คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 218

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,432 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 590/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บาดเจ็บสาหัสจากการถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีคม ส่งผลให้กล้ามเนื้อคอตึงและพิการถาวร
บาดแผลถูกฟันที่ก้านคอหลังแถบซ้ายลึกตัดเนื้อกล้ามในการเย็บแผลต้องตัดเนื้อกล้ามที่กะรุ่งกะริ่งทิ้งเสียบ้าง เมื่อหายแล้วจึงทำให้กล้ามเนื้อส่วนนี้ตึง จะเอี้ยวคอไปทางซ้ายไม่ได้ต้องหันทั้งตัว ส่วนทางขวาเอี้ยวไปได้นิดหน่อยการเอี้ยวไม่ได้นี้ จะพิการไปตลอดชีวิต ดังนี้ ได้ชื่อว่าบาดเจ็บสาหัสตามมาตรา 256 ข้อ 7
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก 8 เดือน ตาม มาตรา254 ศาลอุทธรณ์แก้เป็นโทษจำคุก 3 ปี ตามมาตรา 256 เป็นแก้มากฎีกาข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1736/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษยักยอกเจ้าพนักงานและขอบเขตการฎีกาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 131 ถึง 4 กระทง จำคุก 5 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตามมาตรา 131 เพียงกระทงเดียวจำคุก 2 ปี ดังนี้ ถือว่าแก้ไขมาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1736/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษอาญาโดยศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาในคดีเจ้าพนักงานยักยอกและปลอมแปลงเอกสาร
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 131 ถึง 4 กะทง จำคุก 5 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตามมาตรา 131 เพียงกะทงเดียว จำคุก 2 ปี ดังนี้ถือว่าแก้ไขมาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1682/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาขอลดโทษกักกันหลังศาลอุทธรณ์ยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น การพิจารณาเป็นดุลยพินิจของศาล
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี และกำหนดโทษกักกันไม่เกิน 5 ปี จำเลยจะฎีกาขอให้ลดหรืองดโทษกักกันอันเป็นเรื่องเกี่ยวแก่ดุลยพินิจของศาล ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงนั้นไม่ได้ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1682/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์และฎีกาเพื่อขอลดโทษกักกัน ศาลฎีกายกรับฟังเนื่องจากเป็นดุลพินิจของศาลชั้นต้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี และกำหนดโทษกักกันไม่เกิน 5 ปีจำเลยจะฎีกาขอให้ลดหรืองดโทษกักกันอันเป็นเรื่องเกี่ยวแก่ดุลพินิจของศาล ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงนั้นไม่ได้ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1557-1558/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรวมโทษอาญา – ความผิดฐานสมคบกันฆ่าและทำร้ายร่างกาย – การฎีกาความเห็นไม่ตรงกัน
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริง และพิพากษาต้องกันว่า จำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 กระทงหนึ่งและตามมาตรา 254 อีกกระทงหนึ่ง แต่ให้รวมกระทงลงโทษจำคุกจำเลย 15 ปีดังนี้ แม้โทษฐานทำร้ายร่างกายตามกฎหมายลักษณะอาญา ตามมาตรา 254ให้จำคุกไม่เกิน 2 ปีก็ดี แต่ศาลล่างทั้ง 2 ให้รวมกระทงลงโทษร่วมกับความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ไม่ได้กำหนดโทษฐานทำร้ายร่างกายไว้ชัดแจ้ง อันจะพึงอนุมานได้ว่าต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 หรือ 220 ฉะนั้นเมื่อจำเลยฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงรวมกันมาทั้ง2 ฐาน ก็ชอบจะฎีกาได้ ไม่ต้องห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1557-1558/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรวมโทษอาญาและการฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงรวมกันหลายฐานความผิด
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริง และพิพากษาต้องกันว่าจำเลยมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 กะทงหนึ่งและตามมาตรา 254 อีกกะทงหนึ่ง แต่ให้รวมกะทงลงโทษจำคุกจำเลย 15 ปี ดังนี้แม้โทษฐานทำร้ายร่างกายตาม ก.ม.ลักษณะอาญาตามมาตรา 154 ให้จำคุกไม่เกิน 2 ปีก็ดี แต่ศาลล่างทั้ง 2 ให้รวมกะทงลงโทษร่วมกับความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาไม่ได้กำหนดโทษฐานทำร้างร่างกายไว้ชัดแจ้ง อันจะพึงอนุมานได้ว่าต้องด้วย วิ.อาญามาตรา 218 หรือ 220 ฉะนั้นเมื่อจำเลยฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงรวมกันมาทั้ง 2 ฐานก็ชอบจะฎีกาได้ไม่ต้องห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1556/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดกรรโชกทางวาจา และดุลยพินิจการนับโทษต่อ
ความผิดฐานกรรโชกตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 303 นั้น แสดงอยู่ชัดว่า ใช้วาจาขู่เข็ญก็เป็นความผิดเช่นเดียวกับการใช้กำลังข่มขืน
จำเลยพูดขู่ว่าถ้าไม่ให้เงินก็จะต้องถูกส่งตัวไปขังที่สันติบาล ดังนี้เป็นการพูดขู่เข็ญขืนใจตามมาตรา 303 แล้ว
การนับโทษจำเลยนั้นอยู่ในดุลยพินิจของศาลที่จะสั่งกำหนดตามที่เห็นสมควรตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 32 จึงเป็นปัญหาในข้อเท็จจริง เมื่อศาลล่าง 2 ศาลใช้ดุลยพินิจไม่นับโทษจำเลยต่อจากคดีหนึ่งตามที่โจทก์ขอในคดีที่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงโจทก์ก็จะฎีกาขอ ให้นับโทษต่ออีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1556/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดกรรโชกทางวาจาและการใช้ดุลพินิจนับโทษ
ความผิดฐานกรรโชกตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 303 นั้นแสดงอยู่ชัดว่า ใช้วาจาขู่เข็ญก็เป็นความผิดเช่นเดียวกับการใช้กำลังข่มขืน
จำเลยพูดขู่ว่า ถ้าไม่ให้เงินก็จะต้องถูกส่งตัวไปขังที่สันติบาลดังนี้เป็นการพูดขู่เข็ญขืนใจตามมาตรา 303แล้ว
การนับโทษจำเลยนั้นอยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะสั่งกำหนดตามที่เห็นสมควรตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 32 จึงเป็นปัญหาในข้อเท็จจริงเมื่อศาลล่าง 2 ศาลใช้ดุลพินิจไม่นับโทษจำเลยต่อจากคดีหนึ่งตามที่โจทก์ขอในคดีที่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง โจทก์ก็จะฎีกาขอให้นับโทษต่ออีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1473/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำกัดสิทธิฎีกาในคดีอาญาที่โทษจำคุกแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปี
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา243 กระทงหนึ่งมีกำหนด 3 ปี และตามมาตรา 299 อีกกระทงหนึ่ง มีกำหนด 3 ปี รวมโทษ 2 กะทง 6 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้ ความผิดของจำเลยแต่ละกะทงไม่เกิน 5 ปี จำเลยจะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้(อ้างฎีกาที่ 842/2482)
of 144