คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 88

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 627 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 587/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอนุญาตอ้างพยานนอกกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด: เหตุสมควร & ความเที่ยงธรรมในการพิจารณาคดี
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคสาม นั้น
ถ้าคู่ความที่มิได้ระบุอ้างพยานก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วัน ขออนุญาตระบุพยานก่อนศาลพิพากษาคดีศาลอาจอนุญาตตามคำขอได้เมื่อมีเหตุอันสมควรและศาลเห็นว่าเพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งประเด็นเป็นไปโดยเที่ยงธรรม จำเป็นจะต้องสืบพยานเช่นว่านั้น
โจทก์ไม่ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบพยานโจทก์ 3 วันอ้างว่าโจทก์ไปเที่ยวหาซื้อสินค้ามาใส่ร้านจำเลยมิได้คัดค้านเหตุที่โจทก์อ้างว่าไปหาซื้อสินค้าว่าไม่เป็นความจริงขณะนั้นคดียังมิได้มีการสืบพยานอย่างใดจะถือว่าโจทก์จงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติมาตรา 88 วรรคหนึ่งที่กำหนดให้ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วันหรือประสงค์จะเอาเปรียบในทางคดียังไม่ได้โจทก์ก็ได้ยื่นบัญชีระบุพยานช้าไปเพียงวันเดียว พฤติการณ์แห่งคดีจึงมีเหตุสมควรอนุญาตให้โจทก์อ้างพยานหลักฐานได้เพื่อให้วินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งประเด็นเป็นไปโดยเที่ยงธรรมตามมาตรา 88 วรรคสาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 587/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีรายชื่อพยานล่าช้า: ศาลอาจอนุญาตได้หากมีเหตุสมควรและจำเป็นต่อการวินิจฉัย
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 88 วรรค 3 นั้น ถ้าคู่ความที่มิได้ระบุอ้างพยานก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วัน ขออนุญาตระบุพยานก่อนศาลพิพากษาคดี ศาลอาจอนุญาตตามคำขอได้ เมื่อมีเหตุอันสมควรและศาลเห็นว่าเพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งประเด็นเป็นไปโดยเที่ยงธรรม จำเป็นจะต้องสืบพยานเช่นว่านั้น
โจทก์ไม่ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบพยานโจทก์ 3 วัน อ้างว่าโจทก์ไปเที่ยวหาซื้อสินค้ามาใส่ร้าน จำเลยมิได้คัดค้านเหตุที่โจทก์อ้างว่าไปหาซื้อสินค้าว่าไม่เป็นความจริง ขณะนั้นคดียังมิได้มีการสืบพยานอย่างใด จะถือว่าโจทก์จงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติมาตรา 88 วรรค 1 ที่กำหนดให้ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วันหรือประสงค์จะเอาเปรียบในทางคดียังไม่ได้ โจทก์ก็ได้ยื่นบัญชีระบุพยานช้าไปเพียงวันเดียว พฤติการณ์แห่งคดีจึงมีเหตุสมควรอนุญาตให้โจทก์อ้างพยานหลักฐานได้เพื่อให้วินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งประเด็นเป็นไปโดยเที่ยงธรรมตามมาตรา 88 วรรค 3.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 445/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างสำนวนคดีถึงที่สุดประกอบการพิจารณาคดีใหม่ ศาลมีอำนาจรับฟังได้เมื่อคู่ความยอมรับและเสียค่าอ้าง
เมื่อศาลสอบถาม คู่ความต่างยอมรับว่าทางพิพาทตามที่โจทก์ฟ้องนี้เคยพิพาทกันมาแล้ว 2 คดี และคดีดังกล่าวถึงที่สุดโจทก์ขออ้างสำนวนทั้งสองและได้เสียค่าอ้างแล้วศาลย่อมมีอำนาจรับฟังสำนวนนั้นๆ มาประกอบการพิจารณาคดีได้แม้โจทก์จะมิได้ยื่นระบุพยานอ้างสำนวนนั้นอีกก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 445/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างสำนวนคดีถึงที่สุดเป็นพยาน ศาลมีอำนาจรับฟังได้เมื่อคู่ความยอมรับและเสียค่าอ้าง
เมื่อศาลสอบถาม คู่ความต่างยอมรับว่า ทางพิพาทตามที่โจทก์ฟ้องนี้เคยพิพาทกันมาแล้ว 2 คดี และคดีดังกล่าวถึงที่สุด โจทก์ขออ้างสำนวนทั้งสองและได้เสียค่าอ้างแล้ว ศาลย่อมมีอำนาจรับฟังสำนวนนั้น ๆ มาประกอบการพิจารณาคดีได้ แม้โจทก์จะมิได้ยื่นระบุพยานอ้างสำนวนนั้นอีกก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 378/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงข้อต่อสู้และอ้างพยานเพิ่มเติมในชั้นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา และการพิพากษาคดีแพ่งโดยไม่รอคดีอาญา
จำเลยยื่นคำร้องในชั้นฎีกาว่า ลายมือชื่อในเอกสารปลอม
จำเลยได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ถ้าศาลฎีกาเห็นสมควรก็ขอให้รอการพิจารณาไว้จนกว่าคดีอาญาถึงที่สุดเมื่อทางพิจารณาควรฟังเป็นยุติได้แล้ว ศาลฎีกาก็พิพากษาคดีไปโดยไม่รอคดีอาญาตามคำร้องจำเลย
จำเลยมิได้ยื่นคำร้องขอปฏิเสธและขอบอกเลิกเพิกถอนคำแถลงด้วยวาจาและเอกสารของทนายจำเลยคนแรก และให้ถือตามข้อต่อสู้เดิมแต่ในชั้นพิจารณาของศาลชั้นต้นเพิ่งจะร้องขอเปลี่ยนแปลงประเด็นในชั้นอุทธรณ์ ย่อมไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาและเมื่อศาลฎีกาสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยเพิกถอนคำแถลงการด้วยวาจาและเอกสารของทนายคนแรกของจำเลยแล้วการอ้างพยานเพิ่มเติมตามคำร้องนี้ก็ไม่จำเป็นแก่คดีต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 378/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงข้อต่อสู้และขออ้างพยานเพิ่มเติมในชั้นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา และการพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์
จำเลยยื่นคำร้องในชั้นฎีกาว่า ลายมือชื่อในเอกสารปลอม จำเลยได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ถ้าศาลฎีกาเห็นสมควร ก็ขอให้รอการพิพากษาไว้จนกว่าคดีอาญาถึงที่สุด เมื่อทางพิจารณาควรฟังเป็นยุติได้แล้ว ศาลฎีกาก็พิพากษาคดีไปโดยไม่รอคดีอาญาตามคำร้องจำเลย
จำเลยมิได้ยื่นคำร้องขอปฏิเสธและขอบอกเลิกเพิกถอนคำแถลงด้วยวาจาและเอกสารของทนายจำเลยคนแรก และให้ถือตามข้อต่อสู้เดิมแต่ในชั้นพิจารณาของศาลชั้นต้น เพิ่งจะร้องขอเปลี่ยนแปลงประเด็นในชั้นอุทธรณ์ ย่อมไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา และเมื่อศาลฎีกาสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยเพิกถอนคำแถลงการณ์ด้วยวาจาและเอกสารของทนายคนแรกของจำเลยแล้ว การอ้างพยานเพิ่มเติมตามคำร้องนี้ก็ไม่จำเป็นแก่คดีต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1234/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีระบุพยานเกินกำหนด แต่มีเหตุผลอันสมควร ศาลมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานได้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
วันสุดท้ายที่โจทก์มีสิทธิยื่นบัญชีระบุพยานเป็นวันพืชมงคลอันเป็นวันหยุดราชการ วันถัดมาเป็นวันเสาร์และอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุดราชการเช่นเดียวกัน โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานในวันจันทร์ ศาลชั้นต้นสั่งรวมโจทก์นำพยานที่ระบุไว้มาสืบในวันอังคาร ดังนี้ ยังไม่พอฟังว่าโจทก์มีเจตนาฝ่าฝืน และเมื่อพิจารณาพฤติการณ์ดังกล่าวประกอบกับมาตรา 87(2) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแล้ว ศาลฎีกาเห็นว่ากรณีสมควรจะรับฟังพยานหลักฐานของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1234/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีระบุพยานเกินกำหนด: ศาลมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
วันสุดท้ายที่โจทก์มีสิทธิยื่นบัญชีระบุพยานเป็นวันพืชมงคลอันเป็นวันหยุดราชการ วันถัดมาเป็นวันเสาร์และอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุดราชการเช่นเดียวกัน โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานในวันจันทร์ ศาลชั้นต้นสั่งรวม โจทก์นำพยานที่ระบุไว้มาสืบในวันอังคาร ดังนี้ ยังไม่พอฟังว่าโจทก์มีเจตนาฝ่าฝืน และเมื่อพิจารณาพฤติการณ์ดังกล่าวประกอบกับมาตรา 87(2) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแล้ว ศาลฎีกาเห็นว่ากรณีสมควรจะรับฟังพยานหลักฐานของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1102/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อเท็จจริงในคดีอาญาผูกพันคดีแพ่ง: การบุกรุกที่ดินและการชดใช้ค่าเสียหาย
โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งทางแพ่งและทางอาญารวมกันมา หาว่าจำเลยบุกรุกที่พิพาทของโจทก์และนำข้อความเท็จแจ้งพนักงานสอบสวนว่าโจทก์บุกรุกที่นา (แปลงเดียวกัน) ของจำเลย ขอให้ลงโทษและใช้ค่าเสียหาย คดีส่วนอาญา ศาลชั้นต้นสั่งคดีมีมูลเฉพาะข้อหาแจ้งข้อความเท็จ ส่วนเรื่องบุกรุกโต้เถียงกรรมสิทธิ์ว่าเป็นกรณีทางแพ่งก็รับไว้พิจารณาจำเลยให้การปฏิเสธและฟ้องแย้งว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย โจทก์บุกรุก ขอให้ใช้ค่าเสียหาย ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับบัญชีระบุพยานเกี่ยวกับฟ้องแย้งของจำเลยในทางแพ่ง ดังนี้ ในส่วนแพ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 46 ศาลก็ต้องถือตามข้อเท็จจริงในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย โจทก์บุกรุก ซึ่งเป็นละเมิด โจทก์ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1102/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องรวมแพ่ง-อาญา กรณีบุกรุก และผลผูกพันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46
โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งทางแพ่งและทางอาญารวมกันมา หาว่าจำเลยบุกรุกที่พิพาทของโจทก์ และนำข้อความเท็จแจ้งพนักงานสอบสวนว่าโจทก์บุกรุกที่นา (แปลงเดียวกัน)ของจำเลย ขอให้ลงโทษและใช้ค่าเสียหายคดีส่วนอาญา ศาลชั้นต้นสั่งคดีมีมูลเฉพาะข้อหาแจ้งข้อความเท็จ ส่วนเรื่องบุกรุกโต้เถียงกรรมสิทธิ์ว่าเป็นกรณีทางแพ่งก็รับไว้พิจารณาจำเลยให้การปฏิเสธและฟ้องแย้งว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย โจทก์บุกรุก ขอให้ใช้ค่าเสียหายศาลชั้นต้นสั่งไม่รับบัญชีระบุพยานเกี่ยวกับฟ้องแย้งของจำเลยในทางแพ่ง ดังนี้ในส่วนแพ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 ศาลก็ต้องถือตามข้อเท็จจริงในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย โจทก์บุกรุก ซึ่งเป็นละเมิด โจทก์ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหาย
of 63