คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1377

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 427 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1535/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งสิทธิครอบครองที่ดิน: การครอบครองแทน vs. การซื้อขาย และการเปลี่ยนเจตนาครอบครอง
โจทก์ได้รับมอบที่ดินพิพาทจาก อ. ให้ทำกินต่างดอกเบี้ย แม้โจทก์จะได้ครอบครองทำกินในที่พิพาทตลอดจนเสียภาษีบำรุงท้องที่สำหรับที่ดินพิพาทก็ เป็นเพียงครอบครองแทน อ. เท่านั้น ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้เปลี่ยนเจตนาการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 โจทก์จึงยังไม่ได้สิทธิครอบครองในที่ดินพิพาท
จำเลยเข้าครอบครองที่พิพาทโดยซื้อจาก อ. แล้ว สิทธิครอบครองของ อ. สิ้นสุดลงจำเลยจึงได้สิทธิครอบครองที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1535/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งสิทธิครอบครองที่ดิน: การครอบครองแทนเจ้าของเดิม และการซื้อขายที่ดิน
โจทก์ได้รับมอบที่ดินพิพาทจาก อ. ให้ทำกินต่างดอกเบี้ยแม้โจทก์จะได้ครอบครองทำกินในที่พิพาทตลอดจนเสียภาษีบำรุงท้องที่สำหรับที่ดินพิพาทก็เป็นเพียงครอบครองแทน อ. เท่านั้น ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้เปลี่ยนเจตนาการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 โจทก์จึงยังไม่ได้สิทธิครอบครองในที่ดินพิพาท
จำเลยเข้าครอบครองที่พิพาทโดยซื้อจาก อ. แล้วสิทธิครอบครองของ อ. สิ้นสุดลง จำเลยจึงได้สิทธิครอบครองที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1164/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละการครอบครองที่ดินและเรือนพิพาท แม้สัญญาซื้อขายไม่สมบูรณ์ ศาลฎีกาพิพากษาให้ขับไล่ได้
ผู้ครอบครองที่ดินมือเปล่าไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินมีแต่เพียงสิทธิครอบครองหามีกรรมสิทธิ์ไม่ เรือนพิพาทบนที่ดินรายนี้ย่อมเป็นส่วนควบของที่ดินมือเปล่านั้น เมื่อจำเลยสละการครอบครองที่ดินและเรือนพิพาทให้โจทก์ โดยการขายให้โจทก์แล้วทำสัญญาเช่าจากโจทก์อีกต่อไปเช่นนี้ ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377, 1378 เห็นได้ว่าจำเลยเจตนาสละการครอบครองให้โจทก์โดยการส่งมอบทรัพย์ให้แล้ว แม้การซื้อขายไม่ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานเป็นโมฆะก็ตาม เมื่อจำเลยสละและโอนการครอบครองให้โจทก์แล้ว การครอบครองของจำเลยก็หมดสิ้นไปเมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดลง โจทก์ไม่ต้องการให้จำเลยอยู่ในที่ดินพิพาทต่อไปแล้ว จำเลยก็ไม่มีสิทธิอยู่ต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1164/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งมอบการครอบครองที่ดินและส่วนควบ แม้สัญญาซื้อขายไม่สมบูรณ์ ถือเป็นการสละสิทธิครอบครอง
ผู้ครอบครองที่ดินมือเปล่าไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน มีแต่เพียงสิทธิครอบครอง หามีกรรมสิทธิ์ไม่ เรือนพิพาทบนที่ดินรายนี้ย่อมเป็นส่วนควบของที่ดินมือเปล่านั้น เมื่อจำเลยสละการครอบครองที่ดินและเรือนพิพาทให้โจทก์ โดยการขายให้โจทก์แล้วทำสัญญาเช่าจากโจทก์อีกต่อไปเช่นนี้ ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1377, 1378 เห็นได้ว่าจำเลยเจตนาสละการครอบครองให้โจทก์โดยการส่งมอบทรัพย์ให้แล้ว แม้การซื้อขายไม่ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานเป็นโมฆะก็ตาม เมื่อจำเลยสละและโอนการครอบครองให้โจทก์แล้ว การครอบครองของจำเลยก็หมดสิ้นไป เมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดลง โจทก์ไม่ต้องการให้จำเลยอยู่ในที่ดินพิพาทต่อไปแล้ว จำเลยก็ไม่มีสิทธิอยู่ต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 592/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่สาธารณะ การครอบครองประโยชน์ร่วมกัน และอำนาจฟ้องแย้งของนายอำเภอในการปกป้องสาธารณสมบัติ
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลสั่งแสดงว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์จำเลยให้การต่อสู้ว่าที่พิพาทไม่ใช่ของโจทก์ เป็นที่สาธารณะและที่พิพาทเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน โจทก์มีหน้าที่นำสืบให้ได้ความว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์
ที่พิพาทหมาย 1 เป็นหนองที่ราษฎรร่วมกันซื้อจากมารดาโจทก์ส่วนที่หมาย 2, 3 เป็นที่ที่ ม. ยกให้เป็นที่สาธารณะทำเลเลี้ยงสัตว์ตั้งแต่ปี 2465 เมื่อราษฎรซื้อและรับยกให้แล้ว ราษฎรเข้าครอบครองใช้ที่พิพาทเป็นประโยชน์ร่วมกันตลอดมา กรณีเช่นนี้ถือว่าเป็นการสละเจตนาครอบครองโดยส่งมอบทรัพย์ที่ครอบครองแล้ว นับแต่รับมอบที่พิพาทแล้วราษฎรเป็นจำนวนร้อย ๆ ได้ร่วมกันทำทำนบกั้นน้ำประตูระบายน้ำ ขุดลอกหนอง โดยถือว่าเป็นที่สาธารณะที่ราษฎรได้ใช้เป็นประโยชน์ร่วมกัน ดังนี้หนองและที่พิพาทหมาย 1, 2, 3เป็นหนองและทำเลเลี้ยงสัตว์ที่ราษฎรใช้ร่วมกันมาเป็นเวลาสิบ ๆ ปีแล้ว จึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304 และการเป็นหนองสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือไม่นั้น กฎหมายไม่บังคับว่าต้องขึ้นทะเบียน เพราะจะเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือไม่ย่อมเป็นไปตามสภาพของที่นั้นเองว่าเป็นทรัพย์สินเพื่อสาธารณประโยชน์หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกันหรือไม่
ตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา 117, 122บัญญัติให้เป็นหน้าที่ของกรมการอำเภอที่จะต้องรักษาดูแลที่ดินลำน้ำอันเป็นสาธารณประโยชน์ได้ ไม่ให้ผู้ใดทำให้เสียหายหรือกีดกันเอาเป็นอาณาประโยชน์แต่เฉพาะตัว จำเลยในฐานะนายอำเภอจึงมีอำนาจสั่งห้ามโจทก์ไม่ให้บุกรุกที่สาธารณประโยชน์ ตลอดจนมีอำนาจฟ้องแย้งขับไล่โจทก์ได้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 592/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่สาธารณะ การครอบครองประโยชน์ร่วมกัน และอำนาจฟ้องแย้งของนายอำเภอ
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลสั่งแสดงว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์จำเลยให้การต่อสู้ว่า ที่พิพาทไม่ใช่ของโจทก์ เป็นที่สาธารณะและที่พิพาทเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน โจทก์มีหน้าที่นำสืบให้ได้ความว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์
ที่พิพาทหมาย 1 เป็นหนองที่ราษฎรร่วมกันซื้อจากมารดาโจทก์ ส่วนที่หมาย 2, 3 เป็นที่ที่ ม. ยกให้เป็นที่สาธารณะทำเลเลี้ยงสัตว์ตั้งแต่ปี 2465 เมื่อราษฎรซื้อและรับยกให้แล้ว ราษฎรเข้าครอบครองใช้ที่พิพาทเป็นประโยชน์ร่วมกันตลอดมา กรณีเช่นนี้ถือว่าเป็นการสละเจตนาครอบครองโดยส่งมอบทรัพย์ที่ครอบครองแล้ว นับแต่รับมอบที่พิพาทแล้วราษฎรเป็นจำนวนร้อย ๆ ได้ร่วมกันทำทำนบกั้นน้ำประตูระบายน้ำ ขุด ลอก หนอง โดยถือว่าเป็นที่สาธารณะที่ราษฎรได้ใช้เป็นประโยชน์ร่วมกัน ดังนี้หนองและที่พิพาทหมาย 1, 2, 3เป็นหนองและทำเลเลี้ยงสัตว์ที่ราษฎรใช้ร่วมกันมาเป็นเวลาสิบ ๆ ปีแล้ว จึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304 และการเป็นหนองสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือไม่นั้น กฎหมายไม่บังคับว่าต้องขึ้นทะเบียนเพราะจะเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือไม่ ย่อมเป็นไปตามสภาพของที่นั้นเองว่าเป็นทรัพย์สินเพื่อสาธารณประโยชน์หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกันหรือไม่
ตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา 117, 122 บัญญัติให้เป็นหน้าที่ของกรมการอำเภอที่จะต้องรักษาดูแลที่ดินลำน้ำอันเป็นสาธารณประโยชน์ได้ ไม่ให้ผู้ใดทำให้เสียหายหรือกีดกันเอาเป็นอาณาประโยชน์แต่เฉพาะตัว จำเลยในฐานะนายอำเภอจึงมีอำนาจสั่งห้ามโจทก์ไม่ให้บุกรุกที่สาธารณประโยชน์ตลอดจนมีอำนาจฟ้องแย้งขับไล่โจทก์ได้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1402/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรบกวนการครอบครองโดยชอบธรรม แม้การตีใช้หนี้ไม่สมบูรณ์ ก็ถือเป็นการรบกวนการครอบครองได้
ที่ดินและบ้านพิพาทจะเป็นของผู้ใดไม่สำคัญ เมื่อจำเลยครอบครองอยู่เดิมแล้วสละการครอบครองให้ผู้เสียหายเป็นการตีใช้หนี้ไป การยกที่ดินและบ้านตีใช้หนี้จะสมบูรณ์ตามกฎหมายหรือไม่ก็ตาม แต่ผู้เสียหายก็ได้ไปซึ่งการครอบครอง จำเลยทราบดีอยู่แล้วว่า ผู้เสียหายครอบครองอยู่โดยชอบธรรม หากจำเลยเห็นว่าผู้เสียหายไม่มีสิทธิในทรัพย์พิพาท ก็ชอบที่จะดำเนินการตามกฎหมายเพื่อรักษาสิทธิของตน ไม่มีอำนาจเข้าไปรบกวนการครอบครองของเขา เมื่อจำเลยยังขืนเข้าไปอยู่อาศัยก็เป็นการรบกวนการครอบครองของผู้เสียหายโดยปกติสุข จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362
(อ้างฎีกาที่ 1/2512)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1402/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรบกวนการครอบครองของผู้อื่น แม้การโอนทรัพย์สินยังไม่สมบูรณ์ ก็ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362
ที่ดินและบ้านพิพาทจะเป็นของผู้ใดไม่สำคัญ เมื่อจำเลยครอบครองอยู่เดิมแล้วสละการครอบครองให้ผู้เสียหายเป็นการตีใช้หนี้ไป การยกที่ดินและบ้านตีใช้หนี้จะสมบูรณ์ตามกฎหมายหรือไม่ก็ตาม แต่ผู้เสียหายก็ได้ไปซึ่งการครอบครอง จำเลยทราบดีอยู่แล้วว่าผู้เสียหายครอบครองอยู่โดยชอบ หากจำเลยเห็นว่าผู้เสียหายไม่มีสิทธิในทรัพย์พิพาท ก็ชอบที่จะดำเนินการตามกฎหมายเพื่อรักษาสิทธิของตน ไม่มีอำนาจเข้าไปรบกวนการครอบครองของเขา เมื่อจำเลยยังขืนเข้าไปอยู่อาศัยก็เป็นการรบกวนการครอบครองของผู้เสียหายโดยปกติสุข จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 (อ้างฎีกาที่ 1/2512)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1402/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรบกวนการครอบครองหลังสละการครอบครองเป็นตีใช้หนี้ แม้กรรมสิทธิ์ไม่ชัดเจน ถือผิดฐานบุกรุก
ที่ดินและบ้านพิพาทจะเป็นของผู้ใดไม่สำคัญ. เมื่อจำเลยครอบครองอยู่เดิมแล้วสละการครอบครองให้ผู้เสียหายเป็นการตีใช้หนี้ไป. การยกที่ดินและบ้านตีใช้หนี้จะสมบูรณ์ตามกฎหมายหรือไม่ก็ตาม. แต่ผู้เสียหายก็ได้ไปซึ่งการครอบครอง. จำเลยทราบดีอยู่แล้วว่าผู้เสียหายครอบครองอยู่โดยชอบ. หากจำเลยเห็นว่าผู้เสียหายไม่มีสิทธิในทรัพย์พิพาท. ก็ชอบที่จะดำเนินการตามกฎหมายเพื่อรักษาสิทธิของตน. ไม่มีอำนาจเข้าไปรบกวนการครอบครองของเขา. เมื่อจำเลยยังขืนเข้าไปอยู่อาศัยก็เป็นการรบกวนการครอบครองของผู้เสียหายโดยปกติสุข. จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 362.(อ้างฎีกาที่ 1/2512).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1160/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินพิพาทหลังสัญญาซื้อขาย/ขายฝากเป็นโมฆะ: จำเลยยังมิได้สละการครอบครองทันที ต้องสืบพยาน
จำเลยขายนาพิพาทให้โจทก์โดยทำหนังสือกันเอง มิได้จดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย แม้สัญญาดังกล่าวเป็นโมฆะ แต่ก็ยังมีผลเป็นการแสดงถึงพฤติการณ์ของโจทก์จำเลยเกี่ยวกับนาพิพาทซึ่งไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน ว่ามีเจตนาต่อกันอย่างไร หนังสือสัญญานี้ในตอนต้นมีข้อความว่าจำเลยขายนาพิพาทให้โจทก์ และได้รับชำระราคาจากโจทก์เป็นการถูกต้องแล้ว แต่ในตอนท้ายกล่าวว่า "ให้ผู้ขายตรึกตรองและตกลงปลงใจพิจารณาอยู่ภายใน 10 วัน นับตั้งแต่วันทำหนังสือนี้เป็นต้นไป ถ้าพ้นจากภายใน 10 วันแล้ว ที่ดินนาดังกล่าวแล้ว ให้นายบุ่ง กลมเกลียว (โจทก์) ครอบครองต่อไป" ฉะนั้น ถึงหากจำเลยได้มอบที่นาให้โจทก์ครอบครองตั้งแต่วันทำสัญญานั้น ก็ไม่พอฟังว่าจำเลยสละการครอบครองให้แก่โจทก์ไปในทันใดนั้นแล้ว เพราะยังอยู่ในระหว่างที่จำเลยจะตัดสินใจต่อไป นอกจากนี้ จำเลยได้ให้การต่อสู้ว่าคดีว่าต่อจากวันขายฝาก 8 วัน จำเลยได้นำเงินไปขอไถ่ แต่โจทก์ยังไม่รับเงิน ให้จำเลยเอาไว้เป็นเงินยืมจากโจทก์ โดยโจทก์ขอนำนาพิพาทต่างดอกเบี้ยไปก่อน เป็นการโต้เถียงว่าโจทก์เพียงแต่เป็นผู้ยึดถือครอบครองนาพิพาทแทนจำเลยอยู่ต่อมา เพราะจำเลยได้จัดการไถ่ภายในกำหนด 10 วัน และโจทก์จำเลยตกลงกันใหม่ เพื่อให้โจทก์ทำนาต่างดอกเบี้ยเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่เป็นการครอบครองเป็นของโจทก์เอง ฉะนั้น คดีจะต้องให้คู่ความสืบพยานเพื่อพิจารณาข้อเท็จจริงต่อไป
of 43