คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 225

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,295 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2529-2530/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าชดเชยองค์กรของรัฐ: สิทธิลูกจ้าง, อายุความดอกเบี้ย, ศาลรับวินิจฉัยเฉพาะประเด็นที่ยกขึ้น
ค่าชดเชย เป็นบทบัญญัติส่วนหนึ่งของประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงานฯ ที่ใช้บังคับแก่องค์การของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจที่มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงกำไรในทางเศรษฐกิจ หาใช่มุ่งหมายจะคุ้มครองเฉพาะแต่ลูกจ้างของเอกชนเท่านั้นไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1568/2523)
จำเลยให้การแต่เพียงว่า 'ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ จำเลยจึงไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยและดอกเบี้ยแก่โจทก์' ดังนี้ไม่แจ้งชัดว่าสิทธิเรียกร้องเอาดอกเบี้ยนั้นมีกำหนดอายุความ 5 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 166 ปัญหาเรื่องอายุความตาม มาตรา 166 จึงมิใช่ข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2529-2530/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าชดเชยคุ้มครองลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ และประเด็นอายุความดอกเบี้ยที่มิได้ยกขึ้นว่ากันในศาลชั้นต้น
ค่าชดเชย เป็นบทบัญญัติส่วนหนึ่งของประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงานฯ ที่ใช้บังคับแก่องค์การของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจที่มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงกำไรในทางเศรษฐกิจ หาใช่มุ่งหมายจะคุ้มครองเฉพาะแต่ลูกจ้างของเอกชนเท่านั้นไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1568/2523)
จำเลยให้การแต่เพียงว่า "ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ จำเลยจึงไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยและดอกเบี้ยแก่โจทก์" ดังนี้ไม่แจ้งชัดว่าสิทธิเรียกร้องเอาดอกเบี้ยนั้นมีกำหนดอายุความ 5 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 166 ปัญหาเรื่องอายุความตาม มาตรา 166 จึงมิใช่ข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2248/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความระงับหนี้ละเมิด: ศาลยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
อุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 มีประเด็นที่ศาลอุทธรณ์จะต้องวินิจฉัยให้อย่างเดียวกับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 อยู่แล้วว่ามูลหนี้ละเมิดระงับหรือไม่ แม้ศาลฎีกาจะวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ที่ว่าอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225ก็ไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไปฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายของโจทก์ข้อนี้จึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย
บันทึกที่สถานีตำรวจมีข้อตกลงว่า ฝ่ายจำเลยที่ 2 ยอมใช้ค่าเสียหายตามที่ฝ่ายโจทก์เรียกร้องทั้งสิ้นเป็นเงิน35,268.60 บาท คู่กรณีไม่ติดใจที่จะฟ้องร้องกันในทางแพ่ง อาญา ถ้าหากผิดสัญญาคู่กรณีจะฟ้องกันเองในทางแพ่ง ข้อตกลงนี้เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นลูกจ้างจำเลยที่ 1 ทำละเมิดต่อโจทก์ แล้วจำเลยที่ 2 และผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน จึงมีผลให้มูลหนี้ละเมิดระงับสิ้นไป โจทก์จะฟ้องจำเลยทั้งสองตามมูลหนี้ละเมิดอีกไม่ได้ชอบที่จะฟ้องจำเลยที่ 2 ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1764/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการยกเหตุใหม่ในชั้นอุทธรณ์คดีแรงงาน: การเลิกจ้างและค่าชดเชย
จำเลยให้การต่อสู้เหตุที่ไม่จำต้องจ่ายค่าชดเชยเพราะ โจทก์ขาดงานเกิน 3 วันโดยไม่มีเหตุอันสมควรเพียงประการเดียว มิได้ยกเหตุไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยเพราะโจทก์ฝ่าฝืนระเบียบเกี่ยวกับการทำงานในกรณีที่ร้ายแรงขึ้นต่อสู้ ดังนั้น ที่จำเลยอุทธรณ์ว่าการขาดงานของโจทก์โดยมิได้บอกกล่าวหรือแจ้งสาเหตุให้จำเลยทราบ เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับของจำเลยอย่างร้ายแรง จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วแต่ศาลชั้นต้น ถึงแม้ศาลแรงงานกลางจะได้วินิจฉัยว่า โจทก์เพียงกระทำผิดเกี่ยวกับการลาซึ่งไม่ใช่ความผิดกรณีร้ายแรง และจำเลยไม่ได้มีคำเตือนเป็นหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน ก็เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นหาเป็นเหตุให้จำเลยยกขึ้นอุทธรณ์ได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1391/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธินายจ้างเลือกปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์: รับกลับเข้าทำงาน หรือ จ่ายค่าเสียหาย
โจทก์อุทธรณ์ว่า คำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ที่ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นโมฆะ เพราะขัดต่อพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ฯนั้น เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลแรงงานกลาง โจทก์ก็ยกขึ้นอุทธรณ์ได้
พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์มิได้ห้ามคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ในอันที่จะมีคำสั่งให้นายจ้างผู้กระทำการอันไม่เป็นธรรมใช้ค่าเสียหายให้ลูกจ้าง ดังนั้น การที่คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์มีคำสั่งให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์จึงเป็นคำสั่งที่ชอบ และเมื่อคณะกรรมการดังกล่าวมีคำสั่งให้จำเลยรับโจทก์กลับเข้าทำงานหรือมิฉะนั้นให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์นั้นจำเลยจะปฏิบัติตามคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ โดยจำเลยซึ่งเป็นผู้ต้องปฏิบัติตามคำสั่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกว่าจะปฏิบัติตามคำสั่งนั้นอย่างใด หาใช่โจทก์เป็นผู้เลือกไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1129/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคิดดอกเบี้ยทบต้นในบัญชีเดินสะพัด, การเลิกสัญญา, และข้อตกลงตามประเพณีการค้า
เมื่อสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีระหว่างโจทก์จำเลยมิได้กำหนดระยะเวลากันไว้ ต้องถือว่าได้มีการเลิกสัญญาบัญชีเดินสะพัดเมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้ให้โจทก์ภายในระยะเวลาที่โจทก์แจ้งไปยังจำเลยให้จัดการชำระหนี้เบิกเงินเกินบัญชี ซึ่งในระหว่างนั้นจำเลยก็มิได้สั่งจ่ายเงินอีก
ตามประเพณีการค้าธนาคารโจทก์ย่อมมีสิทธิคิดดอกเบี้ยทบต้นในบัญชีเดินสะพัดได้ ข้อตกลงไม่เป็นโมฆะ ปัญหาว่าข้อนี้เป็นโมฆะหรือไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 746/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ต้องตรงกับประเด็นที่อุทธรณ์ การวินิจฉัยนอกประเด็นเป็นมิชอบ
ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว ได้นัดสืบพยานจำเลยถึงวันนัดคงมีแต่ทนายจำเลยที่ 2 มาศาลขอเลื่อนคดีศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนและถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบ แล้วพิพากษาในวันนั้นเองให้จำเลยทั้งสามใช้เงินแก่โจทก์ จำเลยที่ 3 ยื่นคำร้องขอสืบพยาน ศาลยกคำร้อง จำเลยที่ 3 อุทธรณ์คำพิพากษาและคำสั่งไม่ให้เลื่อนคดี การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยในเรื่องที่จำเลยที่ 3 ขอสืบพยานทั้งๆที่จำเลยที่ 3 มิได้อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นในเรื่องนี้.แล้วพิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นจึงเป็นการไม่ชอบ เพราะไม่ตรงกับประเด็นที่จำเลยที่3 อุทธรณ์.ชอบที่ศาลอุทธรณ์จะต้องวินิจฉัยตามประเด็นที่จำเลยที่ 3 อุทธรณ์ต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 734/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดอำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หลังศาลมีคำสั่งยกเลิกการล้มละลาย และผลต่อการเพิกถอนการโอนทรัพย์สิน
ปัญหาที่ว่าเมื่อศาลสั่งให้ยกเลิกการล้มละลายแล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยังคงมีอำนาจร้องขอให้เพิกถอนการโอนอยู่ต่อไปหรือไม่ เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้ไม่มีคู่ความฎีกา ศาลก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
การที่พระราชบัญญัติล้มละลายบัญญัติให้มีการพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ และให้อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ร้องขอให้เพิกถอนการโอนทรัพย์สินของลูกหนี้ได้ ก็เพื่อจุดประสงค์ที่จะรวบรวมทรัพย์สินของลูกหนี้มาแบ่งแก่เจ้าหนี้ เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีผู้นำเงินมาชำระหนี้ให้แก่บรรดาเจ้าหนี้ของลูกหนี้แทนลูกหนี้ครบถ้วน และหนี้สินของลูกหนี้ได้รับชำระเต็มจำนวนแล้ว ซึ่งศาลก็ได้มีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายแล้วเช่นนี้ จึงมีผลเท่ากับว่าศาลได้มีคำสั่งยกเลิกการพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ไปด้วยในตัว อำนาจในการที่จะร้องขอให้เพิกถอนการโอนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงสิ้นสุดลง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 389/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตวินัยลูกจ้าง: การประพฤติชั่วร้ายแรงนอกเวลางานและผลกระทบต่อการเลิกจ้าง
ลูกจ้างอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาเป็นใจความว่า นายจ้างน่าจะกำหนดวินัยและโทษทางวินัยได้เฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับการทำงาน ส่วนนอกเวลาทำงานเป็นเรื่องส่วนตัวของลูกจ้างเมื่อลูกจ้างไม่ได้ทำให้นายจ้างเสียหาย นายจ้างจะเอาเรื่องส่วนตัวของลูกจ้างซึ่งไม่เกี่ยวกับการทำงานและไม่เกี่ยวกับความประพฤติในเวลาทำงานมาเป็นเหตุไล่ลูกจ้างออกฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงย่อมไม่เป็นการถูกต้องนั้นแม้ปัญหาข้อนี้จะมิได้ยกขึ้นอ้างอิงมาแต่ต้นแต่ก็เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนจึงมีสิทธิอ้างอิงได้
นายจ้างผู้ประกอบกิจการทั้งหลายนอกจากต้องการให้ลูกจ้างร่วมกันทำงานด้วยความเรียบร้อยราบรื่นและมีประสิทธิภาพแล้ว ย่อมต้องการรักษาชื่อเสียงของกิจการของตนไม่ให้เสื่อมเสียด้วย และการที่ลูกจ้างจะสามารถร่วมกันทำงานดังกล่าวย่อมต้องอาศัยความสามัคคีไม่มีความรังเกียจเดียดฉันท์กันในหมู่คณะของลูกจ้างนั้น ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานในข้อที่ว่าด้วยวินัยและโทษทางวินัยจึงอาจครอบคลุมถึงความประพฤติส่วนตัวบางประการของลูกจ้างนอกเวลาทำงานได้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 376-377/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม และการฟ้องผิดตัวบุคคลในคดีแรงงาน
จำเลยให้โจทก์ออกจากงานซึ่งเป็นการไม่เป็นธรรมทำให้โจทก์เสียหาย จำเลยต้องจ่ายค่าเสียหายให้โจทก์ โดยถืออัตราค่าจ้างก่อนโจทก์ถูกเลิกจ้างมาเป็นการคำนวณค่าเสียหายการจะใช้คำว่าค่าจ้างหรือค่าเสียหายไขว้เขวไป ไม่ทำให้อายุความ 10 ปีเรื่องจำเลยผิดสัญญาจ้างเปลี่ยนแปลงไปเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์
การฟ้องผิดตัวจำเลยเป็นเรื่องอำนาจฟ้อง แม้จำเลยจะไม่ได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ ถ้าศาลเห็นสมควรก็ยกขึ้นเองได้
ศาลมีอำนาจคำนวณค่าเสียหายให้ได้ตามที่เห็นสมควรอุทธรณ์ของโจทก์โต้เถียงวิธีคิดค่าเสียหายซึ่งเป็นข้อเท็จจริง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
of 130