คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 175

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 195 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 284/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจดุลยพินิจศาลอนุญาตถอนฟ้อง แม้จำเลยคัดค้าน คดีแพ่ง
โจทก์ขอถอนฟ้องและจำเลยคัดค้านนั้น ศาลจะอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องหรือไม่ ย่อมอยู่ในดุลยพินิจของศาลที่จะมีคำสั่งตามที่เห็นสมควร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 777/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอนุญาตให้ถอนฟ้องต้องฟังจำเลยก่อน เพื่อให้ศาลพิจารณาว่าจะยินยอมหรือคัดค้าน
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 175 ที่บัญญัติถึงเรื่องโจทก์ถอนฟ้องภายหลังจำเลยยื่นคำให้การแล้ว ว่าห้ามไม่ให้ศาลอนุญาตโดยมิได้ฟังจำเลยก่อนนั้น หมายความให้ศาลฟังว่าจำเลยจะยินยอมให้โจทก์ถอนฟ้องหรือจะคัดค้านประการใด เพื่อประโยชน์ที่ศาลจะได้นำมาประกอบการพิจารณาสั่งตามที่เห็นสมควร ดังที่กฎหมายบัญญัติให้อำนาจไว้นั้นต่อไป ถ้าหากว่าศาลยังมิได้ฟังจำเลยดุจกล่าวนี้ ย่อมต้องห้ามกฎหมายไม่ให้ศาลสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง
โจทก์ขอถอนฟ้อง ศาลชั้นต้นสอบถามทนายจำเลย ๆ แถลงตอบในขณะนั้นว่า ขอผัดปรึกษาตัวจำเลยเสียก่อน เพื่อจะได้ตรึกตรองว่าจะคัดค้านหรือไม่ เช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยจะคัดค้านหรือไม่คัดค้านในการที่โจทก์ขอถอนฟ้อง ชอบที่ศาลจะพิจารณาว่าจะให้จำเลยจะเลื่อนเวลาไปเช่นนั้น หรือไม่ หากศาลมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องไปก่อนที่จะได้ฟังจำเลยดังกล่าว ก็ย่อมไม่เป็นไปได้โดยชอบด้วยประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 175

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 777/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องหลังจำเลยให้การคัดค้าน: ศาลต้องฟังจำเลยก่อนมีคำสั่ง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 175 ที่บัญญัติถึงเรื่องโจทก์ถอนฟ้องภายหลังจำเลยยื่นคำให้การแล้วว่าห้ามไม่ให้ศาลอนุญาตโดยมิได้ฟังจำเลยก่อนนั้นหมายความให้ศาลฟังว่าจำเลยจะยินยอมให้โจทก์ถอนฟ้องหรือจะคัดค้านประการใดเพื่อประโยชน์ที่ศาลจะได้นำมาประกอบการพิจารณาสั่งตามที่เห็นสมควร ดังที่กฎหมายบัญญัติให้อำนาจไว้นั้นต่อไปถ้าหากว่าศาลยังมิได้ฟังจำเลยดุจกล่าวนี้ ย่อมต้องห้ามตามกฎหมายไม่ให้ศาลสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง
โจทก์ขอถอนฟ้อง ศาลชั้นต้นสอบถามทนายจำเลย ทนายจำเลยแถลงตอบในขณะนั้นว่า ขอผัดปรึกษาตัวจำเลยเสียก่อน เพื่อจะได้ตรึกตรองว่าจะคัดค้านหรือไม่เช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยจะคัดค้านหรือไม่คัดค้านในการที่โจทก์ขอถอนฟ้องชอบที่ศาลจะพิจารณาว่าจะให้จำเลยขอเลื่อนเวลาไปเช่นนั้นหรือไม่ หากศาลมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องไปก่อนที่จะได้ฟังจำเลยดังกล่าว ก็ย่อมไม่เป็นไปโดยชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 175

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 416/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าห้องเพื่อค้า vs. ที่อยู่อาศัย: คุ้มครอง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ และการถอนฟ้องในชั้นอุทธรณ์
แม้ในชั้นแรกจำเลยจะเช่าห้องพิพาทเพื่ออยู่อาศัยก็ตาม เมื่อในชั้นหลังนี้ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยใช้ห้องพิพาทเป็นที่ประกอบการค้าแล้ว จำเลยก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน
จำเลยอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นแต่ฝ่ายเดียว ฉะนั้น โจทก์จะขอถอนฟ้องของโจทก์ทั้งที่จำเลยยอมให้ถอนนั้นไม่ได้ เพราะโจทก์ไม่มีคำฟ้องชั้นอุทธรณ์ที่จะถอนฟ้องได้
(ฎีกาที่ 624,625,626,627,628/2495 ฯลฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 416/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าห้องเพื่อประกอบการค้า ไม่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า และการถอนฟ้องในชั้นอุทธรณ์
แม้ในชั้นแรกจำเลยจะเช่าห้องพิพาทเพื่ออยู่อาศัยก็ตามเมื่อในชั้นหลังนี้ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยใช้ห้องพิพาทเป็นที่ประกอบการค้าแล้วจำเลยก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน
จำเลยอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นแต่ฝ่ายเดียว ฉะนั้นโจทก์จะขอถอนฟ้องของโจทก์ทั้งที่จำเลยยอมให้ถอนนั้นไม่ได้เพราะโจทก์ไม่มีคำฟ้องชั้นอุทธรณ์ที่จะถอนฟ้องได้
(ฎีกาที่ 624,625,626,627,628/2495 ฯลฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของคู่สัญญาแม้ใช้เงินผู้อื่นซื้อ และการถอนฟ้องที่ไม่ต้องแจ้งคู่ความอื่น
ผู้ซื้อเอาเงินของผู้อื่นมาซื้อตึกจากผู้ขาย ผู้ซื้อย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องผู้ขายในกรณีที่ผู้ขายผิดสัญญาจะซื้อขายนั้นได้
โจทก์ฟ้องขอให้ทำลายนิติกรรมขายตึกระหว่างจำเลยที่ 1-2กับจำเลยที่ 3 และให้โอนตึกพิพาทให้แก่โจทก์ ถ้าโอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้ก็ขอให้จำเลยใช้เงินมัดจำคืน เมื่อโจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยที่ 3 เสีย และขอถอนคำขอท้ายฟ้องเรื่องที่จะขอให้ทำลายนิติกรรม การซื้อขายและคำขอให้โอนตึกเสีย ก็ไม่จำเป็นต้องแจ้งให้จำเลยที่ 1-2 ทราบเพราะจำเลยที่ 1-2 ต้องรับผิดในเรื่องคืนเงินมัดจำและดอกเบี้ยเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องสัญญาซื้อขาย, การถอนฟ้อง, คืนเงินมัดจำ: โจทก์มีสิทธิแม้ใช้เงินผู้อื่นซื้อ
ผู้ซื้อเอาเงินของผู้อื่นมาซื้อตึกจากผู้ขาย ผู้ซื้อย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องผู้ขายในกรณีที่ผู้ขายผิดสัญญาจะซื้อขายนั้นได้
โจทย์ฟ้องขอให้+ทำนิติกรรมขายตึกระหว่างจำเลยที่ 1-2 กับจำเลยที่ 3 และให้โอนตึกพิพาทให้แก่โจทก์ ถ้าโอนกรรมสิทธิไม่ได้ก็ขอให้จำเลยใช้เงินมัดจำคืน เมื่อโจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยที่ 3 เสีย และขอถอนคำขอท้ายฟ้องเรื่องที่จะขอให้ทำลายนิติกรรม การซื้อขายและคำขอให้โอนตึกเสีย ก็ไม่จำเป็นต้องแจ้งให้จำเลยที่ 1-2 ทราบเพราะจำเลยที่ 1-2 ต้องรับผิดในเรื่องคืนเงินมัดจำและดอกเบี้ย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 808/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แม้คำฟ้องไม่ระบุที่ตั้งชัดเจน แต่หากรายละเอียดในคำฟ้องและข้อเท็จจริงอื่นบ่งชี้ชัดเจน ศาลไม่ถือว่าฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิของโจทก์โดยมิได้กล่าวว่าที่พิพาทอยู่ที่ตำบลใด ครั้นจำเลยให้การต่อสู้คดี ได้ให้การตัดฟ้องด้วยว่า ฟ้องโจทก์มิได้กล่าวให้แจ้งชัดว่า ที่พิพาทอยู่ตำบลอำเภอใด เป็นฟ้องเคลือบคลุม โจทก์จึงยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องว่าที่พิพาทอยู่ ตำบลอำเภอและจังหวัดใด ดังนี้เมื่อปรากฎว่าฟ้องของโจทก์ได้กล่าวไว้แล้วว่าที่พิพาท โจทก์ได้มาตามสัญญายอมความ ในคดีหนึ่งของศาลนั้น ซึ่งในคดีนั้นก็ปรากฎชัดว่า ที่พิพาทแปลงนี้อยู่ที่ตำบลอำเภอจังหวัดใด และจำเลยซึ่งเป็นบุตรจำเลยในคดีก่อน ก็รู้ดีว่าที่ซึ่งโจทก์ฟ้อง อยู่ที่ตำบลใด ดังปรากฎตามคำให้การแล้ว ดังนี้ แม้โจทก์จะมิได้ขอเพิ่มเติมฟ้อง ฟ้องของโจทก์ก็ไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1045/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอุทธรณ์ในการอนุญาตถอนฟ้อง และผลของการปรานีประนอมยอมเลิกความ
ศาลอุทธรณ์หามีอำนาจที่จะสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องที่ได้ยื่นไว้ต่อศาลชั้นต้นจนศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาไปเสร็จแล้วนั้นได้ไม่ ฉะนั้นเมื่อมีการถอนฟ้องในชั้นศาลอุทธรณ์ ก็ย่อมหมายความว่าผู้อุทธรณ์จะขอถอนฟ้องได้แต่ฟ้องอุทธรณ์เท่านั้น
เมื่อคู่ความประสงค์จะตกลงกันเพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้นประการใด คู่ความก็ชอบที่จะมาทำปราณีประนอมกันต่อหน้าศาล และขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาไปตามสัญญาปราณีประนอมนั้น คำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงจะถูกงดเว้นเปลี่ยนแปลงการบังคับได้โดยอำนาจของคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1045/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอุทธรณ์ในการอนุญาตถอนฟ้องหลังมีคำพิพากษาศาลชั้นต้น และการทำประนีประนอมเพื่อแก้ไขคำพิพากษา
ศาลอุทธรณ์หามีอำนาจที่จะสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องที่ได้ยื่นไว้ต่อศาลชั้นต้นจนศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาไปเสร็จแล้วนั้นได้ไม่ ฉะนั้นเมื่อมีการถอนฟ้องในชั้นศาลอุทธรณ์ ก็ย่อมหมายความว่าผู้อุทธรณ์จะขอถอนฟ้องได้แต่ฟ้องอุทธรณ์เท่านั้น
เมื่อคู่ความประสงค์จะตกลงกันเพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้นประการใด คู่ความก็ชอบที่จะมาทำประนีประนอมกันต่อหน้าศาล และขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาไปตามสัญญาประนีประนอมนั้น คำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงจะถูกงดเว้นเปลี่ยนแปลงการบังคับได้โดยอำนาจของคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์
of 20