คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 134/1 วรรคสอง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2107/2561

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดพยายามฆ่า, พยานหลักฐาน, และการสอบสวนโดยไม่จัดหาทนายความ
ป.วิ.อ. มาตรา 134/1 วรรคสอง บัญญัติว่า "ในคดีที่มีอัตราโทษจำคุก ก่อนเริ่มถามคำให้การให้พนักงานสอบสวนถามผู้ต้องหาว่ามีทนายความหรือไม่ ถ้าไม่มีและผู้ต้องหาต้องการทนายความ ให้รัฐจัดหาทนายความให้" ปรากฏตามบันทึกคำให้การในชั้นสอบสวนของผู้ต้องหาว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาและแจ้งสิทธิของผู้ต้องหาให้จำเลยทราบ และสอบถามเรื่องทนายความหรือผู้ที่ไว้วางใจเข้ารับฟังการสอบสวนแล้ว จำเลยให้การว่าไม่มีและไม่ต้องการทนายความหรือผู้ที่ไว้วางใจเข้ารับฟังการสอบสวน การที่พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนจำเลยโดยไม่ได้จัดหาทนายความให้ตามคำให้การดังกล่าว จึงเป็นการสอบสวนที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ส่วนมาตรา 134/4 วรรคท้าย บัญญัติไว้เพียงว่า ถ้อยคำใด ๆ ที่ผู้ต้องหาให้ไว้ต่อพนักงานสอบสวนก่อนมีการแจ้งสิทธิตามวรรคหนึ่ง หรือก่อนที่จะดำเนินการตามมาตรา 134/1 จะรับฟังเป็นพยานหลักฐานในการพิสูจน์ความผิดของผู้นั้นไม่ได้ ฉะนั้น แม้พนักงานสอบสวนจะจัดหาหรือไม่จัดหาทนายความให้จำเลยก็ไม่ทำให้การสอบสวนไม่ชอบ เมื่อมีการสอบสวนแล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1952/2561

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รับฟังคำให้การชั้นสอบสวนประกอบพยานหลักฐานอื่นได้ แม้ผู้เสียหายไม่จำหน้าคนร้ายได้ เหตุเกิดนานปี
แม้ในชั้นพิจารณาผู้เสียหาย ส. ร. และ พ. เบิกความว่าจำหน้าคนร้ายไม่ได้เพราะเกิดเหตุมานานสิบกว่าปีแล้วก็ตาม แต่โจทก์ก็มีคำให้การในชั้นสอบสวนของผู้เสียหาย ส. ร. และ พ. ซึ่งคำให้การดังกล่าวระบุรายละเอียดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสอดคล้องต้องกัน โดยเฉพาะผู้เสียหายไม่เคยรู้จักจำเลยมาก่อนแต่ก็ให้การถึงรูปพรรณสัณฐานของจำเลยไว้โดยละเอียด อีกทั้งคำให้การในชั้นสอบสวนของผู้เสียหาย ร. และ พ. พนักงานสอบสวนได้ปฏิบัติตาม ป.วิ.อ. มาตรา 133 ทวิ ยากที่พนักงานสอบสวนจะปั้นแต่งขึ้นเอง แม้บันทึกคำให้การในชั้นสอบสวนดังกล่าวจะเป็นพยานบอกเล่า แต่เมื่อพิจารณาจากสภาพ ลักษณะ แหล่งที่มา และข้อเท็จจริงแวดล้อมของพยานบอกเล่านั้นน่าเชื่อว่าจะพิสูจน์ความจริงได้ จึงรับฟังคำให้การชั้นสอบสวนดังกล่าวประกอบพยานหลักฐานอื่นของโจทก์ได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 226/3 วรรคสอง (1) แม้จำเลยจะไม่มีทนายความหรือบุคคลที่ไว้วางใจของจำเลยเข้าร่วมในการสอบสวน แต่ตามบันทึกคำให้การในชั้นสอบสวนของจำเลยระบุว่าก่อนสอบปากคำ พนักงานสอบสวนถามจำเลยว่าต้องการพบทนายความหรือบุคคลที่ไว้วางใจเข้าร่วมฟังการสอบสวนหรือไม่ อย่างไร จำเลยตอบว่าไม่ต้องการ ดังนี้ แสดงว่าพนักงานสอบสวนได้แจ้งสิทธิดังกล่าวให้จำเลยทราบแล้ว แต่จำเลยสละสิทธิในการมีทนายความ เมื่อคดีมีเพียงอัตราโทษจำคุกไม่ใช่มีอัตราโทษประหารชีวิต กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะต้องจัดหาทนายความหรือบุคคลที่ไว้วางใจเข้าร่วมฟังการสอบสวนให้แก่จำเลยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 134/1 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4095/2554

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตั้งทนายความให้จำเลยเมื่อแถลงไม่ต้องการ และอำนาจฟ้องคดีเช็ค
ตามรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่ 3 มีนาคม 2551 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วและมีคำสั่งว่าคดีโจทก์มีมูลตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 มาตรา 4 ให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา จึงสอบถามจำเลยเรื่องทนายความ เป็นการสอบถามในชั้นพิจารณา มิใช่ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง กรณีจึงไม่อาจนำ ป.วิ.อ. มาตรา 134/1 วรรคสอง ประกอบมาตรา 171 มาใช้บังคับได้ และตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 40 ก็ไม่ได้กำหนดรายละเอียดของสิทธิในกระบวนการยุติธรรม หากแต่กำหนดหลักการอันเป็นสาระสำคัญไว้เท่านั้น กรณีจึงต้องบังคับตาม ป.วิ.อ. มาตรา 173 วรรคสอง ศาลชั้นต้นเพิ่งอ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังกับสอบคำให้การจำเลยตามรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่ 20 มีนาคม 2551 ดังนี้ ถือว่าในวันที่ 3 มีนาคม 2551 ศาลชั้นต้นยังไม่ได้เริ่มพิจารณาคดี เมื่อต่อมาในวันที่ 20 มีนาคม 2551 ศาลชั้นต้นอ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟัง สอบคำให้การจำเลย และสอบจำเลยเรื่องทนายความแล้ว จำเลยแถลงไม่ต้องการทนายความและให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลชั้นต้นได้บันทึกคำให้การของจำเลยไว้แล้ว จึงเป็นกรณีที่ก่อนเริ่มพิจารณาศาลชั้นต้นได้ถามจำเลยว่ามีทนายความหรือไม่แล้ว เมื่อจำเลยแถลงไม่ต้องการทนายความย่อมไม่มีกรณีที่ศาลชั้นต้นต้องตั้งทนายความให้จำเลย กระบวนการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้นจึงชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 173 วรรคสองแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1956/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานจากการสอบสวนก่อนบังคับใช้ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 22) พ.ศ.2547 และการรับฟังพยานบอกเล่า
พนักงานสอบสวนสอบคำให้การจำเลยทั้งสองเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2542 ก่อน ป.วิ.อ. มาตรา 134/1 ที่แก้ไขเพิ่มเติม โดย ป.วิ.อ. (ฉบับที่ 22) พ.ศ.2547 มีผลใช้บังคับ จึงเป็นกรณีที่พนักงานสอบสวนไม่ต้องสอบถามจำเลยทั้งสองในฐานะผู้ต้องหาว่าต้องการทนายความหรือไม่ก่อนเริ่มถามคำให้การจำเลยทั้งสองตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่ บันทึกคำให้การของจำเลยทั้งสองจึงรับฟังเป็นพยานหลักฐานของโจทก์ได้