พบผลลัพธ์ทั้งหมด 121 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2446-2447/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางละเมิดจากการชนคานเรือใต้ผิวน้ำ ทำให้เรือเสียหายและขาดประโยชน์จากการใช้งาน
อู่ซ่อมเรืออยู่ติดกับท่าเทียบเรือที่ริมทะเลสาบ มีเสาปักอยู่ห่างจากตลิ่งราว 23 เมตร ตรงเขตติดต่ออู่ซ่อมเรือนี้มีรางเหล็ก3 รางวางเรียบขนานกันบนไม้หมอนจากอู่เรือถึงริมตลิ่งและต่อเรื่อยลงไปตามพื้นดินในทะเลสาบอีกประมาณ 30 เมตรใช้เป็นรางสำหรับวางสาลี่นำเรือขึ้นลงอู่ ปากทางเข้าอู่อีกด้านหนึ่งก็ปักเสาติดเครื่องหมายอู่เรือห่างตลิ่งราว 15 เมตรโจทก์นำเรือยนต์จับปลาขึ้นซ่อมในอู่ซ่อมเรือนี้ ขณะที่เรือของโจทก์ยังอยู่บนคานซ่อมจำเลยเป็นนายเรือผู้ควบคุมเรือยนต์เดินทะเลรู้อยู่แล้วว่ารางเหล็กคานเรือของอู่ซ่อมเรือนั้นทอดลึกลงไปในทะเลสาบด้วย จะนำเรือเข้าเทียบท่าเทียบเรือได้ถือท้ายล้ำเข้าไปในเขตอู่ซ่อมเรือ ท้องเรือจึงชนเกยขึ้นไปบนรางเหล็กท่อนกลางทำให้รางคดงอเคลื่อนหลุดจากไม้หมอน ไม้หมอนฉีกแตกใช้สาลี่ลงตามรางไม่ได้ต้องเสียเวลาซ่อมเปลี่ยนราง เป็นเหตุให้เรือของโจทก์ต้องค้างอยู่บนอู่ พฤติการณ์ของจำเลยดังนี้ถือว่าเป็นความประมาทจำเลยจะอ้างเหตุว่าเป็นเพราะรางเหล็กคานเรือรุกล้ำทางสาธารณะทั้งที่จำเลยรู้อยู่แล้วหาได้ไม่ และเมื่อเรือโจทก์ซ่อมเสร็จแล้วนำลงจากอู่ไม่ได้เพราะรางเหล็กที่จะบรรทุกสาลี่ชำรุดจากผลการกระทำโดยประมาทของจำเลย ต้องตกค้างอยู่จนกว่าจะซ่อมเปลี่ยนรางเสร็จทำให้โจทก์ขาดรายได้จากการออกเรือจับสัตว์น้ำในระยะเวลานั้นความเสียหายของโจทก์จึงเป็นผลและสัมพันธ์กับการละเมิดของจำเลยโดยตรง จำเลยจึงต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ และหนี้นี้เกิดแต่มูลละเมิด โจทก์หาต้องบอกกล่าวทวงถามล่วงหน้าไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2759/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของนายจ้างและผู้รับประกันภัยในกรณีละเมิด: การคิดดอกเบี้ยค่าสินไหมทดแทน
นายจ้างผู้ร่วมรับผิดกับลูกจ้างในกรณีละเมิดจะต้องเสียดอกเบี้ยค่าสินไหมทดแทนนับแต่วันละเมิดเช่นเดียวกับลูกจ้างผู้กระทำละเมิด
ผู้รับประกันวินาศภัยซึ่งเข้ารับช่วงสิทธิโดยได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยซึ่งถูกกระทำละเมิดไป แล้วย่อมมีสิทธิขอให้คิดดอกเบี้ยในเงินจำนวนดังกล่าวจากผู้ละเมิดนับแต่วันที่ได้จ่ายเงินจำนวนนั้นไป จะขอให้คิดดอกเบี้ยนับแต่วันละเมิดไม่ได้
ผู้รับประกันวินาศภัยซึ่งเข้ารับช่วงสิทธิโดยได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยซึ่งถูกกระทำละเมิดไป แล้วย่อมมีสิทธิขอให้คิดดอกเบี้ยในเงินจำนวนดังกล่าวจากผู้ละเมิดนับแต่วันที่ได้จ่ายเงินจำนวนนั้นไป จะขอให้คิดดอกเบี้ยนับแต่วันละเมิดไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2759/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างลูกจ้างร่วมรับผิดละเมิด, ผู้รับประกันภัยรับช่วงสิทธิ: ดอกเบี้ยค่าสินไหมทดแทนเริ่มต้นต่างกัน
นายจ้างผู้ร่วมรับผิดกับลูกจ้างในกรณีละเมิดจะต้องเสียดอกเบี้ยค่าสินไหมทดแทนนับแต่วันละเมิดเช่นเดียวกับลูกจ้างผู้กระทำละเมิด
ผู้รับประกันวินาศภัยซึ่งเข้ารับช่วงสิทธิโดยได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยซึ่งถูกกระทำละเมิดไปแล้วย่อมมีสิทธิขอให้คิดดอกเบี้ยในเงินจำนวนดังกล่าวจากผู้ละเมิดนับแต่วันที่ได้จ่ายเงินจำนวนนั้นไป จะขอให้คิดดอกเบี้ยนับแต่วันละเมิดไม่ได้
ผู้รับประกันวินาศภัยซึ่งเข้ารับช่วงสิทธิโดยได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยซึ่งถูกกระทำละเมิดไปแล้วย่อมมีสิทธิขอให้คิดดอกเบี้ยในเงินจำนวนดังกล่าวจากผู้ละเมิดนับแต่วันที่ได้จ่ายเงินจำนวนนั้นไป จะขอให้คิดดอกเบี้ยนับแต่วันละเมิดไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2361/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าสินไหมทดแทนกรณีละเมิด: การคำนวณค่าเสียหายและดอกเบี้ยนับแต่วันเกิดเหตุ
จำเลยทำละเมิดเป็นเหตุให้ภริยาโจทก์ถึงแก่ความตายโจทก์นำสืบฟังได้ว่าเมื่อครั้งภริยาโจทก์มีชีวิตอยู่เป็นแม่บ้านจัดการบ้านเรือนด้วยตนเอง เมื่อภริยาโจทก์ถึงแก่กรรมโจทก์ต้องจ้างคนทำงานแทน 2 คนโดยทำหน้าที่ซักผ้า ตักน้ำ ถางหญ้า คนหนึ่งทำครัวกวาดถู-บ้านอีกคนหนึ่ง ดังนี้ โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนในกรณีนี้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 วรรค3 ประกอบด้วย มาตรา 1453
การที่ศาลกำหนดจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนให้จำเลยชดใช้นั้นมิใช่ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายตั้งแต่วันพิพากษา ศาลเป็นแต่กำหนดค่าเสียหายที่โจทก์ได้รับความเสียหายมาแล้วตั้งแต่วันทำละเมิดและ กฎหมายก็บัญญัติให้ถือว่า จำเลยผิดนัดตั้งแต่วันทำละเมิดจึงต้องเสียดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่จะต้องชดใช้ตั้งแต่วันทำละเมิดการที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินก้อน แม้จะขอค่าเสียหายที่คำนวณในอนาคตเข้ามาด้วย จำเลยก็จะต้องเสียดอกเบี้ยนับแต่วันละเมิด
(วรรค 2 วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 21/2514)
การที่ศาลกำหนดจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนให้จำเลยชดใช้นั้นมิใช่ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายตั้งแต่วันพิพากษา ศาลเป็นแต่กำหนดค่าเสียหายที่โจทก์ได้รับความเสียหายมาแล้วตั้งแต่วันทำละเมิดและ กฎหมายก็บัญญัติให้ถือว่า จำเลยผิดนัดตั้งแต่วันทำละเมิดจึงต้องเสียดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่จะต้องชดใช้ตั้งแต่วันทำละเมิดการที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินก้อน แม้จะขอค่าเสียหายที่คำนวณในอนาคตเข้ามาด้วย จำเลยก็จะต้องเสียดอกเบี้ยนับแต่วันละเมิด
(วรรค 2 วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 21/2514)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2361/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าสินไหมทดแทนกรณีละเมิด: การคำนวณดอกเบี้ยนับแต่วันเกิดละเมิด และการชดเชยค่าแรงงานในครัวเรือน
จำเลยทำละเมิดเป็นเหตุให้ภริยาโจทก์ถึงแก่ความตายโจทก์นำสืบฟังได้ว่าเมื่อครั้งภริยาโจทก์มีชีวิตอยู่เป็นแม่บ้านจัดการบ้านเรือนด้วยตนเอง เมื่อภริยาโจทก์ถึงแก่กรรมโจทก์ต้องจ้างคนทำงานแทน 2 คนโดยทำหน้าที่ซักผ้า ตักน้ำ ถางหญ้า คนหนึ่ง ทำครัวกวาดถู-บ้านอีกคนหนึ่ง ดังนี้ โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนในกรณีนี้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 วรรค3 ประกอบด้วย มาตรา 1453
การที่ศาลกำหนดจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนให้จำเลยชดใช้นั้นมิใช่ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายตั้งแต่วันพิพากษา ศาลเป็นแต่กำหนดค่าเสียหายที่โจทก์ได้รับความเสียหายมาแล้วตั้งแต่วันทำละเมิดและ กฎหมายก็บัญญัติให้ถือว่า จำเลยผิดนัดตั้งแต่วันทำละเมิดจึงต้องเสียดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่จะต้องชดใช้ตั้งแต่วันทำละเมิด การที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินก้อน แม้จะขอค่าเสียหายที่คำนวณในอนาคตเข้ามาด้วย จำเลยก็จะต้องเสียดอกเบี้ยนับแต่วันละเมิด
(วรรค 2 วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 21/2514)
การที่ศาลกำหนดจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนให้จำเลยชดใช้นั้นมิใช่ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายตั้งแต่วันพิพากษา ศาลเป็นแต่กำหนดค่าเสียหายที่โจทก์ได้รับความเสียหายมาแล้วตั้งแต่วันทำละเมิดและ กฎหมายก็บัญญัติให้ถือว่า จำเลยผิดนัดตั้งแต่วันทำละเมิดจึงต้องเสียดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่จะต้องชดใช้ตั้งแต่วันทำละเมิด การที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินก้อน แม้จะขอค่าเสียหายที่คำนวณในอนาคตเข้ามาด้วย จำเลยก็จะต้องเสียดอกเบี้ยนับแต่วันละเมิด
(วรรค 2 วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 21/2514)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 884/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของนายจ้างต่อละเมิดของลูกจ้าง, กรรมสิทธิ์รถยนต์, ค่ารักษาพยาบาลซ้ำซ้อน
การฟ้องนายจ้างให้ร่วมรับผิดในผลแห่งการละเมิดที่ลูกจ้างได้กระทำไปในทางการที่จ้าง ไม่จำต้องบอกกล่าวนายจ้างก่อนเพราะถือได้ว่าผิดนัดมาตั้งแต่วันละเมิดแล้ว
ผู้ซื้อรถจักรยานยนต์จากผู้ขายโดยชำระราคาเพียงครึ่งหนึ่งที่เหลือจะชำระเมื่อไรก็ได้ และผู้ขายจะโอนทะเบียนเป็นชื่อผู้ซื้อเมื่อชำระราคาให้ครบแล้ว ดังนี้ กรรมสิทธิ์ในรถได้โอนเป็นของผู้ซื้อแล้ว เมื่อมีผู้ทำละเมิดให้รถจักรยานยนต์เสียหาย ผู้ซื้อมีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายได้
ข้าราชการผู้มีสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลจากทางราชการ และเบิกไปแล้ว จะฟ้องเรียกค่ารักษาพยาบาลจากผู้กระทำละเมิดอีกไม่ได้
ผู้ซื้อรถจักรยานยนต์จากผู้ขายโดยชำระราคาเพียงครึ่งหนึ่งที่เหลือจะชำระเมื่อไรก็ได้ และผู้ขายจะโอนทะเบียนเป็นชื่อผู้ซื้อเมื่อชำระราคาให้ครบแล้ว ดังนี้ กรรมสิทธิ์ในรถได้โอนเป็นของผู้ซื้อแล้ว เมื่อมีผู้ทำละเมิดให้รถจักรยานยนต์เสียหาย ผู้ซื้อมีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายได้
ข้าราชการผู้มีสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลจากทางราชการ และเบิกไปแล้ว จะฟ้องเรียกค่ารักษาพยาบาลจากผู้กระทำละเมิดอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1304/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกเบี้ยหนี้มูลละเมิด: คำนวณดอกเบี้ยจากวันละเมิด/วันฟ้อง และคิดดอกเบี้ยรายเดือนเมื่อผิดนัด
หนี้อันเกิดแต่มูลละเมิดนั้น ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัดมาแต่เวลาที่ทำละเมิดเป็นต้นไป ฉะนั้น ค่าเสียหายคำนวณเป็นเงินก้อนจากวันละเมิดจนถึงวันฟ้อง จึงต้องคิดดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดให้ตั้งแต่วันละเมิดแต่ถ้าคำขอท้ายฟ้องโจทก์ระบุมาไม่ชัดแจ้งว่า ให้จำเลยชำระตั้งแต่วันใดศาลอาจให้ดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องก็ได้
ส่วนค่าเสียหายที่โจทก์ขอให้ชำระเป็นรายเดือนนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะหยุดทำละเมิดนั้น หลักการคิดดอกเบี้ยไม่เหมือนกับการคำนวณค่าเสียหายเป็นเงินก้อนเดียวดังกรณีข้างต้น ในกรณีเช่นนี้ถ้าจำเลยผิดนัด ไม่ชำระในเดือนใด ก็ให้คิดดอกเบี้ยแต่เดือนที่ผิดนัดนั้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
ส่วนค่าเสียหายที่โจทก์ขอให้ชำระเป็นรายเดือนนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะหยุดทำละเมิดนั้น หลักการคิดดอกเบี้ยไม่เหมือนกับการคำนวณค่าเสียหายเป็นเงินก้อนเดียวดังกรณีข้างต้น ในกรณีเช่นนี้ถ้าจำเลยผิดนัด ไม่ชำระในเดือนใด ก็ให้คิดดอกเบี้ยแต่เดือนที่ผิดนัดนั้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1304/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้มูลละเมิด: การคำนวณดอกเบี้ยจากวันละเมิด/วันฟ้อง และการคิดดอกเบี้ยรายเดือน
หนี้อันเกิดแต่มูลละเมิดนั้น ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัดมาแต่เวลาที่ทำละเมิดเป็นต้นไป ฉะนั้น ค่าเสียหายคำนวณเป็นเงินก้อนจากวันละเมิดจนถึงวันฟ้อง จึงต้องคิดดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดให้ตั้งแต่วันละเมิดแต่ถ้าคำขอท้ายฟ้องโจทก์ระบุมาไม่ชัดแจ้งว่า ให้จำเลยชำระตั้งแต่วันใดศาลอาจให้ดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องก็ได้
ส่วนค่าเสียหายที่โจทก์ขอให้ชำระเป็นรายเดือนนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะหยุดทำละเมิดนั้น หลักการคิดดอกเบี้ยไม่เหมือนกับการคำนวณค่าเสียหายเป็นเงินก้อนเดียวดังกรณีข้างต้น ในกรณีเช่นนี้ถ้าจำเลยผิดนัด ไม่ชำระในเดือนใด ก็ให้คิดดอกเบี้ยแต่เดือนที่ผิดนัดนั้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
ส่วนค่าเสียหายที่โจทก์ขอให้ชำระเป็นรายเดือนนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะหยุดทำละเมิดนั้น หลักการคิดดอกเบี้ยไม่เหมือนกับการคำนวณค่าเสียหายเป็นเงินก้อนเดียวดังกรณีข้างต้น ในกรณีเช่นนี้ถ้าจำเลยผิดนัด ไม่ชำระในเดือนใด ก็ให้คิดดอกเบี้ยแต่เดือนที่ผิดนัดนั้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1382/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างต้องรับผิดในละเมิดของลูกจ้างเมื่อขับรถตามหน้าที่ แม้จะนอกเส้นทางตามคำสั่ง
ลูกจ้างขับรถประจำทางจากอู่เพื่อไปยังจุดต้นทางโดยเส้นทางที่ผิดไปจากเส้นทางที่นายจ้างมีคำสั่งไว้ให้ปฏิบัติ เมื่อขับด้วยความประมาทผู้อื่นบาดเจ็บ นายจ้างจะต้องร่วมรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนด้วย เพราะการที่ลูกจ้างขับรถเพื่อไปยังจุดต้นทางตามหน้าที่นั้น เป็นการที่กระทำไปในทางการที่จ้างแล้ว ส่วนคำสั่งดังกล่าวเป็นเรื่องภายในระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง
โจทก์มีรายได้เดือนละ 600 บาท เมื่อถูกจำเลยกระทำละเมิดแล้วไม่สามารถประกอบอาชีพได้เช่นปกติ ฟ้องเรียกค่าเสียหายในอนาคต 10 ปี เป็นเงิน 72,000 บาท เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายจำนวนหนึ่งเป็นจำนวนแน่นอนแล้ว ย่อมให้คิดดอกเบี้ยในเงินจำนวนนี้นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นพิพากษา
โจทก์มีรายได้เดือนละ 600 บาท เมื่อถูกจำเลยกระทำละเมิดแล้วไม่สามารถประกอบอาชีพได้เช่นปกติ ฟ้องเรียกค่าเสียหายในอนาคต 10 ปี เป็นเงิน 72,000 บาท เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายจำนวนหนึ่งเป็นจำนวนแน่นอนแล้ว ย่อมให้คิดดอกเบี้ยในเงินจำนวนนี้นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นพิพากษา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1382/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างที่ขับรถประมาท แม้ลูกจ้างขับรถผิดเส้นทาง แต่ยังอยู่ในทางการที่จ้าง
ลูกจ้างขับรถประจำทางจากอู่เพื่อไปยังจุดต้นทางโดยเส้นทางที่ผิดไปจากเส้นทางที่นายจ้างมีคำสั่งไว้ให้ปฏิบัติ เมื่อขับด้วยความประมาทชนผู้อื่นบาดเจ็บ นายจ้างจะต้องร่วมรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนด้วย เพราะการที่ลูกจ้างขับรถเพื่อไปยังจุดต้นทางตามหน้าที่นั้นเป็นการที่กระทำไปในทางการที่จ้างแล้ว ส่วนคำสั่งดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องภายในระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง
โจทก์มีรายได้เดือนละ 600 บาท เมื่อถูกจำเลยกระทำละเมิดแล้วไม่สามารถประกอบอาชีพได้เช่นปกติ ฟ้องเรียกค่าเสียหายในอนาคต 10 ปีเป็นเงิน 72,000 บาท เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายจำนวนหนึ่งเป็นจำนวนแน่นอนแล้ว ย่อมให้คิดดอกเบี้ยในเงินจำนวนนี้นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นพิพากษา
โจทก์มีรายได้เดือนละ 600 บาท เมื่อถูกจำเลยกระทำละเมิดแล้วไม่สามารถประกอบอาชีพได้เช่นปกติ ฟ้องเรียกค่าเสียหายในอนาคต 10 ปีเป็นเงิน 72,000 บาท เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายจำนวนหนึ่งเป็นจำนวนแน่นอนแล้ว ย่อมให้คิดดอกเบี้ยในเงินจำนวนนี้นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นพิพากษา