พบผลลัพธ์ทั้งหมด 635 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3549/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์และฎีกาในคดีขับรถประมาททำให้ผู้อื่นได้รับอันตราย: ข้อจำกัดการฎีกาเมื่อศาลอุทธรณ์แก้โทษไม่เกินหนึ่งปี
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้รอการกำหนดโทษจำเลยและกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติของจำเลยไว้ภายในเวลา2ปีศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำคุกจำเลย9เดือนโดยไม่รอการลงโทษต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา219.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3549/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากศาลอุทธรณ์แก้ให้ลงโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ทำให้จำเลยไม่สามารถฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้รอการกำหนดโทษจำเลยและกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติของจำเลยไว้ภายในเวลา 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำคุกจำเลย 9 เดือน โดยไม่รอการลงโทษต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 219
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3549/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์โทษจำคุกและการต้องห้ามฎีกาในคดีอาญา เนื่องจากโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้รอการกำหนดโทษจำเลยและกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติของจำเลยไว้ภายในเวลา 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำคุกจำเลย 9 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 219
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3160/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
องค์ประกอบความผิด พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และการแยกกระทงความผิดฐานทำ/มีสายไฟฟ้า
พระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมพ.ศ.2511มาตรา18วางหลักเกณฑ์ไว้ว่าก่อนที่จะมีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสายไฟฟ้า อะลูมิเนียมหุ้มด้วยฉนวนโพลิไวนิลคลอไรด์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน (ฉบับที่3)พ.ศ.2526ทางราชการจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้างเงื่อนไขดังกล่าวไม่ใช่ข้อความที่ต้องกล่าวในฟ้องดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา158ดังนั้นแม้โจทก์จะไม่ได้กล่าวในฟ้องว่าเงื่อนไขในการตราพระราชกฤษฎีกาได้ปฏิบัติครบถ้วนแล้วหรือไม่ย่อมไม่ทำให้เป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ความผิดฐานทำสายไฟฟ้าและความผิดฐานมีสายไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายนั้นพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมพ.ศ.2511ได้กำหนดองค์ประกอบความผิดและกำหนดโทษผู้ทำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและผู้มีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต่างมาตรากันและฟ้องโจทก์ได้แยกการกระทำความผิดของจำเลยเป็นข้อๆขอให้ลงโทษจำเลยแต่ละข้อเป็นกระทงความผิดไปกรณีจึงฟังได้ว่าความผิดฐานทำสายไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตกับความผิดฐานมีสายไฟฟ้าไว้เพื่อจำหน่ายเป็นความผิดหลายกรรมเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพจึงลงโทษจำเลยตามฟ้องได้ คดีที่คู่ความฎีกาได้แต่เฉพาะข้อกฎหมายศาลฎีกาก็มีอำนาจที่จะพิพากษาลงโทษจำเลยให้เหมาะสมแก่ความผิดได้และรอการลงโทษให้แก่จำเลยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3160/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
องค์ประกอบความผิด พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และการแยกกระทงความผิดฐานทำ/มีสายไฟฟ้าเพื่อจำหน่าย
พระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 มาตรา 18 วางหลักเกณฑ์ไว้ว่า ก่อนที่จะมีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสายไฟฟ้าอะลูมิเนียมหุ้มด้วยฉนวนโพลิไวนิลคลอไรด์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2526ทางราชการจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง เงื่อนไขดังกล่าวไม่ใช่ข้อความที่ต้องกล่าวในฟ้องดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 ดังนั้นแม้โจทก์จะไม่ได้กล่าวในฟ้องว่า เงื่อนไขในการตราพระราชกฤษฎีกาได้ปฏิบัติครบถ้วนแล้วหรือไม่ย่อมไม่ทำให้เป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ความผิดฐานทำสายไฟฟ้าและความผิดฐานมีสายไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายนั้นพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 ได้กำหนดองค์ประกอบความผิดและกำหนดโทษผู้ทำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และผู้มีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต่างมาตรากัน และฟ้องโจทก์ได้แยกการกระทำความผิดของจำเลยเป็นข้อ ๆ ขอให้ลงโทษจำเลยแต่ละข้อเป็นกระทงความผิดไป กรณีจึงฟังได้ว่าความผิดฐานทำสายไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตกับความผิดฐานมีสายไฟฟ้าไว้เพื่อจำหน่ายเป็นความผิดหลายกรรม เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ จึงลงโทษจำเลยตามฟ้องได้
คดีที่คู่ความฎีกาได้แต่เฉพาะข้อกฎหมาย ศาลฎีกาก็มีอำนาจที่จะพิพากษาลงโทษจำเลยให้เหมาะสมแก่ความผิดได้ และรอการลงโทษให้แก่จำเลยได้
ความผิดฐานทำสายไฟฟ้าและความผิดฐานมีสายไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายนั้นพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 ได้กำหนดองค์ประกอบความผิดและกำหนดโทษผู้ทำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และผู้มีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต่างมาตรากัน และฟ้องโจทก์ได้แยกการกระทำความผิดของจำเลยเป็นข้อ ๆ ขอให้ลงโทษจำเลยแต่ละข้อเป็นกระทงความผิดไป กรณีจึงฟังได้ว่าความผิดฐานทำสายไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตกับความผิดฐานมีสายไฟฟ้าไว้เพื่อจำหน่ายเป็นความผิดหลายกรรม เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ จึงลงโทษจำเลยตามฟ้องได้
คดีที่คู่ความฎีกาได้แต่เฉพาะข้อกฎหมาย ศาลฎีกาก็มีอำนาจที่จะพิพากษาลงโทษจำเลยให้เหมาะสมแก่ความผิดได้ และรอการลงโทษให้แก่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2346/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการรับฟังรายงานคุมประพฤติ และการพิจารณาโทษจากประวัติผู้ต้องหา
พระราชบัญญัติวิธีดำเนินการคุมความประพฤติตามประมวลกฎหมายอาญาพ.ศ.2522มาตรา13บัญญัติเพียงให้ศาลมีอำนาจที่จะรับฟังรายงานและความเห็นของพนักงานคุมประพฤติเท่านั้นมิใช่เป็นบทบัญญัติเด็ดขาดที่จำต้องให้ศาลรับฟังเสมอไป. จำเลยเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่3แล้วออกมาช่วยมารดาและพี่น้องค้าขายและขับรถรับส่งคนโดยสาร.จนตอนเกิดเหตุมาทำงานเป็นพนักงานจำหน่ายตั๋วรถยนต์โดยสารประจำทางปรับอากาศถือได้ว่าจำเลยประกอบอาชีพโดยสุจริตตลอดมาไม่เคยกระทำผิดใดๆมาก่อนกระสุนปืนที่จำเลยมีไว้ที่ใช้กับอาวุธปืนก็เพียงนัดเดียวไม่มีพฤติการณ์ส่อให้เห็นว่าจำเลยจะใช้ก่อเหตุร้ายควรรอการลงโทษจำเลยและคุมความประพฤติไว้เหมาะสมกับความร้ายแรงแห่งการกระทำผิดและเพียงพอให้จำเลยได้สำนึกปฏิบัติตนไม่ประพฤติผิดกฎหมายต่อไปแล้ว.(ที่มา-เนติฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2267/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาททำร้ายร่างกาย: การสมัครใจวิวาททำให้ไม่อ้างป้องกันตนเองได้ และข้อจำกัดในการฎีกาเรื่องข้อเท็จจริง
การที่จำเลยทั้งสองทำร้ายกันมีสาเหตุสืบเนื่องมาจากจำเลยที่2มีเรื่องโต้เถียงกันกับย. ซึ่งเดินมากับจำเลยที่1ก่อนต่อมาจำเลยทั้งสองได้มาพบกันอีกและโต้เถียงกันก่อนที่จะลงมือทำร้ายกันตามพฤติการณ์ถือได้ว่าต่างฝ่ายต่างสมัครใจวิวาททำร้ายแม้ฝ่ายใดจะลงมือทำร้ายก่อนก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญเพราะเมื่อสมัครใจวิวาทกันแล้วจะอ้างว่าตนทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อป้องกันสิทธิของตนไม่ได้ คดีที่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงแม้ศาลฎีกาจะมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริงได้เพราะผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นได้รับรองว่าเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดแต่ข้อเท็จจริงที่คู่ความฎีกานั้นจะต้องเป็นข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เมื่อปรากฏว่าจำเลยมิได้ยกปัญหาที่ฎีกาขึ้นว่ากล่าวในชั้นศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยฎีกาของจำเลย จำเลยเพียงแต่ชกต่อยกอดปล้ำกันมิได้ใช้อาวุธทำร้ายและเหตุที่ทำร้ายกันก็เกิดจากการวิวาทโต้เถียงไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองเคยรับโทษจำคุกมาก่อนพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์แห่งคดีสิ่งแวดล้อมของจำเลยทั้งสองและสภาพความผิดแล้วศาลรอการลงโทษจำเลยไว้ตามป.อ.มาตรา56ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2267/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาททำร้ายร่างกาย: การสมัครใจวิวาททำให้ไม่สามารถอ้างป้องกันตนเองได้ และข้อจำกัดในการฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงใหม่
การที่จำเลยทั้งสองทำร้ายกันมีสาเหตุสืบเนื่องมาจากจำเลยที่2มีเรื่องโต้เถียงกันกับย.ซึ่งเดินมากับจำเลยที่1ก่อนต่อมาจำเลยทั้งสองได้มาพบกันอีกและโต้เถียงกันก่อนที่จะลงมือทำร้ายกันตามพฤติการณ์ถือได้ว่าต่างฝ่ายต่างสมัครใจวิวาททำร้ายแม้ฝ่ายใดจะลงมือทำร้ายก่อนก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญเพราะเมื่อสมัครใจวิวาทกันแล้วจะอ้างว่าตนทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อป้องกันสิทธิของตนไม่ได้. คดีที่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงแม้ศาลฎีกาจะมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริงได้เพราะผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นได้รับรองว่าเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดแต่ข้อเท็จจริงที่คู่ความฎีกานั้นจะต้องเป็นข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เมื่อปรากฏว่าจำเลยมิได้ยกปัญหาที่ฎีกาขึ้นว่ากล่าวในชั้นศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยฎีกาของจำเลย. จำเลยเพียงแต่ชกต่อยกอดปล้ำกันมิได้ใช้อาวุธทำร้ายและเหตุที่ทำร้ายกันก็เกิดจากการวิวาทโต้เถียงไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองเคยรับโทษจำคุกมาก่อนพิเคราะห์ถึงพฤติกาณณ์แห่งคดีสิ่งแวดล้อมของจำเลยทั้งสองและสภาพความผิดแล้วศาลรอการลงโทษจำเลยไว้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา56ได้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2078/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมาย: เหตุบรรเทาโทษจากคุณความดีและความร่วมมือกับราชการ
แม้อาวุธปืนที่จำเลยทั้งสองร่วมกันมีไว้ในความครอบครองจะเป็นอาวุธปืนยาวเอ็ม 16จำนวนถึง2กระบอกแต่ปรากฏว่าจำเลยที่1ปฏิบัติหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านจนได้รับปูนบำเหน็จจากทางราชการได้รับเงินเดือนขึ้น2ขั้นมา3ครั้งได้รับรางวัลที่2ในฐานะผู้ใหญ่บ้านดีเด่น ส่วนจำเลยที่2เป็นทหารพรานของหน่วยพตท.33รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเลย รับรองว่าจำเลยทั้งสองมีความประพฤติเรียบร้อยดีให้ความร่วมมือช่วยเหลือทางราชการมาโดยตลอดทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองได้รับโทษจำคุกมาก่อนถือได้ว่ามีเหตุอันควรให้ความปรานี โดยการรอการลงโทษ(จำคุก)จำเลยทั้งสองไว้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2078/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนโดยมิได้รับอนุญาต ลดโทษจากคุณความดีและประโยชน์ต่อสังคม
แม้อาวุธปืนที่จำเลยทั้งสองร่วมกันมีไว้ในความครอบครองจะเป็นอาวุธปืนยาวเอ็ม16จำนวนถึง2กระบอกแต่ปรากฏว่าจำเลยที่ที่1ปฏิบัติหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านจนได้รับปูนบำเหน็จจากทางราชการได้รับเงินเดือนขึ้น2ขั้นมา3ครั้งได้รับรางวัลที่2ในฐานะผู้ใหญ่บ้านดีเด่นส่วนจำเลยที่2เป็นทหารพรานของหน่วยพตท.33รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเลยรับรองว่าจำเลยทั้งสองมีความประพฤติเรียบร้อยดีให้ความร่วมมือช่วยเหลือทางราชการมาโดยตลอดทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองได้รับโทษจำคุกมาก่อนถือได้ว่ามีเหตุอันควรให้ความปรานีโดยการรอการลงโทษ(จำคุก)จำเลยทั้งสองไว้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)