คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 336

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 90 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1704/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์ด้วยการใช้อุบาย ไม่ใช่การวิ่งราวทรัพย์ ศาลฎีกามีอำนาจลงโทษฐานลักทรัพย์ แม้โจทก์มิได้ขอ
จำเลยขอดูนาฬิกาที่ผู้เสียหายใส่อยู่ เมื่อผู้เสียหายถอดให้จำเลย จำเลยรับนาฬิกามาจากผู้เสียหายแล้ววิ่งหนี การกระทำของจำเลยไม่เป็นการใช้กิริยาฉกฉวยเอาทรัพย์ผู้เสียหายไป แต่เป็นการใช้อุบายให้ผู้เสียหายถอดนาฬิกาจากข้อมือส่งให้จำเลย การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์แต่เป็นการลักทรัพย์ด้วยการใช้อุบาย จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334
แม้โจทก์มิได้ขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 แต่การลักทรัพย์เป็นการกระทำอย่างหนึ่งซึ่งเป็นความผิดได้อยู่ในตัวเองและรวมอยู่ในความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ศาลฎีกาจึงมีอำนาจลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 334 ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192วรรคสุดท้าย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1704/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำที่เข้าข่ายลักทรัพย์ด้วยการใช้อุบาย แม้โจทก์ไม่ได้ฟ้อง แต่ศาลมีอำนาจลงโทษได้
จำเลยขอดูนาฬิกาที่ผู้เสียหายใส่อยู่ เมื่อผู้เสียหายถอดให้จำเลย จำเลยรับนาฬิกามาจากผู้เสียหายแล้ววิ่งหนี การกระทำของจำเลยไม่เป็นการใช้กิริยาฉกฉวยเอาทรัพย์ผู้เสียหายไป แต่เป็นการใช้อุบายให้ผู้เสียหายถอดนาฬิกาจากข้อมือส่งให้จำเลย การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์แต่เป็นการลักทรัพย์ด้วยการใช้อุบาย จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334
แม้โจทก์มิได้ขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 แต่การลักทรัพย์เป็นการกระทำอย่างหนึ่งซึ่งเป็นความผิดได้อยู่ในตัวเองและรวมอยู่ในความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ศาลฎีกาจึงมีอำนาจลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 334 ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสุดท้าย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1445/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท ลักทรัพย์-วิ่งราวทรัพย์ ต้องใช้บทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษ
จำเลยทั้งสองร่วมกันลักทรัพย์โดยการฉกฉวยซึ่งหน้า การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นการร่วมกันลักทรัพย์ตั้งแต่สองคนขึ้นไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(7) บทหนึ่ง และเป็นการลักทรัพย์โดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้าอันเป็นการกระทำผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ตามมาตรา 336 วรรคแรกอีกบทหนึ่ง กรณีเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทตามมาตรา 90 ซึ่งต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่จำเลยอัตราโทษชั้นสูงของมาตรา 335 (7) และ 336 วรรคแรกนั้นเท่ากันคือจำคุกไม่เกิน 5 ปี แต่มาตรา 335 (7) มีโทษขั้นต่ำจำคุกตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป จึงมีบทลงโทษหนักกว่าต้องใช้มาตรา 335(7) เป็นบทลงโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1445/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท ลักทรัพย์-วิ่งราวทรัพย์ ต้องใช้บทที่มีโทษหนักกว่าลงโทษ
จำเลยทั้งสองร่วมกันลักทรัพย์โดยการฉกฉวยซึ่งหน้า การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นการร่วมกันลักทรัพย์ตั้งแต่สองคนขึ้นไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(7) บทหนึ่ง และเป็นการลักทรัพย์โดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้าอันเป็นการกระทำผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ตามมาตรา 336 วรรคแรกอีกบทหนึ่ง กรณีเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทตามมาตรา 90 ซึ่งต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่จำเลยอัตราโทษชั้นสูงของมาตรา 335(7)และ 336 วรรคแรกนั้นเท่ากันคือจำคุกไม่เกิน5 ปี แต่มาตรา335(7) มีโทษขั้นต่ำจำคุกตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป จึงมีบทลงโทษหนักกว่าต้องใช้มาตรา 335(7) เป็นบทลงโทษ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3887/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับโอนทรัพย์หลังเจ้าของเสียชีวิต ไม่ถือว่าผู้รับโอนไม่มีกรรมสิทธิ์ หากสุจริตและขาดเจตนาทุจริต
การรับโอนทรัพย์ของผู้ตายภายหลังเจ้าของทรัพย์ตายแล้ว ไม่แน่เสมอไปว่าผู้รับโอนจะไม่ได้กรรมสิทธิ์เพราะอาจได้รับโอนทรัพย์มาจากทายาทของผู้ตายก็ได้
จำเลยมีทะเบียนรถแสดงว่าได้รับโอนรถจักรยานยนต์คันพิพาท จากเจ้าของ ก่อนนำรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปจำเลยบอกกับโจทก์ว่ารถจักรยานยนต์เป็นของจำเลยและเอาทะเบียนรถให้ดู เมื่อพนักงานสอบสวนเรียกจำเลยไปพบจำเลยก็นำทะเบียนรถไปแสดง พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยเข้าใจโดยสุจริตว่ารถจักรยานยนต์คันพิพาทเป็นของตน และเอารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปจากความครอบครองของโจทก์โดยขาดเจตนาทุจริต จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3887/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์รถหลังเจ้าของเสียชีวิต & เจตนาทุจริตในความผิดฐานลักทรัพย์
การรับโอนทรัพย์ของผู้ตายภายหลังเจ้าของทรัพย์ตายแล้วไม่แน่เสมอไปว่าผู้รับโอนจะไม่ได้กรรมสิทธิ์เพราะอาจได้รับโอนทรัพย์มาจากทายาทของผู้ตายก็ได้ จำเลยมีทะเบียนรถแสดงว่าได้รับโอนรถจักรยานยนต์คันพิพาทจากเจ้าของก่อนนำรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปจำเลยบอกกับโจทก์ว่ารถจักรยานยนต์เป็นของจำเลยและเอาทะเบียนรถให้ดูเมื่อพนักงานสอบสวนเรียกจำเลยไปพบจำเลยก็นำทะเบียนรถไปแสดงพฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยเข้าใจโดยสุจริตว่ารถจักรยานยนต์คันพิพาทเป็นของตนและเอารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปจากความครอบครองของโจทก์โดยขาดเจตนาทุจริตจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3887/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับโอนทรัพย์หลังเจ้าของเสียชีวิตและการขาดเจตนาทุจริตในการครอบครอง
การรับโอนทรัพย์ของผู้ตายภายหลังเจ้าของทรัพย์ตายแล้ว ไม่แน่เสมอไปว่าผู้รับโอนจะไม่ได้กรรมสิทธิ์เพราะอาจได้รับโอนทรัพย์ มาจากทายาทของผู้ตายก็ได้
จำเลยมีทะเบียนรถแสดงว่าได้รับโอนรถจักรยานยนต์คันพิพาท จากเจ้าของ ก่อนนำรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปจำเลยบอกกับโจทก์ว่ารถจักรยานยนต์เป็นของจำเลยและเอาทะเบียนรถให้ดู เมื่อพนักงานสอบสวนเรียกจำเลยไปพบจำเลยก็นำทะเบียนรถไปแสดงพฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยเข้าใจโดยสุจริตว่ารถจักรยานยนต์คันพิพาทเป็นของตน และเอารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปจากความครอบครองของโจทก์โดยขาดเจตนาทุจริต จำเลยจึงไม่มีความผิด ฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2472/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานบุกรุกและวิ่งราวทรัพย์เป็นคนละกรรม ต้องลงโทษตามกระทง
ความผิดฐานบุกรุกกับวิ่งราวทรัพย์มีลักษณะแตกต่างกัน และเป็นความผิดคนละอย่างแยกออกจากกันได้ โจทก์บรรยายฟ้องแยกเป็นสองตอนว่า ตอนแรกจำเลยกับพวกบุกรุกเข้าไปในตึกแถวของผู้เสียหายโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันสมควร แล้วตอนหลังได้วิ่งราวทรัพย์ของผู้เสียหายไปด้วย จำเลยก็ให้การรับสารภาพตามฟ้อง ดังนี้ ต้องถือว่าจำเลยกระทำผิดฐานบุกรุกและวิ่งราวทรัพย์เป็นสองกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2690/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาการกระทำอนาจาร – การร่วมกระทำผิด – การให้โอกาสกระทำผิด
ผู้เสียหายจับมือ อ. เดินตามหาเพื่อน สวนทางกับจำเลยทันใดนั้นจำเลยที่ 1 ตรงเข้าจับมือผู้เสียหายสะบัดหลุดจากมือ อ.ส่วนจำเลยที่ 2 เข้าจับอวัยวะเพศผู้เสียหายและกระชากสร้อยคอพาวิ่งหนีไป การที่จำเลยที่ 2 จับอวัยวะเพศผู้เสียหายไม่มีพฤติการณ์แสดงว่าได้คบคิดกับจำเลยที่ 1 มาก่อน การจับมือผู้เสียหายแสดงให้เห็นเจตนาเพียงให้โอกาสจำเลยที่ 2 กระชากสร้อยได้สะดวกเท่านั้นจำเลยที่ 1 ไม่มีความผิดฐานกระทำอนาจาร คงผิดฐานร่วมกันวิ่งราวทรัพย์เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2100/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิ่งราวทรัพย์ vs. ชิงทรัพย์: การใช้กำลังประทุษร้ายเป็นสาระสำคัญ
จำเลยรวบคอผู้เสียหายเพื่อให้รู้ว่าสวมสร้อยคออยู่ แล้วกระตุกสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง สร้อยบาดคอเป็นแผลไม่ถึงเป็นอันตรายแก่กาย ไม่เป็นชิงทรัพย์ เป็นการฉกฉวยเอาซึ่งหน้า มีความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์
of 9