คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ม. 55

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 116 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 558/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กระสุนปืนใช้เฉพาะสงคราม: การครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่ากระสุนปืนของกลางเป็นกระสุนปืนเล็กสั้นแบบ 87 ขนาด 7.62 มม. หรือ .30 นิ้ว ใช้ยิงได้ ราษฎรทั่วไปไม่ยอมให้มีได้ ไม่ยอมให้มีการซื้อขายในท้องตลาด เป็นกระสุนปืนที่ใช้ร่วมกับอาวุธปืนที่ระบุไว้ในข้อ 4 ข้อ 5 ตามกฎกระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ 7(พ.ศ. 2501) ซึ่งข้อ 16 บัญญัติให้เครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้กับสิ่งซึ่งระบุไว้ตั้งแต่ (1) ถึง (9) เว้นแต่เครื่องกระสุนปืนชนิดและขนาดที่ใช้ได้แก่อาวุธปืนซึ่งได้รับอนุญาตเป็นเครื่องกระสุนปืนใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม ดังนี้ กระสุนปืนของกลางย่อมเข้าลักษณะเป็นเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามตามมาตรา 55แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2501

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 564/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษจำเลยในคดีฆ่าผู้อื่น จากการให้การรับสารภาพที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา
จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายที่โหนกแก้มซ้ายทะลุท้ายทอยล้มลงขาดใจตาย เมื่อจำเลยถูกจับกุมตัวได้ จำเลยได้ลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงานตำรวจรับสารภาพผิดว่าได้ยิงผู้ตายจริง นับว่าเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาลอยู่ ดังนี้ สมควรถือเป็นเหตุบรรเทาโทษของจำเลยได้สถานหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 564/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษจำเลยในคดีอาญาจากการรับสารภาพ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของศาล
จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายที่โหนกแก้มซ้ายทะลุท้ายทอยล้มลงขาดใจตาย เมื่อจำเลยถูกจับกุมตัวได้ จำเลยได้ลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงานตำรวจ รับสารภาพผิดว่าได้ยิงผู้ตายจริง นับว่าเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาลอยู่ ดังนี้ สมควรถือเป็นเหตุบรรเทาโทษของจำเลยได้สถานหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1500/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่การพิสูจน์ความรู้เกี่ยวกับลักษณะกระสุนปืน: โจทก์ต้องพิสูจน์ว่าจำเลยรู้ว่าเป็นกระสุนเฉพาะทาง
เมื่อโจทก์ไม่สืบพยานแสดงให้เห็นว่าความจริงจำเลยย่อมทราบตั้งแต่ได้ครอบครองกระสุนปืนของกลางว่าเป็นกระสุนสำหรับใช้แต่เฉพาะในการสงคราม ก็จะลงโทษจำเลยในความผิดฐานนั้นหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1111/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำกัดความผิดฐานครอบครองเครื่องกระสุนปืนสงคราม: การพิสูจน์ชนิดกระสุนต้องชัดเจนในชั้นศาล
ฟ้องว่าจำเลยมีกระสุนปืนสปิงฟิลต์อันเป็นเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะในการสงครามไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต แล้วโจทก์จะมาอธิบายในชั้นฎีกาว่าลูกกระสุนปืนดังกล่าวนั้น คือลูกกะสุนปืนซึ่งใช้กับปืนเล็กยาวแนบ 66 ขนาด 8 มม. อันระบุไว้ในกระทรวงมหาดไทยฉบับ ที่ 7 (พ.ศ.2501) ฯ ข้อ (3) ณ.เพื่อขอให้ศาลลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ.2490 มาตรา 55,78 ตามที่ถูกแก้ไข ดังนี้ ย่อมรับฟังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1111/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาความผิดฐานครอบครองกระสุนปืนเฉพาะสงคราม ต้องอาศัยหลักฐานชัดเจนว่ากระสุนนั้นเข้าข่ายตามกฎหมาย
ฟ้องว่าจำเลยมีกระสุนปืนสปิงฟิลต์อันเป็นเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะในการสงครามไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต แล้วโจทก์จะมาอธิบายในชั้นฎีกาว่าลูกกระสุนปืนดังกล่าวนั้น คือ ลูกกระสุนปืนซึ่งใช้กับปืนเล็กยาวแบบ 66 ขนาด 8 มม. อันระบุไว้ในกฎกระทรวงมหาดไทยฉบับที่ 7(พ.ศ.2501)ฯ ข้อ (3)ฌ. เพื่อขอให้ศาลลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 55,78 ตามที่ถูกแก้ไขดังนี้ ย่อมรับฟังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1770/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อาวุธปืนสงครามที่ไม่ได้แจ้งการครอบครองและการรับฝากอาวุธปืนเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย
ปืนของกลางเป็นของผู้อื่นซึ่งได้รับอนุญาตให้มีไว้ตั้งแต่ พ.ศ. 2500 เมื่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2501 ออกใช้และรัฐมนตรีได้ออกกฎกระทรวงกำหนดให้ปืนชนิดนี้เป็นปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามแล้ว เจ้าของก็มิได้นำไปมอบให้กับนายทะเบียนท้องที่ตามมาตรา 10 ปืนนี้จึงเป็นของมีไว้เป็นความผิดอันพึงริบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 32 จำเลยรับฝากปืนนี้ไว้จากเจ้าของก็ต้องมีความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้ลงโทษปรับจำเลยตามศาลชั้นต้น จำเลยฎีกาว่าเป็นของกลางไม่ใช่ปืนเล็กยาวแบบ 83 ซึ่งใช้เฉพาะแต่ในการสงครามศาลอุทธรณ์วินิจฉัยผิดจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวน เป็นการโต้เถียงคำวินิจฉัยและดุลพินิจของศาลอุทธรณ์จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท้จจริง ต้องห้ามฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1770/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปืนที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนและข้อพิพาทเกี่ยวกับประเภทของอาวุธปืนตามกฎหมายอาวุธปืน
ปืนของกลางเป็นของผู้อื่นซึ่งได้รับอนุญาตให้มีไว้ตั้งแต่ พ.ศ.2500เมื่อพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ฉบับที่3 พ.ศ.2501 ออกใช้และรัฐมนตรีได้ออกกฎกระทรวงกำหนดให้ปืนชนิดนี้เป็นที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามแล้วเจ้าของก็มิได้นำไปมอบให้กับนายทะเบียนท้องที่ตามมาตรา10 ปืนนี้จึงเป็นของมีไว้เป็นความผิดอันพึงริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32. จำเลยรับฝากปืนนี้ไว้จากเจ้าของก็ต้องมีความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้ลงโทษปรับจำเลยตามศาลชั้นต้นจำเลยฎีกาว่าปืนของกลางไม่ใช่ปืนเล็กยาวแบบ 83 ซึ่งใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยผิดจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวน เป็นการโต้เถียงคำวินิจฉัยและดุลพินิจของศาลอุทธรณ์จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองลูกระเบิดของเจ้าพนักงาน: การกระทำนอกหน้าที่ราชการไม่ถือเป็นความผิด
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีลูกระเบิดไว้ในครอบครอง ศาลทั้ง 2 พิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกาในข้อ ก.ม.ว่าการที่จำเลยนำเอาลูกระเบิดของกลางที่เก็บมาใช้คุกคามต่อ ความปลอดภัยต่อผู้อื่น (นำมาวางบนโต๊ะ)ของเพื่อนทำข้าราชการแล้วพูดว่าใครอวดดีก็มา) แม้จะกระทำในสถานที่ราชการนั้นเองก็หาอาจจะถือได้ว่เป็นการกระทำในหน้าที่ได้ไม่
เมื่อข้อเท็จจริงเป็นอันยุติตามศาลล่างทั้งสองว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่เก็บรักษาลูกระเบิดของกลางนี้ ฎีกาของโจทก์จึงเห็นได้ว่าเป็นกรรมอีกอันหนึ่งที่ไม่เกี่ยวกับการที่ลูกระเบิดของกลางตกอยู่ในครอบครองของจำเลยโดยชอบด้วย ก.ม.ข้อเท็จจริงนี้ศาล++ฟังมาซึ่ง++ความผิดต้องยกฎีกาโจทก์ พิพากษายืน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองลูกระเบิดของเจ้าพนักงานและขอบเขตความผิด การกระทำนอกหน้าที่
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีลูกระเบิดไว้ในครอบครอง ศาลทั้ง 2 พิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกาในข้อกฎหมายว่าการที่จำเลยนำเอาลูกระเบิดของกลางจากที่เก็บมาใช้คุกคามต่อความปลอดภัยของผู้อื่น (นำมาวางบนโต๊ะของเพื่อนข้าราชการแล้วพูดว่าใครอวดดีก็มา) แม้จะกระทำในสถานที่ราชการนั้นเองก็หาอาจจะถือได้ว่าเป็นการกระทำในหน้าที่ได้ไม่
เมื่อข้อเท็จจริงเป็นอันยุติตามศาลล่างทั้งสองว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่เก็บรักษาลูกระเบิดของกลางนี้ฎีกาของโจทก์จึงเห็นได้ว่าเป็นกรรมอีกอันหนึ่งที่ไม่เกี่ยวกับการที่ลูกระเบิดของกลางตกอยู่ในครอบครองของจำเลยโดยชอบด้วยกฎหมายดังข้อเท็จจริงที่ศาลล่างฟังมา ซึ่งไม่เป็นความผิดต้องยกฎีกาโจทก์พิพากษายืน
of 12