษเกินกว่าอัตราขั้นสูงได้
การที่จำเลยเขียนชื่อและประทับตราชื่อห้างร้านที่ไม่มีตัวจริงแต่เป็นห้างร้านที่สมมุตขึ้นและใช้ชื่อและประทับตราที่สมมุตขึ้นในการออกเช็คสั่งจ่ายหรือสลักหลังเช็คที่ไม่มีห้างร้านตัวจริง เป็นผิดฐานปลอมหนังสือทั้งฉบับ
เช็คเป็นใบสั่งให้จ่ายเงินตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา225(4)และ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา266(4) โดยอยู่ในลักษณะ 21ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
คำร้องขอแก้ฟ้องที่ศาลไม่ได้สอบถามคู่ความและมีคำสั่งอย่างไรนั้น ไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้องแม้ศาลจะได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม และศาลย่อมชี้ขาดคดีนอกฟ้องตามคำร้องที่ไม่ได้สอบถามและมีคำสั่งประการใดนี้ ไม่ได้
การที่จำเลยเขียนชื่อและประทับตราชื่อห้างร้านที่ไม่มีตัวจริงแต่เป็นห้างร้านที่สมมุตขึ้นและใช้ชื่อและประทับตราที่สมมุตขึ้นในการออกเช็คสั่งจ่ายหรือสลักหลังเช็คที่ไม่มีห้างร้านตัวจริง เป็นผิดฐานปลอมหนังสือทั้งฉบับ
เช็คเป็นใบสั่งให้จ่ายเงินตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา225(4)และ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา266(4) โดยอยู่ในลักษณะ 21ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
คำร้องขอแก้ฟ้องที่ศาลไม่ได้สอบถามคู่ความและมีคำสั่งอย่างไรนั้น ไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้องแม้ศาลจะได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม และศาลย่อมชี้ขาดคดีนอกฟ้องตามคำร้องที่ไม่ได้สอบถามและมีคำสั่งประการใดนี้ ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาเรื่องการต่อสู้คดีอาญาในข้อเท็จจริงและดุลพินิจ ศาลฎีกายกคำร้องเนื่องจากเป็นข้อหาเดิม
ศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251 จำคุก 10 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน แต่ให้จำคุก 5 ปี เช่นนี้โจทก์ จำเลยจะฎีกาในเรื่องดุลพินิจ หรือในเรื่องว่าพยานเบิกความแตกต่างไม่ได้ เพราะเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง