พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,295 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 437/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องอ้างอิงข้อกฎหมายที่ชัดเจน การยกเหตุผลลอย ๆ ไม่เป็นประเด็นกฎหมายที่ศาลจะวินิจฉัย
การฎีกาปัญหาข้อกฏหมายนั้น ผู้ฎีกาจะต้องอ้างอิงยกข้อกฎหมายขึ้นกล่าวด้วยว่า ไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างใด เพียงแต่กล่าวว่า ไม่ชอบด้วยกฎหมายและเหตุผลเฉย ๆ เท่านั้น ไม่เป็นข้อกฎหมายอันศาลฎีกาจะพึงวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมรับข้อตกลงเฉพาะส่วนของคู่ความย่อมผูกพัน ทั้งไม่อาจยกข้อผิดพลาดในการคัดรายการเนื้อที่ขึ้นเป็นเหตุอุทธรณ์ฎีกาได้
มีผู้คัดค้านอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินบางส่วนแปลงที่ผู้ร้อง ร้องขอให้ศาลแสดงว่าเป็นของผู้ร้องและได้แถลงต่อศาลว่า ถ้าผู้ร้องตกลงยอมให้ที่ดินกับผู้ค้านตามบัญชีทรัพย์ท้ายคำคัดค้านแล้ว ผู้ค้านก็ไม่ติดใจคัดค้านอะไรอีก ผู้ร้องตกลงยอม ศาลจึงพิพากษาให้ที่ตามบัญชีท้ายคำคัดค้านเป็นของผู้ค้าน ส่วนที่เหลือจากนั้น ให้เป็นของผู้ร้อง ดังนี้ ผู้ค้านจะอ้างว่าคัดรายการเนื้อที่ในคำคัดค้านผิดไปจากความจริง ยกขึ้นเป็นข้ออุทธรณ์,ฎีกา ให้ศาลตัดสินให้ถูกต้องตามเนื้อที่ที่เป็นเป็นจริงไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมรับข้อเสนอของคู่ความศาลยึดถือเป็นสิ้นสุด แม้ภายหลังจะอ้างสำคัญผิดเกี่ยวกับเนื้อที่ดิน
มีผู้คัดค้านอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินบางส่วนแปลงที่ผู้ร้อง ร้องขอให้ศาลแสดงว่าเป็นของผู้ร้อง และได้แถลงต่อศาลว่า ถ้าผู้ร้องตกลงยอมให้ที่ดินกับผู้ค้านตามบัญชีทรัพย์ท้ายคำคัดค้านแล้ว ผู้ค้านก็ไม่ติดใจคัดค้านอะไรอีก ผู้ร้องตกลงยอม ศาลจึงพิพากษาให้ที่ตามบัญชีท้ายคำคัดค้านเป็นของผู้ค้าน ส่วนที่เหลือจากนั้น ให้เป็นของผู้ร้อง ดังนี้ ผู้ค้านจะอ้างว่าคัดรายการเนื้อที่ในคำคัดค้านผิดไปจากความจริง ยกขึ้นเป็นข้ออุทธรณ์,ฎีกาให้ศาลตัดสินให้ถูกต้องตามเนื้อที่ที่เป็นจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 440/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องแย้งเรื่องสิทธิในที่ดิน และการจำกัดการซักค้านพยานต้องเป็นไปตามขั้นตอน
โจทก์ฟ้องเรียกโฉนดคืนจากจำเลย จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยมีสิทธิในที่พิพาทนั้นกึ่งหนึ่ง และโจทก์ให้โฉนดมาพร้อมกับใบมอบฉันทะเพื่อแบ่งให้จำเลย เมื่อโจทก์กลับใจเรียกโฉนดคืน ดังนี้จำเลยย่อมฟ้องแย้งขอให้ศาลแบ่งที่ดินให้จำเลยมาในคำให้การด้วยได้ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวเนื่องกัน
เมื่อศาลชั้นต้นบันทึกเรื่องทนายโจทก์ถามพยานซ้ำซาก จึงสั่งให้งดทนายโจทก์ก็มิได้คัดค้าน หรือยื่นคำแถลงคัดค้านไว้ ภายหลังทนายโจทก์จะมาคัดค้านว่า เป็นเรื่องศาลชั้นต้นห้ามทนายถามพยานนั้น ย่อมฟังไม่ขึ้น
เมื่อศาลชั้นต้นบันทึกเรื่องทนายโจทก์ถามพยานซ้ำซาก จึงสั่งให้งดทนายโจทก์ก็มิได้คัดค้าน หรือยื่นคำแถลงคัดค้านไว้ ภายหลังทนายโจทก์จะมาคัดค้านว่า เป็นเรื่องศาลชั้นต้นห้ามทนายถามพยานนั้น ย่อมฟังไม่ขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 440/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินร่วมกัน, ฟ้องแย้ง, การห้ามซักค้านพยาน: ศาลฎีกาวินิจฉัยประเด็นการฟ้องแย้งสิทธิในที่ดินและอำนาจศาลในการควบคุมการซักถามพยาน
โจทก์ฟ้องเรียกโฉนดคืนจากจำเลย จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยมีสิทธิ์ในที่พิพาทนั้นกึ่งหนึ่ง และโจทก์ให้โฉนดมาพร้อมกับใบมอบฉันทะเพื่อแบ่งให้จำเลย เมื่อโจทก์กลับใจเรียกโฉนดคืน ดังนี้จำเลยย่อมฟ้องแย้งขอให้ศาลแบ่งที่ดินให้จำเลยมาในคำให้การด้วยได้ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวเนื่องกัน
เมื่อศาลชั้นต้นบันทึกเรื่องทนายโจทก์ถามพะยานซ้ำซากจึงสั่งให้งด ทนายโจทก์มิได้คัดค้าน หรือยื่นคำแถลงคัดค้านไว้ ภายหลังทนายโจทก์จะมาคัดค้านว่า เป็นเรื่องศาลชั้นต้นห้ามทนายถามพะยานนั้น ย่อมฟังไม่ขึ้น
เมื่อศาลชั้นต้นบันทึกเรื่องทนายโจทก์ถามพะยานซ้ำซากจึงสั่งให้งด ทนายโจทก์มิได้คัดค้าน หรือยื่นคำแถลงคัดค้านไว้ ภายหลังทนายโจทก์จะมาคัดค้านว่า เป็นเรื่องศาลชั้นต้นห้ามทนายถามพะยานนั้น ย่อมฟังไม่ขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 445/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อกำหนดในพินัยกรรมมอบอำนาจจัดสรรทรัพย์สินโดยมิได้กำหนดเกณฑ์ชัดเจนเป็นโมฆะ และการใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับพินัยกรรม
ข้อกำหนดในพินัยกรรม์ที่มอบให้บุคคลใดเป็นผู้ปกครองทรัพย์จะจัดแบ่งให้แก่ใครเท่าใดแล้วแต่ผู้นั้นจะเห็นสมควรนั้น เป็นโมฆะตามประมวลแพ่ง ฯ มาตรา 1706 ข้อ 3
ถ้ามีปัญหาเกี่ยวด้วยความสามารถของผู้ทำพินัยกรรม์ต้องใช้กฎหมายในขณะที่ทำพินัยกรรมบังคับ แต่ถ้าเป็นปัญหาในเรื่องผลของพินัยกรรม์ ศาลต้องใช้กฎหมายในขณะที่พินัยกรรม์นั้นมีผลบังคับ คือในเวลาที่ผู้ทำพินัยกรรม์ตาย
ปัญหาว่าข้อกำหนดในพินัยกรรม์เป็นโมฆะหรือไม่นั้น เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่ได้ว่ากันมาแต่ในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ก็หยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
ถ้ามีปัญหาเกี่ยวด้วยความสามารถของผู้ทำพินัยกรรม์ต้องใช้กฎหมายในขณะที่ทำพินัยกรรมบังคับ แต่ถ้าเป็นปัญหาในเรื่องผลของพินัยกรรม์ ศาลต้องใช้กฎหมายในขณะที่พินัยกรรม์นั้นมีผลบังคับ คือในเวลาที่ผู้ทำพินัยกรรม์ตาย
ปัญหาว่าข้อกำหนดในพินัยกรรม์เป็นโมฆะหรือไม่นั้น เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่ได้ว่ากันมาแต่ในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ก็หยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 445/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อกำหนดในพินัยกรรมมอบอำนาจจัดแบ่งทรัพย์สินโดยไม่จำกัด เป็นโมฆะตามกฎหมาย และศาลใช้กฎหมาย ณ เวลาที่พินัยกรรมมีผลบังคับใช้
ข้อกำหนดในพินัยกรรมที่มอบให้บุคคลใดเป็นผู้ปกครองทรัพย์จะจัดแบ่งให้แก่ใครเท่าใดแล้วแต่ผู้นั้นจะเห็นสมควรนั้น เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1706 ข้อ 3
ถ้ามีปัญหาเกี่ยวด้วยความสามารถของผู้ทำพินัยกรรมต้องใช้กฎหมายในขณะที่ผู้ทำพินัยกรรมบังคับ แต่ถ้าเป็นปัญหาในเรื่องผลของพินัยกรรม ศาลต้องใช้กฎหมายในขณะที่พินัยกรรมนั้นมีผลบังคับ คือในเวลาที่ผู้ทำพินัยกรรมตาย
ปัญหาว่าข้อกำหนดในพินัยกรรมเป็นโมฆะหรือไม่นั้น เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่ได้ว่ากันมาแต่ในศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์ก็หยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
ถ้ามีปัญหาเกี่ยวด้วยความสามารถของผู้ทำพินัยกรรมต้องใช้กฎหมายในขณะที่ผู้ทำพินัยกรรมบังคับ แต่ถ้าเป็นปัญหาในเรื่องผลของพินัยกรรม ศาลต้องใช้กฎหมายในขณะที่พินัยกรรมนั้นมีผลบังคับ คือในเวลาที่ผู้ทำพินัยกรรมตาย
ปัญหาว่าข้อกำหนดในพินัยกรรมเป็นโมฆะหรือไม่นั้น เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่ได้ว่ากันมาแต่ในศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์ก็หยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 56/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่นำสืบตามคำสั่งศาล & การตีความสัญญาซื้อขาย: ข้อโต้แย้งการแก้ไขสัญญาไม่ใช่การแก้ไขเอกสาร
คู่ความโต้แย้งกันในเรื่องกำหนดหน้าที่นำสืบไว้ในรายงานพิจารณาของศาล แต่เมื่อศาลสั่งให้โจทก์นำสืบก่อนแล้ว โจทก์มิได้โต้แย้งคำสั่งศาลประการใดนั้น เป็นคำโต้แย้งระหว่างคู่ความ ไม่ใช่โต้แย้งคำสั่งศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2) จะอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
สัญญาซื้อขายโรงเลื่อยซึ่งมีบัญชีสิ่งของแนบท้ายสัญญาและในตอนท้ายบัญชีมีข้อความว่า 'เครื่องอะไหล่ที่ไม่แจ้งในบัญชีมีเล็กน้อยเมื่อรับโอนแล้วยังมีเหลือเท่าใดผู้ขายจะมอบให้' ดังนี้ การที่จำเลยนำสืบว่าสิ่งของตามที่โจทก์ฟ้องเป็นเครื่องอะไหล่เล็กน้อยตามข้อความในตอนท้ายบัญชีนั้นเป็นเรื่องสืบอธิบายข้อความในสัญญา ไม่ใช่เป็นเรื่องสืบแก้ไขเอกสาร
สัญญาซื้อขายโรงเลื่อยซึ่งมีบัญชีสิ่งของแนบท้ายสัญญาและในตอนท้ายบัญชีมีข้อความว่า 'เครื่องอะไหล่ที่ไม่แจ้งในบัญชีมีเล็กน้อยเมื่อรับโอนแล้วยังมีเหลือเท่าใดผู้ขายจะมอบให้' ดังนี้ การที่จำเลยนำสืบว่าสิ่งของตามที่โจทก์ฟ้องเป็นเครื่องอะไหล่เล็กน้อยตามข้อความในตอนท้ายบัญชีนั้นเป็นเรื่องสืบอธิบายข้อความในสัญญา ไม่ใช่เป็นเรื่องสืบแก้ไขเอกสาร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 56/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่นำสืบตามคำสั่งศาล และการตีความสัญญาซื้อขายโดยการอธิบายข้อความในสัญญา
คู่ความโต้แย้งกันในเรื่องกำหนดหน้าที่นำสืบไว้ในรายงานพิจารณาของศาลแต่เมื่อศาลสั่งให้โจทก์นำสืบก่อนแล้ว โจทก์มิได้โต้แย้งคำสั่งศาลประการใดนั้น เป็นคำโต้แย้งระหว่างคู่ความ ไม่ใช่โต้แย้งคำสั่งศาลตาม ป.ม.วิ.แพ่ง ม.226 (2) จะอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
สัญญาซื้อขายโรงเลื่อยซึ่งมีบัญชีสิ่งของแนบท้ายสัญญา และในตอนท้ายบัญชีมีข้อความว่า "เครื่องอาหลั่ยที่ไม่แจ้งในบัญชีมีเล็กน้อยเมื่อรับโอนแล้วยังมีเหลือเท่าใดผู้ขายจะมอบให้" ดังนี้การที่จำเลยนำสืบว่า สิ่งของตามที่โจทก์ฟ้องเป็นเครื่องอาหลั่ยเล็กน้อยตามข้อความในตอนท้ายบัญชีนั้น เป็นเรื่องสืบอธิบายข้อความในสัญญา ไม่ใช่เป็นเรื่องสืบแก้ไขเอกสาร
สัญญาซื้อขายโรงเลื่อยซึ่งมีบัญชีสิ่งของแนบท้ายสัญญา และในตอนท้ายบัญชีมีข้อความว่า "เครื่องอาหลั่ยที่ไม่แจ้งในบัญชีมีเล็กน้อยเมื่อรับโอนแล้วยังมีเหลือเท่าใดผู้ขายจะมอบให้" ดังนี้การที่จำเลยนำสืบว่า สิ่งของตามที่โจทก์ฟ้องเป็นเครื่องอาหลั่ยเล็กน้อยตามข้อความในตอนท้ายบัญชีนั้น เป็นเรื่องสืบอธิบายข้อความในสัญญา ไม่ใช่เป็นเรื่องสืบแก้ไขเอกสาร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 461/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขีดฆ่าอากรแสตมป์ด้วยเส้นขีดคร่อม แม้ไม่มีวันเดือนปี ก็ถือเป็นการขีดฆ่าที่ถูกต้องตามกฎหมาย
การขีดฆ่าอากรแสตมป์โดยเพียงแต่ลงเส้นขีดคร่อมมิให้อากรแสตมป์ใช้การได้ต่อไป ก็รับฟังเป็นพะยานหลักฐานได้
ปัญหาว่า การขีดฆ่าอากรมแสตมป์จะถูกต้องใช้บังคับได้หรือไม่นั้น แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นต่อสู้และไม่มีอุทธรณ์ก็ตาม ศาลอุทธรณ์ย่อมยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
อ้างฎีกา +/2487
ปัญหาว่า การขีดฆ่าอากรมแสตมป์จะถูกต้องใช้บังคับได้หรือไม่นั้น แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นต่อสู้และไม่มีอุทธรณ์ก็ตาม ศาลอุทธรณ์ย่อมยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
อ้างฎีกา +/2487