คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 148

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,582 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2263/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องค่าล่วงเวลาไม่เป็นฟ้องซ้ำ แม้คดีเลิกจ้างยังไม่ถึงที่สุด เพราะเป็นมูลหนี้ต่างรายกัน
คดีก่อนโจทก์ฟ้องว่าจำเลยเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด ไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ขอให้จ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าส่วนคดีนี้โจทก์ฟ้องเรียกค่าล่วงเวลาที่จำเลยค้างชำระ มูลหนี้ที่ฟ้องในคดีก่อนกับคดีนี้เป็นมูลหนี้ต่างรายกัน ฟ้องโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำหรือฟ้องซ้อน ฟ้องซ้อนเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2219/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำหรือไม่ซ้ำ: เหตุฟ้องต่างกัน แม้ผลลัพธ์เดิมขาดอายุความ ฟ้องใหม่ได้ หากเหตุการณ์เปลี่ยนแปลง
คดีก่อนโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 ฟ้องเรียกที่ดินพิพาทคืนโดยอาศัยเหตุว่าจำเลยที่ 1 มิใช่สามีของนาง จ. เจ้ามรดก ศาลฎีกาวินิจฉัยคดีถึงที่สุดว่านาง จ. และจำเลยที่ 1 ยังเป็นสามีภรรยากัน จำเลยที่ 2 และที่ 3 ไม่ได้เป็นผู้สืบสันดานของนาง จ. จึงไม่มีสิทธิรับมรดกของนาง จ. แต่ฟ้องโจทก์ขาดอายุความมรดกส่วนคดีนี้โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 ฟ้องเรียกที่ดินพิพาทคืนโดยอาศัยเหตุว่าจำเลยที่ 1 ถูกกำจัดมิให้รับมรดกของนาง จ. เนื่องจากจำเลยที่ 1 ปิดบังซ่อนเร้นเพื่อมิให้โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 ได้รับมรดกของนาง จ. เหตุที่ฟ้องเรียกที่ดินพิพาทคืนจึงเป็นคนละเหตุกัน ไม่เป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2219/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ vs. เหตุฟ้องต่างกัน: การถูกกำจัดมิให้รับมรดก และอายุความมรดก
คดีก่อนโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 ฟ้องเรียกที่ดินพิพาทคืนโดยอาศัยเหตุว่าจำเลยที่ 1 มิใช่สามีของนาง จ. เจ้ามรดก ศาลฎีกาวินิจฉัยคดีถึงที่สุดว่านาง จ. และจำเลยที่ 1 ยังเป็นสามีภรรยากัน จำเลยที่ 2 และที่ 3 ไม่ได้เป็นผู้สืบสันดานของนาง จ. จึงไม่มีสิทธิรับมรดกของนาง จ. แต่ฟ้องโจทก์ขาดอายุความมรดกส่วนคดีนี้โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 ฟ้องเรียกที่ดินพิพาทคืนโดยอาศัยเหตุว่าจำเลยที่ 1 ถูกกำจัดมิให้รับมรดกของนาง จ. เนื่องจากจำเลยที่ 1 ปิดบังซ่อนเร้นเพื่อมิให้โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 ได้รับมรดกของนาง จ. เหตุที่ฟ้องเรียกที่ดินพิพาทคืนจึงเป็นคนละเหตุกัน ไม่เป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2082/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องร้องขอใช้สิทธิปักเสาพาดสายไฟฟ้าผ่านที่ดินของผู้อื่น ต้องเสนอค่าทดแทนที่สมควร หากประเด็นค่าทดแทนเปลี่ยนแปลง ถือว่ามิใช่การฟ้องซ้ำ
คดีแรกโจทก์ฟ้องจำเลยให้ยินยอมให้โจทก์ปักเสาและพาดสายไฟฟ้าผ่านที่ดินจำเลย โดยมิได้เสนอให้ค่าทดแทนแก่จำเลยศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง เพราะโจทก์มิได้เสนอค่าทดแทนแก่จำเลยจึงไม่มีสิทธิปักเสาและพาดสายไฟฟ้าผ่านที่ดินของจำเลยประเด็นซึ่งศาลฎีกาได้วินิจฉัยในคดีแรกจึงมีว่าโจทก์ไม่มีสิทธิปักเสาและพาดสายไฟฟ้าผ่านที่ดินของจำเลยโดยมิได้เสนอให้ค่าทดแทนแก่จำเลย แต่ในคดีหลังโจทก์กล่าวอ้างว่าในการที่โจทก์จะปักเสาและพาดสายไฟฟ้าดังกล่าว โจทก์ได้เสนอให้ค่าทดแทนแก่จำเลยแล้ว จึงมีประเด็นว่าจำเลยจะต้องยินยอมให้โจทก์ปักเสาและพาดสายไฟฟ้าผ่านที่ดินของจำเลยหรือไม่ และด้วยค่าทดแทนเพียงใด ซึ่งมิใช่ประเด็นที่ได้วินิจฉัยมาแล้วในคดีแรก จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2082/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำหรือไม่: ประเด็นค่าทดแทนในการปักเสาพาดสายไฟฟ้าที่ดิน
คดีก่อนโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามขอให้ยินยอมให้โจทก์ปักเสาและพาด สายไฟฟ้าผ่านที่ดินจำเลย โดยมิได้เสนอให้ค่าทดแทนแก่จำเลยศาลฎีกาในคดีก่อนวินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีสิทธิปักเสาและพาด สายไฟฟ้าผ่านที่ดินของจำเลยโดยไม่ได้เสนอให้ค่าทดแทนแก่จำเลย แต่ในคดีนี้โจทก์กล่าวอ้างว่า โจทก์ได้เสนอให้ค่าทดแทนแก่จำเลยทั้งสามแล้วเป็นเงิน 4,000 บาท คดีจึงมีประเด็นว่า จำเลยทั้งสามจะต้องยินยอมให้โจทก์ปักเสาและพาด สายไฟฟ้าผ่านที่ดินของจำเลยทั้งสามหรือไม่และด้วยค่าทดแทนเท่าใด ซึ่งมิใช่ประเด็นที่ได้วินิจฉัยมาแล้วในคดีก่อน จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2082/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกค่าทดแทนเพื่อปักเสาพาดสายไฟฟ้าบนที่ดินผู้อื่น แม้เคยฟ้องแล้ว แต่หากมีการเสนอค่าทดแทนเพิ่มเติม ถือเป็นประเด็นใหม่ ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ
คดีแรกโจทก์ฟ้องจำเลยให้ยินยอมให้โจทก์ปักเสาและพาดสายไฟฟ้าผ่านที่ดินจำเลย โดยมิได้เสนอให้ค่าทดแทนแก่จำเลย ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง เพราะโจทก์มิได้เสนอค่าทดแทนแก่จำเลย จึงไม่มีสิทธิปักเสาและพาดสายไฟฟ้าผ่านที่ดินของจำเลย ประเด็นซึ่งศาลฎีกาได้วินิจฉัยในคดีแรกจึงมีว่าโจทก์ไม่มีสิทธิปักเสาและพาดสายไฟฟ้าผ่านที่ดินของจำเลยโดยมิได้เสนอให้ค่าทดแทนแก่จำเลย แต่ในคดีหลังโจทก์กล่าวอ้างว่าในการที่โจทก์จะปักเสาและพาดสายไฟฟ้าดังกล่าว โจทก์ได้เสนอให้ค่าทดแทนแก่จำเลยแล้ว จึงมีประเด็นว่าจำเลยจะต้องยินยอมให้โจทก์ปักเสาและพาดสายไฟฟ้าผ่านที่ดินของจำเลยหรือไม่ และด้วยค่าทดแทนเพียงใด ซึ่งมิใช่ประเด็นที่ได้วินิจฉัยมาแล้วในคดีแรก จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 864/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอสังหาริมทรัพย์: การได้มาโดยครอบครอง vs. เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและสุจริต
โจทก์เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและนำยึดที่ดินพิพาทเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ โจทก์จึงมิใช่ผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคสอง
คดีก่อนผู้ร้องฟ้องจำเลยอ้างว่า ที่ดินพิพาทเป็นของผู้ร้องโดยจำเลยขายให้ คดีถึงที่สุดโดยศาลวินิจฉัยว่าสัญญาซื้อขายระหว่างผู้ร้องกับจำเลยเป็นโมฆะ ผู้ร้องไม่ได้กรรมสิทธิ์ คดีนี้ผู้ร้องร้องขัดทรัพย์อ้างว่า ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครอง เหตุที่อ้างได้กรรมสิทธิ์จึงเป็นคนละเหตุกันไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คดีเดิมที่ผู้ร้องเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยโดยมิได้ฟ้องโจทก์ด้วยนั้นประเด็นมีว่าที่ดินพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องหรือไม่ ส่วนคดีนี้เป็นเรื่องผู้ร้องพิพาทกับโจทก์ ประเด็นมีว่าจะปล่อยทรัพย์ที่ยึดไว้หรือไม่ จึงไม่เป็นฟ้องซ้อนกับคดีเดิม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 864/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองอสังหาริมทรัพย์, เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา, สิทธิโดยสุจริต, การยึดทรัพย์, การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์
โจทก์เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและนำยึดที่ดินพิพาทเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ โจทก์จึงมิใช่ผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริต แล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคสอง
คดีก่อนผู้ร้องฟ้องจำเลยอ้างว่า ที่ดินพิพาทเป็นของผู้ร้องโดยจำเลยขายให้ คดีถึงที่สุดโดยศาลวินิจฉัยว่าสัญญาซื้อขายระหว่างผู้ร้องกับจำเลยเป็นโมฆะ ผู้ร้องไม่ได้กรรมสิทธิ์ คดีนี้ผู้ร้องร้องขัดทรัพย์อ้างว่า ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครอง เหตุที่อ้างได้กรรมสิทธิ์จึงเป็นคนละเหตุกันไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คดีเดิมที่ผู้ร้องเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยโดยมิได้ฟ้องโจทก์ด้วยนั้นประเด็นมีว่าที่ดินพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องหรือไม่ ส่วนคดีนี้เป็นเรื่องผู้ร้องพิพาทกับโจทก์ ประเด็นมีว่าจะปล่อยทรัพย์ที่ยึดไว้หรือไม่ จึงไม่เป็นฟ้องซ้อนกับคดีเดิม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 754/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: การฟ้องคดีเดิมในประเด็นที่เคยมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
ในคดีก่อนโจทก์เคยฟ้องจำเลยทั้งสองและ น. ว่าจำเลยที่ 2ไม่มีอำนาจประเมินและเรียกเก็บภาษีโรงเรือนจากโจทก์และศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าคำสั่งกรุงเทพมหานครที่ 3717/2518 ที่แต่งตั้งให้จำเลยที่ 2 มีอำนาจประเมินและเรียกเก็บภาษีโรงเรือนจากโจทก์เป็นคำสั่งที่ถูกต้องกับต้นฉบับและรับฟังได้ การที่โจทก์มาฟ้องจำเลยทั้งสองในคดีนี้อีกโดยขอให้พิพากษาว่าคำสั่งกรุงเทพมหานครฉบับดังกล่าวใช้ไม่ได้ และจำเลยที่ 2 ไม่มีอำนาจประเมินและเรียกเก็บภาษีโรงเรือนจำนวนเดิม ซึ่งเป็นประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องซ้ำ.(ที่มา-เนติ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 666/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีซ้ำ: ศาลยังมิได้วินิจฉัยเนื้อหาแห่งคดีเดิม โจทก์มีสิทธิฟ้องคดีใหม่ได้
คดีก่อนถึงที่สุดโดยศาลวินิจฉัยว่าโจทก์ยังไม่ได้มอบอำนาจให้ บ. ฟ้องคดีแทน บ. ไม่มีอำนาจฟ้อง โดยยังมิได้วินิจฉัยในประเด็นแห่งคดีเรื่องหนี้ โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่ให้ชำระหนี้โจทก์เหมือนคดีก่อนได้อีก ไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ.มาตรา 148 เพราะในคดีก่อนศาลยังมิได้วินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นที่เป็นเนื้อหาแห่งคดี.
of 159