พบผลลัพธ์ทั้งหมด 116 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2152/2540 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำให้การรับสารภาพใช้ยันจำเลยได้, ความผิดฐานมีและใช้อาวุธปืนในการชิงทรัพย์, ลงโทษตามบทที่มีโทษหนักที่สุด
จำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนโดยสมัครใจ คำให้การดังกล่าวใช้ยันจำเลยได้ ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 134
ความผิดฐานมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน นอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวง (อาวุธปืนสำหรับใช้เฉพาะในการสงคราม) ความผิดฐานใช้อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน นอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงในการกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์และความผิดฐานชิงทรัพย์เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทต้องลงโทษฐานใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน นอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงในการกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 78 วรรคสาม อันเป็นบทกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุดแต่เพียงบทเดียว ตาม ป.อ.มาตรา 90
ความผิดฐานมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน นอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวง (อาวุธปืนสำหรับใช้เฉพาะในการสงคราม) ความผิดฐานใช้อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน นอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงในการกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์และความผิดฐานชิงทรัพย์เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทต้องลงโทษฐานใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน นอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงในการกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 78 วรรคสาม อันเป็นบทกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุดแต่เพียงบทเดียว ตาม ป.อ.มาตรา 90
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2152/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษความผิดฐานชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนผิดกฎหมาย: หลักการประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90
จำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนโดยสมัครใจคำให้การดังกล่าวใช้ยันจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา134 ความผิดฐานมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนนอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวง(อาวุธปืนสำหรับใช้เฉพาะในการสงคราม)ความผิดฐานใช้อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนนอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงในการกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์และความผิดฐานชิงทรัพย์เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทต้องลงโทษฐานใช้อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนนอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงในการกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯมาตรา78วรรคสามอันเป็นบทกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุดแต่เพียงบทเดียวตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา90
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1350/2540 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่าโดยขว้างระเบิด, ครอบครองวัตถุระเบิดผิดกฎหมาย, กรรมเดียวผิดหลายบท
หลังจากจำเลยทะเลาะกับผู้เสียหายที่ 1 แล้ว จำเลยเดินเข้าไปหยิบลูกระเบิดในกระท่อม และจำเลยได้ใช้ลูกระเบิดดังกล่าวขว้างใส่ผู้เสียหายที่ 1 โดยเล็งเห็นผลว่าลูกระเบิดที่ขว้างไปดังกล่าวสามารถทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ จึงเป็นการขว้างไปโดยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายที่ 1 แต่การกระทำของจำเลยกระทำไปไม่ตลอดเพราะสะเก็ดระเบิดไม่ถูกอวัยวะสำคัญของผู้เสียหายที่ 1 ผู้เสียหายที่ 1 จึงไม่ตายสมดังเจตนาของจำเลย จึงเป็นการพยายามฆ่าผู้เสียหายที่ 1 และเมื่อสะเก็ดระเบิดพลาดไปถูกผู้เสียหายที่ 2 ทำให้ผู้เสียหายที่ 2ได้รับบาดเจ็บ จึงถือได้ว่าเป็นการพยายามฆ่าผู้เสียหายที่ 2 ด้วย กรณีเป็นความผิดตาม ป.อ.มาตรา 288, 80 และ พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 55, 78 วรรคหนึ่งและวรรคสาม และการที่จำเลยมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองและใช้วัตถุระเบิดดังกล่าวไปกระทำความผิดตาม ป.อ.มาตรา 288 ถือว่าเป็นการกระทำความผิดกรรมเดียวแต่มีความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 78วรรคสาม ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดเพียงบทเดียว ตาม ป.อ.มาตรา 90
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 3/2540)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 3/2540)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5305/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีอาวุธปืนและกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน แม้มีไว้ในวันเดียวกัน
การมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ มาตรา 7, 72 วรรคหนึ่ง และการมีกระสุนปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้เป็นความผิดตามมาตรา 55, 78 วรรคหนึ่ง การที่กฎหมายบัญญัติความผิดและบทลงโทษไว้คนละมาตรา ย่อมเห็นเจตนารมณ์ของกฎหมายได้ว่า มีความประสงค์ที่จะแยกความผิด 2 ฐาน นี้ออกจากกันทั้งวัตถุของกลางก็เป็นคนละประเภท แสดงว่าเจตนามีไว้แตกต่างกัน และความผิดแต่ละประเภทสำเร็จแล้วนับแต่มีไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ฉะนั้น แม้จำเลยจะมีไว้ในวันเวลาเดียวกันก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5305/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนเป็นความผิดต่างกรรมกัน แม้มีไว้ในวันเดียวกัน ศาลต้องลงโทษทุกกรรม
การมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯมาตรา7,72วรรคหนึ่งและการมีกระสุนปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้เป็นความผิดตามมาตรา55,78วรรคหนึ่งการที่กฎหมายบัญญัติความผิดและบทลงโทษไว้คนละมาตราย่อมเห็นเจตนารมณ์ของกฎหมายได้ว่ามีความประสงค์ที่จะแยกความผิด2ฐานนี้ออกจากกันทั้งวัตถุของกลางก็เป็นคนละประเภทแสดงว่าเจตนามีไว้แตกต่างกันและความผิดแต่ละประเภทสำเร็จแล้วนับแต่มีไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายฉะนั้นแม้จำเลยจะมีไว้ในวันเวลาเดียวกันก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6767/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดอาวุธปืน: ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย แม้มีพยานหลักฐานไม่ชัดเจน ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษายกฟ้อง
เมื่อพยานหลักฐานโจทก์มีความสงสัยตามสมควรว่าจำเลยกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯมาตรา55,78วรรคแรกหรือไม่และยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา227วรรคสองศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิพากษายกฟ้องโจทก์ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา371พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯมาตรา8ทวิวรรคหนึ่ง,72ทวิวรรคสองได้ด้วยเพราะเป็นข้อเท็จจริงอันเดียวเกี่ยวพันกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา185ประกอบมาตรา215และ225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6767/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความน่าสงสัยของพยานหลักฐานในความผิดอาวุธปืนฯ ศาลมีอำนาจยกฟ้องได้
เมื่อพยานหลักฐานโจทก์มีความสงสัยตามสมควรว่า จำเลยกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 55,78 วรรคแรกหรือไม่ และยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 วรรคสอง ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิพากษายกฟ้องโจทก์ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 371 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง,72 ทวิ วรรคสอง ได้ด้วยเพราะเป็นข้อเท็จจริงอันเดียวเกี่ยวพันกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 ประกอบ มาตรา 215และ 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3342/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยให้การรับสารภาพ แต่พยานหลักฐานโจทก์ไม่พอฟังลงโทษ ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยทั้งสามฐานร่วมกันมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกคนละ 8 เดือน ฐานร่วมกันพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ได้จำคุกคนละ 4 เดือน ส่วนความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ศาลชั้นต้นมิได้ปรับบทลงโทษจำเลยทั้งสามศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลดมาตราส่วนโทษแก่จำเลยที่ 2 และปรับบทความผิดในความผิดที่ศาลชั้นต้นมิได้ปรับบทลงโทษจำเลยทั้งสามดังกล่าวให้ถูกต้องเท่านั้นจึงเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขเล็กน้อยความผิดทั้งสามกระทงดังกล่าวจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 วรรคหนึ่ง จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนโดยสมัครใจจึงเป็นคำรับโดยชอบ ศาลรับฟังได้ แต่ลำพังเพียงคำรับสารภาพชั้นสอบสวนยังไม่พอฟังลงโทษจำเลยทั้งสามได้ต้องฟังพยานโจทก์อื่นประกอบต่อไปอีก จำเลยทั้งสามได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงไปยังรถยนต์ของผู้เสียหายโดยมีเจตนาจะปล้นทรัพย์ และในขณะเดียวกันย่อมเล็งได้ว่าว่ากระสุนปืนอาจถูกผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้แต่ผู้เสียหายได้ขับรถแล่นหนีไปเสียก่อนจึงไม่ได้รับอันตรายจากการปล้นทรัพย์ของจำเลยทั้งสาม และจำเลยทั้งสามไม่สามารถเอาทรัพย์ใด ๆ ไปได้ จำเลยทั้งสามจึงมีความผิดฐานใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ในการพยายามฆ่าและพยายามปล้นทรัพย์และความผิดฐานพยายามฆ่าและพยายามปล้นทรัพย์ด้วย ศาลอุทธรณ์รวมโทษจำคุกจำเลยน้อยกว่าที่ถูกต้องแต่เมื่อโจทก์มิได้ฎีกา ศาลฎีกาจึงไม่อาจแก้ไขให้ถูกต้องได้เพราะเป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลย ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212 ประกอบด้วยมาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1883/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบอาวุธร้ายแรงและมอบตัวสมัครใจเป็นเหตุสมควรให้รอการลงโทษ
จำเลยมีอาวุธปืนเล็กกล 1 กระบอก และกระสุนปืน 4 นัด แม้เป็นอาวุธร้ายแรง แต่จำเลยนำมามอบให้เจ้าพนักงาน และมอบตัวต่อเจ้าพนักงานโดยสมัครใจ ชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาจำเลยให้การรับสารภาพ กรณีมีเหตุสมควรรอการลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1883/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนโดยมิได้รับอนุญาตและการมอบตัวแสดงความสำนึกผิดเป็นเหตุสมควรรอการลงโทษ
จำเลยมีอาวุธปืนเล็กกล 1 กระบอก และกระสุนปืน 4 นัด แม้เป็นอาวุธร้ายแรง แต่จำเลยนำมามอบให้เจ้าพนักงาน และมอบตัวต่อเจ้าพนักงานโดยสมัครใจ ชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาจำเลยให้การรับสารภาพ กรณีมีเหตุสมควรรอการลงโทษ