พบผลลัพธ์ทั้งหมด 429 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 367/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำเรื่องกรรมสิทธิที่ดินเมื่อศาลเคยชี้ขาดแล้วว่าผู้ซื้อได้มาโดยสุจริตและมีค่าตอบแทน
ปรากฏว่าโจทก์ทั้งสองและจำเลยที่ 1 ได้เกี่ยวเป็นคู่ความในคดีพิพาทเรื่องที่ดินรายนี้มาครั้งหนึ่งแล้วและศาลได้วินิจฉัยชี้ขาดในดคีนั้นไว้แล้วว่าจำเลยที่ 1 ในคดีนี้ได้ซื้อที่พิพาทไว้โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนทั้งได้จดทะเบียนสิทธิแล้วโจทก์ทั้งสองจะหยิบยกเอาการครอบครองโดยปรปักษ์มาต่อสู้ใช้ยันจำเลยที่ 1 ไม่ได้ แต่มาในคดีนี้โจทก์ฟ้องอ้างถึงกรรมสิทธิที่โจทก์ควรมีควรได้ตาม ป.พ.พ. ม.1300 ซึ่งในมาตราเดียวกันนี้วางข้อยกเว้นไว้และศาลได้ชี้ขาดในคดีก่อนตามประเด็นที่โต้เถียงกันตามข้อยกเว้นนี้ว่าจำเลยที่ 1 ได้รับโอนที่พิพาทมาโดยสุจริตและมีค่าตอบแทนฟ้องของโจทก์ในคดีนี้เห็นได้ชัดว่เพื่อประสงค์นำสืบถึงเหตุผลซึ่งโจทก์นำสืบไว้ในคดีก่อนไม่สมบูรณ์เท่านั้น การที่จำเลยที่ 2 มิได้เข้าเป็นคู่ความในคดีก่อนไม่เป็นเหตุให้โจทก์ฟ้องคดีนี้ได้เพราะต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.144.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 367/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำในประเด็นกรรมสิทธิ์ที่เคยมีคำพิพากษาแล้ว ศาลยกฟ้องเนื่องจากเป็นการนำสืบเหตุผลเดิมที่ไม่สมบูรณ์
ปรากฏว่าโจทก์ทั้งสองและจำเลยที่ 1 ได้เกี่ยวเป็นคู่ความในคดีพิพาทเรื่องที่ดินรายนี้มาครั้งหนึ่งแล้วและศาลได้วินิจฉัยชี้ขาดในคดีนั้นไว้แล้วว่าจำเลยที่ 1 ในคดีนี้ได้ซื้อที่พิพาทไว้โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนทั้งได้จดทะเบียนสิทธิแล้วโจทก์ทั้งสองจะหยิบยกเอาการครอบครองโดยปรปักษ์มาต่อสู้ใช้ยันจำเลยที่ 1 ไม่ได้แต่มาในคดีนี้โจทก์ฟ้องอ้างถึงกรรมสิทธิ์ที่โจทก์ควรมีควรได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1300 ซึ่งในมาตราเดียวกันนี้วางข้อยกเว้นไว้และศาลได้ชี้ขาดในคดีก่อนตามประเด็นที่โต้เถียงกันตามข้อยกเว้นนี้ว่าจำเลยที่ 1 ได้รับโอนที่พิพาทมาโดยสุจริตและมีค่าตอบแทนฟ้องของโจทก์ในคดีนี้เห็นได้ชัดว่าเพื่อประสงค์นำสืบถึงเหตุผลซึ่งโจทก์นำสืบไว้ในคดีก่อนไม่สมบูรณ์เท่านั้นการที่จำเลยที่ 2 มิได้เข้าเป็นคู่ความในคดีก่อนไม่เป็นเหตุให้โจทก์ฟ้องคดีนี้ได้เพราะต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา144
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1660/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ตามคำพิพากษาตามยอมย่อมมีผลเหนือกว่าสิทธิเจ้าหนี้ แม้มีการยึดทรัพย์ก่อน
ตราบใดยังไม่มีคำพิพากษาแสดงว่าการยอมความและคำพิพากษาท้ายยอมนั้นไม่ถูกต้อง สิทธิตามคำพิพากษานั้นก็ยังคงอยู่
เดิมผู้ร้องพิพาทกับจำเลย ที่สุดได้ประนีประนอมยอมความกันโดยผู้ร้องยอมชำระเงินแก่จำเลย 6,000 บาท จำเลยยอมให้โอนใส่ชื่อผู้ร้องในโฉนดรายพิพาทและศาลได้พิพากษาตามยอมไปแล้ว ดังนี้แม้จำเลยเป็นหนี้โจทก์และนำโฉนดให้โจทก์ยึดถือไว้เป็นประกันแต่ไม่ได้ไปจดทะเบียนไว้ และแม้ศาลจะได้พิพากษาให้จำเลยใช้หนี้โจทก์แล้วก็ตามโจทก์หามีสิทธิในที่พิพาทดีไปกว่าผู้ร้องอย่างไรไม่เพราะสิทธิในการจดทะเบียนกรรมสิทธิที่รายพิพาทตามคำพิพากษาตามยอมยังคงเป็นของผู้ร้องอยู่
เดิมผู้ร้องพิพาทกับจำเลย ที่สุดได้ประนีประนอมยอมความกันโดยผู้ร้องยอมชำระเงินแก่จำเลย 6,000 บาท จำเลยยอมให้โอนใส่ชื่อผู้ร้องในโฉนดรายพิพาทและศาลได้พิพากษาตามยอมไปแล้ว ดังนี้แม้จำเลยเป็นหนี้โจทก์และนำโฉนดให้โจทก์ยึดถือไว้เป็นประกันแต่ไม่ได้ไปจดทะเบียนไว้ และแม้ศาลจะได้พิพากษาให้จำเลยใช้หนี้โจทก์แล้วก็ตามโจทก์หามีสิทธิในที่พิพาทดีไปกว่าผู้ร้องอย่างไรไม่เพราะสิทธิในการจดทะเบียนกรรมสิทธิที่รายพิพาทตามคำพิพากษาตามยอมยังคงเป็นของผู้ร้องอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1660/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ตามคำพิพากษาตามยอม ย่อมมีอำนาจก่อนเจ้าหนี้ แม้มีการยึดทรัพย์
ตราบใดยังไม่มีคำพิพากษาแสดงว่าการยอมความและคำพิพากษาท้ายยอมนั้นไม่ถูกต้อง สิทธิตามคำพิพากษานั้นก็ยังคงอยู่
เดิมผู้ร้องพิพาทกับจำเลย ที่สุดได้ประนีประนอมยอมความกันโดยผู้ร้องยอมชำระเงินแก่จำเลย 6,000 บาท จำเลยยอมให้โอนใส่ชื่อผู้ร้องในโฉนดรายพิพาทและศาลได้พิพากษาตามยอมไปแล้ว ดังนี้แม้จำเลยเป็นหนี้โจทก์และนำโฉนดให้โจทก์ยึดถือไว้เป็นประกันแต่ไม่ได้ไปจดทะเบียนไว้ และแม้ศาลจะได้พิพากษาให้จำเลยใช้หนี้โจทก์แล้วก็ตามโจทก์หามีสิทธิในที่พิพาทดีไปกว่าผู้ร้องอย่างไรไม่เพราะสิทธิในการจดทะเบียนกรรมสิทธิที่รายพิพาทตามคำพิพากษาตามยอมยังคงเป็นของผู้ร้องอยู่
เดิมผู้ร้องพิพาทกับจำเลย ที่สุดได้ประนีประนอมยอมความกันโดยผู้ร้องยอมชำระเงินแก่จำเลย 6,000 บาท จำเลยยอมให้โอนใส่ชื่อผู้ร้องในโฉนดรายพิพาทและศาลได้พิพากษาตามยอมไปแล้ว ดังนี้แม้จำเลยเป็นหนี้โจทก์และนำโฉนดให้โจทก์ยึดถือไว้เป็นประกันแต่ไม่ได้ไปจดทะเบียนไว้ และแม้ศาลจะได้พิพากษาให้จำเลยใช้หนี้โจทก์แล้วก็ตามโจทก์หามีสิทธิในที่พิพาทดีไปกว่าผู้ร้องอย่างไรไม่เพราะสิทธิในการจดทะเบียนกรรมสิทธิที่รายพิพาทตามคำพิพากษาตามยอมยังคงเป็นของผู้ร้องอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 601/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เป็นเพียงบุคคลสิทธิ ไม่ใช่ทรัพย์สิทธิ จึงไม่สามารถเพิกถอนการจดทะเบียนได้
สิทธิตามสัญญาจะซื้อขายอสังหาาริมทรัพย์นั้น เป็นเพียงบุคคลสิทธิ ไม่ใช่ทรัพย์สิทธิซึ่งจะติดตามตัวทรัพย์เอากลับคืนจากบุคคลภายนอกได้และไม่เป็นสิทธิที่จะจดทะิบียนได้ จึงไม่มีสิทธิที่จะจดทะเบียนได้ จึงไม่มีสิทธิจะฟ้องร้องให้เพิกถอนการโอนอสังหาริมทรัพย์ที่บุคคลอื่นได้จดทะเบียนไว้แล้ตามมาตรา 1300
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 601/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในสัญญาจะซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เป็นบุคคลสิทธิ ไม่ใช่ทรัพย์สิทธิ จึงไม่สามารถเพิกถอนการจดทะเบียนให้บุคคลภายนอกได้
สิทธิตามสัญญาจะซื้อขายอสังหาริมทรัพย์นั้น เป็นเพียงบุคคลสิทธิ ไม่ใช่ทรัพย์สิทธิซึ่งจะติดตามตัวทรัพย์เอากลับคืนจากบุคคลภายนอกได้และไม่เป็นสิทธิที่จะจดทะเบียนได้ จึงไม่มีสิทธิจะฟ้องร้องให้เพิกถอนการโอนอสังหาริมทรัพย์ที่บุคคลอื่นได้จดทะเบียนไว้แล้วตามมาตรา1300
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 504/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับใบแทนโฉนดโดยไม่สุจริต ไม่มีสิทธิฟ้องแย่งการครอบครองจากผู้ครอบครองเดิม
ผู้ได้ใบแทนโฉนดตลอดจนการจดทะเบียนสิทธิมาโดยไม่สุจริต ย่อมไม่มีสิทธิฟ้องผู้ครอบครองที่ดินอยู่ก่อนและยึดถือโฉนดไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ยังมิได้แก้หลักฐานทางทะเบียนแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 504/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับใบแทนโฉนดไม่สุจริต ไม่มีสิทธิฟ้องครอบครองที่ดินเดิม
ผู้ได้ใบแทนโฉนดตลอดจนการจดทะเบียนสิทธิมาโดยไม่สุจริตย่อมไม่มีสิทธิฟ้องผู้ครอบครองที่ดินอยู่ก่อนและยึดถือโฉนดไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ยังมิได้แก้หลักฐานทางทะเบียนแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 100/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อที่ดิน: สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากการขายโดยไม่บอกก่อน มิอาจบังคับให้ขายได้
เช่าที่ดินของเขา เพื่อปลูกเรือนอาศัย มีกำหนด 20 ปี มีข้อสัญญาอยู่ข้อหนึ่งว่า เมื่อผู้ให้เช่าประสงค์จะขายที่ดินนั้น ผู้ให้เช่าต้องบอกขายกับผู้เช่าก่อน ฯลฯ ดังนี้ ครั้นผู้ให้เช่าผิดสัญญาขายที่ดินนั้นแก่ผู้อื่นไปโดยไม่บอกผู้เช่าก่อน ผู้เช่าย่อมมีสิทธิเพียงฟ้องเรียกค่าเสียหายเท่านั้น ผู้เช่าจะฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดินนั้นระหว่างผู้ให้เช่ากับบุคคลภายนอก และบังคับให้ขายแก่ผู้เช่าไม่ได้ เพราะกำหนดในสัญญาดังกล่าวไม่พอให้ถือว่าเป็นคำมั่นหรือจะซื้อขาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 100/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้เช่าเมื่อเจ้าของที่ดินขายโดยไม่บอกก่อน สัญญาเช่าไม่ถือเป็นข้อตกลงจะซื้อขาย
เช่าที่ดินของเขา เพื่อปลูกเรือนอาศัย มีกำหนด 20 ปี มีข้อสัญญาอยู่ข้อหนึ่งว่า เมื่อผู้ให้เช่าประสงค์จะขายที่ดินนั้น ผู้ให้เช่าต้องบอกขายกับผู้เช่าก่อน ฯลฯ
ดังนี้ ครั้นผู้ให้เช่าผิดสัญญาขายที่ดินนั้นแก่ผู้อื่นไปโดยไม่บอกผู้เช่าก่อนผู้เช่าย่อมมีสิทธิเพียงฟ้องเรียกค่าเสียหายเท่านั้นผู้เช่าจะฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดินนั้นระหว่างผู้ให้เช่ากับบุคคลภายนอกและบังคับให้ขายแก่ผู้เช่าไม่ได้ เพราะกำหนดในสัญญาดังกล่าวไม่พอให้ถือว่าเป็นคำมั่นหรือจะซื้อขาย
ดังนี้ ครั้นผู้ให้เช่าผิดสัญญาขายที่ดินนั้นแก่ผู้อื่นไปโดยไม่บอกผู้เช่าก่อนผู้เช่าย่อมมีสิทธิเพียงฟ้องเรียกค่าเสียหายเท่านั้นผู้เช่าจะฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดินนั้นระหว่างผู้ให้เช่ากับบุคคลภายนอกและบังคับให้ขายแก่ผู้เช่าไม่ได้ เพราะกำหนดในสัญญาดังกล่าวไม่พอให้ถือว่าเป็นคำมั่นหรือจะซื้อขาย