พบผลลัพธ์ทั้งหมด 18 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1990/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขาดไร้อุปการะจากบุตร: ศาลพิพากษาถูกต้อง แม้ฟ้องเป็นค่าขาดแรงงาน
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ตรวจชำระใหม่ มาตรา 1567(3) โจทก์ทั้งสองผู้ใช้อำนาจปกครองมีสิทธิให้บุตรทำการงานตามสมควรแก่ฐานาบุรูป และมาตรา 1563 บัญญัติให้บุตรจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา ดังนั้นกิจการหรืแรงงานที่บุตรทำให้บิดามารดาก็คือการอุปการะเลี้ยงดูอย่างหนึ่ง เมื่อ ว.บุตรโจทก์ถูกกระทำละเมิดตายลงย่อมทำให้โจทก์ขาดไร้อุปการะจากผู้ตาย โจทก์ฟ้องเรียกค่าขาดแรงงาน ว.ถือได้ว่าเป็นการเรียกร้องค่าขาดไร้อุปการะนั่นเอง การที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าขาดไร้อุปการะให้โจทก์ จึงมิใช่เป็นการพิพากษานอกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3571/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดละเมิดจากการใช้เด็กทำของหนักเกินวัย จำเลยต้องใช้ความระมัดระวังดูแลเด็ก
บุคคลผู้วานหรือใช้บุตรผู้เยาว์ของผู้อื่นทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้ตน มีหน้าที่จะต้องใช้ความระมัดระวังดูแลผู้เยาว์ตามสมควรผู้เยาว์อายุ 9 ปีเศษวิญญูชนย่อมเห็นได้ว่ายังอ่อนต่อสติปัญญาและพลกำลัง การที่จำเลยใช้ผู้เยาว์ขึ้นขย่มให้ผลกระท้อนหล่นจากต้น แล้วจำเลยมิได้ใช้ความระมัดระวังในการป้องกันมิให้เกิดอันตรายแก่ผู้เยาว์โดยงดเว้นมิได้ตักเตือนมิให้ผู้เยาว์ทำงานมากเกินไปผู้เยาว์ขย่มต้นกระท้อนอยู่ครึ่งชั่วโมงเป็นเหตุให้แขนไม่มีกำลังพอที่จะยึดเหนี่ยวกิ่งไม้ไว้ได้จึงตกลงมาตายดังนี้ เป็นการกระทำละเมิดต่อผู้เยาว์ และต่อผู้ใช้อำนาจปกครองของผู้เยาว์ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1487/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจดทะเบียนรับรองบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย แม้ไม่มีความยินยอมจากมารดา หากมารดาถึงแก่กรรมแล้ว
โดยสายโลหิตแล้วโจทก์เป็นบิดาที่แท้จริงของ จ. และโจทก์ยังได้จดทะเบียนรับรองว่า จ. เป็นบุตรของตนอีกขั้นหนึ่งด้วย โจทก์จึงเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของ จ.นับตั้งแต่วันจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1557 และเป็นผู้ปกครองของ จ. ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1566 โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกบุตรของตนคืนจากน้าของบุตรคือจำเลยที่ 2 ซึ่งไม่ยอมคืนบุตรให้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1567(4)
ขณะโจทก์จดทะเบียน จ. เป็นบุตรนั้น มารดาของ จ.ถึงแก่กรรมไปแล้วและขณะนั้น จ. มีอายุเพียง 1 ปีเศษมารดา จ. และ จ. จึงไม่อาจคัดค้านหรือให้ความยินยอมในการขอจดทะเบียนได้ การจดทะเบียนดังกล่าวจึงไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1548
ขณะโจทก์จดทะเบียน จ. เป็นบุตรนั้น มารดาของ จ.ถึงแก่กรรมไปแล้วและขณะนั้น จ. มีอายุเพียง 1 ปีเศษมารดา จ. และ จ. จึงไม่อาจคัดค้านหรือให้ความยินยอมในการขอจดทะเบียนได้ การจดทะเบียนดังกล่าวจึงไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1548
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1487/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจดทะเบียนรับรองบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย แม้ผู้ให้กำเนิดเสียชีวิตแล้ว ย่อมมีผลผูกพันตามกฎหมาย
โดยสายโลหิตแล้วโจทก์เป็นบิดาที่แท้จริงของ จ. และโจทก์ยังได้จดทะเบียนรับรองว่า จ. เป็นบุตรของตนอีกขั้นหนึ่งด้วยโจทก์จึงเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของ จ.นับตั้งแต่วันจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1557 และเป็นผู้ปกครองของ จ. ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1566 โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกบุตรของตนคืนจากน้าของบุตรคือจำเลยที่ 2 ซึ่งไม่ยอมคืนบุตรให้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1567 (4)
ขณะโจทก์จดทะเบียน จ. เป็นบุตรนั้น มารดาของ จ.ถึงแก่กรรมไปแล้วและขณะนั้น จ. มีอายุเพียง 1 ปีเศษ มารดา จ. และ จ.จึงไม่อาจคัดค้านหรือให้ความยินยอมในการขอจดทะเบียนได้ การจดทะเบียนดังกล่าวจึงไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1548
ขณะโจทก์จดทะเบียน จ. เป็นบุตรนั้น มารดาของ จ.ถึงแก่กรรมไปแล้วและขณะนั้น จ. มีอายุเพียง 1 ปีเศษ มารดา จ. และ จ.จึงไม่อาจคัดค้านหรือให้ความยินยอมในการขอจดทะเบียนได้ การจดทะเบียนดังกล่าวจึงไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1548
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3554/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจปกครองบุตรนอกสมรส: มารดายังมีสิทธิกำหนดที่อยู่และเรียกบุตรคืนได้ แม้ตกลงให้บิดาเลี้ยงดู
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บัญญัติให้เด็กที่เกิดจากหญิงที่มิได้มีการสมรสกับชายเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้นทั้งให้มีอำนาจปกครอง มีสิทธิกำหนดที่อยู่ของบุตรและเรียกบุตรคืนจากผู้อื่นซึ่งกักบุตรไว้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้น แม้โจทก์จะได้ตกลงกับจำเลยให้เป็นฝ่ายเลี้ยงดูเด็ก แต่อำนาจปกครองไม่ได้อยู่กับจำเลยต่อมาเมื่อโจทก์ประสงค์จะเลี้ยงดูเองย่อมมีอำนาจกระทำได้เพราะโจทก์เป็นผู้กำหนดที่อยู่ ไม่ใช่เรื่องผิดข้อตกลงหรือใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3554/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจปกครองบุตรเกิดจากหญิงที่ไม่ได้สมรส: มารดายังคงมีสิทธิกำหนดที่อยู่และเรียกบุตรคืนได้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บัญญัติให้เด็กที่เกิดจากหญิงที่มิได้มีการสมรสกับชายเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้น ทั้งให้มีอำนาจปกครอง มีสิทธิกำหนดที่อยู่ของบุตรและเรียกบุตรคืนจากผู้อื่นซึ่งกักบุตรไว้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้น แม้โจทก์จะได้ตกลงกับจำเลยให้เป็นฝ่ายเลี้ยงดูเด็ก แต่อำนาจปกครองไม่ได้อยู่กับจำเลยต่อมาเมื่อโจทก์ประสงค์จะเลี้ยงดูเองย่อมมีอำนาจกระทำได้เพราะโจทก์เป็นผู้กำหนดที่อยู่ ไม่ใช่เรื่องผิดข้อตกลงหรือใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1804/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกบุตรคืน: ศาลงดสืบพยานเมื่อข้อเท็จจริงเพียงพอ และข้อฎีกาใหม่ในชั้นฎีกาต้องห้าม
โจทก์ฟ้องเรียกบุตรคืนเมื่อแถลงรับข้อเท็จจริงกันว่าโจทก์จำเลยไม่ได้จดทะเบียนสมรสจำเลยไม่ได้จดทะเบียนว่าเด็กเป็นบุตร หรือศาลพิพากษาว่าเด็กเป็นบุตรข้อเท็จจริงจึงเพียงพอที่จะวินิจฉัยคดีได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป
ข้อที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่สมควรเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองและได้ฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนอำนาจปกครองนั้น เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับประเด็นในคดีที่มีว่าโจทก์มีสิทธิเรียกบุตรคืนจากจำเลยหรือไม่ศาลมีอำนาจงดสืบพยานหลักฐานได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคสอง
ข้อที่จำเลยฎีกาว่าขณะนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งแสดงว่าจำเลยเป็นบิดาชอบด้วยกฎหมายของบุตรทั้งจำเลยจดทะเบียนว่าเป็นบุตรแล้วโจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกให้ส่งบุตรคืน นั้น จำเลยกล่าวอ้างขึ้นใหม่ในชั้นฎีกามิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
ข้อที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่สมควรเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองและได้ฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนอำนาจปกครองนั้น เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับประเด็นในคดีที่มีว่าโจทก์มีสิทธิเรียกบุตรคืนจากจำเลยหรือไม่ศาลมีอำนาจงดสืบพยานหลักฐานได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคสอง
ข้อที่จำเลยฎีกาว่าขณะนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งแสดงว่าจำเลยเป็นบิดาชอบด้วยกฎหมายของบุตรทั้งจำเลยจดทะเบียนว่าเป็นบุตรแล้วโจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกให้ส่งบุตรคืน นั้น จำเลยกล่าวอ้างขึ้นใหม่ในชั้นฎีกามิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 797/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการถอนผู้ปกครองและการคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เยาว์
เมื่อผู้ใดร้องขอให้ศาลตั้งเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ ไม่มีผู้ใดคัดค้านศาลได้ไต่สวนและสั่งตั้งผู้นั้นเป็นผู้ปกครองดังนี้จะเรียกว่าคดีถึงที่สุดอุทธรณ์ฎีกาต่อไปไม่ได้ก็เฉพาะเรื่องการตั้งผู้ปกครอง
ส่วนเรื่องการร้องขอให้ถอนผู้ปกครองนั้นเป็นอำนาจของศาลเองหรือสั่งเมื่อบุคคลผู้มีสิทธิร้องขอขึ้นมาตาม มาตรา1552,1574,1575และการร้องขอตามมาตราดังกล่าวไม่จำเป็นต้องทำเป็นคดีเรื่องใหม่ขึ้นมาอีกต่างหากจากสำนวนเดิม
ส่วนเรื่องการร้องขอให้ถอนผู้ปกครองนั้นเป็นอำนาจของศาลเองหรือสั่งเมื่อบุคคลผู้มีสิทธิร้องขอขึ้นมาตาม มาตรา1552,1574,1575และการร้องขอตามมาตราดังกล่าวไม่จำเป็นต้องทำเป็นคดีเรื่องใหม่ขึ้นมาอีกต่างหากจากสำนวนเดิม