คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 916

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 234 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1973/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้สั่งจ่ายเช็คร่วมกันและการยกเว้นความรับผิดจากการขายหุ้น
เช็คพิพาทมีผู้สั่งจ่ายสองนายลงนามร่วมกันโอนเช็คให้ผู้ทรงเมื่อไม่ปรากฏว่าผู้ทรงรับโอนเช็คโดยคบคิดกันฉ้อฉลกับผู้สั่งจ่ายคนใดคนหนึ่งแล้วผู้สั่งจ่ายทั้งสองก็ต้องรับผิดชดใช้เงินตามเช็คตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา989,914ผู้สั่งจ่ายจะยกข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันระหว่างกันเองปฏิเสธความรับผิดไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1973/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้สั่งจ่ายเช็คสองคนร่วมกันรับผิด แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงสถานะทางธุรกิจ หากไม่มีเจตนาฉ้อฉล
เช็คพิพาทมีผู้สั่งจ่ายสองนายลงนามร่วมกันโอนเช็คให้ผู้ทรงเมื่อไม่ปรากฏว่าผู้ทรงรับโอนเช็คโดยคบคิดกันฉ้อฉลกับผู้สั่งจ่ายคนใดคนหนึ่งแล้วผู้สั่งจ่ายทั้งสองก็ต้องรับผิดชดใช้เงินตามเช็คตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 989, 914 ผู้สั่งจ่ายจะยกข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันระหว่างกันเองปฏิเสธความรับผิดไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 944/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนเช็คโดยสุจริตของผู้ทรงเช็คและการรับผิดของผู้สั่งจ่ายแม้จะมีการตกลงเรื่องหนี้สินก่อนหน้านี้
การโอนเช็คจะถือว่ามีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉลหรือไม่นั้นเป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะนำสืบให้ฟังได้ว่าโจทก์รับโอนเช็คพิพาทโดยรู้ว่าจำเลยไม่มีหนี้ที่จะต้องชำระตามเช็ค การที่จำเลยเอาเงินของบ. ไปแล้วออกเช็คมิได้ลงวันถึงกำหนดให้ใช้เงินให้บ. ไว้แสดงอยู่ในตัวว่ายินยอมให้บ. กรอกวันตามที่บ. เห็นสมควรลงในเช็คเพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คได้ อายุความฟ้องเรียกเงินตามเช็คจากผู้สั่งจ่ายเริ่มนับตั้งแต่วันที่เช็คถึงกำหนดหรือวันที่ลงในเช็ค.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3977/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คสั่งจ่ายแก่ผู้ถือ: ผู้ทรงเช็คมีสิทธิฟ้องผู้สั่งจ่ายได้โดยไม่ต้องแสดงรายละเอียดการรับโอน
เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ โจทก์ซึ่งเป็นผู้ถือเช็คพิพาทจึงเป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 904 และตามมาตรา 914 บุคคลซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายย่อมเป็นอันสัญญาว่า เมื่อตั๋วนั้นได้นำมายื่นโดยชอบแล้ว จะมีผู้ใช้เงินตามเนื้อความแห่งตั๋ว ถ้าและตั๋วแลกเงินนั้นเขาไม่เชื่อถือโดยไม่ยอมจ่ายเงิน ผู้สั่งจ่ายก็จะใช้เงินแก่ผู้ทรง เมื่อโจทก์ในฐานะผู้ทรงได้นำเช็คพิพาทเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินและธนาคารปฏิเสธไม่ยอมจ่ายเงิน โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทให้ใช้เงินแก่โจทก์ได้โดยไม่จำต้องบรรยายฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คพิพาทในฐานะอะไร ได้รับโอนจากใคร เมื่อใด และมีมูลหนี้อย่างไรไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม จำเลยให้การว่าโจทก์ได้เช็คพิพาทมาโดยไม่สุจริตเพราะยักยอกจากผู้มีชื่อ เป็นคำให้การที่ปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์รวมทั้งเหตุแห่งการนั้น ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 แล้ว จำเลยมีสิทธิตามข้อต่อสู้ดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2051/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยเหตุฉ้อฉล จำเลยมีสิทธิสืบพยานเพื่อพิสูจน์
โจทก์ในฐานะผู้ทรงเช็คฟ้องเรียกเงินตามเช็คจากจำเลยผู้สั่งจ่าย จำเลยให้การต่อสู้เป็นประเด็นสำคัญว่า บริษัท ม. ผู้โอนเช็คให้โจทก์ได้นำเช็คพิพาทไปขึ้นเงินแล้วธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน บริษัท ม.จึงได้ให้ ก. ลูกหนี้ผู้นำเช็คพิพาทมาชำระหนี้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้แล้วโอนเช็คให้โจทก์ โจทก์รับโอนเช็คพิพาทจากบริษัท ม. โดยคบคิดกันฉ้อฉล โดยโจทก์กับบริษัท ม. ไม่มีมูลหนี้ต่อกัน โจทก์รับสมอ้างนำเช็คมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลย ดังนี้เป็นการให้การต่อสู้ว่าโจทก์มิใช่ผู้ทรงเช็คโดยชอบเพราะการโอนมีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉล จึงเป็นคำให้การที่แสดงโดยชัดแจ้งถึงข้อต่อสู้ของจำเลยรวมทั้งเหตุแห่งการนั้น ต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง จำเลยจึงมีสิทธินำสืบตามข้อต่อสู้ดังกล่าวได้ ไม่ชอบที่ศาลจะสั่งงดสืบพยานแล้วพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1322/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทเช็ค: การต่อสู้ว่าโจทก์ร่วมฉ้อฉลจำเลยและผลต่อการเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบ
คำให้การของจำเลยมีความว่า จำเลยไม่เคยรู้จัก ไม่เคยมีนิติสัมพันธ์ไม่เคยมีมูลหนี้กับโจทก์และนางสาวศิริพร การซื้อขายแหวนเพชรระหว่างโจทก์กับนางสาวศิริพรเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น ฟ้องของโจทก์ไม่เป็นความจริง โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและใช้สิทธิไม่สุจริต พอถือได้ว่าจำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์คบคิดกับนางสาวศิริพรฉ้อฉลจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1322/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทเช็ค: การต่อสู้ว่าโจทก์ฉ้อฉลจำเลยมีผลให้ถือว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยไม่ชอบ
คำให้การของจำเลยมีความว่า จำเลยไม่เคยรู้จักไม่เคยมีนิติสัมพันธ์ไม่เคยมีมูลหนี้กับโจทก์และนางสาวศิริพรการซื้อขายแหวนเพชรระหว่างโจทก์กับนางสาวศิริพรเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้นฟ้องของโจทก์ไม่เป็นความจริงโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและใช้สิทธิไม่สุจริตพอถือได้ว่าจำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์คบคิดกับนางสาวศิริพรฉ้อฉลจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1866/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คออกให้แก่ผู้ถือ: ผู้รับโอนมีอำนาจฟ้อง แม้ไม่มีมูลหนี้ระหว่างผู้สั่งจ่ายกับผู้ทรงคนก่อน
เช็คพิพาทเป็นเช็คออกให้แก่ผู้ถือ โจทก์รับโอนมาย่อมเป็นผู้ทรงจำเลยจะยกข้อต่อสู้โจทก์ว่าเช็คพิพาทไม่มีมูลหนี้ต่อกัน อันอาศัยความเกี่ยวพันเฉพาะบุคคลระหว่างจำเลยผู้สั่งจ่ายกับบิดาโจทก์ผู้ทรงคนก่อนหาได้ไม่คดีจึงไม่จำเป็นต้องสืบพยาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้คดีเช็คพิพาท: จำเลยต้องแสดงเหตุแห่งการต่อสู้ชัดเจนตามมาตรา 177 วรรคสอง เพื่อมีสิทธิสืบพยาน
เช็คพิพาทเป็นเช็คที่ออกให้แก่ผู้ถือ จำเลยให้การว่าจำเลยเพียงแต่ลงลายมือชื่อในเช็คพิพาทโดยไม่ได้กรอกข้อความแล้วมอบให้ อ.ไปชำระหนี้แทนมารดาสามีจำเลยปรากฏว่ามีผู้ไปชำระหนี้ดังกล่าวแล้ว จำเลยจึงขอเช็คพิพาทคืนจาก อ.แต่ อ.แจ้งว่าเช็คพิพาทหายไป ตามคำให้การของจำเลยไม่ได้ระบุว่ามอบเช็คพิพาทให้ อ.ไปชำระหนี้เป็นจำนวนเงินเท่าใด ซึ่งเป็นสารสำคัญเพราะถ้า อ.หรือผู้ใดก็ตามกรอกจำนวนเงินลงในเช็คพิพาทเท่ากับจำนวนเงินที่เป็นหนี้ ย่อมถือไม่ได้ว่าเป็นการปลอมเอกสารคำให้การของจำเลยในข้อนี้จึงไม่ชัดแจ้งและที่จำเลยให้การต่อไปว่าได้มีการกรอกข้อความในข้อสำคัญลงในเช็คพิพาทโดยปราศจากอำนาจโดยจำเลยมิได้รู้เห็นยินยอมด้วยหรือโดยฝ่าฝืนคำสั่งของจำเลยจำเลยก็ไม่ได้ระบุให้ชัดแจ้งว่าจำเลยมีคำสั่งอย่างไร ไม่อาจทราบได้ว่าการกรอกข้อความในเช็คพิพาทนั้นฝ่าฝืนคำสั่งของจำเลยหรือไม่คำให้การของจำเลยจึงไม่แสดงโดยชัดแจ้งซึ่งเหตุแห่งการนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177วรรคสองจำเลยจึงไม่มีสิทธินำพยานมาสืบตามที่ให้การต่อสู้ไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้คดีเช็คพิพาท จำเลยต้องแสดงเหตุแห่งการต่อสู้ชัดเจนตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
เช็คพิพาทเป็นเช็คที่ออกให้แก่ผู้ถือ จำเลยให้การว่าจำเลยเพียงแต่ลงลายมือชื่อในเช็คพิพาทโดยไม่ได้กรอกข้อความแล้วมอบให้ อ. ไปชำระหนี้แทนมารดาสามีจำเลย ปรากฏว่ามีผู้ไปชำระหนี้ดังกล่าวแล้ว จำเลยจึงขอเช็คพิพาทคืนจาก อ. แต่ อ. แจ้งว่าเช็คพิพาทหายไป ตามคำให้การของจำเลยไม่ได้ระบุว่ามอบเช็คพิพาทให้ อ. ไปชำระหนี้เป็นจำนวนเงินเท่าใด ซึ่งเป็นสารสำคัญ เพราะถ้า อ.หรือผู้ใดก็ตามกรอกจำนวนเงินลงในเช็คพิพาทเท่ากับจำนวนเงินที่เป็นหนี้ ย่อมถือไม่ได้ว่าเป็นการปลอมเอกสาร คำให้การของจำเลยในข้อนี้จึงไม่ชัดแจ้งและที่จำเลยให้การต่อไปว่าได้มีการกรอกข้อความในข้อสำคัญลงในเช็คพิพาทโดยปราศจากอำนาจ โดยจำเลยมิได้รู้เห็นยินยอมด้วยหรือโดยฝ่าฝืนคำสั่งของจำเลย จำเลยก็ไม่ได้ระบุให้ชัดแจ้งว่าจำเลยมีคำสั่งอย่างไร ไม่อาจทราบได้ว่าการกรอกข้อความในเช็คพิพาทนั้นฝ่าฝืนคำสั่งของจำเลยหรือไม่ คำให้การของจำเลยจึงไม่แสดงโดยชัดแจ้งซึ่งเหตุแห่งการนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสองจำเลยจึงไม่มีสิทธินำพยานมาสืบตามที่ให้การต่อสู้ไว้
of 24