พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,432 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 36/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์คำพิพากษาเกี่ยวกับโทษกักกัน ศาลฎีกาไม่รับพิจารณาเนื่องจากเป็นดุลยพินิจของศาลชั้นต้นและอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 1 ปี 4 เดือนแล้วให้กักกันมีกำหนด 3 ปีนั้น ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
การขอให้ยกหรือลดโทษกักกันอันเป็นดุลยพินิจนั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริง.
การขอให้ยกหรือลดโทษกักกันอันเป็นดุลยพินิจนั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 34/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำหนังสือเท็จในหน้าที่เพื่อผลประโยชน์ตนเอง ไม่เป็นความผิดฐานปลอมแปลงหนังสือ
การกระทำของจำเลยมีเจตนาทุจจริตหรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกับศาลชั้นต้น แต่แก้กำหนดโทษจาก 2 ปี เหลือ 1 ปี ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่าจำเลยไม่มีความผิดโจทก์จะฎีกาในข้อนี้ไม่ได้
คนขายสุราของบริษัทเอาน้ำสุราไปขายที่อื่นแล้วทำบิลว่านำสุราส่งไปขายให้แก่ร้านค้าปลีกของบริษัท ถือว่าเป็นการทำหนังสือเท็จ ไม่เป็นความผิดฐานปลอมหนังสือ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกับศาลชั้นต้น แต่แก้กำหนดโทษจาก 2 ปี เหลือ 1 ปี ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่าจำเลยไม่มีความผิดโจทก์จะฎีกาในข้อนี้ไม่ได้
คนขายสุราของบริษัทเอาน้ำสุราไปขายที่อื่นแล้วทำบิลว่านำสุราส่งไปขายให้แก่ร้านค้าปลีกของบริษัท ถือว่าเป็นการทำหนังสือเท็จ ไม่เป็นความผิดฐานปลอมหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 34/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริต-การปลอมหนังสือ: ปัญหาข้อเท็จจริง-ไม่มีความผิด
การกระทำของจำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกับศาลชั้นต้น แต่แก้กำหนดโทษจาก 2 ปีเหลือ 1 ปี ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่าจำเลยไม่มีความผิดโจทก์จะฎีกาในข้อนี้ไม่ได้
คนขายสุราของบริษัทเอาน้ำสุราไปขายที่อื่นแล้ว ทำบิลว่านำสุราส่งไปขายให้แก่ร้านค้าปลีกของบริษัท ถือว่าเป็นการทำหนังสือเท็จ ไม่เป็นความผิด ฐานปลอมหนังสือ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกับศาลชั้นต้น แต่แก้กำหนดโทษจาก 2 ปีเหลือ 1 ปี ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่าจำเลยไม่มีความผิดโจทก์จะฎีกาในข้อนี้ไม่ได้
คนขายสุราของบริษัทเอาน้ำสุราไปขายที่อื่นแล้ว ทำบิลว่านำสุราส่งไปขายให้แก่ร้านค้าปลีกของบริษัท ถือว่าเป็นการทำหนังสือเท็จ ไม่เป็นความผิด ฐานปลอมหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานพยายามข่มขืน vs. ทำอนาจารเด็ก: การพิจารณาจากพยานและบาดแผล
ปรากฏว่าของลับของเด็กหญิงอายุ 6 ขวบชอกช้ำนิดหน่อยโดยถูกของลับของจำเลย ดังนี้ ยังไม่พอถือว่า จำเลยได้พยายามล่วงล้ำไม่เป็นผิดฐานพยายามข่มขืน คงผิดเพียงฐานทำอนาจาร
ศาลชั้นต้นลงโทษฐานอนาจารตามมาตรา 245 จำคุก 6 เดือนศาลอุทธรณ์ลงโทษฐานพยายามข่มขืนตาม มาตรา 244 และ 60 จำคุก 2 ปีฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลชั้นต้นลงโทษฐานอนาจารตามมาตรา 245 จำคุก 6 เดือนศาลอุทธรณ์ลงโทษฐานพยายามข่มขืนตาม มาตรา 244 และ 60 จำคุก 2 ปีฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 195/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษจำคุกซ้ำประเภทความผิด: ฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์
การเพิ่มโทษทวีคูณตาม ม. 74 กฎหมายแยกความผิดสองประเภทคือประทุษร้ายต่อชีวิตและร่างกายประเภทหนึ่ง ประทุษร้ายต่อทรัพย์ประเภทหนึ่ง เมื่อซ้ำประเภทนั้น ๆ ก็เพิ่มโทษตามมาตรา 74 ได้
(อ้างฎีกาที่ 62/2463)
ศาลชั้นต้นลงโทษ 2 กะทง ๆ ละ 3 ปี เพิ่มโทษทวีคูณ ศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษกะทงละ 1 ปี 6 เดือนแล้วเพิ่มโทษกึ่งหนึ่ง เป็นแก้น้อย ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 62/2463)
ศาลชั้นต้นลงโทษ 2 กะทง ๆ ละ 3 ปี เพิ่มโทษทวีคูณ ศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษกะทงละ 1 ปี 6 เดือนแล้วเพิ่มโทษกึ่งหนึ่ง เป็นแก้น้อย ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 195/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษซ้ำกระทำความผิดประเภทเดียวกันตามกฎหมายอาญา
การเพิ่มโทษทวีคูณตาม มาตรา74กฎหมายแยกความผิดสองประเภทคือ ประทุษร้ายต่อชีวิตและร่างกายประเภทหนึ่งประทุษร้ายต่อทรัพย์ประเภทหนึ่งเมื่อซ้ำประเภทนั้นๆ ก็เพิ่มโทษตามมาตรา 74 ได้ (อ้างฎีกาที่ 62/2463)
ศาลชั้นต้นลงโทษ 2 กระทง กระทงละ 3 ปี เพิ่มโทษทวีคูณศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษกระทงละ 1 ปี 6 เดือนแล้วเพิ่มโทษกึ่งหนึ่ง เป็นแก้น้อย ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ศาลชั้นต้นลงโทษ 2 กระทง กระทงละ 3 ปี เพิ่มโทษทวีคูณศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษกระทงละ 1 ปี 6 เดือนแล้วเพิ่มโทษกึ่งหนึ่ง เป็นแก้น้อย ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 130/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง และการยกประโยชน์แห่งความสงสัยในคดีอาญา
ปัญหาว่า ยางของกลางเป็นของหลวงหรือไม่และจำเลยได้ยักยอกไปจริงหรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ปัญหาว่า คดีโจทก์มีเหตุสงสัย ควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยตามวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 หรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
การที่ศาลชั้นต้นสั่งในฎีกาว่า "สำเนาให้โจทก์" นั้นไม่ใช่คำอนุญาตให้ฎีกาได้ เป็นแต่คำสั่งรับฎีกาตามปรกติเท่านั้น
ปัญหาว่า คดีโจทก์มีเหตุสงสัย ควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยตามวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 หรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
การที่ศาลชั้นต้นสั่งในฎีกาว่า "สำเนาให้โจทก์" นั้นไม่ใช่คำอนุญาตให้ฎีกาได้ เป็นแต่คำสั่งรับฎีกาตามปรกติเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 130/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาข้อเท็จจริง – การยักยอกทรัพย์ของหลวงและเหตุสงสัย – ศาลฎีกายกข้อฎีกา
ปัญหาว่า ยางของกลางเป็นของหลวงหรือไม่และจำเลยได้ยักยอกไปจริงหรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ปัญหาว่า คดีโจทก์มีเหตุสงสัย ควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 หรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
การที่ศาลชั้นต้นสั่งในฎีกาว่า "สำเนาให้โจทก์"นั้น ไม่ใช่คำอนุญาตให้ฎีกาได้ เป็นแต่คำสั่งรับฎีกาตามปกติเท่านั้น
ปัญหาว่า คดีโจทก์มีเหตุสงสัย ควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 หรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
การที่ศาลชั้นต้นสั่งในฎีกาว่า "สำเนาให้โจทก์"นั้น ไม่ใช่คำอนุญาตให้ฎีกาได้ เป็นแต่คำสั่งรับฎีกาตามปกติเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 727/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุปกรณ์ธรรมดาที่ใช้ในการเล่นการพนัน ไม่เป็นของอันควรริบ
เสื่อและตะเกียงที่ใช้เป็นอุปกรณ์ในการเล่นการพนันนั้นไม่เป็นของอันควรริบ
ศาลชั้นต้นลงโทษและริบของกลาง จำเลยอุทธรณ์เฉพาะข้อริบทรัพย์ศาลอุทธรณ์ไม่ริบ โจทก์ฎีกาในเรื่องริบทรัพย์ได้
ศาลชั้นต้นลงโทษและริบของกลาง จำเลยอุทธรณ์เฉพาะข้อริบทรัพย์ศาลอุทธรณ์ไม่ริบ โจทก์ฎีกาในเรื่องริบทรัพย์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 727/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เสื่อและตะเกียงไม่ใช่เครื่องมือการพนัน ไม่เป็นของอันควรริบ
เสื่อและตะเกียงแลเสื่อที่ใช้เป็นอุปกรณ์ในการเล่นการพะนันนั้นไม่เป็นของอันควรริบ
ศาลชั้นต้นลงโทษและริบของกลางจำเลยอุทธรณ์ฉะเพาะข้อริบทรัพย์ศาลอุทธรณ์ไม่ริบ โจทก์ฎีกาในเรื่องริบทรัพย์ได้
ศาลชั้นต้นลงโทษและริบของกลางจำเลยอุทธรณ์ฉะเพาะข้อริบทรัพย์ศาลอุทธรณ์ไม่ริบ โจทก์ฎีกาในเรื่องริบทรัพย์ได้