พบผลลัพธ์ทั้งหมด 627 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 882/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอ้างคำเบิกความจากคดีอื่นที่ไม่เป็นไปตามกระบวนการ จึงรับฟังเป็นพยานไม่ได้
ระบุอ้างคำเบิกความของพยานซึ่งเบิกความไว้ในคดีอื่น เป็นพยานแต่มิได้ขอร้องและเสียค่าธรรมเนียนตามกระ บวนวิธีพิจารณาอย่างไร นั้น ศาลย่อมรับฟังคำเบิกความนั้นเป็นพยาน ไม่ได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 882/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอ้างคำเบิกความพยานจากคดีอื่นที่ไม่เป็นไปตามกระบวนการพิจารณา ศาลไม่รับฟังเป็นพยาน
ระบุอ้างคำเบิกความของพยานซึ่งเบิกความไว้ในคดีอื่นเป็นพยาน แต่มิได้ขอร้องและเสียค่าธรรมเนียมตามกระบวนวิธีพิจารณาแต่อย่างไร นั้น ศาลย่อมรับฟังคำเบิกความนั้นเป็นพยานไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 148/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับบัญชีระบุพยานล่าช้า: ศาลมีอำนาจใช้ดุลยพินิจรับฟังพยานหลักฐานเพื่อความยุติธรรม แม้มีเหตุผลด้านการดำเนินการที่ล่าช้า
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับบัญชีระบุพยาน โดยเห็นว่าไม่ได้ยื่นก่อนกำหนดวันสืบพยาน 3 วันฝ่ายนั้นจึงยื่นคำร้องแสดงเหตุผลต่างๆ ขอให้ศาลสั่งรับบัญชีพยานเพื่อสืบพยานของตนต่อไปนั้นถือได้ว่าเป็นการโต้แย้งคำสั่งตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2) แล้ว
จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานช้าไปเพียงวันเดียว โดยมิได้จงใจฝ่าฝืน แต่เป็นเรื่องรู้เท่าไม่ถึงการเพียงเท่านี้จะปรับลงโทษถึงกับไม่ยอมให้จำเลยมีโอกาสสืบพยานที่เดียว เป็นการรุนแรงไปเมื่อโจทก์ไม่เสียเปรียบก็พอถือได้ว่ากรณีมีเหตุสมควรเพื่อความยุติธรรมที่จะรับฟังพยานหลักฐานจำเลยได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 87(2)
แม้จำเลยจะอุทธรณ์คัดค้านในข้อกฎหมายเพียงว่า การยื่นบัญชีระบุพยานของจำเลย ไม่ผิดต่อกฎหมายเท่านั้นและแม้ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยว่าการยื่นบัญชีระบุพยานของจำเลยยังไม่ถูกต้องตามกฎหมายก็ดี เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นกรณีมีเหตุสมควรเพื่อความยุติธรรมแล้วศาลอุทธรณ์ก็ย่อมมีอำนาจยกเหตุสมควรเพื่อความยุติธรรมที่จะรับฟังพยานหลักฐานของจำเลยได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 87(2) ไม่ถือว่าเป็นการเกินคำขอ
จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานช้าไปเพียงวันเดียว โดยมิได้จงใจฝ่าฝืน แต่เป็นเรื่องรู้เท่าไม่ถึงการเพียงเท่านี้จะปรับลงโทษถึงกับไม่ยอมให้จำเลยมีโอกาสสืบพยานที่เดียว เป็นการรุนแรงไปเมื่อโจทก์ไม่เสียเปรียบก็พอถือได้ว่ากรณีมีเหตุสมควรเพื่อความยุติธรรมที่จะรับฟังพยานหลักฐานจำเลยได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 87(2)
แม้จำเลยจะอุทธรณ์คัดค้านในข้อกฎหมายเพียงว่า การยื่นบัญชีระบุพยานของจำเลย ไม่ผิดต่อกฎหมายเท่านั้นและแม้ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยว่าการยื่นบัญชีระบุพยานของจำเลยยังไม่ถูกต้องตามกฎหมายก็ดี เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นกรณีมีเหตุสมควรเพื่อความยุติธรรมแล้วศาลอุทธรณ์ก็ย่อมมีอำนาจยกเหตุสมควรเพื่อความยุติธรรมที่จะรับฟังพยานหลักฐานของจำเลยได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 87(2) ไม่ถือว่าเป็นการเกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1097/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นบัญชีพยานนอกกำหนดและผลกระทบต่อการดำเนินคดี
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ทนายจำเลยยื่นคำแถลงว่าจำเลยยังไม่ได้ระบุพยาน เพราะทนายได้ฝากหนังสือไปหาจำเลยให้มาระบุพยานก่อนกำหนด 3 วัน แต่ผู้ถือจดหมายได้ทำหนังสือหายเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงขอยื่นบัญชีระบุพยานในวันนั้น ศาลชั้นต้นสั่งว่าคำขอเช่นนี้ ต้องทำเป็นคำร้องตามมาตรา 88 วรรคสาม เมื่อทำเป็นคำแถลงจึงไม่รับพิจารณาให้ยกเสีย แต่จำเลยก็หาได้ทำคำร้องขอยื่นบัญชีพยานให้ถูกต้องเสียก่อนสืบพยานโจทก์ไม่ จนศาลสืบพยานโจทก์ไปเสร็จสิ้นแล้ว ทนายจำเลยจึงมายื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานในภายหลัง เช่นนี้โจทก์ย่อมไม่ทราบถึงพยานหลักฐานของจำเลยว่ามีอย่างไร ก่อนแต่สืบพยานฝ่ายตน เป็นการเสียเปรียบในทางคดี ดังนี้ พฤติการณ์และเหตุผล กรณีไม่มีเหตุสมควรจะให้รับการยื่นบัญชีพยาน และรับฟังพยานหลักฐานจำเลย อันฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 669/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับคำโต้แย้งเรื่องฟ้องเคลือบคลุมหลังศาลอุทธรณ์พิพากษาแล้ว และการระบุพยานไม่ทันตามกำหนด
ศาลชั้นต้น พิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ศาลอุทธรณ์ วินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุม พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ ดังนี้ จำเลยชอบที่จะฎีกาต่อไปว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมถ้าจำเลยมิได้ฎีกาปล่อยให้ขาดอายุความฎีกาแล้ว เมื่อศาลชั้นต้น พิจารณาพิพากษาใหม่ ให้จำเลยแพ้คดี และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา แล้วยกข้อฟ้องเคลือบคลุมขึ้นโต้แย้งอีกไม่ได้ เพราะปัญหาข้อนี้ถึงที่สุดไปแล้ว
ยื่นระบุพยานวันที่ 1 ซึ่งนัดพิจารณาสืบพยานไว้ในวันที่ 4 ดังนี้ ถือว่า ระบุพยานไม่ก่อนวันสืบพยาน 3 วันเต็ม ศาลไม่รับระบุพยานดังกล่าว ได้
ยื่นระบุพยานวันที่ 1 ซึ่งนัดพิจารณาสืบพยานไว้ในวันที่ 4 ดังนี้ ถือว่า ระบุพยานไม่ก่อนวันสืบพยาน 3 วันเต็ม ศาลไม่รับระบุพยานดังกล่าว ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 669/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเว้นข้อฟ้องเคลือบคลุมหลังศาลอุทธรณ์ให้พิจารณาใหม่ และการระบุพยานหลังกำหนด
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุมพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ ดังนี้ จำเลยชอบที่จะฎีกาต่อไปว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม ถ้าจำเลยมิได้ฎีกาปล่อยให้ขาดอายุความฎีกาแล้ว เมื่อศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ ให้จำเลยแพ้คดีและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำเลยฎีกา แล้วจะยกข้อฟ้องเคลือบคลุมขึ้นโต้แย้งอีกไม่ได้ เพราะปัญหาข้อนี้ถึงที่สุดไปแล้ว
ยื่นระบุพยานวันที่ 1 ซึ่งนัดพิจารณาสืบพยานไว้ในวันที่ 4 ดังนี้ ถือว่าระบุพยานไม่ก่อนวันสืบพยาน 3 วันเต็ม ศาลไม่รับระบุพยานดังกล่าวแล้ว ได้
ยื่นระบุพยานวันที่ 1 ซึ่งนัดพิจารณาสืบพยานไว้ในวันที่ 4 ดังนี้ ถือว่าระบุพยานไม่ก่อนวันสืบพยาน 3 วันเต็ม ศาลไม่รับระบุพยานดังกล่าวแล้ว ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ยื่นระบุพยานตามกำหนดเวลา ทำให้ศาลไม่อนุญาตให้ระบุพยานเพิ่มเติม
จำเลยมิได้ยื่นระบุพยานก่อนวันเริ่มต้นทำการสืบพยานตลอดมา
วันนัดพิจารณาครั้งที่ 2 จำเลยก็ยังมิได้ระบุพยานอีกปล่อยปละละเลยล่วงมาจนเป็นเวลาภายหลังวันเริ่มต้นทำการสืบพยานไม่น้อยกว่า 47 วัน จึงได้ยื่นคำร้องขอระบุพยานนั้นนับว่าเป็นความเผอเรอของฝ่ายจำเลยอย่างมากศาลย่อมไม่อนุญาตให้ระบุได้
วันนัดพิจารณาครั้งที่ 2 จำเลยก็ยังมิได้ระบุพยานอีกปล่อยปละละเลยล่วงมาจนเป็นเวลาภายหลังวันเริ่มต้นทำการสืบพยานไม่น้อยกว่า 47 วัน จึงได้ยื่นคำร้องขอระบุพยานนั้นนับว่าเป็นความเผอเรอของฝ่ายจำเลยอย่างมากศาลย่อมไม่อนุญาตให้ระบุได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตยื่นบัญชีระบุพยานนอกกรอบเวลา พิจารณาจากเหตุผลความจำเป็นและประโยชน์แห่งความยุติธรรม
โจทก์ไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบพยาน เพิ่งจะมายื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานเอาในวันนัดสืบพยานเมื่อปรากฏว่าโจทก์มิได้จงใจฝ่าฝืน หากเป็นด้วยความจำเป็นจริง ๆ แล้ว เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลย่อมอนุญาตให้โจทก์ระบุพยานได้ความคำร้องขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นบัญชีระบุพยานล่าช้า: ศาลใช้ดุลพินิจอนุญาตได้หากมีเหตุผลและความจำเป็น
โจทก์ไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบพยานเพิ่งจะมายื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานเอาในวันนัดสืบพยาน เมื่อปรากฏว่าโจทก์มิได้จงใจฝ่าฝืน หากเป็นด้วยความจำเป็นจริงๆ แล้วเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลย่อมอนุญาตให้โจทก์ระบุพยานได้ตามคำร้องขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1930/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นระบุพยานเกินกำหนด: ศาลมีอำนาจอนุญาตได้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
จำเลยยื่นคำร้องขอระบุพยานพร้อมด้วยยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันนัดพิจารณา 2 วันเข้าไปกว่ากำหนดเวลาตามมาตรา 88 ป.ม.วิ.แพ่ง เพียง 1 วัน โดยอ้างเหตุความจำเป็นที่ต้องไปติดตามคนร้ายยักยอกข้าว ดังนี้ เมื่อศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จำเป็นจะต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญ ซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี ก็มีอำนาจสั่งอนุญาตได้และไม่จำเป็นจะต้องไต่สวนก่อนสั่งอนุญาตเสมอไป