คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 218

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,432 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1458/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงเมื่อโทษจำคุกแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปี
โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ที่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม มาตรา 218 นั้นหมายถึงโทษแต่ละกะทง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 5 ปี ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 298,299,63 และตาม มาตรา 243 อีก 2 ปี รวม 2 กะทง 7 ปี เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้ จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1458/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำกัดสิทธิฎีกาในคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์ยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยโทษจำคุกแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปี
โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ที่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ม. 218 นั้นหมายถึงโทษแต่ละกะทง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 5 ปี ตาม ก.ม.อาญาม. 298 ,299,63 และตาม ม. 243 อีก 2 ปี รวม 2 กะทง 7 ปี เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้ จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1458/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำกัดสิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงเมื่อโทษจำคุกแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปี
โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ที่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม มาตรา 218 นั้นหมายถึงโทษแต่ละกะทง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 5 ปี ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 298,299,63 และตาม มาตรา 243 อีก 2 ปี รวม 2 กะทง 7 ปี เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้ จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1047/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดหย่อนโทษอาญาในกรณีถูกยั่วโทสะและการกระทำโดยพลั้งพลาด
ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้หนึ่งก่อเหตุท้าทายและชกต่อยจำเลยจำเลยหนีก็ยังไล่ตามจะทำร้ายอีก จำเลยจึงชักมีดแทงไปเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเป็นการยั่วโทสะจำเลยก่อน หาใช่เป็นกรณีวิวาทกันไม่
การที่จำเลยถูกผู้หนึ่งกดขี่ข่มเหงร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม จึงบันดาลโทสะจะแทงผู้นั้น หากแต่พลั้งพลาดไปถูกผู้ตายซึ่งเข้ามาห้ามเช่นนี้จำเลยควรได้รับลดหย่อนโทษตาม กฎหมายดุจกระทำแก่ผู้นั้น
คดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เมื่อโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1047/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยถูกยั่วยุและพลั้งพลาดทำร้ายผู้อื่น: การลดหย่อนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๕
ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้หนึ่งก่อเหตุท้าทายและชกต่อยจำเลย ๆ หนีก็ยังไล่ตามจะทำร้ายอีก จำเลยจึงชักมีดแทงไปเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเป็นการยั่วโทษะจำเลยก่อน หาใช่เป็นกรณีวิวาทกันไม่
การที่จำเลยถูกผู้หนึ่งกดขี่ข่มเหงร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม จึงบรรดาลโทษะจะแทงผู้นั้น หากแต่พลั้งพลาดไปถูกผู้ตายซึ่งเข้ามาห้ามเช่นนี้ จำเลยควรได้รับลดหย่อนโทษตาม ก.ม.ดุจกระทำแก่ผู้นั้น
คดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เมื่อโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1047/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแทงผู้อื่นโดยถูกยั่วยุก่อนและพลั้งพลาดไปถูกผู้ห้าม ลดหย่อนโทษตามกฎหมายได้
ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้หนึ่งก่อเหตุท้าทายและชกต่อยจำเลยจำเลยหนีก็ยังไล่ตามจะทำร้ายอีก จำเลยจึงชักมีดแทงไปเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเป็นการยั่วโทสะจำเลยก่อน หาใช่เป็นกรณีวิวาทกันไม่
การที่จำเลยถูกผู้หนึ่งกดขี่ข่มเหงร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม จึงบันดาลโทสะจะแทงผู้นั้น หากแต่พลั้งพลาดไปถูกผู้ตายซึ่งเข้ามาห้ามเช่นนี้จำเลยควรได้รับลดหย่อนโทษตาม กฎหมายดุจกระทำแก่ผู้นั้น
คดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เมื่อโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดเว้นการเผชิญสืบสถานที่เกิดเหตุ: ศาลมีอำนาจพิจารณาตามข้อเท็จจริงในสำนวน
เกี่ยวกับสถานที่เกิดเหตุโจทก์ว่าเกิดที่แห่งหนึ่ง จำเลยว่าเกิดที่อีกแห่งหนึ่ง จำเลยจึงขอร้องให้ศาลไปเผชิญสืบ ศาลชั้นต้นสั่งว่าข้อเท็จจริงในสำนวนของทั้งสองฝ่ายเป็นการที่ศาลเข้าใจดีแล้วไม่จำเป็นต้องออกไปตรวจดูที่เกิดเหตุ ฉะนั้นในข้อที่ศาลจะไปเผชิญสืบสถานที่เกิดเหตุหรือไม่นี้จึงเกี่ยวกับข้อเท็จจริงไม่ใช้ข้อกฎหมาย เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 2 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ฎีกาของจำเลยจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดเว้นการตรวจสถานที่เกิดเหตุของศาล: ศาลฎีกาตัดสินว่าการพิจารณาเรื่องการตรวจสถานที่เกิดเหตุเป็นอำนาจในการวินิจฉัยข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข้อกฎหมาย
เกี่ยวกับสถานที่เกิดเหตุโจทก์ว่าเกิดที่แห่งหนึ่ง จำเลยว่าเกิดที่อีกแห่งหนึ่ง จำเลยจึงขอร้องให้ศาลไปเผชิญสืบศาลชั้นต้นสั่งว่าข้อเท็จจริงในสำนวนของทั้งสองฝ่ายเป็นการที่ศาลเข้าใจดีแล้วไม่จำเป็นต้องออกไปตรวจดูที่เกิดเหตุฉนั้นในข้อที่ศาลจะไปเผชิญสืบสถานที่เกิดเหตุหรือไม่นี้จึงเกี่ยวกับข้อเท็จจริงไม่ใช้ข้อ ก.ม. เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 2 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ฎีกาของจำเลยจึงต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา ม. 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 889/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิมพ์แบบใบอนุญาตปลอมพร้อมลายมือชื่อ ถือเป็นความผิดฐานปลอมหนังสือราชการ แม้ยังไม่ได้กรอกข้อมูล
พิมพ์แบบใบอนุญาตประกอบโรคศิลปฯ แล้วยังพิมพ์ปลอมลายมือชื่อประธานกรรมการและเลขาธิการนายทะเบียนย่อมเป็นการเสียหายแก่ผู้นั้น ถึงแม้จะยังไม่ได้กรอกเลขที่ของใบอนุญาตชื่อผู้รับอนุญาตและเลขท้าย พ.ศ. ก็ถือว่าเป็นผิดฐานปลอมหนังสือราชการตาม มาตรา 222
แบบพิมพ์ใบอนุญาตประกอบโรคศิลปฯ ที่พิมพ์ลายมือชื่อประธานกรรมการและเลขาธิการนายทะเบียนด้วย ถือได้ว่าเป็นหนังสือตามมาตรา 6(18)
ข้อฎีกาที่ว่าการที่จำเลยพิมพ์แบบใบอนุญาตประกอบโรคศิลปฯ51 ฉบับจะเป็นผิดฐานปลอมหนังสือหรือไม่นั้นเป็นข้อกฎหมายจำเลยย่อมฎีกาได้
อ้างฎีกาที่ 595/2481

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 889/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิมพ์แบบใบอนุญาตปลอมพร้อมลายมือชื่อ ถือเป็นความผิดฐานปลอมหนังสือราชการ แม้ยังมิได้กรอกรายละเอียด
พิมพ์แบบใบอนุญาตประกอบโรคศิลป ฯ แล้วยังพิมพ์ปลอมลายมือชื่อประธานกรรมการและเลขาธิการนายทะเบียนย่อมเป็นการเสียหายแก่ผู้นั้น ถึงแม้จะยังไม่ได้กรอกเลขที่ของใบอนุญาตชื่อผู้รับอนุญาตและเลขท้าย พ.ศ. ก็ถือว่าเป็นผิดฐานปลอมหนังสือราชการ่ตาม ม. 222
แบบพิมพ์ใบอนุญาตประกอบโรคศิลป ฯ ที่พิมพ์ลายมือชื่อประธานกรรมการและเลขาธิการนายทะเบียนด้วย ถือได้ว่าเป็นหนังสือตาม ม.6 (18)
ข้อฎีกาที่ว่าการที่จำเลยพิมพ์แบบใบอนุญาตประกอบโรคศิลป ฯ 51 ฉบับ จะเป็นผิดฐานปลอมหนังสือหรือไม่นั้น เป็นข้อ ก.ม. จำเลยย่อมฎีกาได้
อ้างฎีกาที่ 595/2481
of 144