พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,432 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้าม – ข้อเท็จจริง – ดุลพินิจ – การอุทธรณ์ – โจทก์และจำเลย
ศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251จำคุก 10 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนแต่ให้จำคุก 5ปีเช่นนี้โจทก์จำเลยจะฎีกาในเรื่องดุลพินิจ หรือในเรื่องว่าพยานเบิกความแตกต่างไม่ได้เพราะเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1994-1995/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษที่ศาลอุทธรณ์ และการลงโทษจำเลยเกินขอบเขตฟ้อง
ศาลชั้นต้นลงโทษตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251,59จำคุก 10 ปี ศาลอุทธรณ์ก็คงลงโทษตาม มาตรา 251,59 ดุจกัน แต่ให้จำคุก 4 ปี เช่นนี้เป็นกรณีแก้ไขน้อย ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
โจทก์บรรยายฟ้องหาว่าจำเลยหลายคนกระทำผิดฐานวิวาททำให้คนตายตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 253 เท่านั้นจะลงโทษจำเลยคนที่ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายในคดีนี้ในฐานฆ่าคนตายตาม มาตรา 251 ไม่ได้ แม้จะฟังได้ว่าผู้ตายได้ตายเพราะบาดแผลที่ถูกจำเลยคนนั้นทำร้ายก็ตาม
ศาลชั้นต้นไม่ลงโทษจำเลยที่ 3 และโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะลงโทษจำเลยที่ 3 ไม่ได้
โจทก์บรรยายฟ้องหาว่าจำเลยหลายคนกระทำผิดฐานวิวาททำให้คนตายตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 253 เท่านั้นจะลงโทษจำเลยคนที่ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายในคดีนี้ในฐานฆ่าคนตายตาม มาตรา 251 ไม่ได้ แม้จะฟังได้ว่าผู้ตายได้ตายเพราะบาดแผลที่ถูกจำเลยคนนั้นทำร้ายก็ตาม
ศาลชั้นต้นไม่ลงโทษจำเลยที่ 3 และโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะลงโทษจำเลยที่ 3 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1994-1995/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษทางอาญาโดยศาลอุทธรณ์และข้อจำกัดในการฎีกาในข้อเท็จจริง รวมถึงประเด็นการบรรยายฟ้อง
ศาลชั้นต้นลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.251, 59 จำคุก 10 ปี ศาลอุทธรณ์ก็คงลงโทษตาม ม.251, 59 ดุจกัน แต่ให้จำคุก 4 ปี เช่นนี้เป็นกรณีแก้ไขน้อย ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 218
โจทก์บรรยายฟ้องหาว่า จำเลยหลายคนกระทำผิดฐานวิวาททำให้คนตายตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.253 เท่านั้น จะลงโทษจำเลยจำเลยคนที่ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายในคดีนี้ในฐานฆ่าคนตายตาม ม.251 ไม่ได้ แม้จะฟังได้ว่าผู้ตายได้ตายเพราะบาดแผลที่ถูกจำเลยคนนั้นทำร้ายก็ตาม
ศาลชั้นต้นไม่ลงโทษจำเลยที่ 3 และโจทก์ก็ไม่ได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะลงโทษจำเลยที่ 3 ไม่ได้
โจทก์บรรยายฟ้องหาว่า จำเลยหลายคนกระทำผิดฐานวิวาททำให้คนตายตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.253 เท่านั้น จะลงโทษจำเลยจำเลยคนที่ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายในคดีนี้ในฐานฆ่าคนตายตาม ม.251 ไม่ได้ แม้จะฟังได้ว่าผู้ตายได้ตายเพราะบาดแผลที่ถูกจำเลยคนนั้นทำร้ายก็ตาม
ศาลชั้นต้นไม่ลงโทษจำเลยที่ 3 และโจทก์ก็ไม่ได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะลงโทษจำเลยที่ 3 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1881-1885/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้โทษจำคุกเป็นรอการลงโทษ และอำนาจศาลฎีกาในการแก้โทษจำเลยที่ไม่ฎีกา
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่าจำเลยได้ทำผิดจริง ศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกจำเลย แต่ศาลอุทธรณ์ให้รอการลงโทษไว้ ถือว่าเป็นการแก้มากโจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้ ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
จำเลยที่ 5 ได้สมคบกับจำเลยอีก 4 คนกระทำความผิดอันเป็นเหตุในลักษณะคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 89 โทษที่ศาลอุทธรณ์วางแก่จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 เป็นโทษเบากว่าที่ศาลชั้นต้นกำหนด แม้จำเลยที่ 5 จะมิได้ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจแก้โทษจำเลยที่ 5 ได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213 เพราะเป็นคุณแก่จำเลย
จำเลยที่ 5 ได้สมคบกับจำเลยอีก 4 คนกระทำความผิดอันเป็นเหตุในลักษณะคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 89 โทษที่ศาลอุทธรณ์วางแก่จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 เป็นโทษเบากว่าที่ศาลชั้นต้นกำหนด แม้จำเลยที่ 5 จะมิได้ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจแก้โทษจำเลยที่ 5 ได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213 เพราะเป็นคุณแก่จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1881-1885/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษจำคุกเป็นรอการลงโทษ และการขยายผลประโยชน์ทางโทษแก่จำเลยอื่น แม้ไม่ได้ฎีกา
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่าจำเลยได้ทำผิดจริง ศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกจำเลย แต่ศาลอุทธรณ์ให้รอการลงโทษไว้ ถือว่าเป็นการแก้มาก โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้ ไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 218
จำเลยที่ 5 ได้สมคบกับจำเลยอีก 4 คนกระทำความผิดอันเป็นเหตุในลักษณะคดีตามประมวล ก.ม.อาญา มาตรา89 โทษที่ศาลอุทธรณ์วางแก่จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 เป็นโทษเบากว่าที่ศาลชั้นต้นกำหนด แม้จำเลยที่ 5 จะมิได้ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจแก้โทษจำเลยที่ 5 ได้ตาม ป.วิ. อาญา มาตรา 213 เพราะเป็นคุณแก่จำเลย.
จำเลยที่ 5 ได้สมคบกับจำเลยอีก 4 คนกระทำความผิดอันเป็นเหตุในลักษณะคดีตามประมวล ก.ม.อาญา มาตรา89 โทษที่ศาลอุทธรณ์วางแก่จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 เป็นโทษเบากว่าที่ศาลชั้นต้นกำหนด แม้จำเลยที่ 5 จะมิได้ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจแก้โทษจำเลยที่ 5 ได้ตาม ป.วิ. อาญา มาตรา 213 เพราะเป็นคุณแก่จำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1526/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายพระภิกษุด้วยอาวุธปืน: ศาลฎีกาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ลงโทษจำคุกตามเดิม
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254 ให้ลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่าให้จำคุกจำเลยเพียง 6 เดือนและให้รอการลงโทษจำเลยตามมาตรา 41 ที่แก้ไขใหม่มีกำหนด 5 ปี นอกจากนี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ดังนี้เป็นแก้มาก คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงได้ไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 218.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1526/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายพระภิกษุด้วยอาวุธ การลดโทษ และการบังคับคดีตามคำพิพากษาเดิม
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 254 ให้ลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่าให้จำคุกจำเลยเพียง 6 เดือนและให้รอการลงโทษจำเลยตามมาตรา 41 ที่แก้ไขใหม่มีกำหนด 5 ปี นอกจากนี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ดังนี้เป็นแก้มาก คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงได้ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ การต่อสู้ และการพิจารณาความจำเป็นในการกระทำเพื่อป้องกันภัย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามมาตรา 251,55 จำคุกจำเลย 6 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยผิดตาม มาตรา 249,53 จำคุก 2 ปี ดังนี้เป็นแก้มาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ผู้ตายไล่ตามจะทำร้ายจำเลยเข้าไปในห้องผู้มีชื่อ แล้วมีการต่อสู้กัน จำเลยแทงผู้ตาย 5 แห่ง ดังนี้เป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุคดีเข้ามาตรา 249,53 (ประชุมใหญ่)
ผู้ตายไล่ตามจะทำร้ายจำเลยเข้าไปในห้องผู้มีชื่อ แล้วมีการต่อสู้กัน จำเลยแทงผู้ตาย 5 แห่ง ดังนี้เป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุคดีเข้ามาตรา 249,53 (ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: การกระทำเพื่อความจำเป็นเพื่อป้องกันภัยอันตรายถึงชีวิต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามมาตรา 251 - 55 จำคุกจำเลย 6 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยผิดตามมาตรา 249 - 53 จำคุก 2 ปี ดังนี้ เป็นแก้มาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้ไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 218
ผู้ตายไล่ตามจะทำร้ายจำเลยเข้าไปในห้องผู้มีชื่อ แล้วมีการต่อสู้กัน จำเลยแทงผู้ตาย 5 แห่ง ดังนี้เป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุคดีเข้ามาตรา 249 - 53.
(ประชุมใหญ่)
ผู้ตายไล่ตามจะทำร้ายจำเลยเข้าไปในห้องผู้มีชื่อ แล้วมีการต่อสู้กัน จำเลยแทงผู้ตาย 5 แห่ง ดังนี้เป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุคดีเข้ามาตรา 249 - 53.
(ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1351/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการลงโทษปรับเมื่อมีโทษทั้งจำและปรับตามกฎหมายฝิ่น และการใช้ดุลพินิจงดปรับ
ตาม ม.11 แห่งกฎหมายลักษณะอาญาอาจนำมาตรา 23 แห่งกฎหมายลักษณะอาญามาบังคับกับ พ.ร.บ.ฝิ่นได้
เมื่อนำ ม.23 แห่งกฎหมายลักษณะอาญามาใช้แล้ว ศาลก็อาจจำคุกจำเลยสถานเดียวโดยไม่ปรับได้
ข้อความที่บัญญัติไว้ในกฎหมายฝิ่นว่าให้ปรับเท่านั้น ๆ เท่า หมายความว่าเมื่อศาลจะปรับจึงจะปรับตามส่วนที่กฎหมายฝิ่นกำหนดเมื่อศาลใช้ดุลพินิจจำคุกอย่างเดียว โดยไม่ปรับ บทบัญญัติในเรื่องปรับก็เป็นอันพ้นไป
การฎีกาให้ศาลใช้ดุลพินิจลงโทษปรับด้วย เป็นข้อเท็จจริง ฎีกาไม่ได้
เมื่อนำ ม.23 แห่งกฎหมายลักษณะอาญามาใช้แล้ว ศาลก็อาจจำคุกจำเลยสถานเดียวโดยไม่ปรับได้
ข้อความที่บัญญัติไว้ในกฎหมายฝิ่นว่าให้ปรับเท่านั้น ๆ เท่า หมายความว่าเมื่อศาลจะปรับจึงจะปรับตามส่วนที่กฎหมายฝิ่นกำหนดเมื่อศาลใช้ดุลพินิจจำคุกอย่างเดียว โดยไม่ปรับ บทบัญญัติในเรื่องปรับก็เป็นอันพ้นไป
การฎีกาให้ศาลใช้ดุลพินิจลงโทษปรับด้วย เป็นข้อเท็จจริง ฎีกาไม่ได้