คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 303

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 108 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 651/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่และการฟ้องแย้งขอโอนสิทธิเช่า/ค่าเสียหาย ศาลแขวงไม่มีอำนาจบังคับบัญชา
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าที่โจทก์เช่ามา จำเลยต่อสู้และฟ้องแย้งขอให้บังคับโจทก์โอนการเช่าห้องรายพิพาทให้จำเลยถ้าโอนไม่ได้ให้ใช้เงิน 3000 บาท เรื่องขอโอนการเช่านั้น เมื่อไม่ปรากฏในฟ้องแย้งว่า ผู้ให้เช่าได้ยินยอมด้วย ก็ไม่มีทางบังคับได้ส่วนทุนทรัพย์ 3000 บาทก็เกินอำนาจศาลแขวงที่จะรับไว้บังคับบัญชา ศาลแขวงย่อมสั่งไม่รับฟ้องแย้งดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 446/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิเรียกร้องในสัญญาประกันก่อสร้างและการยึดทรัพย์: สิทธิเรียกร้องตกเป็นของผู้รับโอนก่อนการอายัติ
จำเลยวางเงินจำนวนหนึ่งเป็นประกันในการรับเหมา ทำการปลูปสร้างตึกแถวให้แก่บุคคลหนึ่ง แล้วจำเลยได้โอนขายสิทธิเรียกร้องในการรับเงินรายนี้ให้แก่ผู้ร้องๆ ได้แจ้งการโอนสิทธิรายนี้แก่บุคคล - นั้นก่อนมีการอายัติเงินที่วางประกันดังกล่าวแล้ว สิทธิที่จะรับเงินวางประกันคืนก็ตกมาเป็นของผู้ร้องขาดจากการเป็นสิทธิ หรือทรัพย์สินของจำเลยแล้ว เจ้าหนี้ของจำเลยย่อมไม่มีสิทธิจะทำการยึดหรืออายัติได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 446/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิเรียกร้องเงินวางประกัน: สิทธิตกเป็นของผู้รับโอน เจ้าหนี้จำเลยไม่มีสิทธิอายัด
จำเลยวางเงินจำนวนหนึ่งเป็นประกันในการรับเหมา ทำการปลูกสร้างตึกแถวให้บุคคลหนึ่ง แล้วจำเลยได้โอนขายสิทธิเรียกร้องในการรับเงินรายนี้ให้แก่ผู้ร้อง ผู้ร้องได้แจ้งการโอนสิทธิรายนี้แก่บุคคลนั้นก่อนมีการอายัดเงินที่วางประกันดังกล่าวแล้ว สิทธิที่จะได้รับเงินวางประกันคืนก็ตกมาเป็นของผู้ร้องขาดจากการเป็นสิทธิหรือทรัพย์สินของจำเลยแล้ว เจ้าหนี้ของจำเลยย่อมไม่มีสิทธิจะทำการยึดหรืออายัดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 315/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนหนี้เพื่อชำระหนี้อื่น: ผลผูกพันต่อบุคคลภายนอก และสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้
เจ้าหนี้ยอมรับโอนหนี้ ที่ลูกหนี้ของตนเป็นเจ้าหนี้บุคคลอื่นอยู่เป็นส่วนหนึ่งในการชำระหนี้แก่ตนลูกหนี้ได้แจ้งการโอนไปยังบุคคลภายนอกผู้เป็นลูกหนี้อันเป็นการโอนที่ใช้ยันบุคคลภายนอกได้ด้วยแล้วย่อมถือได้ว่าเจ้าหนี้ได้รับโอนหนี้ไปจากลูกหนี้เสร็จเด็ดขาดแล้วเมื่อเจ้าหนี้ฟ้องเรียกเงินจำนวนนี้จากบุคคลภายนอกผู้เป็นลูกหนี้ไม่ได้เจ้าหนี้จะกลับมาฟ้องเรียกเงินจำนวนนี้จากลูกหนี้ของตนอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 961/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปลงหนี้และโอนสิทธิเรียกร้อง: ศาลต้องพิจารณาข้อเท็จจริงก่อนพิพากษา
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลย จำเลยต่อสู้ว่ากู้เงินโจทก์ตามที่ฟ้องจริง แต่ภายหลังยืม+โจทก์มาอีกจำนวนหนึ่ง แล้วตกลงทำสัญญากู้กันใหม่ โดยเอาจำนวนเงินที่กู้เดิมบวกกับราคาข้าวที่ยืมมาลงเงินเป็นจำนวนกู้ในสัญญากู้ใหม่นี้ และในสัญญากู้ใหม่นี้ตกลงกันให้ลงชื่อพ่อตาโจทก์เป็นผู้ให้กู้ จำเลยเป็นผู้กู้ แล้วจำเลยได้ชำระเงินเท่าจำนวนตามสัญญาใหม่ให้แก่พ่อตาโจทก์แล้วดังนี้เป็นเรื่องต่อสู้ว่าได้ตกลงแปลงหนี้ใหม่และโอนสิทธิเรียกร้องให้พ่อตาโจทก์ซึ่งถ้าเป็นจริงหนี้เดิมก็ระงับสิ้นไป จึ่งต้องให้จำเลยสืบตามข้อต่อสู้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 961/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปลงหนี้และโอนสิทธิเรียกร้อง: จำเลยต่อสู้ว่ามีการตกลงแปลงหนี้เดิมเป็นหนี้ใหม่และโอนสิทธิเรียกร้องให้พ่อตาโจทก์
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลย จำเลยต่อสู้ว่ากู้เงินโจทก์ตามที่ฟ้องจริง แต่ภายหลังยืมข้าวโจทก์มาอีกจำนวนหนึ่ง แล้วตกลงทำสัญญากู้กันใหม่ โดยเอาจำนวนเงินที่กู้เดิมบวกกับราคาข้าวที่ยืมมาลงเงินเป็นจำนวนกู้ในสัญญากู้ใหม่นี้ และในสัญญากู้ใหม่นี้ตกลงกันให้ลงชื่อพ่อตาโจทก์เป็นผู้ให้กู้ จำเลยเป็นผู้กู้ แล้วจำเลยได้ชำระเงินเท่าจำนวนตามสัญญาใหม่ให้แก่พ่อตาโจทก์แล้ว โจทก์กับพ่อตาสมคบกันเอาสัญญากู้ฉบับเก่ามาฟ้องดังนี้เป็นเรื่องต่อสู้ว่าได้ตกลงแปลงหนี้ใหม่และโอนสิทธิเรียกร้องให้พ่อตาโจทก์ซึ่งถ้าเป็นจริงหนี้เดิมก็ระงับสิ้นไปได้จึงต้องให้จำเลยสืบตามข้อต่อสู้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1553/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สินสมรสและการบอกล้างหนี้: สามีมิอาจเรียกเงินคืนจากจำเลยได้ หากไม่ยินยอมการยืม
ภรรยาไปยืนเงินของโจทก์มาวางมัดจำซื้อที่ดินของจำเลย โดยสามีไม่ได้รู้เห็นยินยอมด้วย กับทั้งยังปฏิเสธหรือบอกล้างการยืมนั้นเสียด้วย ดังนี้ สามีจะกลับมาถือว่าเงินที่ภรรยายืมโจทก์มานั้นยังเป็นสินบริคณห์อยู่ เพื่อเรียกคืนจากจำเลยไม่ได้ และเมื่อสามีไม่มีสิทธิเรียกร้องคืนจากจำเลย โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องจากสามี ก็ย่อมไม่มีสิทธิดีไปกว่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1553/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สินสมรสและการบอกล้างหนี้: สิทธิเรียกร้องคืนเงินมัดจำเมื่อสามีไม่ยินยอม
ภรรยาไปยืมเงินของโจทก์มาวางมัดจำซื้อที่ดินของจำเลยโดยสามีไม่ได้รู้เห็นยินยอมด้วย กับทั้งยังปฏิเสธหรือบอกล้างการยืมนั้นเสียด้วย ดังนี้ สามีจะกลับมาถือว่าเงินที่ภรรยายืมโจทก์มานั้นยังเป็นสินบริคณห์อยู่ เพื่อเรียกคืนจากจำเลยไม่ได้ และเมื่อสามีไม่มีสิทธิเรียกร้องคืนจากจำเลย โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องจากสามี ก็ย่อมไม่มีสิทธิดีไปกว่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิการเช่า: สัญญาผูกพันแม้เจ้าของทรัพย์ไม่ยินยอม, สัญญาเดิมยังใช้ได้แม้มีสัญญาใหม่
โจทก์ได้เช่าตึกแถวจากเจ้าของทรัพย์ แล้วโจทก์ทำสัญญาโอนการเช่าให้จำเลยดังนี้ โจทก์ต้องถูกผูกพันตามสัญญานั้น แม้เจ้าของทรัพย์ที่เช่าจะมิได้รู้เห็นยินยอมด้วย ก็หามีผลกระทบกระเทือนถึงสัญญาที่ผูกพันอยู่ระหว่างโจทก์จำเลยไม่ และแม้ต่อมาโจทก์จะไปทำสัญญาเช่าใหม่กับเจ้าทรัพย์ ก็ไม่เป็นเหตุให้สิ้นความผูกพันตามสัญญาที่ทำไว้ต่อจำเลย โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย
ทำสัญญาโดยการเช่าเมื่อผู้รับโอนมาขอให้บังคับผู้โอนทำการโอนการเช่า ศาลฎีกาถือว่าสภาพแห่งหนี้ไม่สมควรแก่การบังคับให้โอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาโอนการเช่ามีผลผูกพัน แม้เจ้าของทรัพย์ไม่ยินยอม ผู้โอนไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่
โจทก์ได้เช่าตึกแถวจากเจ้าของทรัพย์ แล้วโจทก์ทำสัญญาโอนการเช่าให้จำเลย ดังนี้ โจทก์ต้องถูกผูกพันตามสัญญานั้น แม้เจ้าของทรัพย์ที่เช่าจะมิได้รู้เห็นยินยอมด้วย ก็หามีผลกระทบกระเทือนถึงสัญญาที่ผูกพันอยู่ระหว่างโจทก์จำเลยไม่ และแม้ต่อมาโจทก์จะไปทำสัญญาเช่าใหม่กับเจ้าของทรัพย์ ก็ไม่เป็นเหตุให้สิ้นความผูกพันตามสัญญาที่ทำไว้ต่อจำเลยโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย
ทำสัญญาโอนการเช่าเมื่อผู้รับโอนมาขอให้บังคับผู้โอนทำการโอนการเช่า ศาลฎีกาถือว่าสภาพแห่งหนี้ไม่สมควรแก่การบังคับให้โอน
of 11