คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 206

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 121 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1169-1170/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดจากการชนรถยนต์ หลักการสันนิษฐานผู้ผิด และขอบเขตความรับผิดของนายจ้าง
การที่รถยนต์จำเลยแล่นเข้าไปชนรถยนต์โจทก์ทางด้านขวาของถนน เบื้องต้นศาลสันนิษฐานตามกฎหมายว่ารถยนต์จำเลยเป็นผู้ผิด จำเลยมีหน้าที่ต้องนำสืบหักล้างว่าจำเลยมิใช่เป็นผู้ผิด เมื่อนายจ้างจะต้องรับผิดร่วมกับจำเลย นายจ้างจึงต้องมีหน้าที่นำสืบหักล้าง ถ้านำสืบหักล้างไม่ได้ ก็ไม่จำต้องอาศัยคำพยานโจทก์มาวินิจฉัยว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดอีก การที่จำเลยแล่นรถทางขวาของถนนเพื่อจะหลีกขึ้นหน้าโดยคาดหรือเดาเอาว่ารถโจทก์จะเลี้ยวทางซ้ายนั้น เป็นการเสี่ยงภัยของตนเองมิใช่หลบหลีกให้พ้นอันตราย จึงไม่อาจลบล้างข้อสันนิษฐานที่ว่ารถจำเลยเป็นผู้ผิดได้ การที่จำเลยเสี่ยงภัยเช่นนี้ และเหตุที่รถชนกันก็เพราะรถจำเลยแล่นผิดทาง จำเลยจึงเป็นฝ่ายผิด
จำเลยที่ 1 เป็นหัวหน้าหมวดขนส่ง มีหน้าที่ควบคุมการจ่ายรถ ซ่อมรถของโรงงานซึ่งจำเลยที่ 2 เป็นนายจ้าง การที่จำเลยที่ 1 เอารถไปลองเครื่องจึงเป็นการกระทำในกิจการงานของโรงงาน เป็นทางการที่จ้าง
การทำงานในวันหยุดหรือทำงานนอกเวลาทำงานตามปกติ หากงานที่ทำเป็นกิจการของนายจ้าง ก็คงเป็นการงานในทางการที่จ้างนั่นเอง หาได้กลายเป็นงานส่วนตัวของผู้ทำไม่
การที่นายจ้างจ้างลูกจ้างทำงานให้ตน หากลูกจ้างฝ่าฝืนคำสั่งหรือระเบียบ แต่ยังปฏิบัติงานของนายจ้างอยู่ นายจ้างจะอ้างคำสั่งหรือระเบียบภายในมาต่อสู้บุคคลภายนอกหาได้ไม่ นายจ้างจึงต้องร่วมรับผิด
การก่อเจดีย์บรรจุอัฐิผู้ตายไม่ใช่ค่าใช้จ่ายอันจำเป็นที่จะให้ผู้รับผิดชอบชดใช้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 443
ตามกฎหมาย บิดาต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ เมื่อบุตรมีสิทธิเรียกค่าขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย ก็ชอบที่จะเรียกได้จนกว่าจะบรรลุนิติภาวะหากเป็นที่เห็นได้ว่าบิดาจะมีชีวิตอยู่อุปการะได้ถึงเวลานั้น
ค่าสินไหมทดแทนเป็นหนี้ที่ต้องชดใช้เป็นเงินจึงเป็นหนี้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224
หนี้อันเกิดแต่มูลละเมิด ถือว่าลูกหนี้ผิดนัดมาแต่เวลาที่ทำละเมิด ลูกหนี้จึงต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวมทั้งดอกเบี้ยด้วย เว้นแต่ค่าสินไหมทดแทนที่เกิดขึ้นภายหลัง เช่น ค่าปลงศพ ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ลูกหนี้จะต้องเสียดอกเบี้ยนับแต่วันที่ต้องรับผิดชดใช้เป็นต้นไป ส่วนค่าสินไหมในการที่โจทก์ต้องขาดไร้อุปการะนั้น เมื่อศาลกำหนดให้จำเลยใช้เป็นเงินจำนวนหนึ่ง จำเป็นหนี้เงินที่จำเลยต้องชำระตามคำพิพากษา และต้องเสียดอกเบี้ยตั้งแต่วันศาลพิพากษาเป็นต้นไป ถ้าจำนวนเงินตรงกันตั้งแต่ศาลชั้นใด ก็คิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันศาลล่างพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 928/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดจากการขับรถประมาททำให้เสียชีวิต ศาลไม่ผูกพันผลคดีอาญา และสิทธิเรียกร้องค่าอุปการะ
จำเลยขับรถบรรทุกเฉี่ยวรถจี๊ปเสียหายด้วยความประมาท เป็นเหตุให้บุตรโจทก์ซึ่งนั่งมาในรถจี๊ปถึงแก่ความตาย อัยการได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาหาว่าขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้คนตาย ศาลพิพากษายกฟ้องโดยเห็นว่า เหตุที่รถเกิดชนกันนั้นอาจเกิดขึ้นเพราะความผิดความประมาทของจำเลยหรือของคนขับรถจี๊ปก็เป็นได้ทั้ง 2 ทางเท่าๆ กัน ดังนี้เมื่อโจทก์มาฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนในการที่ทำให้บุตรโจทก์ตาย ศาลจะนำเอาผลของคำพิพากษาคดีอาญาที่ให้ยกฟ้องอัยการนั้นมาวินิจฉัยคดีแพ่งอย่างใดไม่ได้ เพราะมิได้ฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติอย่างไร โจทก์อาจนำสืบในคดีแพ่งได้อีกว่า จำเลยเป็นฝ่ายประมาททำให้บุตรโจทก์ตาย
เมื่อโจทก์มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้จำเลยใช้ค่าปลงศพบุตรโจทก์ ซึ่งถูกจำเลยกระทำให้ถึงแก่ความตาย แม้นายจ้างของบุตรโจทก์จะได้บริจาคเงินแก่โจทก์ให้ใช้จ่ายในการทำศพเป็นเงินจำนวนเท่าๆ กันแล้ว จำเลยก็จะยกมาเป็นข้อปัดความรับผิดของจำเลยหาได้ไม่
ผู้ตายเคยอุปการะโจทก์เดือนละ 300 บาท ศาลก็มีอำนาจกำหนดให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทนการที่โจทก์ขาดไร้อุปการะเป็นเงินจำนวนเดียว 36,000 บาท ตามที่โจทก์ขอมาโดยคิดคำนวณจากระยะเวลา 10 ปีได้ แต่ค่าสินไหมทดแทนเช่นนี้เป็นการชดใช้แก่หนี้ในอนาคต โจทก์จะเรียกดอกเบี้ยในเงินจำนวนนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1576/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์, การร่วมรับผิดของนายจ้าง, และการคิดดอกเบี้ยค่าเสียหาย
จำเลยขับรถยนต์ประมาทชนผู้ตาย เป็นเหตุให้นาฬิกา แว่นตา ที่ติดตัวผู้ตายสูญหายไปนั้น จำเลยต้องชดใช้แทนให้
ค่าปลงศพ ค่าใช้ราคาทรัพย์และค่าขาดไร้อุปการะ เป็นค่าสินไหมทดแทนที่ต้องชดใช้ด้วยเงินการที่ศาลกำหนดจำนวนให้จำเลยใช้ มิใช่ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายตั้งแต่ศาลพิพากษา แต่เป็นการกำหนดค่าเสียหายที่โจทก์ได้รับความเสียหายมา แล้วตั้งแต่วันจำเลยทำละเมิดรถยนต์ประมาทชนผู้ตายตาย จำเลยจึงต้องเสียดอกเบี้ยในจำนวนเงิน ที่จะต้องชดใช้ตั้งแต่วันทำละเมิด เพราะถือว่าจำเลยผิดนัดตั้งแต่วันนั้นแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1576/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดจากการขับรถประมาท และการคิดดอกเบี้ยค่าเสียหายจากวันทำละเมิด
จำเลยขับรถยนต์ประมาทชนผู้ตาย เป็นเหตุให้นาฬิกา แว่นตา ที่ติดตัวผู้ตายสูญหายไปนั้น จำเลยต้องชดใช้แทนให้
ค่าปลงศพ ค่าใช้ราคาทรัพย์ และค่าขาดไร้อุปการะ เป็นค่าสินไหมทดแทนที่ต้องชดใช้ด้วยเงิน การที่ศาลกำหนดจำนวนให้จำเลยใช้ มิใช่ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายตั้งแต่ศาลพิพากษา แต่เป็นการกำหนดค่าเสียหายที่โจทก์ได้รับความเสียหายมาแล้วตั้งแต่วันจำเลยทำละเมิดขับรถยนต์ประมาทชนผู้ตายตาย จำเลยจึงต้องเสียดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่จะต้องชดใช้ตั้งแต่วันทำละเมิดเพราะถือว่าจำเลยผิดนัดตั้งแต่วันนั้นแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1180/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเหนือเงินฝาก: ผู้มีสิทธิฟ้องเรียกคืนเงินที่ฝากไว้กับผู้อื่น
เงินที่ธนาคารจ่ายฝากไว้กับจำเลยโดยไม่ปรากฎว่าฝากไว้เพื่อโจทก์ เช่นนี้ โจทก์ก็ย่อมไม่มีสิทธิเหนือเงินนั้นและไม่มีอำนาจฟ้อง
ผู้ชำระเงินไว้เท่านั้นที่มีสิทธิฟ้องเรียกเงินคืนในฐานะลาภมิควรได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1180/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเหนือเงินฝาก: ผู้รับฝากไม่มีสิทธิเรียกร้องเงินจากผู้ฝาก หากไม่ใช่ผู้ชำระเงินหรือผู้รับประโยชน์โดยตรง
เงินที่ธนาคารจ่ายฝากไว้กับจำเลยโดยไม่ปรากฏว่าฝากไว้เพื่อโจทก์ เช่นนี้ โจทก์ก็ย่อมไม่มีสิทธิเหนือเงินนั้นและไม่มีอำนาจฟ้อง
ผู้ชำระเงินไว้เท่านั้นที่มีสิทธิฟ้องเรียกเงินคืนในฐานะลาภมิควรได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 768/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดอกเบี้ยจากค่าเสียหายละเมิดเริ่มนับแต่วันศาลพิพากษา
ค่าเสียหายจากมูลละเมิดนั้นถือได้ว่าเป็นหนี้เงินแล้วตั้งแต่วันที่ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย ฉนั้นโจทก์จึงเรียกดอกเบี้ยจากเงินจำนวนนี้ได้ตั้งแต่วันศาลชั้นต้นพิพากษา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 768/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดอกเบี้ยจากค่าเสียหายละเมิดเริ่มนับแต่วันศาลพิพากษา
ค่าเสียหายจากมูลละเมิดนั้นถือได้ว่าเป็นหนี้เงินแล้วตั้งแต่วันที่ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายฉะนั้นโจทก์จึงเรียกดอกเบี้ยจากเงินจำนวนนี้ได้ตั้งแต่วันศาลชั้นต้นพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1107/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของตัวแทนจากการประมาทเลินเล่อในสัญญาตัวแทนตัวการ ไม่ใช่ละเมิด ฟ้องไม่ขาดอายุความ
กิจการใดที่ตัวแทนกระทำไปโดยความประมาทเลินเล่อนั้นเป็นเรื่องผิดสัญญา
การฟ้องตัวแทนที่กระทำการประมาทเลินเล่อ ทำให้ตัวการเสียหายเป็นเรื่องผิดสัญญาไม่ต้องฟ้องภายใน 1 ปี
เมื่อคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์วินิจฉัยแต่ปัญหาข้อกฎหมายยังมิได้ชี้ขาดข้อเท็จจริงในประเด็น ศาลฎีกามีอำนาจยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แล้วให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 957/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องซ้ำในคดีละเมิด: การเรียกร้องค่าเสียหายซ้ำซ้อนหลังมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์ ขอให้จำเลยทำทำนบให้ดีตามสภาพเดิม หรือให้ใช้ราคาแล้ว โจทก์ควรจะฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานขาดประโยชน์เพราะน้ำไม่เข้านา ทำนาไม่ได้ หรือได้ผลน้อยเสียในคดีเรื่องนั้น เมื่อโจทก์แยกมาฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นอีกสำนวนหนึ่ง ดังนี้ เป็นการฟ้องซ้ำ.
of 13