คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 337

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 167 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2786/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชอบด้วยกฎหมายของคำฟ้องข่มขืนใจกรรโชกและการรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในคดีอาญา
ฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยกับพวกได้บังอาจร่วมกันใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบข่มขืนใจกรรโชกให้ผู้เสียหายมอบเนื้อกระบือชำแหละแล้ว140กิโลกรัมให้แก่จำเลยกับพวกมิฉะนั้นจำเลยกับพวกจะยึดเนื้อกระบือชำแหละแล้ว500กิโลกรัมไปตรวจสอบอันจะเป็นเหตุให้เนื้อดังกล่าวเสียหายและจะจับกุมผู้เสียหายกับพวกทำให้ปราศจากเสรีภาพผู้เสียหายกับพวกจึงยอมมอบเนื้อ140กิโลกรัมให้จำเลยกับพวกไปเป็นการบรรยายข้อเท็จจริงที่เป็นการกระทำของจำเลยที่กระทำต่อผู้เสียหายโดยละเอียดครบถ้วนในลักษณะความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา148และมาตรา337แล้วทั้งบทบัญญัติแห่งกฎหมาย2มาตราดังกล่าวก็ไม่ได้ระบุองค์ประกอบความผิดว่าผู้กระทำต้องมีเจตนาทุจริตด้วยคำบรรยายฟ้องจึงชอบด้วยกฎหมาย จำเลยกับพวกร่วมกันกระทำความผิดตามฟ้องและได้ทรัพย์สินจากผู้เสียหายคิดเป็นเงิน6,000บาทกรณีต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา432คือจำเลยกับพวกต้องร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้นคำว่า'ร่วมกันรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทน'หมายความว่าแต่ละคนจะต้องชำระหนี้ทั้งหมดโดยสิ้นเชิงอันมีฐานะเช่นเดียวกับลูกหนี้ร่วม ฎีกาขอให้รอการลงโทษเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1829/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การข่มขู่เรียกเงินโดยอาศัยเครื่องแบบข้าราชการเข้าข่มขู่ ถือเป็นความผิดฐานกรรโชก
การที่จำเลยที่ 1 ซึ่งแต่งเครื่องแบบข้าราชการกรมป่าไม้กับจำเลยที่ 2 เข้าไปในบ้านของผู้เสียหายขณะผู้เสียหายกำลังทำหน้าต่างด้วยไม้สักที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายอยู่ แล้วจำเลยที่ 1 พูดว่า เอาเงินมา 1,000 บาทถ้าไม่ให้จะเสียเงินมากกว่านี้ นั้น ถือได้ว่าคำพูดดังกล่าวประกอบกับการแต่งเครื่องแบบข้าราชการ เป็นการข่มขู่เรียกร้องเอาเงินจากผู้เสียหายอยู่ในตัวและผู้เสียหายยอมมอบเงินให้จำเลยทั้งสองไป 500 บาท จำเลยทั้งสองจึงมีความผิดฐานกรรโชก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 288/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขืนใจให้ผู้อื่นออกจากที่ดินโดยขู่เข็ญด้วยอาวุธ การกระทำผิดต่อเสรีภาพตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309
จำเลยกับพวก 5 คนนั่งรถยนต์ปิคอัพมาที่ไร่ของผู้เสียหายแล้ว จำเลยลงมาพูดขู่บังคับผู้เสียหายให้ออกไปจากไร่ของผู้เสียหายภายใน 2 เดือน ถ้าไม่ยอมออก จะให้ลูกปืนกินหรือใช้ปืนยิง ซึ่งต่อมาผู้เสียหายได้หนีออกจากไร่ของตนเพราะกลัวจะถูกทำร้ายตามที่จำเลยพูดขู่ไว้ การกระทำของจำเลยเข้าลักษณะเป็นความผิดต่อเสรีภาพตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 ซึ่งลงโทษได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 แม้โจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 288/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขู่บังคับให้ผู้อื่นออกจากที่ดินด้วยการขู่เข็ญด้วยอาวุธ การกระทำผิดต่อเสรีภาพ
จำเลยกับพวก5คนนั่งรถยนต์ปิคอัพมาที่ไร่ของผู้เสียหายแล้วจำเลยลงมาพูดขู่บังคับผู้เสียหายให้ออกไปจากไร่ของผู้เสียหายภายใน2เดือนถ้าไม่ยอมออกจะให้ลูกปืนกินหรือใช้ปืนยิงซึ่งต่อมาผู้เสียหายได้หนีออกจากไร่ของตนเพราะกลัวจะถูกทำร้ายตามที่จำเลยพูดขู่ไว้การกระทำของจำเลยเข้าลักษณะเป็นความผิดต่อเสรีภาพตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา309ซึ่งลงโทษได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา192แม้โจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา337.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3861/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานตำรวจใช้อำนาจในตำแหน่งข่มขืนใจเรียกรับเงินจากผู้ถูกกล่าวหา เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม
จำเลยทั้งสองเป็นเจ้าพนักงานตำรวจมีอำนาจหน้าที่สืบสวนและจับกุมผู้กระทำความผิด แกล้งกล่าวหา พ.และ ก.ว่ากระทำผิดอาญา ได้มีการ แจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริง ขอจับกุม พ. และ ก.ส่งพนักงานสอบสวน ถ้าไม่อยากให้จับกุม ต้องเอาเงินให้จำเลยทั้งสอง พ.และ ก.เกรงกลัวยอมมอบเงินให้ตามที่เรียกร้อง เป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้ตนได้ประโยชน์ ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยการขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อเสรีภาพและชื่อเสียงของผู้ถูกขู่เข็ญ จึงเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และความผิดฐานกรรโชกด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3861/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานตำรวจใช้อำนาจข่มขืนใจเรียกรับเงินจากผู้ถูกกล่าวหา เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม
จำเลยทั้งสองเป็นเจ้าพนักงานตำรวจมีอำนาจหน้าที่สืบสวนและจับกุม ผู้กระทำความผิดแกล้งกล่าวหาพ.และก.ว่ากระทำผิดอาญาได้มีการ แจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้แล้วซึ่งไม่เป็นความจริงขอจับกุมพ. และก.ส่งพนักงานสอบสวนถ้าไม่อยากให้จับกุมต้องเอาเงินให้ จำเลยทั้งสองพ.และก.เกรงกลัวยอมมอบเงินให้ตามที่เรียกร้องเป็นการ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้ตนได้ประโยชน์ ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินโดยการขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อเสรีภาพ และชื่อเสียงของผู้ถูกขู่เข็ญจึงเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และความผิดฐานกรรโชกด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 711/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร โจทก์ต้องสืบพยานให้ชัดเจนถึงฐานความผิด
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร แสดงว่าโจทก์ประสงค์ขอให้ลงโทษจำเลยในข้อหาใดข้อหาหนึ่งเพียงข้อหาเดียว เพราะเป็นความผิดคนละฐานกัน จะลงโทษจำเลยทั้งสองฐานความผิดย่อมไม่ได้ คำให้การรับสารภาพของจำเลยที่ว่าได้กระทำผิดตามฟ้องโจทก์จริง ไม่ชัดเจนพอจะชี้ขาดว่าจำเลยได้กระทำผิดฐานใด จึงเป็นหน้าที่โจทก์จะต้องสืบพยานให้ได้ความถึงการกระทำผิดของจำเลยเมื่อโจทก์ไม่สืบพยานก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 819/2513 ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3656/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การข่มขู่เรียกเงินโดยอ้างภัยอันตรายถึงชีวิต ถือเป็นความผิดฐานกรรโชกสำเร็จรูป แม้ผู้เสียหายจะวางแผนจับกุม
จำเลยบอกผู้เสียหายว่ามีคนจ้างจำเลยฆ่าผู้เสียหาย แต่ไม่บอกชื่อคนจ้าง พร้อมกันนั้นจำเลยขอเงินผู้เสียหาย ถ้าหากไม่ให้ก็จะไม่รับรองความปลอดภัย ผู้เสียหายตกลงยอมให้และนัดมาเอาเงินในวันรุ่งขึ้น คำพูดของจำเลยดังกล่าวเป็นการข่มขู่ผู้เสียหายให้ยอมให้หรือยอมจะให้เงินแก่จำเลย อันเป็นการข่มขืนใจผู้เสียหายครบองค์ประกอบความผิดฐานกรรโชกแล้วแม้จะใช้คำว่า 'ขอ' และ 'เพื่อบอกชื่อผู้ที่จ้างฆ่า' ก็เป็นเพียงเหตุผลประกอบการข่มขู่เท่านั้น หาทำให้การข่มขู่นั้นกลายเป็นการเรียกร้องเงินเพื่อตอบแทนการบอกชื่อผู้ว่าจ้างฆ่าผู้เสียหายไม่ มาตรา 192 วรรคสาม แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาบัญญัติว่า ข้อแตกต่างเกี่ยวกับเวลาเป็นข้อแตกต่างในรายละเอียด จำเลยยอมรับว่าตามวันเวลาดังกล่าวจำเลยได้ไปขอเงินผู้เสียหายและผู้เสียหายยอมตกลงจะให้เงินจำเลยจริงเพียงแต่จำเลยอ้างว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด จำเลยจึงมิได้หลงต่อสู้ในเรื่องเวลาดังนั้น แม้โจทก์จะฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดเวลากลางวัน แต่ทางพิจารณาได้ความว่าเหตุเกิดเวลากลางคืน ศาลก็ลงโทษจำเลยได้ จำเลยข่มขืนใจโดยการข่มขู่จนผู้เสียหายยอมจะให้เงินแก่จำเลยและนัดมารับเงินในวันรุ่งขึ้น ถือได้ว่าการกรรโชกได้สำเร็จแล้วแม้ผู้เสียหายจะยินยอมเพื่อต้องการรู้ตัวผู้จ้างจำเลยและได้นำเจ้าหน้าที่มาคอยจับจำเลยเมื่อมารับเงินในวันรุ่งขึ้น ก็หาทำให้เป็นความผิดฐานพยายามไม่ โจทก์มิได้ฎีกาขอเพิ่มโทษจำเลย ศาลฎีกาจะลงโทษจำเลยหนักกว่าที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามิได้ เพราะเป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลย แต่ศาลฎีกาวางบทลงโทษจำเลยให้ถูกต้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3656/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรโชกด้วยการข่มขู่ว่าจะฆ่าและเรียกเงินเพื่อแลกกับความปลอดภัยของผู้เสียหาย แม้ผู้เสียหายวางแผนจับกุมก็เป็นความผิดสำเร็จ
จำเลยบอกผู้เสียหายว่ามีคนจ้างจำเลยฆ่าผู้เสียหาย แต่ไม่บอกชื่อคนจ้าง พร้อมกันนั้นจำเลยขอเงินผู้เสียหาย ถ้าหากไม่ให้ก็จะไม่รับรองความปลอดภัย ผู้เสียหายตกลงยอมให้และนัดมาเอาเงินในวันรุ่งขึ้น คำพูดของจำเลยดังกล่าวเป็นการข่มขู่ผู้เสียหายให้ยอมให้หรือยอมจะให้เงินแก่จำเลย อันเป็นการข่มขืนใจผู้เสียหายครบองค์ประกอบความผิดฐานกรรโชกแล้ว แม้จะใช้คำว่า 'ขอ' และ 'เพื่อบอกชื่อผู้ที่จ้างฆ่า' ก็เป็นเพียงเหตุผลประกอบการข่มขู่เท่านั้น หาทำให้การข่มขู่นั้นกลายเป็นการเรียกร้องเงินเพื่อตอบแทนการบอกชื่อผู้ว่าจ้างฆ่าผู้เสียหายไม่
มาตรา 192 วรรคสาม แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาบัญญัติว่า ข้อแตกต่างเกี่ยวกับเวลาเป็นข้อแตกต่างในรายละเอียด จำเลยยอมรับว่าตามวันเวลาดังกล่าวจำเลยได้ไปขอเงินผู้เสียหายและผู้เสียหายยอมตกลงจะให้เงินจำเลยจริงเพียงแต่จำเลยอ้างว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด จำเลยจึงมิได้หลงต่อสู้ในเรื่องเวลา ดังนั้น แม้โจทก์จะฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดเวลากลางวัน แต่ทางพิจารณาได้ความว่าเหตุเกิดเวลากลางคืน ศาลก็ลงโทษจำเลยได้
จำเลยข่มขืนใจโดยการข่มขู่จนผู้เสียหายยอมจะให้เงินแก่จำเลยและนัดมารับเงินในวันรุ่งขึ้น ถือได้ว่าการกรรโชกได้สำเร็จแล้วแม้ผู้เสียหายจะยินยอมเพื่อต้องการรู้ตัวผู้จ้างจำเลยและได้นำเจ้าหน้าที่มาคอยจับจำเลยเมื่อมารับเงินในวันรุ่งขึ้น ก็หาทำให้เป็นความผิดฐานพยายามไม่
โจทก์มิได้ฎีกาขอเพิ่มโทษจำเลย ศาลฎีกาจะลงโทษจำเลยหนักกว่าที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามิได้ เพราะเป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลย แต่ศาลฎีกาวางบทลงโทษจำเลยให้ถูกต้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2434/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: หน่วงเหนี่ยวและกรรโชกทรัพย์เป็นคนละกรรม
การที่จำเลยที่ 1 กับพวกเอาตัวผู้เสียหายไปหน่วงเหนี่ยวไว้ในห้องพักโรงแรม ทำให้ผู้เสียหายปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เป็นความผิดสำเร็จกรรมหนึ่งแล้ว เมื่อจำเลยที่ 1 กับพวกขู่เข็ญข่มขืนใจผู้เสียหาย จนกระทั่งผู้เสียหายยอมให้เงินแก่จำเลยที่ 1 กับพวกเป็นความผิดฐานกรรโชกอีกกรรมหนึ่ง
of 17