คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 88

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 627 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมอำพรางสัญญาซื้อขายเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดการเช่าซื้อรถยนต์ ศาลวินิจฉัยสัญญาสิ้นผล
โจทก์ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์บรรทุกมาจากจำเลยที่ 1 เพื่อนำไปเข้าร่วมเดินรถกับบริษัทสหรถเมล์เล็กธนบุรี จำกัด ผู้ได้รับอนุญาตให้เดินรถประจำทาง ตามระเบียบของกระทรวงคมนาคม บริษัทฯ จะต้องมีรถของตนเอง ถ้าจะนำรถของผู้อื่นมาร่วมจะต้องโอนทะเบียนรถให้เป็นของบริษัทฯ เสียก่อน โจทก์จึงขอให้จำเลยที่ 1 ทำสัญญาซื้อขายรถให้โจทก์เพื่อโจทก์จะได้นำสัญญาซื้อขายไปโอนทะเบียนรถยนต์ให้เป็นของบริษัทฯการทำสัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ก็เพื่อช่วยเหลือโจทก์ให้นำรถยนต์ที่โจทก์เช่าซื้อจากจำเลยที่ 1 เข้าร่วมในกิจการเดินรถของบริษัทฯ ได้เท่านั้น คู่สัญญาไม่มีเจตนาผูกพันกันตามสัญญาซื้อขาย แต่มีเจตนาผูกพันกันตามสัญญาเช่าซื้อสัญญาซื้อขายเป็นแต่เพียงการแสดงเจตนาลวงและเป็นนิติกรรมอำพราง จึงไม่มีผลบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 118 เมื่อโจทก์ค้างชำระค่าเช่าซื้อหลายงวดติดต่อกัน จำเลยที่ 1 ก็มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ และยึดรถกลับคืนได้ ไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์
เอกสารซึ่งเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญในคดี แม้จำเลยจะไม่ได้ส่งสำเนาเอกสารให้โจทก์ ศาลก็มีอำนาจรับฟังได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 456/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนคดีเนื่องจากทนายป่วย: ศาลต้องพิจารณาอาการป่วยจริง แม้จะยังมิได้ยื่นบัญชีระบุพยาน
คำร้องขอเลื่อนคดีของโจทก์มีใบรับรองแพทย์ว่าทนายโจทก์ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่มีอาการอ่อนเพลียมาก สมควรพักรักษาตัวที่บ้าน 3 วัน ประกอบกับจำเลยไม่ได้คัดค้านว่าทนายโจทก์ไม่ได้ป่วยจริง เพียงแต่ค้านว่าโจทก์ยังมิได้ยื่นบัญชีระบุพยาน เหตุที่อ้างว่าป่วยน่าจะเป็นเพราะยังมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานมากกว่า จึงเชื่อได้และควรอนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีไปตามคำร้อง การที่โจทก์ยังมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้ หาเป็นเหตุที่จะนำมาพิจารณาว่าควรอนุญาตให้เลื่อนหรือไม่ เพราะการยื่นบัญชีระบุพยานจะต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87, 88 ไม่เกี่ยวกับการที่ศาลสั่งเลื่อนคดีเพราะความป่วยเจ็บ ตามมาตรา 40

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 456/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนคดีเนื่องจากความป่วยของทนาย ไม่เกี่ยวข้องกับการยื่นบัญชีระบุพยาน ศาลอนุญาตเลื่อนได้ตามกฎหมาย
คำร้องขอเลื่อนคดีของโจทก์มีใบรับรองแพทย์ว่าทนายโจทก์ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่มีอาการอ่อนเพลียมาก สมควรพักรักษาตัวที่บ้าน 3 วันประกอบกับจำเลยไม่ได้คัดค้านว่าทนายโจทก์ไม่ได้ป่วยจริง เพียงแต่ค้านว่าโจทก์ยังมิได้ยื่นบัญชีระบุพยาน เหตุที่อ้างว่าป่วยน่าจะเป็นเพราะยังมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานมากกว่า จึงเชื่อได้และควรอนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีไปตามคำร้อง การที่โจทก์ยังมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้ หาเป็นเหตุที่จะนำมาพิจารณาว่าควรอนุญาตให้เลื่อนหรือไม่ เพราะการยื่นบัญชีระบุพยานจะต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87, 88 ไม่เกี่ยวกับการที่ศาลสั่งเลื่อนคดีเพราะความป่วยเจ็บตามมาตรา 40

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2591/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีระบุพยานล่าช้าและผลกระทบต่อการพิจารณาคดี
นัดสืบพยานวันที่ 28 ยื่นบัญชีระบุพยานในวันที่ 25 ก่อนวันนัดสืบพยานเพียง 2 วัน จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคหนึ่ง
เมื่อโจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคหนึ่งแล้ว ก็ชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นแสดงว่าเหตุใดจึงยื่นบัญชีระบุพยานภายในกำหนดเวลาไม่ได้ เพื่อจะได้มีข้อเท็จจริงให้ศาลได้วินิจฉัยว่าข้ออ้างของโจทก์มีเหตุอันสมควรที่จะรับบัญชีระบุพยานไว้หรือไม่ การที่อ้างว่าโจทก์มิได้จงใจฝ่าฝืนระเบียบทั้งจำเลยไม่เสียเปรียบเพราะโจทก์ยังไม่ได้สืบพยาน เพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งคดีเป็นไปโดยเที่ยงธรรม แล้วอนุญาตให้รับบัญชีระบุพยานของโจทก์ไว้ จึงไม่ชอบ และจะกลายเป็นข้อยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามมาตรา 88 และโจทก์จงใจฝ่าฝืนหรือไม่ย่อมไม่แน่นอน ส่วนข้อได้เปรียบเสียเปรียบในทางคดีก็มีอยู่อย่างชัดแจ้ง ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับบัญชีระบุพยานโจทก์ชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2098/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีระบุพยานเกินกำหนด: ศาลใช้ดุลพินิจรับได้หากไม่ทำให้คู่ความเสียหายและเป็นประโยชน์แก่ความยุติธรรม
โจทก์ซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนยื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกเพียง1 วันอ้างเหตุว่าด้วยความพลั้งเผลอไม่จงใจประวิงและเอาเปรียบในเชิงคดีแต่อย่างใดปรากฏตามบัญชีระบุพยานว่าเป็นพยานบุคคลและพยานเอกสารรวมกันเพียง 6 อันดับและเป็นพยานนำ ทั้งโจทก์ได้นำพยานมาศาลในวันนัดเพื่อขอสืบพยานต่อไปตามพฤติการณ์แห่งคดีไม่ปรากฏว่าโจทก์แกล้งประวิงและเอาเปรียบจำเลยในทางคดีทั้งการรับบัญชีระบุพยานของโจทก์ก็ไม่ทำให้จำเลยเสียหายตามคำร้องของโจทก์ก็มีเหตุสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมควรรับบัญชีระบุพยานของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2098/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีระบุพยานล่าช้า: ศาลใช้ดุลพินิจรับพยานได้หากไม่ก่อให้เกิดความเสียหายและเป็นประโยชน์ต่อความยุติธรรม
โจทก์ซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อน ยื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกเพียง 1 วัน อ้างเหตุว่าด้วยความพลั้งเผลอไม่จงใจประวิงและเอาเปรียบในเชิงคดีแต่อย่างใด ปรากฏตามบัญชีระบุพยานว่าเป็นพยานบุคคลและพยานเอกสารรวมกันเพียง 6 อันดับ และเป็นพยานนำทั้งโจทก์ได้นำพยานมาศาลในวันนัดเพื่อขอสืบพยานต่อไป ตามพฤติการณ์แห่งคดีไม่ปรากฏว่าโจทก์แกล้งประวิงและเอาเปรียบจำเลยในทางคดี ทั้งการรับบัญชีระบุพยานของโจทก์ก็ไม่ทำให้จำเลยเสียหายตามคำร้องของโจทก์ก็มีเหตุสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมควรรับบัญชีระบุพยานของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2058/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อทำไว้ล่วงหน้า แม้ผู้ให้เช่ายังไม่เป็นเจ้าของทรัพย์ขณะทำสัญญา ก็มีผลผูกพันเมื่อกรรมสิทธิ์เปลี่ยนมือ
แม้ขณะทำสัญญาเช่าซื้อ โจทก์ยังไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์ที่ให้เช่าซื้อก็ตามแต่จำเลยได้ตกลงให้โจทก์ซื้อทรัพย์นั้นมาให้จำเลยเช่าซื้อ เห็นได้ว่าการทำสัญญาเช่าซื้อนี้เป็นการทำไว้ล่วงหน้า โดยเจตนาให้มีผลบังคับกันในเมื่อเจ้าของทรัพย์ได้ขายทรัพย์ที่จะเช่าซื้อให้โจทก์แล้ว ทั้งเมื่อทำสัญญาแล้วโจทก์ก็ได้เป็นเจ้าของทรัพย์ดังกล่าว และจำเลยก็ได้ชำระค่าเช่าซื้อให้แก่บริษัทโจทก์อีกถึง 3 งวด ตามสัญญาเช่าซื้อ ดังนี้จำเลยต้องผูกพันตามสัญญาเช่าซื้อจำเลยจะกลับมาอ้างว่าขณะทำสัญญาโจทก์ไม่ใช่เจ้าของทรัพย์ที่เช่าซื้อ จึงไม่มีอำนาจฟ้องหาได้ไม่
โจทก์เป็นฝ่ายนำสืบก่อน และได้ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วัน ครั้นถึงวันนัดสืบพยานก่อนศาลเริ่มสืบพยานโจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติม โดยขออ้างเอกสารเป็นพยาน ซึ่งมีสิทธิยื่นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคสอง แม้โจทก์มิได้ส่งสำเนาเอกสารที่ระบุเพิ่มเติมให้จำเลยก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วันตามมาตรา 90 ศาลชั้นต้นก็อาจใช้ดุลยพินิจรับฟังเอกสารดังกล่าว โดยเห็นว่าเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี อันเป็นอำนาจตามบทบัญญัติของมาตรา 87 (2) ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2058/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อทำไว้ล่วงหน้า เจ้าของทรัพย์ยังไม่เป็นเจ้าของขณะทำสัญญา ศาลรับฟังได้หากมีผลบังคับใช้เมื่อเป็นเจ้าของ
แม้ขณะทำสัญญาเช่าซื้อ โจทก์ยังไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์ที่ให้เช่าซื้อก็ตามแต่จำเลยได้ตกลงให้โจทก์ซื้อทรัพย์นั้นมาให้จำเลยเช่าซื้อ เห็นได้ว่าการทำสัญญาเช่าซื้อนี้เป็นการทำไว้ล่วงหน้า โดยเจตนาให้มีผลบังคับกันในเมื่อเจ้าของทรัพย์ได้ขายทรัพย์ที่จะเช่าซื้อให้โจทก์แล้วทั้งเมื่อทำสัญญาแล้วโจทก์ก็ได้เป็นเจ้าของทรัพย์ดังกล่าวและจำเลยก็ได้ชำระค่าเช่าซื้อให้แก่บริษัทโจทก์อีกถึง 3 งวด ตามสัญญาเช่าซื้อ ดังนี้จำเลยต้องผูกพันตามสัญญาเช่าซื้อจำเลยจะกลับมาอ้างว่าขณะทำสัญญาโจทก์ไม่ใช่เจ้าของทรัพย์ที่เช่าซื้อ จึงไม่มีอำนาจฟ้องหาได้ไม่
โจทก์เป็นฝ่ายนำสืบก่อน และได้ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วัน ครั้นถึงวันนัดสืบพยานก่อนศาลเริ่มสืบพยานโจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติม โดยขออ้างเอกสารเป็นพยาน ซึ่งมีสิทธิยื่นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคสอง แม้โจทก์มิได้ส่งสำเนาเอกสารที่ระบุเพิ่มเติมให้จำเลยก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วันตามมาตรา 90 ศาลชั้นต้นก็อาจใช้ดุลพินิจรับฟังเอกสารดังกล่าว โดยเห็นว่าเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี อันเป็นอำนาจตามบทบัญญัติของมาตรา 87(2) ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1500/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างเอกสารเกินกำหนดเวลา & ค่าเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์: ประเด็นการพิสูจน์ความเสียหาย & ความรับผิด
การที่จำเลยเพิ่งอ้างเอกสารเมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว ทั้งๆที่จำเลยรู้มาก่อนว่าเอกสารดังกล่าวมีอยู่ที่กองทะเบียนกรมตำรวจ กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคท้าย ศาลจึงไม่อนุญาตให้จำเลยอ้างเอกสารดังกล่าวเป็นพยานเพิ่มเติมได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เนื่องจากจำเลยขับรถชนรถโจทก์ทำให้โจทก์เสียความสามารถทั้งร่างกาย จิตใจและระบบประสาท ไม่สามารถทำงานหนักและในตำแหน่งสูงต่อไปได้ เพราะทำให้ผู้บังคับบัญชาและนายงานไม่ไว้วางใจในความสามารถ ขอคิดค่าเสียหาย 40,000 บาท คำบรรยายฟ้องของโจทก์เช่นนี้เป็นการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายที่เป็นตัวเงินที่ควรจะได้ในอนาคต ไม่ใช่เป็นการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายแก่ร่างกายหรืออนามัย ซึ่งไม่ใช่ตัวเงิน กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 446
แม้โจทก์จะฟ้องเรียกราคารถยนต์ทั้งคัน แต่การที่รถยนต์โจทก์ถูกชนพังใช้การไม่ได้นั้น ไม่ใช่ว่าโจทก์จะซื้อรถยนต์มาใช้แทนได้ทันที โจทก์จำเป็นต้องใช้เวลาตระเตรียมในการซื้อรถยนต์บ้าง ในระหว่างที่โจทก์กำลังตระเตรียมหาซื้อรถยนต์นั้น โจทก์ต้องเสียค่าจ้างรถแท๊กซี่ จึงเป็นความเสียหายที่โจทก์ได้รับเพราะการละเมิดของจำเลยจำเลยต้องชดใช้ให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1500/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างเอกสารเพิ่มเติมหลังสืบพยานเสร็จ และการเรียกร้องค่าเสียหายจากความบกพร่องทางร่างกาย/จิตใจ
การที่จำเลยเพิ่งอ้างเอกสาร-เมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว ทั้งๆที่จำเลยรู้มาก่อนว่าเอกสารดังกล่าวมีอยู่ที่กองทะเบียนกรมตำรวจ กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคท้าย ศาลจึงไม่อนุญาตให้จำเลยอ้างเอกสารดังกล่าวเป็นพยานเพิ่มเติมได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เนื่องจากจำเลยขับรถชนรถโจทก์ทำให้โจทก์เสียความสามารถทั้งร่างกาย จิตใจและระบบประสาท ไม่สามารถทำงานหนักและในตำแหน่งสูงต่อไปได้ เพราะทำให้ผู้บังคับบัญชาและนายงานไม่ไว้วางใจในความสามารถ ขอคิดค่าเสียหาย 40,000 บาท คำบรรยายฟ้องของโจทก์เช่นนี้เป็นการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายที่เป็นตัวเงินที่ควรจะได้ในอนาคต ไม่ใช่เป็นการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายแก่ร่างกายหรืออนามัย ซึ่งไม่ใช่ตัวเงิน กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 446
แม้โจทก์จะฟ้องเรียกราคารถยนต์ทั้งคัน แต่การที่รถยนต์โจทก์ถูกชนพังใช้การไม่ได้นั้น ไม่ใช่ว่าโจทก์จะซื้อรถยนต์มาใช้แทนได้ทันที โจทก์จำเป็นต้องใช้เวลาตระเตรียมในการซื้อรถยนต์บ้าง ในระหว่างที่โจทก์กำลังตระเตรียมหาซื้อรถยนต์นั้น โจทก์ต้องเสียค่ารถแท๊กซี่ จึงเป็นความเสียหายที่โจทก์ได้รับเพราะการละเมิดของจำเลย จำเลยต้องชดใช้ให้โจทก์
of 63