พบผลลัพธ์ทั้งหมด 635 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9041/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำหน่ายสารระเหยให้เด็กและผู้ติดยาเสพติด เป็นภัยร้ายต่อเยาวชน มีโทษทางอาญา
จำเลยกระทำความผิดในข้อหาขายสารระเหยแก่ผู้ที่มีอายุไม่เกินสิบเจ็ดปีและบุคคลที่ตนรู้หรือควรจะรู้ว่าติดสารระเหย นับว่าเป็นการทำให้แพร่หลายซึ่งผู้ติดสารระเหยและเป็นภัยแก่เด็กและเยาวชนของชาติก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง จึงไม่สมควรรอการลงโทษให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8992/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประมาทขับรถขณะเมาสุรา-ชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย-ไม่รอการลงโทษ-ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนน้อยเกินไป
จำเลยขับรถจักรยานยนต์ขณะที่เมาสุรา มีคนทัดทานแล้วแต่จำเลยไม่เชื่อและขับรถไปเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายขับสวนทางมา โดยจำเลยขับรถแซงรถที่แล่นอยู่ข้างหน้าบริเวณทางโค้งล้ำเข้าไปในทางเดินรถสวน ถือว่าจำเลยประมาทอย่างมาก ตามพฤติการณ์เป็นเรื่องร้ายแรง แม้จำเลยจะได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ญาติผู้ตายแล้ว แต่ยังไม่เท่ากับจำนวนเงินที่ญาติผู้ตายเรียกร้องจำนวน 80,000 บาทซึ่งถือว่าเป็นจำนวนไม่มาก หากเทียบกับความสูญเสียที่ญาติผู้ตายได้รับที่ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษนั้นเหมาะสมแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8690/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำผิดฐานค้าประเวณีเป็นเรื่องร้ายแรง แม้มีภาระครอบครัวก็ไม่เพียงพอต่อการรอการลงโทษ
การกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าของกิจการการค้าประเวณี หรือเป็นผู้จัดการกิจการการค้าประเวณี เป็นการกระทำที่ผิดทั้งกฎหมายและศีลธรรมอันดีของประชาชน และเป็นการส่งเสริมการค้าประเวณีอันเป็นบ่อเกิดของโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ซึ่งเป็นโรคติดต่อร้ายแรง ทำให้สังคมเดือดร้อนและต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเป็นจำนวนมาก การกระทำความผิดของจำเลยเป็นเรื่องร้ายแรงข้ออ้างของจำเลยที่ว่าจำเลยมีภาระต้องอุปการะเลี้ยงดูมารดาซึ่งอายุมากและบุตรอีก 2 คน ซึ่งอยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียน ประกอบกับจำเลยเองมีโรคประจำตัวนั้น จำเลยยิ่งต้องประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย มิฉะนั้นตนเองจะเดือดร้อนและบุคคลในครอบครัวจะขาดผู้อุปการะเลี้ยงดู ข้ออ้างจำเลยดังกล่าวยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะนำมารับฟังเพื่อรอการลงโทษให้แก่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8682/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบวกโทษจำคุกที่รอการลงโทษในคดีก่อนเข้ากับคดีหลัง แม้ศาลล่างมิได้ดำเนินการ
จำเลยกระทำความผิดคดีนี้อีกเป็นครั้งที่สามภายในเวลาที่รอการลงโทษไว้ในสองคดีก่อน แสดงว่าจำเลยไม่เข็ดหลาบและมิได้เกรงกลัว ไม่มีประโยชน์ที่จะปราณีรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยอีก
ศาลล่างทั้งสองไม่นำโทษจำคุกของจำเลยที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนสองคดีมาบวกเข้ากับโทษจำคุกในคดีนี้ ศาลฎีกามีอำนาจนำโทษจำคุกของจำเลยที่รอการลงโทษไว้มาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58 วรรคแรก และกรณีมิใช่เป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลยเพราะกฎหมายบังคับให้ดำเนินการ ทั้งเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง
ศาลล่างทั้งสองไม่นำโทษจำคุกของจำเลยที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนสองคดีมาบวกเข้ากับโทษจำคุกในคดีนี้ ศาลฎีกามีอำนาจนำโทษจำคุกของจำเลยที่รอการลงโทษไว้มาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58 วรรคแรก และกรณีมิใช่เป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลยเพราะกฎหมายบังคับให้ดำเนินการ ทั้งเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8293/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ธนบัตรปลอม: พฤติการณ์ร้ายแรง ไม่รอการลงโทษ
การที่จำเลยได้มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งธนบัตรปลอม แล้วจำเลยใช้ธนบัตรปลอมดังกล่าวซื้อสินค้าจากผู้เสียหายทั้งเจ็ด เป็นการสร้างความเสียหายต่อระบบการค้าและเงินตราของประเทศ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนโดยส่วนรวมนับเป็นพฤติการณ์ที่ร้ายแรงไม่ควรรอการลงโทษให้จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7904/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารสิทธิ ความร้ายแรงและผลกระทบต่อสถาบันการเงินและการพิจารณาโทษ
การที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 กับพวกร่วมกันทำปลอมขึ้นซึ่งใบบันทึกรายการขาย (เซลสลิป) ของธนาคาร ท. อันเป็นเอกสารสิทธิ แล้วร่วมกันใช้เอกสารสิทธินั้น โดยมอบให้แก่ผู้มีชื่อนำไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารลักษณะของความผิดเป็นเรื่องที่ร้ายแรงและกระทบกระเทือนต่อธนาคารซึ่งเป็นสถาบันการเงิน รวมถึงความเชื่อถือของประชาชนทั่วไปต่อการใช้บัตรเครดิต นับเป็นการกระทำที่มุ่งถึงแต่ประโยชน์ส่วนตนโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนเสียหายของผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งของผู้เสียหายที่เป็นสมาชิกผู้ถือบัตรเครดิต ซึ่งมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย แม้ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน และมีอาชีพเป็นหลักแหล่งแน่นอน กับจำเลยที่ 1 มีภาระต้องอุปการะเลี้ยงดูครอบครัว แต่เพื่อให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 หลาบจำ และเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่นอันจะเป็นการปกป้องสังคมและประชาชนผู้สุจริตจากผู้ที่คิดจะกระทำการเช่นจำเลยที่ 1 และที่ 2 สมควรลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2สถานเดียวโดยไม่รอการลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7799/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงหนี้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ศาลยืนโทษจำคุก
การที่จำเลยรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แต่กลับแจ้งแก่พนักงานสอบสวนว่ามีคนร้ายสองคนร่วมกันชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ที่จำเลยเช่าซื้อจากผู้ให้เช่าซื้อไป เพื่อมิให้ผู้ให้เช่าซื้อยึดรถจักรยานยนต์คืนจากจำเลย เนื่องจากจำเลยค้างชำระค่าเช่าซื้อ นอกจากจะเป็นการกระทำที่มุ่งถึงประโยชน์ส่วนตนโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของผู้ให้เช่าซื้อแล้วยังก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการที่ต้องสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดตามที่จำเลยแจ้งความอีก พฤติการณ์แห่งคดีจึงเป็นเรื่องร้ายแรง ไม่สมควรรอการลงโทษจำคุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7692/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำหน่ายน้ำมันคุณภาพต่ำซ้ำหลังศาลรอการลงโทษ ไม่สำนึกผิด จึงไม่สมควรได้รับการรอการลงโทษ
การที่จำเลยจำหน่ายน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วที่มีคุณภาพต่ำกว่าที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดนั้น ย่อมมีผลทำให้เครื่องยนต์ของรถยนต์ที่ใช้น้ำมันที่จำเลยจำหน่ายได้รับความเสียหาย ทั้งคดีก่อนจำเลยเคยกระทำความผิดฐานเดียวกันกับคดีนี้มาก่อนแล้ว และศาลได้ให้โอกาสจำเลยกับตนเป็นพลเมืองดีโดยรอการลงโทษให้ แต่จำเลยกับมากระทำผิดคดีนี้อีกระหว่างที่ศาลรอการลงโทษให้ แสดงว่าจำเลยไม่สำนึกในความผิดพฤติการณ์ จึงไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7320/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ & รอการลงโทษ: คดีจัดหางาน & ฉ้อโกง แม้กรรมเดียว แต่คดีฉ้อโกงยังไม่เด็ดขาด ฟ้องซ้ำจึงไม่เป็นเหตุระงับ & มีเหตุบรรเทาโทษ
แม้ความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางานฯมาตรา 91 ตรี ในคดีนี้จะเป็นกรรมเดียวกับความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ในคดีที่พนักงานอัยการฟ้องจำเลยเป็นอีกคดีหนึ่ง แต่ปรากฏในฎีกาของจำเลยเองว่า ขณะที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้คดีความผิดฐานฉ้อโกงยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้นและคดีดังกล่าวเสร็จสิ้นไปเพราะศาลชั้นต้นจำหน่ายคดีเนื่องจากผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ อันถือไม่ได้ว่าศาลได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดที่โจทก์ฟ้องจำเลยในคดีนี้แล้ว ฟ้องของโจทก์ในคดีนี้ จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำกับคดีความผิดฐานฉ้อโกง สิทธินำคดีอาญามาฟ้อง ของโจทก์ในคดีนี้จึงไม่ระงับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(2)(4)
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ในคดีความผิดฐานฉ้อโกงเพราะจำเลยได้ชดใช้ค่าเสียหายอันเป็นการบรรเทาผลร้ายให้จนเป็นที่พอใจแล้วและผู้เสียหายไม่ติดใจดำเนินคดีแก่จำเลย ประกอบกับจำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน สมควรรอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยได้กลับตนเป็นพลเมืองดีต่อไป
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ในคดีความผิดฐานฉ้อโกงเพราะจำเลยได้ชดใช้ค่าเสียหายอันเป็นการบรรเทาผลร้ายให้จนเป็นที่พอใจแล้วและผู้เสียหายไม่ติดใจดำเนินคดีแก่จำเลย ประกอบกับจำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน สมควรรอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยได้กลับตนเป็นพลเมืองดีต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6469-6470/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งสำเนาอุทธรณ์ไม่ถูกต้องตามภูมิลำเนาจำเลย ศาลอุทธรณ์มีอำนาจเพิกถอนกระบวนพิจารณาได้
จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ที่หนึ่ง แต่เมื่อโจทก์ยื่นฟ้องอุทธรณ์แล้วมีการจัดส่งสำเนาอุทธรณ์ของโจทก์ให้จำเลย ณ อีกที่หนึ่ง ซึ่งมิใช่ภูมิลำเนาของจำเลย ศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงมีคำสั่งให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบตั้งแต่การส่งสำเนาอุทธรณ์ของโจทก์ให้แก่จำเลย ตลอดจนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาส่งสำเนาอุทธรณ์ของโจทก์ให้แก่จำเลยใหม่ ซึ่งเป็นการสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 เพราะสำเนาอุทธรณ์เป็นคำคู่ความจะต้องส่งให้แก่จำเลย ณ ภูมิลำเนาของจำเลยหากฝ่าฝืนต้องถือว่ามิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรม ศาลอุทธรณ์ภาค 1จึงมีอำนาจที่จะสั่งได้
หากการส่งสำเนาคำฟ้องอุทธรณ์ให้แก่จำเลยไม่ชอบเสียแล้วการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ย่อมไม่ชอบไปด้วยเมื่อเหตุที่ทำให้คำพิพากษาไม่ชอบเป็นเพราะกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ ซึ่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 บัญญัติทางแก้ไว้แล้วจึงไม่ใช่เรื่องที่คู่ความจะต้องแก้ไขโดยใช้สิทธิได้เพียงฎีกาเท่านั้น
จำเลยขับรถยนต์บรรทุกมีน้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุกเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 16,846 กิโลกรัม เป็นเรื่องเจตนากระทำผิดโดยไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมายหวังแต่ประโยชน์ที่จะได้โดยไม่คำนึง ถึงความเสียหายต่อประเทศชาติและผลประโยชน์ของส่วนรวม จึงสมควร ลงโทษจำคุกโดยไม่รอการลงโทษให้ และสมควรริบรถยนต์บรรทุกด้วย
หากการส่งสำเนาคำฟ้องอุทธรณ์ให้แก่จำเลยไม่ชอบเสียแล้วการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ย่อมไม่ชอบไปด้วยเมื่อเหตุที่ทำให้คำพิพากษาไม่ชอบเป็นเพราะกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ ซึ่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 บัญญัติทางแก้ไว้แล้วจึงไม่ใช่เรื่องที่คู่ความจะต้องแก้ไขโดยใช้สิทธิได้เพียงฎีกาเท่านั้น
จำเลยขับรถยนต์บรรทุกมีน้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุกเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 16,846 กิโลกรัม เป็นเรื่องเจตนากระทำผิดโดยไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมายหวังแต่ประโยชน์ที่จะได้โดยไม่คำนึง ถึงความเสียหายต่อประเทศชาติและผลประโยชน์ของส่วนรวม จึงสมควร ลงโทษจำคุกโดยไม่รอการลงโทษให้ และสมควรริบรถยนต์บรรทุกด้วย