พบผลลัพธ์ทั้งหมด 627 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 585/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเอกสารต้องมีเหตุอันสมควร และจำเลยต้องนำสืบข้อเท็จจริงที่กล่าวอ้าง
การที่จำเลยจะระบุผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 88 วรรค 3 จะต้องมีเหตุอันสมควรแสดงว่าตนไม่สามารถทราบได้ว่าต้องนำผู้เชี่ยวชาญมาสืบหรือทราบว่าผู้เชี่ยวชาญได้มีอยู่
การที่จำเลยเบิกความ ได้ทำหนังสือกู้ให้โจทก์ ตามหนังสือปรากฏว่าจำเลยรับเงินไปแล้ว จำเลยกล่าวอ้างว่าไม่ได้รับเงิน โดยจำเลยคิดจะเอาเงินจากสามีจำเลย จึงขอให้โจทก์ช่วยเหลือ โดยจำเลยจะทำหนังสือกู้ให้ เพื่อให้โจทก์นำมาฟ้องจำเลยแล้วให้สามีออกเงินใช้ โจทก์ก็จะให้เงินจำเลย ดังนี้ จำเลยต้องนำสืบ
การที่จำเลยเบิกความ ได้ทำหนังสือกู้ให้โจทก์ ตามหนังสือปรากฏว่าจำเลยรับเงินไปแล้ว จำเลยกล่าวอ้างว่าไม่ได้รับเงิน โดยจำเลยคิดจะเอาเงินจากสามีจำเลย จึงขอให้โจทก์ช่วยเหลือ โดยจำเลยจะทำหนังสือกู้ให้ เพื่อให้โจทก์นำมาฟ้องจำเลยแล้วให้สามีออกเงินใช้ โจทก์ก็จะให้เงินจำเลย ดังนี้ จำเลยต้องนำสืบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 585/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอให้ส่งสัญญาไปให้ผู้เชี่ยวชาญ และหน้าที่การนำสืบข้อเท็จจริงของผู้กู้
การที่จำเลยจะระบุผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคสาม จะต้องมีเหตุอันสมควรแสดงว่าตนไม่สามารถทราบได้ว่าต้องนำผู้เชี่ยวชาญมาสืบหรือไม่ทราบว่าผู้เชี่ยวชาญได้มีอยู่
การที่จำเลยเบิกความว่า ได้ทำหนังสือกู้ให้โจทก์ ตามหนังสือปรากฏว่าจำเลยรับเงินไปแล้วจำเลยกล่าวอ้างว่าไม่ได้รับเงิน โดยจำเลยคิดจะเอาเงินจากสามีจำเลยจึงขอให้โจทก์ช่วยเหลือ โดยจำเลยจะทำหนังสือกู้ให้เพื่อให้โจทก์นำมาฟ้องจำเลยแล้วให้สามีออกเงินใช้โจทก์ก็จะให้เงินจำเลย ดังนี้ จำเลยต้องนำสืบ
การที่จำเลยเบิกความว่า ได้ทำหนังสือกู้ให้โจทก์ ตามหนังสือปรากฏว่าจำเลยรับเงินไปแล้วจำเลยกล่าวอ้างว่าไม่ได้รับเงิน โดยจำเลยคิดจะเอาเงินจากสามีจำเลยจึงขอให้โจทก์ช่วยเหลือ โดยจำเลยจะทำหนังสือกู้ให้เพื่อให้โจทก์นำมาฟ้องจำเลยแล้วให้สามีออกเงินใช้โจทก์ก็จะให้เงินจำเลย ดังนี้ จำเลยต้องนำสืบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 578/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเข้าใจผิดเรื่องวันนัดคดี: ศาลอนุญาตให้ระบุพยานเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
โจทก์มิได้ยื่นบัญชีระบุพยานเพราะตัวโจทก์ซึ่งเป็นชาวชนบทอายุ 70 ปีเศษเข้าใจว่าศาลสั่งนัดพร้อมอีก (นัดพร้อมมา 3 ครั้งแล้วและบอกทนายโจทก์เช่นนั้นทนายโจทก์จึงมอบฉันทะให้เสมียนมาฟังคำสั่งและวันนัดสืบพยาน เช่นนี้ เห็นได้ว่าไม่ใช่โจทก์จงใจฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลให้โจทก์ระบุพยานและนัดสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 578/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ยื่นบัญชีระบุพยานเนื่องจากความเข้าใจผิด ศาลให้โอกาสแก้ไขเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
โจทก์มิได้ยื่นบัญชีระบุพยานเพราะตัวโจทก์ซึ่งเป็นชาวชนบทอายุ 70 ปีเศษเข้าใจว่าศาลสั่งนัดพร้อมอีก(นัดพร้อมมา 3 ครั้งแล้ว) และบอกทนายโจทก์เช่นนั้นทนายโจทก์จึงมอบฉันทะให้เสมียนมาฟังคำสั่งและวันนัดสืบพยาน เช่นนี้ เห็นได้ว่าไม่ใช่โจทก์จงใจฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์แห่งความยุตธรรมศาลให้โจทก์ระบุพยานและนัดสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 357/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งไม่อนุญาตระบุพยาน/สืบพยาน เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา หากไม่โต้แย้ง สิทธิอุทธรณ์ฎีกาขาดเสีย
คำร้องขออนุญาตอ้างพยานหลักฐานและบัญชีระบุพยานนั้น หาใช่คำคู่ความที่ยื่นต่อศาลไม่ ฉะนั้นคำสั่งศาลที่ไม่อนุญาตให้ระบุพยานจึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา เมื่อคู่ความไม่ได้แย้งไว้ ก็ย่อมจะอุทธรณ์และฎีกาคำสั่งนั้นไม่ได้
คำสั่งศาลที่ไม่อนุญาตให้จำเลยเข้าสืบ ก็เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาเมื่อไม่โต้แย้งไว้ ก็ไม่มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาเช่นกัน
คำสั่งศาลที่ไม่อนุญาตให้จำเลยเข้าสืบ ก็เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาเมื่อไม่โต้แย้งไว้ ก็ไม่มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาเช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 357/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งไม่อนุญาตระบุพยานเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ไม่โต้แย้งสิทธิอุทธรณ์ฎีกาขาด
คำร้องขออนุญาตอ้างพยานหลักฐานและบัญชีระบุพยานนั้น หาใช่คำคู่ความที่ยื่นต่อศาลไม่ฉะนั้น คำสั่งศาลที่ไม่อนุญาตให้ระบุพยานจึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา เมื่อคู่ความไม่โต้แย้งไว้ก็ย่อมจะอุทธรณ์และฎีกาคำสั่งนั้นไม่ได้
คำสั่งศาลที่ไม่อนุญาตให้จำเลยเข้าสืบ ก็เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาเมื่อไม่โต้แย้งไว้ ก็ไม่มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาเช่นกัน
คำสั่งศาลที่ไม่อนุญาตให้จำเลยเข้าสืบ ก็เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาเมื่อไม่โต้แย้งไว้ ก็ไม่มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาเช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 838/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารพยานในคดีอื่นใช้ได้ในคดีปัจจุบัน หากส่งต่อศาลแล้ว ไม่ต้องขอเรียกใหม่
คู่ความได้ระบุอ้างเอกสารเป็นพยานไว้แล้ว เมื่อได้ความว่าเอกสารนั้นได้ถูกส่งไว้ในคดีอื่นของศาลชั้นต้นเดียวกันแล้ว ย่อมถือได้ว่าเอกสารนั้นได้ถูกส่งต่อศาลเพื่อเป็นพยานในคดีนี้แล้ว ไม่จำต้องให้คู่ความฝ่ายที่อ้างนั้นยื่นคำขอให้เรียกเอกสารนั้นมารวมไว้ในคดีนี้อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 838/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารพยานในคดีอื่นใช้ได้ในคดีปัจจุบัน หากศาลมีอำนาจเรียกเอกสารนั้นได้
คู่ความได้ระบุอ้างเอกสารเป็นพยานไว้แล้ว เมื่อได้ความว่าเอกสารนั้นได้ถูกส่งไว้ในคดีอื่นของศาลชั้นต้นเดียวกันแล้ว ย่อมถือได้ว่าเอกสารนั้นได้ถูกส่งต่อศาลเพื่อเป็นพยานในคดีนี้แล้ว ไม่จำต้องให้คู่ความฝ่ายที่อ้างนั้นยื่นคำขอให้เรียกเอกสารนั้นมารวมไว้ในคดีนี้อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1768/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงท้าพยานผู้เชี่ยวชาญลายมือชื่อ: ศาลรับฟังความเห็นผู้เชี่ยวชาญเป็นเหตุแพ้ชนะได้
1. เมื่อคู่ความท้ากันให้ส่งสัญญากู้เงินที่พิพาทไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ลายเซ็นในช่องผู้กู้เปรียบเทียบกับลายเซ็นอันแท้จริงของจำเลยในเอกสารซึ่งโจทก์จำเลยรับกัน ย่อมเป็นที่เข้าใจว่าได้ให้ผู้เชี่ยวชาญคนใดคนหนึ่งของกองวิทยาการกรมตำรวจเป็นผู้ตรวจพิสูจน์ 2. และเมื่อคู่ความท้ากันไว้ว่า ถ้าผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นว่าเป็นลายเซ็นคนๆเดียวกัน จำเลยยอมแพ้ แต่ถ้าไม่เชื่อว่าเป็นลายเซ็นของคนๆเดียวกัน โจทก์ยอมแพ้ ดังนี้ คดีย่อมไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยว่าจำเลยมิได้ระบุพยานอ้างผู้เชี่ยวชาญและความเห็นของผู้เชี่ยวชาญและศาลได้กำหนดตัวผู้เชี่ยวชาญแล้วหรือไม่
ดังนั้น เมื่อผู้เชี่ยวชาญตรวจแล้วมีความเห็นว่าไม่เชื่อว่าเป็นลายเซ็นของคนๆ เดียวกัน โจทก์ก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีตามที่ท้ากันไว้
ดังนั้น เมื่อผู้เชี่ยวชาญตรวจแล้วมีความเห็นว่าไม่เชื่อว่าเป็นลายเซ็นของคนๆ เดียวกัน โจทก์ก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีตามที่ท้ากันไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 655/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง: เหตุผลที่ไม่เพียงพอ
การที่จะรับฟังพยานหลักฐานซึ่งคู่ความระบุหรือยื่นฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 และ 90 หรือไม่เพียงไรนั้น ต้องพิจารณาตามพฤติการณ์และเหตุผลเป็นเรื่องๆ ไปคดีที่ศาลให้โจทก์นำสืบก่อนนับแต่วันชี้สองสถานถึงวันสืบพยานโจทก์เป็นระยะเวลาถึง 1 เดือน จำเลยก็ไม่ยื่นบัญชีพยานหรือหาทนายแก้ต่าง แล้วจะอ้างว่าไม่ได้ระบุและส่งสำเนาเอกสารเนื่องจากไม่มีทนายความตนเองไม่ค่อยเข้าใจ ไม่รู้กฎหมาย ดังนี้หาได้ไม่ และที่เพิ่งมายื่นบัญชีพยานและส่งเอกสารที่ตนจะอ้างภายหลังที่โจทก์สืบพยานเสร็จสิ้นแล้วทำให้โจทก์เสียเปรียบด้วยกรณีก็ปราศจากเหตุผลอันสมควรที่จะอนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีพยานและรับฟังพยานหลักฐานนั้นๆ