พบผลลัพธ์ทั้งหมด 635 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 549/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลลดโทษและรอการลงโทษเนื่องจากจำเลยมีประวัติที่ดีและประกอบอาชีพสุจริต
จำเลยทั้งสองร่วมกันมีไม้มะค่าโมงแปรรูปจำนวน6แผ่นปริมาตร0.67ลูกบาศก์เมตรและไม้ยางแปรรูป192แผ่นปริมาตร7.06ลูกบาศก์เมตรไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตเมื่อปรากฏว่าจำเลยที่1เป็นผู้ประกอบสัมมาชีพมีความประพฤติเรียบร้อยจำเลยที่2รับราชการทหารทั้งจำเลยทั้งสองไม่ได้มีอาชีพค้าไม้และไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อนจึงสมควรรอการลงโทษจำเลยทั้งสองเพื่อให้เป็นพลเมืองดีต่อไป.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยถูกกล่าวหาพยายามฆ่าและมีอาวุธปืน แต่ศาลฎีกาตัดสินว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยิง และให้โอกาสกลับตัว
ตามคำพยานโจทก์ที่เบิกความต่อศาลปรากฏว่าไม่เห็นจำเลยยิงผู้เสียหายทั้งพวกของจำเลยก็มีถึงประมาณ10-20คนมีอาวุธปืนเกือบทุกคนเจ้าพนักงานผุ้จับกุมจำเลยก็เบิกความว่าบาดแผลของผู้เสียหายเป็นแผลถูกกระสุนปืนลูกซองมิใช่กระสุนปืนเอ็ม16ที่จำเลยถืออยู่พยานหลักฐานดังกล่าวจึงเชื่อว่าจำเลยมิได้ยิงผู้เสียหายและมิได้เกี่ยวข้องในการยิงแต่อย่างใดกรณีไม่อาจถือว่าจำเลยเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดกับผู้ที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายด้วย. จำเลยเป็นกรรมการวัดที่เกิดเหตุขณะเกิดเหตุทำหน้าที่รักษาความสงบอยู่ในงานที่วัดนั้นอาวุธปืนที่มีในขณะเกิดเหตุก็เป็นของทางราชการมอบให้กำนันไว้ปราบปรามโจรผู้ร้ายเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อนสมควรให้โอกาสจำเลยกลับตัวศาลพิพากษารอการลงโทษความผิดฐานมีอาวุธปืนนั้น.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยิงผู้เสียหาย แม้มีอาวุธปืน แต่มีเหตุผลสมควรในการครอบครอง จึงลดโทษ
ตามคำพยานโจทก์ที่เบิกความต่อศาลปรากฏว่าไม่เห็นจำเลยยิงผู้เสียหายทั้งพวกของจำเลยก็มีถึงประมาณ10-20คนมีอาวุธปืนเกือบทุกคนเจ้าพนักงานผู้จับกุมจำเลยก็เบิกความว่าบาดแผลของผู้เสียหายเป็นแผลถูกกระสุนปืนลูกซองมิใช่กระสุนปืนเอ็ม 16ที่จำเลยถืออยู่พยานหลักฐานดังกล่าวจึงเชื่อว่าจำเลยมิได้ยิงผู้เสียหายและมิได้เกี่ยวข้องในการยิงแต่อย่างใดกรณีไม่อาจถือว่าจำเลยเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดกับผู้ที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายด้วย จำเลยเป็นกรรมการวัดที่เกิดเหตุขณะเกิดเหตุทำหน้าที่รักษาความสงบอยู่ในงานที่วัดนั้นอาวุธปืนที่มีในขณะเกิดเหตุก็เป็นของทางราชการมอบให้กำนันไว้ปราบปรามโจรผู้ร้ายเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อนสมควรให้โอกาสจำเลยกลับตัวศาลพิพากษารอการลงโทษความผิดฐานมีอาวุธปืนนั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 408/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รับของโจร: การซื้อทรัพย์สินราคาถูกผิดปกติบ่งชี้ถึงเจตนา
จำเลยรับซื้อรถจักรยานของกลางไว้จากว.ในราคา280บาทถือว่าน่าจะรู้หรือควรจะรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์เพราะเป็นการซื้อขายในราคาถูกผิดปกติจึงมีความผิดฐานรับของโจร ทรัพย์ของกลางราคาไม่มากจำเลยเป็นหญิงไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อนสมควรให้โอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดีสักครั้งหนึ่งศาลให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด2ปี.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 408/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รับของโจร: การซื้อทรัพย์ในราคาถูกผิดปกติบ่งชี้ถึงความรู้หรือควรทราบว่าได้มาจากการกระทำผิด
จำเลยรับซื้อรถจักรยานของกลางไว้จากว. ในราคา280บาทถือว่าน่าจะรู้หรือควรจะรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์เพราะเป็นการซื้อขายในราคาถูกผิดปกติจึงมีความผิดฐานรับของโจร ทรัพย์ของกลางราคาไม่มากจำเลยเป็นหญิงไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อนสมควรให้โอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดีสักครั้งหนึ่งศาลให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด2ปี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำคุกและรอการลงโทษ: ศาลอุทธรณ์แก้เป็นรอการลงโทษ แม้ยังคงลงโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ทำให้จำกัดสิทธิในการฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย1ปีศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้รอการลงโทษจำคุกและคุมประพฤติจำเลยไว้ถือว่าเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินหนึ่งปีจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา219.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3805/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรอการลงโทษต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันในความผิดหลายกระทงที่เกิดจากการกระทำความผิดเดียวกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจำเลยฐานเสพเฮโรอีน จำคุก 1 ปีฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครอง จำคุก 2 ปี ศาลอุทธรณ์แก้เป็นให้รอการลงโทษมีกำหนด 2 ปี ดังนี้ โจทก์ฎีกาขอมิให้รอการลงโทษฐานเสพเฮโรอีนไม่ได้ เพราะเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
การกระทำฝ่าฝืนกฎหมายฉบับเดียวกันในคราวเดียวกัน แม้จะเป็น ความผิด 2 กระทง หากศาลจะรอการลงโทษหรือไม่รอการลงโทษก็ควรจะเป็นอย่างเดียวกัน มิใช่กระทงหนึ่งรอการลงโทษ แต่อีกกระทงหนึ่งไม่รอการลงโทษ
การกระทำฝ่าฝืนกฎหมายฉบับเดียวกันในคราวเดียวกัน แม้จะเป็น ความผิด 2 กระทง หากศาลจะรอการลงโทษหรือไม่รอการลงโทษก็ควรจะเป็นอย่างเดียวกัน มิใช่กระทงหนึ่งรอการลงโทษ แต่อีกกระทงหนึ่งไม่รอการลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3805/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรอการลงโทษที่ควรเป็นไปในทิศทางเดียวกันสำหรับความผิดหลายกระทงที่เกิดจากกฎหมายฉบับเดียวกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจำเลยฐานเสพเฮโรอีนจำคุก 1 ปี ฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครอง จำคุก 2 ปี ศาลอุทธรณ์แก้เป็น ให้รอการลงโทษมีกำหนด 2 ปี ดังนี้ โจทก์ฎีกาขอมิให้รอการลงโทษ ฐานเสพเฮโรอีนไม่ได้ เพราะเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้าม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 การกระทำฝ่าฝืนกฎหมายฉบับเดียวกันในคราวเดียวกัน แม้จะเป็น ความผิด2กระทงหากศาลจะรอการลงโทษหรือไม่รอการลงโทษก็ควรจะเป็น อย่างเดียวกันมิใช่กระทงหนึ่งรอการลงโทษแต่อีกกระทงหนึ่งไม่รอการลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1742/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษในคดีฝิ่นเมื่อพ้นโทษไม่ครบ 3 ปี: ศาลฎีกาตัดสินว่าการรอการลงโทษไม่ถือเป็นการพ้นโทษ
คำว่าพ้นโทษตามมาตรา 68 แห่งพระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ.2472 ก็คือพ้นโทษที่ได้รับจริงๆ ในคดีก่อน เมื่อในคดีก่อนจำเลยไม่ได้รับโทษจำคุกโดยศาลรอการลงโทษไว้มีกำหนด 1ปี จึงไม่มีวันพ้นโทษจำคุกที่จะถือเอาเป็นเกณฑ์ในการเพิ่มโทษจำเลยได้ และการที่ศาลรอการลงโทษจำคุกไว้ก็ไม่ใช่โทษซึ่งเมื่อครบ 1 ปีตามที่รอไว้แล้วจะได้เป็นการพ้นโทษไปได้ในตัว ทั้งมาตรา 58 วรรคสองแห่งประมวลกฎหมายอาญาก็บัญญัติไว้ด้วยว่า ถ้าภายในเวลาที่ศาลได้กำหนดตามมาตรา 56 ผู้นั้นมิได้กระทำความผิดดังกล่าวในวรรคแรกของ มาตรา 58 นั้น ก็ให้ผู้นั้นพ้นจากการที่จะถูกลงโทษในคดีนั้นซึ่งก็แสดงอยู่ชัดแจ้งว่าผู้นั้นหรือจำเลยไม่เคยถูกลงโทษมาก่อนนั่นเอง กรณีจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยพ้นโทษแล้วยังไม่ครบ 3 ปี มากระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติฝิ่นนี้อีก จึงเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา 68 แห่งพระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ.2472 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1742/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษทางอาญาเมื่อพ้นโทษไม่ครบ 3 ปี: การรอการลงโทษไม่ถือเป็นการพ้นโทษ
คำว่าพ้นโทษตามมาตรา 68 แห่งพระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ.2472ก็คือพ้นโทษที่ได้รับจริงๆในคดีก่อนเมื่อในคดีก่อนจำเลยไม่ได้รับโทษจำคุกโดยศาลรอการลงโทษไว้มีกำหนด 1ปีจึงไม่มีวันพ้นโทษจำคุกที่จะถือเอาเป็นเกณฑ์ในการเพิ่มโทษจำเลยได้และการที่ศาลรอการลงโทษจำคุกไว้ ก็ไม่ใช่โทษซึ่งเมื่อครบ 1 ปีตามที่รอไว้แล้วจะได้เป็นการพ้นโทษไปได้ในตัวทั้งมาตรา 58 วรรคสองแห่งประมวลกฎหมายอาญาก็บัญญัติไว้ด้วยว่าถ้าภายในเวลาที่ศาลได้กำหนดตามมาตรา 56 ผู้นั้นมิได้กระทำความผิดดังกล่าวในวรรคแรกของ มาตรา 58 นั้น ก็ให้ผู้นั้นพ้นจากการที่จะถูกลงโทษในคดีนั้นซึ่งก็แสดงอยู่ชัดแจ้งว่าผู้นั้นหรือจำเลยไม่เคยถูกลงโทษมาก่อนนั่นเองกรณีจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยพ้นโทษแล้วยังไม่ครบ 3 ปี มากระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติฝิ่นนี้อีกจึงเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา 68 แห่งพระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ.2472 ไม่ได้