คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 175

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 195 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 959/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากข้อตกลงในคดีก่อน การเพิกถอนการโอนทรัพย์สิน และการรับมรดก
นาพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 3 มีชื่อในโฉนดเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์เอง มิใช่มีชื่อในฐานะเป็นผู้ซื้อแทนโจทก์ โจทก์หามีสิทธิที่จะขอให้เพิกถอนการโอนและการขายฝากนาพิพาทที่จำเลยกระทำต่อกันได้ไม่
ในคดีหมายเลขแดงที่ 202/2504 โจทก์จำเลยตกลงกันว่าให้ถือเอาผลแห่งคำพิพากษาคดีนี้เป็นข้อแพ้ชนะกัน คือ ถ้าโจทก์ในคดีนี้(จำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ 202/2504)แพ้จะไม่เกี่ยวข้องกับที่พิพาท และยินยอมใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยที่ 2 ในคดีนี้ (โจทก์ในคดีหมายเลขแดงที่ 202/2504) เป็นรายปีๆ ละ900 บาทนับแต่ พ.ศ.2504 เป็นต้นไป จนกว่าโจทก์จะออกจากที่ดิน แต่ถ้าจำเลยที่ 2 เป็นฝ่ายแพ้คดี ก็ไม่ติดใจเอาค่าเสียหายดังกล่าวและไม่เกี่ยวข้องกับที่ดินอีกต่อไป ผลที่สุดจำเลยที่ 1 ถอนฟ้องคดีนั้นแล้วมาฟ้องแย้งในคดีนี้ว่าโจทก์บุกรุกที่พิพาทซึ่งตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 2 ผู้รับซื้อฝากจากจำเลยที่ 1 เรียกค่าเสียหายจากโจทก์ปีละ 900 บาทตั้งแต่ พ.ศ.2504 ดังนี้ เมื่อจำเลยที่ 2 มีมูลที่จะฟ้องแย้งได้ จำเลยที่ 2 ก็มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากโจทก์มาในฟ้องแย้งได้ โดยไม่ต้องอาศัยข้อตกลงในคดีหมายเลขแดงที่ 202/2504 และเป็นที่เห็นได้ว่าการที่จำเลยที่ 2 อ้างถึงข้อตกลงนั้น ก็เพื่อแสดงว่าโจทก์ได้เคยรับรองว่าจำเลยที่ 2 จะคิดค่าเสียหายได้ตามจำนวนที่ปรากฏในข้อตกลงนั้น ศาลจะได้ถือเป็นหลักวินิจฉัยกำหนดค่าเสียหายในคดีนี้ให้แก่จำเลยที่ 2 โดยไม่ต้องนำสืบกันอีกชั้นหนึ่ง จำเลยที่ 2 ไม่ได้ขอให้บังคับตามข้อตกลงนั้นโดยตรง โจทก์จึงไม่มีเหตุที่จะอ้างได้ว่าจำเลยที่ 2 ไม่มีสิทธิที่จะฟ้องแย้งเรียกร้องค่าเสียหายในคดีนี้ เพราะเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ในคดีก่อนยังไม่สำเร็จ
โจทก์เพิ่งมากล่าวอ้างในชั้นอุทธรณ์ฎีกาว่านาพิพาทเป็นมรดกของนายอินบิดาโจทก์มีสิทธิได้รับส่วนแบ่ง เป็นคนละประเด็นกันกับที่กล่าวในฟ้อง ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ไม่ได้
โจทก์เพิ่งจะยกขึ้นกล่าวในชั้นฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีนี้ขัดกับคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ 233/2505 ทั้งอ้างข้อเท็จจริงมาไม่ตรงกับความเป็นจริง เพราะในคดีหมายเลขแดงที่ 233/2505 นั้นปรากฏว่า จำเลยที่ 3 กับพวกซึ่งเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์คดีนี้ได้ถอนฟ้องข้อหาเกี่ยวกับนาพิพาทเสีย โจทก์ (จำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ 233/2505) ชนะในประเด็นอื่นซึ่งไม่เกี่ยวกับนาพิพาท ฎีกาโจทก์ข้อนี้หาเป็นสาระแก่คดีไม่(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5-6/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1471/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้อง, การถอนฟ้อง, และสิทธิของบุคคลนอกสัญญา กรณีเช่าที่ดินและการปลูกสร้าง
โจทก์ที่ 1 มอบอำนาจให้โจทก์ที่ 2 ฟ้องคดีและโจทก์ที่ 2 ได้ฟ้องในนามของตนเองด้วย ต่อมาโจทก์ที่ 1 ขอถอนฟ้อง และขอถอนใบมอบอำนาจนั้นเสีย โจทก์ที่ 2 จึงขอให้ศาลเรียกโจทก์ที่ 1 เข้ามาในคดี ดังนี้ แม้ศาลจะสั่งให้หมายเรียกแล้วต่อมาเมื่อโจทก์ที่ 1 แถลงว่าไม่ประสงค์จะยุ่งเกี่ยวกับคดีและศาลเห็นไม่สมควรเรียกโจทก์ที่ 1 เข้ามาในคดีก็มีอำนาจเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม โดยให้ยกคำร้องของโจทก์ที่ 2 ได้
เมื่อจำเลยได้ปลูกโรงเรือนในที่พิพาทและครอบครองมาก่อนที่โจทก์ที่ 2 ทำสัญญาเช่าที่พิพาทจากโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 2 โดยลำพังจึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย เพราะจำเลยเป็นบุคคลนอกสัญญาโจทก์ที่ 2 ชอบจะว่ากล่าวเอากับโจทก์ที่ 1 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1471/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของบุคคลนอกสัญญาเช่าและการเปลี่ยนแปลงคำสั่งศาลเกี่ยวกับคู่ความ
โจทก์ที่ 1 มอบอำนาจให้โจทก์ที่ 2 ฟ้องคดีและโจทก์ที่ 2 ได้ฟ้องในนามของตนเองด้วย ต่อมาโจทก์ที่ 1 ขอถอนฟ้อง และขอถอนใบมอบอำนาจนั้นเสีย โจทก์ที่ 2จึงขอให้ศาลเรียกโจทก์ที่ 1 เข้ามาในคดี ดังนี้แม้ศาลจะสั่งให้หมายเรียกแล้วต่อมาเมื่อโจทก์ที่ 1แถลงว่าไม่ประสงค์จะยุ่งเกี่ยวกับคดีและศาลเห็นไม่สมควรเรียกโจทก์ที่ 1 เข้ามาในคดีก็มีอำนาจเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม โดยให้ยกคำร้องของโจทก์ที่ 2 ได้
เมื่อจำเลยได้ปลูกโรงเรือนในที่พิพาทและครอบครองมาก่อนที่โจทก์ที่ 2 ทำสัญญาเช่าที่พิพาทจากโจทก์ที่ 1โจทก์ที่ 2 โดยลำพังจึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยเพราะจำเลยเป็นบุคคลนอกสัญญา โจทก์ที่ 2 ชอบจะว่ากล่าวเอากับโจทก์ที่ 1 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1190/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิออกเสียงเจ้าหนี้ในที่ประชุม & ผลของมติที่ประชุมเจ้าหนี้ตามกฎหมายล้มละลาย
คดีล้มละลาย หนี้จำพวกที่อาจขอรับชำระหนี้ได้ และได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้แล้วก่อนวันประชุมเจ้าหนี้นั้น เจ้าหนี้ย่อมมสิทธิออกเสียงในที่ประชุมได้ และเมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าหนี้ที่มาประชุมคัดค้านการออกเสียงของเจ้าหนี้รายนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่ต้องสั่งบั่นทอนในการออกเสียงของเจ้าหนี้นั้น และถือว่าเป็นการออกเสียงที่มีผลตามกฎหมาย เมื่อจำนวนหนี้ของเจ้าหนี้ฝ่ายที่ลงมติฝ่ายนี้มีมากกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง ต้องถือว่ามติของเจ้าหนี้ฝ่ายที่มีจำนวนหนี้ข้างมากนี้เป็นมติของที่ประชุมด้วย
คดีที่ศาลฎีกาพิพากษาย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปในฐานะที่โจทก์มีสทิธิดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปได้นั้น ไม่ใช่เป็นคำพิพากษาบังคับให้โจทก์จำต้องดำเนินคดีอย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1190/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิออกเสียงเจ้าหนี้ในที่ประชุม, มติที่ประชุมเจ้าหนี้มีผลผูกพัน, การถอนฟ้องคดีไม่ขัดต่อคำพิพากษา
คดีล้มละลาย หนี้จำพวกที่อาจขอรับชำระหนี้ได้ และได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้แล้วก่อนวันประชุมเจ้าหนี้นั้น เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิออกเสียงในที่ประชุมได้ และเมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าหนี้ที่มาประชุมคัดค้านการออกเสียงของเจ้าหนี้รายนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่ต้องสั่งบั่นทอนในการออกเสียงของเจ้าหนี้นั้น และถือว่าเป็นการออกเสียงที่มีผลตามกฎหมายเมื่อจำนวนหนี้ของเจ้าหนี้ฝ่ายที่ลงมติฝ่ายนี้มีมากกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง ต้องถือว่ามติของเจ้าหนี้ฝ่ายที่มีจำนวนหนี้ข้างมากนี้เป็นมติของที่ประชุมด้วย
คดีที่ศาลฎีกาพิพากษาย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปในฐานะที่โจทก์มีสิทธิดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปได้นั้น ไม่ใช่เป็นคำพิพากษาบังคับให้โจทก์จำต้องดำเนินคดีอย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1193/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องหลังให้การแล้วและผลกระทบต่อจำเลย ศาลพิจารณาถึงสิทธิของจำเลยและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
โจทก์ฟ้องและจำเลยยื่นคำให้การแล้วก่อนวันชี้สองสถานหนึ่งวัน โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง ศาลสั่งให้ส่งสำเนาให้จำเลย ถึงวันชี้สองสถานศาลยังไม่ได้สั่งคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง โจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยคัดค้านว่าทำให้จำเลยเสียหาย ดังนี้ ศาลไม่อนุญาตให้ถอนฟ้อง ควรดำเนินกระบวนพิจารณาให้เป็นผลเสร็จเด็ดขาดไปในคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1193/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องซ้ำ: ผลกระทบต่อจำเลยและความเป็นธรรมในการดำเนินคดี
โจทก์ฟ้องและจำเลยยื่นคำให้การแล้วก่อนวันชี้สองสถานหนึ่งวัน โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง ศาลสั่งให้ส่งสำเนาให้จำเลย ถึงวันชี้สองสถานศาลยังไม่ได้สั่งคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง โจทก์ขอถอนฟ้อง จำเลยคัดค้านว่าทำให้จำเลยเสียหาย ดังนี้ศาลไม่อนุญาตให้ถอนฟ้อง ควรดำเนินกระบวนพิจารณาให้เป็นผลเสร็จเด็ดขาดไปในคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1057/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการไม่อนุญาตให้ถอนฟ้องคดีแพ่ง แม้จำเลยไม่คัดค้าน แต่มีเงื่อนไข
คดีแพ่ง เมื่อจำเลยยื่นคำให้การแล้วโจทก์ยื่นคำขอเพื่ออนุญาตให้โจทก์ถอนคำฟ้องนั้น อำนาจศาลมีอยู่เสมอที่จะอนุญาตหรือไม่อนุญาตหรืออนุญาตภายในเงื่อนไขที่เห็นสมควรข้อจำกัดมีอยู่แต่เพียงว่า ถ้าศาลอนุญาตจะต้องฟังจำเลยหรือผู้ร้องสอดถ้าหากมีก่อนเท่านั้น
โจทก์ขอถอนฟ้อง จำเลยไม่คัดค้านแต่เสนอเงื่อนไขต่อศาลหลายประการนั้น มิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ถอนคำฟ้องเนื่องจากมีข้อตกลงหรือประนีประนอมยอมความกับจำเลย จึงไม่อยู่ในบังคับมาตรา 175 (2) และศาลมีอำนาจโดยบริบูรณ์ที่จะใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตให้ถอนฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1057/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการไม่อนุญาตให้ถอนฟ้องหลังจำเลยให้การ และเงื่อนไขการถอนฟ้องที่ไม่ใช่การประนีประนอม
คดีแพ่ง เมื่อจำเลยยื่นคำให้การแล้ว โจทก์ยื่นคำขอเพื่ออนุญาตให้โจทก์ถอนคำฟ้องนั้น อำนาจศาลมีอยู่เสมอที่จะอนุญาตหรือไม่อนุญาต หรืออนุญาตภายในเงื่อนไขที่เห็นสมควร ข้อจำกัดมีอยู่แต่เพียงว่า ถ้าศาลอนุญาตจะต้องฟังจำเลยหรือผู้ร้องสอดถ้าหากมีก่อนเท่านั้น
โจทก์ขอถอนฟ้อง จำเลยไม่คัดค้านแต่เสนอเงื่อนไขต่อศาลหลายประการนั้น มิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ถอนคำฟ้องเนื่องจากมีข้อตกลงหรือประนีประนอมยอมความกับจำเลย จึงไม่อยู่ในบังคับ มาตรา 175(2) และศาลมีอำนาจโดยบริบูรณ์ที่จะใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตให้ถอนฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินการพิจารณาคดีหลังศาลฎีกาให้พิจารณาต่อ การอนุญาตถอนฟ้องซ้ำเป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนวิธีพิจารณา
การที่ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง แต่ศาลฎีกาให้ดำเนินการพิจารณาพิพากษาคดีต่อไปนั้น หาใช่ให้ศาลชั้นต้นฟังจำเลยเสียใหม่ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 175 แล้วมีคำสั่งไม่ แต่ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาพิพากษาต่อไปตามกระบวนความทีเดียว ฉะนั้น ที่ศาลชั้นต้นนัดคู่ความมาสอบถามเกี่ยวกับคำขอถอนฟ้อง เดิมของโจทก์และถือว่าได้ฟังจำเลยถูกต้อง สั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ จึงเป็นการรื้อฟื้นเอาคำขอถอนฟ้องของโจทก์ที่ตกไปแล้วขึ้นมาพิจารณาสั่งซ้ำอีก ย่อมไม่ชอบด้วยกระบวนวิธีพิจารณาความ
of 20