พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,432 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 204/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุในคดีฆ่าคนตายโดยเจตนา ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา249 จำคุก 15 ปี ลดตามมาตรา 59 เสีย 1 ใน 3คงจำคุก 10 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยกระทำโดยป้องกันแต่เป็นการป้องกันเกินกว่าเหตุ ผิดตาม มาตรา 249,53 จำคุก3 ปีดังนี้ เป็นการแก้มาก โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยกระทำโดยป้องกันแต่เป็นการป้องกันเกินกว่าเหตุ ผิดตาม มาตรา 249,53 จำคุก3 ปีดังนี้ เป็นการแก้มาก โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสั่งห้ามประกอบการค้าตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข: การวินิจฉัยข้อเท็จจริงที่ไม่สามารถฎีกาได้
พ.ร.บ.สาธารณะสุข พ.ศ. 2484 มาตรา 68 ให้ศาลมีอำนาจที่จะสั่งห้ามจำเลยมิให้ประกอบการค้านั้น ต่อไป ซึ่งเป็นการให้อำนาจศาลใช้ดุลยพินิจวินิจฉัยตามเหตุการณ์แห่งคดี ถือว่าเป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ. 2484 มาตรา 7, 8, 68 ปรับ 100 บาท ส่วนคำขอให้ห้ามจำเลยประกอบการค้าทำเต้าหู้ต่อไปนั้น ไม่บังคับให้ แต่ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ให้ห้ามจำเลยทำการค้าเต้าหู้ต่อไป ดังนี้ จำเลยจะฎีกาในข้อห้ามทำการค้าเต้าหู้ ไม่ได้ เพราะเป็นฎีกาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ. 2484 มาตรา 7, 8, 68 ปรับ 100 บาท ส่วนคำขอให้ห้ามจำเลยประกอบการค้าทำเต้าหู้ต่อไปนั้น ไม่บังคับให้ แต่ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ให้ห้ามจำเลยทำการค้าเต้าหู้ต่อไป ดังนี้ จำเลยจะฎีกาในข้อห้ามทำการค้าเต้าหู้ ไม่ได้ เพราะเป็นฎีกาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสั่งห้ามประกอบการค้าตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข: การวินิจฉัยข้อเท็จจริงและขอบเขตการฎีกา
พระราชบัญญัติสาธารณะสุขพ.ศ.2484 มาตรา 68 ให้ศาลมีอำนาจที่จะสั่งห้ามจำเลยมิให้ประกอบการค้านั้นต่อไป ซึ่งเป็นการให้อำนาจศาลใช้ดุลยพินิจวินิจฉัยตามเหตุการณ์แห่งคดี ถือว่าเป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม พระราชบัญญัติสาธารณะสุข พ.ศ.2484 มาตรา 7,8,68 ปรับ 100 บาท ส่วนคำขอให้ห้ามจำเลยประกอบการค้าทำเต้าหู้ต่อไปนั้น ไม่บังคับให้แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ห้ามจำเลยทำการค้าเต้าหู้ต่อไป ดังนี้ จำเลยจะฎีกาในข้อห้ามทำการค้าทำเต้าหู้ไม่ได้เพราะเป็นฎีกาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม พระราชบัญญัติสาธารณะสุข พ.ศ.2484 มาตรา 7,8,68 ปรับ 100 บาท ส่วนคำขอให้ห้ามจำเลยประกอบการค้าทำเต้าหู้ต่อไปนั้น ไม่บังคับให้แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ห้ามจำเลยทำการค้าเต้าหู้ต่อไป ดังนี้ จำเลยจะฎีกาในข้อห้ามทำการค้าทำเต้าหู้ไม่ได้เพราะเป็นฎีกาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 192/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยบรรดาลโทสะ ไม่เป็นเหตุป้องกันตัว คดีทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย
ผู้ตายกับจำเลยไปช่วยเขาไถนาด้วยกัน เมื่อไถนาเสร็จแล้วมีการเลี้ยงสุราอาหาร ผู้ตายกินอิ่มแล้วเดินไปที่จำเลย ตีศีร์ษะจำเลย 2 ทีแล้ววิ่งหนี จำเลยวิ่งไล่ไปทันที่คูน้ำข้างถนน เข้าปล้ำกัน ปรากฎว่าผู้ตายมีบาดแผลถูกแทง 6 แห่ง เป็นบาดแผลสาหัส 2 แห่ง ผู้ตายขาดใจตายในวันนั้น ดังนี้ เป็นเรื่องจำเลยกระทำไปโดยบรรดาลโทษะ หาใช่เป็นเรื่องป้องกันไม่
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 จำคุก 15 ปี ลดโทษ-ตามมาตรา 59 หนึ่งในสาม คงจำคุก 10 ปี ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยกระทำไปโดยบรรดาลโทษะจึงลดโทษให้ตามมาตรา 55 อีกกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 5 ปี ดังนี้จำเลยฎีกาว่าจำเลยได้กระทำการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ ได้
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 จำคุก 15 ปี ลดโทษ-ตามมาตรา 59 หนึ่งในสาม คงจำคุก 10 ปี ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยกระทำไปโดยบรรดาลโทษะจึงลดโทษให้ตามมาตรา 55 อีกกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 5 ปี ดังนี้จำเลยฎีกาว่าจำเลยได้กระทำการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 192/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเองเหนือกว่าบันดาลโทสะ: การกระทำที่เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ผู้ตายกับจำเลยไปช่วยเขาไถนาด้วยกันเมื่อไถนาเสร็จแล้วมีการเลี้ยงสุราอาหารผู้ตายกินอิ่มแล้วเดินไปที่จำเลย ตีศีรษะจำเลย 2 ทีแล้ววิ่งหนี จำเลยวิ่งไล่ไปทันที่คูน้ำข้างถนน เข้าปล้ำกัน ปรากฏว่าผู้ตายมีบาดแผลถูกแทง 6 แห่ง เป็นบาดแผลสาหัส 2 แห่ง ผู้ตายขาดใจตายในวันนั้น ดังนี้ เป็นเรื่องจำเลยกระทำไปโดยบันดาลโทสะหาใช่เป็นเรื่องป้องกันไม่
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 จำคุก15 ปี ลดโทษตามมาตรา 59 หนึ่งในสาม คงจำคุก 10ปี ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยกระทำไปโดยบันดาลโทสะจึงลดโทษให้ตามมาตรา 55 อีกกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 5 ปี ดังนี้จำเลยฎีกาว่าจำเลยได้กระทำการป้องกันพอสมควรแก่เหตุได้
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 จำคุก15 ปี ลดโทษตามมาตรา 59 หนึ่งในสาม คงจำคุก 10ปี ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยกระทำไปโดยบันดาลโทสะจึงลดโทษให้ตามมาตรา 55 อีกกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 5 ปี ดังนี้จำเลยฎีกาว่าจำเลยได้กระทำการป้องกันพอสมควรแก่เหตุได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1595/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนโดยประมาทและทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ศาลพิจารณาโทษจากพฤติการณ์เมาสุราและวัยรุ่น
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 252 โดยให้จำคุก 2 ปี ปรับ 400 บาท ลดฐานปราณีกึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 ปี ปรับ 200 บาทโทษจำคุกให้รอการลงอาญาไว้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุก 3 ปี ลดฐานปราณีกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือนไม่รอการลงอาญา ดังนี้ ถือว่าแก้มากคู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1595/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงโทษทางอาญาโดยศาลอุทธรณ์และการพิจารณาการรอการลงอาญา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 252 โดยให้จำคุก 2 ปี ปรับ 400 บาท ลดฐานปรานีกึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 ปี ปรับ 200 บาทโทษจำคุกให้รอการลงอาญาไว้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุก3 ปี ลดฐานปรานีกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือนไม่รอการลงอาญา ดังนี้ ถือว่าแก้มากคู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1254/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้ามในข้อเท็จจริง: คดีอาญาแก้โทษเบาลง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา จำคุก 9 ปี ศาลอุทธรณ์คงพิพากษาว่าจำเลยผิดตามมาตรา 251 แต่แก้โทษจำคุกเป็นจำคุก 5 ปี ดังนี้ ถือว่าแก้น้อย ฎีกาข้อเท็จจริงได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1254/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหาและโทษในคดีฆ่าคนตายจากเจตนาเป็นไม่เจตนา และการพิจารณาโทษ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา จำคุก 9 ปี ศาลอุทธรณ์คงพิพากษาว่าจำเลยผิดตามมาตรา 251 แต่แก้โทษจำคุกเป็นจำคุก 5 ปี ดังนี้ ถือว่าแก้น้อย ฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 590/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บาดเจ็บสาหัสจากการถูกฟันคอ ทำให้พิการตลอดชีวิต ถือเป็นความผิดตามมาตรา 256
บาดแผลถูกฟันที่ก้านคอหลังแถบซ้ายลึกตัดเนื้อกล้ามในการเย็บแผลต้องตัดเนื้อกล้ามที่กะรุ่งกะริ่งทิ้งเสียบ้าง เมื่อหายแล้วจึงทำให้กล้ามเนื้อส่วนนี้ดึ จะเอี้ยวคอไปทางซ้ายไม่ได้ต้องหันทั้งตัว ส่วนทางขวาเอี้ยไปได้นิดหน่อย การเอี้ยวไม่ได้นี้ จะพิการไปตลอดชีวิต ดังนี้ ได้ชื่อว่าบาดเจ็บสาหัสตามมาตรา 256 ข้อ 7
ศาลชั้นต้นลงโทษ+ ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุก 3 ปี ตามมาตรา 256 เป็นแก้มาก +ข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นลงโทษ+ ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุก 3 ปี ตามมาตรา 256 เป็นแก้มาก +ข้อเท็จจริง