พบผลลัพธ์ทั้งหมด 476 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1750/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความจำเป็นในการกระทำผิด: จำเลยถูกข่มขู่บังคับ ช่วยเหลือคนร้ายเพื่อความปลอดภัยของตนเอง จึงไม่มีความผิด
จำเลยถูกคนร้ายที่มีสมัครพรรคพวกหลายคนแต่ละคนมีอาวุธปืนครบมือ ใช้ปืนจี้ขู่บังคับให้เอาเรือรับส่งข้ามฟากเพื่อช่วยคนร้ายให้พ้นจากการจับกุม ดังนี้ เป็นการที่จำเลยกระทำไปเพราะอยู่ในที่บังคับหรือภายใต้อำนาจซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงขัดขืนได้ จึงเป็นการกระทำความผิดด้วยความจำเป็น จำเลยไม่ต้องรับโทษ
เมื่อปรากฏว่าจำเลยกระทำความผิดด้วยความจำเป็นไม่ต้องรับโทษแม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาให้เป็นคุณแก่จำเลยได้
เมื่อปรากฏว่าจำเลยกระทำความผิดด้วยความจำเป็นไม่ต้องรับโทษแม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาให้เป็นคุณแก่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1750/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความจำเป็นในการกระทำความผิด: จำเลยถูกขู่บังคับช่วยเหลือคนร้ายภายใต้สถานการณ์คับขัน จึงไม่มีความผิด
จำเลยถูกคนร้ายที่มีสมัครพรรคพวกหลายคนแต่ละคนมีอาวุธปืนครบมือ ใช้ปืนจี้ขู่บังคับให้เอาเรือรับส่งข้ามฟากเพื่อช่วยคนร้ายให้พ้นจากการจับกุม ดังนี้ เป็นการที่จำเลยกระทำไปเพราะอยู่ในที่บังคับหรือภายใต้อำนาจซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงขัดขืนได้ จึงเป็นการกระทำความผิดด้วย ความจำเป็น จำเลยไม่ต้องรับโทษ
เมื่อปรากฏว่าจำเลยกระทำความผิดด้วยความจำเป็น ไม่ต้องรับโทษแม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาให้เป็นคุณแก่จำเลยได้
เมื่อปรากฏว่าจำเลยกระทำความผิดด้วยความจำเป็น ไม่ต้องรับโทษแม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาให้เป็นคุณแก่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1396/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวตามสมควรแก่เหตุ: ศาลฎีกายกฟ้องฐานพยายามฆ่า แม้โจทก์อุทธรณ์
การปรับบทว่าคดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหรือไม่นั้นชอบที่จะต้องพิจารณาในฐานความผิดเป็นกระทงไป ศาลชั้นต้นลงโทษเรียงกระทงความผิดมาศาลอุทธรณ์แก้ในกระทงความผิดกระทงหนึ่งแม้จะเป็นแก้มาก เมื่อศาลอุทธรณ์ยังลงโทษจำคุกในกระทงความผิดที่แก้ไม่เกิน 1 ปี จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
เกิดโต้เถียงกันก่อนแล้วผู้เสียหายใช้จอบตีถูกจำเลยเซไปผู้เสียหายใช้จอบฟันซ้ำอีก 1 ที จำเลยล้มพอลุกขึ้นนั่งได้พวกผู้เสียหายต่างถือขวานและมีดจะมาช่วยผู้เสียหาย จำเลยจึงใช้ปืนพกลูกซองสั้นยิงผู้เสียหายไป 1 นัด แล้ววิ่งหนีไปแจ้งความดังนี้เป็นการที่จำเลยยิงผู้เสียหายในเวลากระทันหันที่เหตุการณ์กำลังพัวพันกันอยู่และภยันตรายซึ่งเกิดขึ้นเฉพาะหน้ายังไม่หมดไปการกระทำของจำเลยจึงเป็นป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
ทางพิจารณาการกระทำของจำเลยเป็นป้องกันพอสมควรแก่เหตุแม้จำเลยจะไม่ฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษายกฟ้องโจทก์ได้
เกิดโต้เถียงกันก่อนแล้วผู้เสียหายใช้จอบตีถูกจำเลยเซไปผู้เสียหายใช้จอบฟันซ้ำอีก 1 ที จำเลยล้มพอลุกขึ้นนั่งได้พวกผู้เสียหายต่างถือขวานและมีดจะมาช่วยผู้เสียหาย จำเลยจึงใช้ปืนพกลูกซองสั้นยิงผู้เสียหายไป 1 นัด แล้ววิ่งหนีไปแจ้งความดังนี้เป็นการที่จำเลยยิงผู้เสียหายในเวลากระทันหันที่เหตุการณ์กำลังพัวพันกันอยู่และภยันตรายซึ่งเกิดขึ้นเฉพาะหน้ายังไม่หมดไปการกระทำของจำเลยจึงเป็นป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
ทางพิจารณาการกระทำของจำเลยเป็นป้องกันพอสมควรแก่เหตุแม้จำเลยจะไม่ฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษายกฟ้องโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1396/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวตามสมควรแก่เหตุและการยกฟ้องในคดีพยายามฆ่า
การปรับบทว่าคดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหรือไม่นั้นชอบที่จะต้องพิจารณาในฐานความผิดเป็นกระทงไป ศาลชั้นต้นลงโทษเรียงกระทงความผิดมาศาลอุทธรณ์แก้ในกระทงความผิดกระทงหนึ่ง แม้จะเป็นแก้มาก เมื่อศาลอุทธรณ์ยังลงโทษจำคุกในกระทงความผิดที่แก้ไม่เกิน 1 ปี จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
เกิดโต้เถียงกันก่อนแล้วผู้เสียหายใช้จอบตีถูกจำเลยเซไปผู้เสียหายใช้จอบฟันซ้ำอีก 1 ที จำเลยล้ม พอลุกขึ้นนั่งได้ พวกผู้เสียหายต่างถือขวานและมีดจะมาช่วยผู้เสียหาย จำเลยจึงใช้ปืนพกลูกซองสั้นยิงผู้เสียหายไป 1 นัดแล้ววิ่งหนีไปแจ้งความดังนี้เป็นการที่จำเลยยิงผู้เสียหายในเวลากระทันหันที่เหตุการณ์กำลังพัวพันกันอยู่และภยันตรายซึ่งเกิดขึ้นเฉพาะหน้ายังไม่หมดไปการกระทำของจำเลยจึงเป็นป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
ทางพิจารณาการกระทำของจำเลยเป็นป้องกันพอสมควรแก่เหตุแม้จำเลยจะไม่ฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษายกฟ้องโจทก์ได้
เกิดโต้เถียงกันก่อนแล้วผู้เสียหายใช้จอบตีถูกจำเลยเซไปผู้เสียหายใช้จอบฟันซ้ำอีก 1 ที จำเลยล้ม พอลุกขึ้นนั่งได้ พวกผู้เสียหายต่างถือขวานและมีดจะมาช่วยผู้เสียหาย จำเลยจึงใช้ปืนพกลูกซองสั้นยิงผู้เสียหายไป 1 นัดแล้ววิ่งหนีไปแจ้งความดังนี้เป็นการที่จำเลยยิงผู้เสียหายในเวลากระทันหันที่เหตุการณ์กำลังพัวพันกันอยู่และภยันตรายซึ่งเกิดขึ้นเฉพาะหน้ายังไม่หมดไปการกระทำของจำเลยจึงเป็นป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
ทางพิจารณาการกระทำของจำเลยเป็นป้องกันพอสมควรแก่เหตุแม้จำเลยจะไม่ฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษายกฟ้องโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 775/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์ในการไม่อนุญาตถอนฟ้องอุทธรณ์ และความรับผิดทางอาญาจากการขับรถประมาท
การถอนฟ้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะอนุญาตหรือไม่อนุญาตนั้น เป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ที่จะทำ
จำเลยขับรถเร็วโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังเป็นเหตุให้ชนผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291
จำเลยขับรถเร็วโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังเป็นเหตุให้ชนผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 775/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์ในการไม่อนุญาตถอนฟ้องอุทธรณ์ และความรับผิดทางอาญาจากการขับรถประมาท
การถอนฟ้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะอนุญาตหรือไม่อนุญาตนั้นเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ที่จะทำ
จำเลยขับรถเร็วโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังเป็นเหตุให้ชนผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291
จำเลยขับรถเร็วโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังเป็นเหตุให้ชนผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1244/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดำเนินคดีอาญาแผ่นดินเมื่อโจทก์ถึงแก่กรรม: ศาลฎีกาสามารถพิจารณาพิพากษาต่อไปได้
คดีความผิดอาญาแผ่นดินที่ราษฎรเป็นโจทก์จำเลยฎีกา ส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์ไม่ได้ เพราะโจทก์ถึงแก่กรรม นั้น ก็ไม่เป็นเหตุขัดข้องแก่การดำเนินคดีต่อไป ถือได้ว่า โจทก์ไ+ฟ้องร้องแทนแผ่นดิน ฉะนั้น ศาลฎีกาจึงทำการพิจารณาพิพากษาต่อไปได้
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 13/2504
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 13/2504
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1244/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาแผ่นดิน แม้โจทก์ถึงแก่กรรม ก็ไม่กระทบต่อการดำเนินคดีได้
คดีความผิดอาญาแผ่นดินที่ราษฎรเป็นโจทก์ จำเลยฎีกา ส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์ไม่ได้ เพราะโจทก์ถึงแก่กรรม นั้นก็ไม่เป็นเหตุขัดข้องแก่การดำเนินคดีต่อไป ถือได้ว่าโจทก์ได้ฟ้องร้องแทนแผ่นดิน ฉะนั้น ศาลฎีกาจึงทำการพิจารณาพิพากษาต่อไปได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 13/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 99/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
องค์คณะผู้พิพากษาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นโมฆะ
ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์นั่งฟังแถลงการณ์ 3 นาย แล้วลงชื่อพิพากษา 2 นาย กับมีผู้พิพากษาที่มีได้นั่งฟังแถลงการณืและมิใช่อธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ร่วมลงชื่อด้วยอีก 1 นายทำให้คำพิพากษานั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ชอบที่ศาลฎีกาจะยกเสียและให้พิพากษาใหม่
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 29/2503 และอ้างฎีกาที่ 1205/2473
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 29/2503 และอ้างฎีกาที่ 1205/2473
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา การป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ และอำนาจศาลในการวินิจฉัย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาแม้จำเลยให้การรับสารภาพ หากทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยได้กระทำการป้องกันตนเองศาลก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยให้เป็นผลดีแก่จำเลยได้
จำเลยไปทวงเงินที่ผู้ตายเป็นหนี้อยู่ผู้ตายกลับต่อยจำเลยและติดตามเข้าไปทำร้ายซ้ำเติมอีกจำเลยอายุเพียง 19 ปี รูปร่างเล็กและเตี้ยกว่าผู้ตายไม่มีทางสู้แรงปะทะของผู้ตายได้จึงใช้มีดแทงไป 1 ที บังเอิญมีดไปถูกที่สำคัญเข้า ผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
จำเลยไปทวงเงินที่ผู้ตายเป็นหนี้อยู่ผู้ตายกลับต่อยจำเลยและติดตามเข้าไปทำร้ายซ้ำเติมอีกจำเลยอายุเพียง 19 ปี รูปร่างเล็กและเตี้ยกว่าผู้ตายไม่มีทางสู้แรงปะทะของผู้ตายได้จึงใช้มีดแทงไป 1 ที บังเอิญมีดไปถูกที่สำคัญเข้า ผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ