คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 296 วรรคสอง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 267 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6883/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประวิงเวลาบังคับคดีและการเสียสิทธิของผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาด
ผู้ซื้อทรัพย์อ้างว่าเป็นผู้ให้ราคาสูงสุด และเจ้าพนักงานบังคับคดีอนุมัติให้ขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างแก่ผู้ซื้อทรัพย์แล้ว จำเลยทั้งสองได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดี และจำเลยได้ใช้สิทธิในการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยไม่สุจริต และไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีเจตนาประวิงเวลาในการบังคับคดีของศาล ทำให้ผู้ซื้อทรัพย์ไม่สามารถนำที่ดินที่ซื้อไปจัดสรรขายได้ ขอให้ยกเลิกการขายและให้คู่สัญญาทั้งสองกลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิมคำร้องของผู้ซื้อทรัพย์มิใช่เป็นการกล่าวอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ.ภาค 4 ลักษณะ 2 อันว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง หากผู้ซื้อทรัพย์เห็นว่าบุคคลใดมีเจตนาไม่สุจริตจงใจทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ซื้อทรัพย์ก็ชอบที่จะว่ากล่าวเรียกร้องเอาจากบุคคลนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3360-3410/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดที่ดิน: ผู้ประมูลต้องตรวจสอบความถูกต้องเอง ความสำคัญผิดไม่เป็นเหตุเพิกถอน
การขายทอดตลาดที่ดินพิพาทโดยเจ้าพนักงานบังคับคดีแตกต่างจากการซื้อขายที่ดินตามปกติทั่ว ๆ ไป เพราะประกาศขายทอดตลาดจะระบุรายละเอียดต่าง ๆ ของที่ดินพิพาทไว้ชัดแจ้ง และเปิดเผยต่อประชาชนทั่วไป ผู้เข้าประมูลมีโอกาสตรวจสอบ ความถูกต้องได้ ที่ผู้ร้องอ้างว่าสำคัญผิดว่าที่ดินพิพาทอยู่ติดกับ ที่ดินของผู้ร้อง โดยผู้ร้องมิได้ทำการตรวจสอบความถูกต้องในที่ตั้งของที่ดินพิพาทก่อนที่จะเข้าประมูลสู้ราคาทั้ง ๆ ที่สามารถ จะกระทำได้ จึงเป็นความบกพร่องของผู้ร้องเองและถือได้ว่าเป็นความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ผู้ร้องไม่อาจอ้างความสำคัญผิดในที่ตั้งของที่ดินแปลงพิพาทมาเป็นประโยชน์แก่ตนได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158 เมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดที่ดินแปลงพิพาทโดยฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยการบังคับคดีของเจ้าพนักงานบังคับคดีฯ จึงไม่มีเหตุที่จะ เพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดินแปลงพิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2939/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีเสร็จสิ้นแล้ว แม้มีการปรับปรุงบัญชีรายรับ-จ่ายจากข้อคัดค้านดอกเบี้ย จำเลยไม่มีสิทธิเพิกถอน
เมื่อผู้ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดได้ชำระราคาครบถ้วนและศาลมีหนังสือแจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดินจดทะเบียนระงับการจำนอง - โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้แก่ผู้ซื้อ ทั้งโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็ได้รับชำระหนี้จากเงินสุทธิที่ได้รับจากการขายทอดตลาดไปแล้ว ดังนี้ ถือว่าการบังคับคดีได้เสร็จลงแล้วจำเลยจึงไม่มีสิทธิ ร้องขอให้เพิกถอนการบังคับคดีที่เสร็จแล้วได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง
การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจัดทำบัญชีแสดงรายการรับ-จ่ายเพื่อปรับปรุงฉบับเดิมขึ้นใหม่ก็เพราะจำเลยยื่นคำแถลงคัดค้านการคิดคำนวณดอกเบี้ยของเจ้าพนักงานบังคับคดี เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีคิดคำนวณดอกเบี้ยใหม่ แม้จะทำให้ตัวเลขทางบัญชีไม่ตรงกับบัญชีแสดงการรับจ่ายเดิมเพราะการคิดคำนวณดอกเบี้ยผิดพลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีเอง หาใช่เป็นเรื่องที่ทำให้การบังคับคดียังไม่เสร็จลงไม่ เพราะไม่มีการกระทำอย่างใดในการที่จะบังคับเกี่ยวกับที่ดินของจำเลยต่อไปอีก
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 316 เป็นบทบัญญัติที่กำหนดหน้าที่ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องจัดทำบัญชีในการปฏิบัติงานบังคับคดี และมาตรา 320 ก็เป็นเรื่องที่กำหนดให้เฉพาะเจ้าหนี้เท่านั้นที่จะยื่นคำแถลงคัดค้านบัญชีส่วนเฉลี่ยต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้บทบัญญัติสองมาตราดังกล่าวหาใช่เป็นเรื่องที่จะทำให้จำเลยมีสิทธิร้องขอเพิกถอนการบังคับคดีซึ่งการบังคับคดีเสร็จลงแล้วได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2939/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีเสร็จสิ้นแล้ว แม้มีการปรับปรุงบัญชีดอกเบี้ย จำเลยไม่มีสิทธิเพิกถอนได้
เมื่อผู้ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดได้ชำระราคาครบถ้วนและศาลมีหนังสือแจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดินจดทะเบียนระงับการจำนอง - โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้แก่ผู้ซื้อ ทั้งโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็ได้รับชำระหนี้จากเงินสุทธิที่ได้รับจากการขายทอดตลาดไปแล้ว ดังนี้ ถือว่าการบังคับคดีได้เสร็จลงแล้วจำเลยจึงไม่มีสิทธิร้องขอให้เพิกถอนการบังคับคดีที่เสร็จแล้วได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา296 วรรคสอง
การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจัดทำบัญชีแสดงรายการรับ-จ่าย เพื่อปรับปรุงฉบับเดิมขึ้นใหม่ก็เพราะจำเลยยื่นคำแถลงคัดค้านการคิดคำนวณดอกเบี้ยของเจ้าพนักงานบังคับคดี เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีคิดคำนวณดอกเบี้ยใหม่ แม้จะทำให้ตัวเลขทางบัญชีไม่ตรงกับบัญชีแสดงการรับจ่ายเดิมเพราะการคิดคำนวณดอกเบี้ยผิดพลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีเอง หาใช่เป็นเรื่องที่ทำให้การบังคับคดียังไม่เสร็จลงไม่ เพราะไม่มีการกระทำอย่างใดในการที่จะบังคับเกี่ยวกับที่ดินของจำเลยต่อไปอีก
ป.วิ.พ.มาตรา 316 เป็นบทบัญญัติที่กำหนดหน้าที่ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องจัดทำบัญชีในการปฏิบัติงานบังคับคดี และมาตรา 320 ก็เป็นเรื่องที่กำหนดให้เฉพาะเจ้าหนี้เท่านั้นที่จะยื่นคำแถลงคัดค้านบัญชีส่วนเฉลี่ยต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้บทบัญญัติสองมาตราดังกล่าวหาใช่เป็นเรื่องที่จะทำให้จำเลยมีสิทธิร้องขอเพิกถอนการบังคับคดีซึ่งการบังคับคดีเสร็จลงแล้วได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2784/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานบังคับคดีชอบที่จะขายทอดตลาดให้บุคคลทั่วไป หากโจทก์ไม่ประสงค์จะประมูลร่วมกับจำเลย
แม้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้นำทรัพย์พิพาทออกประมูลระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 และเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประกาศให้ประมูลทรัพย์พิพาทในวันที่กำหนดแต่ก่อนถึงวันดังกล่าว โจทก์ยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะเข้าประมูลขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทต่อไปและในวันนัดโจทก์ก็ไม่ไปร่วมประมูลด้วย เป็นการแสดงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีว่าโจทก์ไม่ตกลงด้วยในการประมูลทรัพย์พิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 เจ้าพนักงานบังคับคดีชอบที่จะรายงานศาลว่าการปฏิบัติตามคำพิพากษาในขั้นตอนที่สองที่ให้นำทรัพย์พิพาทออกประมูลระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2ถึงที่ 4 ไม่อาจกระทำได้ ขอให้มีคำสั่งขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทแก่บุคคลทั่วไป อันเป็นการปฏิบัติตามคำพิพากษาขั้นตอนที่สามต่อไป การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีกลับให้จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4ประมูล แล้วขายทรัพย์พิพาทให้แก่จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 จึงไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2527/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิร้องขอเพิกถอนการขายทอดตลาดของผู้เข้าสู้ราคาที่ได้รับความเสียหายจากการฝ่าฝืนขั้นตอนบังคับคดี
แม้ผู้ร้องที่ 2 มิได้เป็นบุคคลตามที่ ป.วิ.พ. มาตรา 280 บัญญัติไว้ กล่าวคือ ผู้ร้องที่ 2 มิใช่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษา หรือลูกหนี้แห่งสิทธิเรียกร้องที่ถูกอายัด และมิใช่ผู้ที่ชอบจะใช้สิทธิอันได้จดทะเบียนไว้โดยชอบ หรือผู้ที่ได้ยื่นคำร้องขอตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 288, 289 และ 290 อันเกี่ยวกับทรัพย์สินหรือสิทธิเรียกร้องที่ถูกบังคับคดี แต่บทบัญญัติตามมาตรา 280 ดังกล่าว เป็นเพียงบทสันนิษฐานเพื่อประโยชน์แห่งบทบัญญัติในภาค 4 ว่าด้วยวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาและการบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง ที่ให้ถือว่าบุคคลตามที่ระบุไว้เป็นผู้มีส่วนได้เสียในวิธีบังคับคดีเท่านั้น มิได้หมายความว่าบุคคลอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในมาตรา 280 แล้ว จะเป็นผู้มีส่วนได้เสียในวิธีบังคับคดีไม่ได้
คดีนี้ผู้ร้องที่ 2 เป็นผู้เข้าสู้ราคาคนหนึ่งในการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดี ผู้ร้องที่ 2 อ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดโดยมิได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ได้แจ้งแก่ผู้เข้าสู้ราคา และมีผลทำให้ผู้ร้องที่ 2 ไม่มีโอกาสเสนอราคาเพิ่มสูงขึ้น เป็นกรณีที่ผู้ร้องที่ 2 อ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง และเป็นเหตุโดยตรงให้ผู้ร้องที่ 2 ต้องเสียหายโดยการฝ่าฝืนนั้น ผู้ร้องที่ 2 จึงเป็นบุคคลภายนอกที่มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีซึ่งต้องเสียหายโดยการฝ่าฝืนนั้น ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 296 วรรคสอง ผู้ร้องที่ 2 มีสิทธิร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีได้
ข้อโต้แย้งที่ว่าราคาทรัพย์สินที่ขายทอดตลาดต่ำหรือไม่นั้น เป็นข้อโต้แย้งหรือส่วนได้เสียของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ลูกหนี้ตามคำพิพากษา หรือบุคคลตามที่ระบุไว้ใน ป.วิ.พ. มาตรา 280 โดยตรง ไม่เกี่ยวกับผู้ร้องที่ 2 ซึ่งเป็นเพียงผู้เข้าสู้ราคาแต่อย่างใด ผู้ร้องที่ 2 จึงไม่มีสิทธิกล่าวอ้างหรือฎีกาในประเด็นดังกล่าว
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2543)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9034/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปิดประกาศขายทอดตลาดโดยชอบตามกฎหมาย และการสมยอมกันเพื่อยึดทรัพย์
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 วรรคหนึ่ง มิได้บังคับให้ต้องมีพยานในการปิดประกาศแต่อย่างใด และการปิดประกาศกฎหมายก็มิได้บัญญัติว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไร ทั้งไม่มีระเบียบในเรื่องนี้ไว้ จึงอยู่ในดุลพินิจของผู้ส่งให้เหมาะสมกับสถานที่ที่จะปิด ซึ่งต้องเป็นที่เปิดเผยให้เห็นได้ง่าย ไม่จำต้องใช้กาวปิดไว้เสมอไป ทั้งตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานคำว่า "ปิด" หมายถึง กันหรือกั้นไว้ไม่ให้เผยออกหรือกั้นไว้ให้เข้าออกไม่ได้ หรือทำให้หยุด เช่น ปิดพัดลม ปิดวิทยุ ดังนี้การปิดประกาศจึงมิได้มีเฉพาะต้องใช้กาวทาปิดแต่เพียงวิธีเดียว การนำลวดผูกติดไว้กับประกาศดังกล่าวจึงเป็นการปิดคำคู่ความหรือเอกสารโดยชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 วรรคหนึ่ง แล้ว ในการขายทอดตลาดมีผู้เข้าสู้ราคาโดยชอบ แม้จะเพียง 2 คน คือจำเลยกับผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ แต่ก็ไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดโดยไม่สุจริตหรือฝ่าฝืนกฎหมายแต่ประการใดทั้งจำนวนเงินที่ขายได้1,120,000 บาท ก็สูงกว่าราคาประเมินซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประเมินไว้ แม้จะต่ำกว่าราคาประเมินของเจ้าพนักงานที่ดินหรือต่ำกว่าราคาที่ซื้อขายกันทั่วไปก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาของการขายทอดตลาดการขายทอดตลาดทรัพย์ในราคาดังกล่าวจึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8223/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีจากหลักประกันที่ไม่ชอบ ผู้ซื้อทรัพย์ไม่มีสิทธิคุ้มครอง ศาลเพิกถอนได้
การที่ผู้ประกันนำที่ดินพิพาทอันเป็นทรัพย์ของผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกมาเป็นหลักประกันในการประกันตัวจำเลยนั้น เป็นการไม่ชอบ เมื่อผู้ประกันผิดสัญญาประกันไม่ชำระค่าปรับ พนักงานอัยการนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินดังกล่าวออกขายทอดตลาดไม่ได้ ฉะนั้น การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดที่ดินรายนี้จึงเป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ภาค 4 ลักษณะ 2 ว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ศาลย่อมมีอำนาจสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดที่ไม่ชอบนั้นเสียได้เพื่อให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรมตามที่เห็นสมควรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 และ 296 วรรคสอง ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15
การขายทอดตลาดที่เป็นการบังคับคดีที่ฝ่าฝืนกฎหมายทำให้ผู้ซื้อทรัพย์ไม่มีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330ทั้งผู้ประกันก็มิใช่ผู้ซื้อทรัพย์ จึงไม่อาจอ้างบทบัญญัติดังกล่าวมาคุ้มครองผู้ประกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7856/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินราคาทรัพย์สินต่ำเกินจริงในการบังคับคดี ทำให้เกิดความเสียหายแก่ลูกหนี้ ศาลมีอำนาจเพิกถอนกระบวนการได้
การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีประเมินราคาทรัพย์ต่ำกว่าความเป็นจริงมาก อาจเป็นเหตุให้ต้องยึดทรัพย์ของลูกหนี้หลายสิ่งเกินกว่าความจำเป็น และอาจสั่งให้รวมขายไปด้วยกัน จึงเป็นที่เห็นได้ว่าการประเมินราคาทรัพย์ของเจ้าพนักงานบังคับคดีอาจมีผลให้เกิดความเสียหายแก่ลูกหนี้หรือบุคคลอื่นที่มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีได้ แม้เจ้าพนักงานบังคับคดีได้กระทำการโดยสุจริตก็ตาม จึงถือได้ว่าได้ดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จำเลยจึงอาจร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนกระบวนวิธีการบังคับคดีเสียได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 296 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1662/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดี: ราคาขายทอดตลาดต่ำกว่าราคาตลาดปกติ ไม่ถือเป็นการกระทำโดยมิชอบของเจ้าพนักงานบังคับคดี
สิทธิและหน้าที่ของผู้ซื้อทรัพย์ในการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลอันเนื่องมาจากการบังคับคดีต่างกับสิทธิและหน้าที่ของผู้ซื้อทรัพย์ในการซื้อขายกันตามปกติราคาทรัพย์ในการซื้อขายทั้ง 2 ประเภทดังกล่าวจึงอาจแตกต่างกันได้ ดังนั้น การที่จำเลยที่ 1 อ้างเพียงว่า ราคาขายทอดตลาดต่ำกว่าราคาซื้อขายกันตามปกติมากจึงยังถือไม่ได้ว่าเป็นการอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ลักษณะการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง ทั้งเหตุที่จำเลยที่ 1 อ้างว่าโจทก์ซึ่งเป็นผู้ประมูลทราบดีว่าราคาประเมินในการจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างสูงกว่าราคาขายทอดตลาดนั้น ก็มิใช่การกระทำของเจ้าพนักงานบังคับคดีคำร้องของ จำเลยที่ 1 จึงมิได้อ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ลักษณะการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งอันจะเป็นเหตุให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง ได้
of 27