พบผลลัพธ์ทั้งหมด 429 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 698/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์โดยครอบครองปรปักษ์และการโอนที่ดินโดยไม่สุจริต
โจทก์ครอบครองที่พิพาทจนได้กรรมสิทธิ์ตามมาตรา 1382 แล้วได้ไปกู้เงินโดยเอาโฉนดที่พิพาทให้เจ้าหนี้ยึดไว้
จำเลยที่ 1 ลอบไปไถ่คืนเอาโฉนดมาจากเจ้าหนี้ของโจทก์แล้วโอนใส่ชื่อจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของโดยโจทก์ไม่ทราบแล้วจำเลยที่ 1 ยังโอนยกให้จำเลยที่ 2 ผู้เป็นบุตรดังนี้ การโอนโฉนดลงชื่อจำเลยที่ 1 ก็ดีการโอนระหว่างจำเลยที่ 1 กับ ที่ 2 ก็ดี เป็นไปโดยไม่สุจริตและไม่มีค่าตอบแทนจำเลยทั้งสองจะยกมาตรา 1299,1300 ขึ้นต่อสู้โจทก์ไม่ได้
จำเลยที่ 1 ลอบไปไถ่คืนเอาโฉนดมาจากเจ้าหนี้ของโจทก์แล้วโอนใส่ชื่อจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของโดยโจทก์ไม่ทราบแล้วจำเลยที่ 1 ยังโอนยกให้จำเลยที่ 2 ผู้เป็นบุตรดังนี้ การโอนโฉนดลงชื่อจำเลยที่ 1 ก็ดีการโอนระหว่างจำเลยที่ 1 กับ ที่ 2 ก็ดี เป็นไปโดยไม่สุจริตและไม่มีค่าตอบแทนจำเลยทั้งสองจะยกมาตรา 1299,1300 ขึ้นต่อสู้โจทก์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 661/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายสวนยางจากผู้ไม่มีสิทธิ เจ้าของเดิมไม่ทราบการซื้อขาย แม้สุจริตก็ใช้ไม่ได้
สวนยางซึ่งมีใบเหยียบย่ำเดิมเป็นของจำเลย ได้มอบให้เจ้าหนี้ยึดไว้เป็นประกัน ต่อมามีบุคคลภายนอกเอาสวนยางนี้ไปหลอกขายให้โจทก์ทำหนังสือซื้อขายที่อำเภอโดยจำเลยไม่ทราบ ดังนี้ แม้โจทก์จะได้รับซื้อไว้โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน ก็จะอ้างการจดทะเบียนซื้อขายนั้นมายันแก่จำเลยผู้เป็นเจ้าของไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 492/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินเมื่อเจ้าของไม่รู้เห็นสัญญาขายฝาก การโอนสิทธิโดยไม่สุจริต
เจ้าของที่ดินมีสิทธิครอบครองในที่สวนยางรายพิพาทมิได้รู้เห็นในการที่บุตรบุญธรรมของตนไปทำสัญญาขายฝากที่พิพาทแก่นาง ก. นาง ก. ย่อมไม่ได้สิทธิในที่รายนี้ ดังนี้ โจทก์ผู้รับโอนที่ดินไปจากนาง ก. ก็ย่อมไม่มีสิทธิดีกว่านาง ก. ผู้โอน ทั้งการโอนก็เป็นไปโดยไม่สุจริต รูปคดีไม่เข้าลักษณะมาตรา 1299,1300 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 492/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดิน: เจ้าของมีสิทธิครอบครอง บุตรบุญธรรมทำสัญญาโอนโดยไม่สุจริต ผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่า
เจ้าของที่ดินมีสิทธิครอบครองในที่สวนยางรายพิพาทมิได้รู้เห็นในการที่บุตรบุญธรรมของตนไปทำสัญญาขายฝากที่พิพาทแก่นาง ก. ๆ ย่อมไม่ได้สิทธิในที่รายนี้ ดังนี้ โจทก์ผู้รับโอนที่ดินไปจากนาง ก. ก็ย่อมไม่มีสิทธิดีกว่านาง ก. ผู้โอน ทั้งการโอนก็เป็นไปโดยไม่สุจริต รูปคดีไม่เข้าลักษณะมาตรา 1299,1300 ป.ม.แพ่งฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 491/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินโดยใบมอบฉันทะที่ถูกแก้ไข และความสุจริตของผู้ซื้อ
โจทก์ได้เซ็นชื่อลงในใบมอบฉันทะโดยไม่ได้กรอกข้อความอะไรเลย มอบให้จำเลยที่ 2 ไว้ เพื่อว่าเมื่อจำเลยที่ 2 ชำระหนี้เงินให้โจทก์แล้ว จำเลยที่ 2 จะได้โอนที่ดินเป็นของจำเลยที่ 2 ตามที่ตกลงกันไว้ แล้วจำเลยที่ 1,2 และ 4 คบคิดกันกรอกข้อความลงในใบมอบฉันทะนั้นว่า โจทก์มอบให้จำเลยที่ 1 ไปขายที่ดินนี้แก่จำเลยที่ 5,6 ซึ่งผิดจากที่ได้รับมอบหมายไว้เป็นเรื่องยักยอกตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 315 ถ้าจำเลยที่ 5,6 ได้รับซื้อโดยสุจริต รูปคดีเข้าลักษณะความรับผิดของตัวการต่อบุคคลภายนอกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 822 โจทก์ซึ่งเป็นตัวการต้องรับผิดต่อจำเลยที่ 5,6 ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก
ฟ้องโจทก์มิได้กล่าวเลยว่าจำเลยผู้รับซื้อที่พิพาทได้สมคบกับจำเลยซึ่งเป็นผู้กรอกลงในใบมอบฉันทะของโจทก์ ซึ่งมีแต่ลายมือชื่อหรือกระทำการโดยไม่สุจริตประการใด ทั้งมิได้นำสืบถึงความไม่สุจริตของจำเลยผู้ซื้อนี้อย่างใดเลย จึงไม่มีทางเพิกถอนสัญญาซื้อขายนั้นได้
ฟ้องโจทก์มิได้กล่าวเลยว่าจำเลยผู้รับซื้อที่พิพาทได้สมคบกับจำเลยซึ่งเป็นผู้กรอกลงในใบมอบฉันทะของโจทก์ ซึ่งมีแต่ลายมือชื่อหรือกระทำการโดยไม่สุจริตประการใด ทั้งมิได้นำสืบถึงความไม่สุจริตของจำเลยผู้ซื้อนี้อย่างใดเลย จึงไม่มีทางเพิกถอนสัญญาซื้อขายนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 475/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งแยกที่ดินร่วม: ศาลฎีกาชี้ว่าต้องพิจารณาตามหลักเจ้าของรวมหรือกรรมสิทธิ์รวม ไม่ใช่มาตรา 1300
โจทก์ที่ 2 รับโอนที่นาส่วนของโจทก์ที่ 1 มา จึงมามีชื่อในโฉนดที่นาพิพาทร่วมกับจำเลย โจทก์จึงฟ้องขอให้จำเลยแบ่งแยกที่นาพิพาทให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง จำเลยต่อสู้ว่าที่ส่วนของจำเลยซึ่งรับโอนมาจากเจ้าของเดิมนั้นมีมากกว่าส่วนของโจทก์ และได้ครอบครองเป็นส่วนสัดกันมาส่วนของโจทก์ไม่ใช่ครึ่งหนึ่งดังฟ้อง ดังนี้ ไม่ใช่กรณีที่จะวินิจฉัยตามมาตรา 1300 หากต้องวินิจฉัยโดยบทบัญญัติอันว่าด้วยเจ้าของรวมหรือกรรมสิทธิ์รวม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 475/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งแยกที่ดินพิพาทระหว่างเจ้าของรวม ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยผิดดุลพินิจ โดยนำมาตรา 1300 มาใช้โดยไม่ถูกต้อง
โจทก์ที่ 2 รับโอนที่นาส่วนของโจทก์ที่ 1 มา จึงมามีชื่อในโฉนดที่นาพิพาทร่วมกับจำเลย โจทก์จึงฟ้องขอให้จำเลยแบ่งแยกที่นาพิพาทให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง จำเลยต่อสู้ว่าที่ส่วนของจำเลยซึ่งรับโอนมาจากเจ้าของเดิมนั้นมีมากกว่าส่วนของโจทก์ และได้ครอบครองเป็นส่วนสัดกันมา ส่วนของโจทก์ไม่ใช่ครึ่งหนึ่งดังฟ้อง ดังนี้ ไม่ใช่กรณีที่จะวินิจฉัยตามมาตรา 1300 หากต้องวินิจฉัยโดยบทบัญญัติอันว่าด้วยเจ้าของรวมหรือกรรมสิทธิรวม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1089/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายเรือและการโอนกรรมสิทธิ์โดยทุจริต
โจทก์ได้ซื้อเรือต่อระวางบรรทุก 6,67 ตันกรอสจากจำเลยที่ 1โดยทำหนังสือกันเอง และได้ชำระเงินค่าเรือแล้ว จำเลยที่ 1 ได้มอบใบทะเบียนเรือและตัวเรือให้แก่โจทก์ ยังเหลือแต่เพียงไปโอนชื่อแก้ทะเบียนที่กรมเจ้าท่าเท่านั้น โจทก์ย่อมมีสิทธิในเรือลำนี้แล้วต่อมาโจทก์มอบเรือลำนี้ให้แก่จำเลยที่ 2 ไปใช้ โดยจำเลยที่ 2 รู้เป็นอย่างดีแล้วว่า เรือลำนี้โจทก์ขอซื้อจากจำเลยที่ 1 และได้ชำระราคากันเสร็จแล้ว จำเลยที่ 1 ที่ 2 สมรู้กันไปโอนทะเบียนใส่ชื่อจำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของ ดังนี้โจทก์ย่อมฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายเรือระหว่างจำเลยที่ 1 กับที่ 2 เสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1089/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายเรือและการโอนทะเบียนที่ทุจริตต่อผู้รับมอบทรัพย์
โจทก์ได้ซื้อเรือต่อระวางบรรทุก 6, 67 ตันกรอสจากจำเลยที่ 1 โดยทำหนังสือกันเอง และได้ชำระเงินค่าเรือแล้ว จำเลยที่ 1 ได้มอบใบทะเบียนเรือและตัวเรือให้แก่โจทก์ ยังเหลือแต่เพียงไปโอนชื่อแก้ทะเบียนที่กรมเจ้าท่าเท่านั้น โจทก์ย่อมมีสิทธิในเรือลำนี้แล้ว ต่อมาโจทก์มอบเรือลำนี้ให้แก่จำเลยที่ 2 ไปใช้โดยจำเลยที่ 2 รู้เป็นอย่างดีแล้วว่า เรือลำนี้โจทก์ขอซื้อจากจำเลยที่ 1 และได้ชำระราคากันเสร็จแล้ว จำเลยที่ 1 ที่ 2 สมรู้กันไปโอนทะเบียนใส่ชื่อจำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของ ดังนี้โจท์ย่อมฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายเรือระหว่างจำเลยที่ 1 กับที่ 2 เสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 609/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์: ศาลฎีกาวินิจฉัยกลับข้อเท็จจริงเรื่องการครอบครองและกรรมสิทธิ์
โจทก์ฟ้องว่าผู้ตายได้ยกที่พิพาทให้โจทก์ครอบครองปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ์แล้วจึงตาย จำเลยที่ 1 เป็นทายาทของผู้ตาย ได้ขอโอนรับมรดกที่พิพาท และโอนขายให้จำเลยที่ 2 โดยไม่สุจริต จึงขอให้ศาลแสดงว่า โจทก์มีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาท และถอนชื่อจำเลยที่ 2 ออกจากโฉนด
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงตามพยานโจทก์ พิพากษาให้โจทก์ชนะคดีเต็มตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ไม่ได้ชี้ข้อเท็จจริงว่า โจทก์ครอบครองจนได้กรรมสิทธิ์หรือไม่แต่ชี้ในข้อที่ว่า โจทก์สืบไม่ได้ว่า จำเลยที่ 2 ซื้อไปโดยไม่สุจริตพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกาในข้อที่ว่าสัญญาซื้อขายไม่สุจริตข้อเดียว
ศาลฎีกามีอำนาจชี้ขาดข้อเท็จจริงว่า โจทก์ยังไม่ได้กรรมสิทธิ์โดยครอบครองปรปักษ์ได้
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงตามพยานโจทก์ พิพากษาให้โจทก์ชนะคดีเต็มตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ไม่ได้ชี้ข้อเท็จจริงว่า โจทก์ครอบครองจนได้กรรมสิทธิ์หรือไม่แต่ชี้ในข้อที่ว่า โจทก์สืบไม่ได้ว่า จำเลยที่ 2 ซื้อไปโดยไม่สุจริตพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกาในข้อที่ว่าสัญญาซื้อขายไม่สุจริตข้อเดียว
ศาลฎีกามีอำนาจชี้ขาดข้อเท็จจริงว่า โจทก์ยังไม่ได้กรรมสิทธิ์โดยครอบครองปรปักษ์ได้