คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 172

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 375 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1379/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัยทำให้ไม่ต้องรับผิดตามสัญญา และการรับสภาพหนี้โดยไม่มีมูลหนี้
จำเลยทำสัญญารับจ้างเฝ้ารักษาไม้ของกลางไว้แก่โจทก์ถ้าไม้ขาดหายหรือเป็นอันตรายจำเลยยอมให้ปรับเป็นเงินต่อมาเกิดอุทกภัยพัดพาเอาไม้ของกลางสูญหายไปทั้งหมดอันถือได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัยจึงไม่ก่อให้เกิดหนี้ที่จำเลยต้องรับผิดตามสัญญาฉะนั้นแม้จำเลยจะทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้แก่โจทก์และชำระหนี้ให้แก่โจทก์ไปบางส่วนแล้วก็หามีผลให้จำเลยต้องรับผิดชำระหนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้แก่โจทก์อีกไม่เพราะเป็นการรับสภาพหนี้โดยปราศจากมูลหนี้ที่จะให้รับสภาพจึงไม่มีผลบังคับแก่กัน(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 484/2516).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1379/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัยทำให้ไม่ต้องรับผิดตามสัญญา และการรับสภาพหนี้ที่ไม่มีมูลหนี้
จำเลยทำสัญญารับจ้างเฝ้ารักษาไม้ของกลางไว้แก่โจทก์ ถ้าไม้ขาดหายหรือเป็นอันตรายจำเลยยอมให้ปรับเป็นเงิน ต่อมาเกิดอุทกภัยพัดพาเอาไม้ของกลางสูญหายไปทั้งหมดอันถือได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย จึงไม่ก่อให้เกิดหนี้ที่จำเลยต้องรับผิดตามสัญญาฉะนั้นแม้จำเลยจะทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้แก่โจทก์และชำระหนี้ให้แก่โจทก์ไปบางส่วนแล้ว ก็หามีผลให้จำเลยต้องรับผิดชำระหนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้แก่โจทก์อีกไม่เพราะเป็นการรับสภาพหนี้โดยปราศจากมูลหนี้ที่จะให้รับสภาพ จึงไม่มีผลบังคับแก่กัน(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 484/2516).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดจากการรื้อรั้ว, อายุความ, การรับสภาพหนี้, ค่าฤชาธรรมเนียม
โจทก์บรรยายฟ้องว่ารั้วไม้ของโจทก์เสียหายรวม 74 ช่วงและรั้วลวดตาข่ายเสียหายราว 165 เมตร คิดเป็นค่าเสียหายทั้งสิ้น 335,295 บาท แม้มิได้แสดงว่ารั้วไม้ยาวช่วงละเท่าใด รั้วไม้และรั้วตาข่ายช่วงไหนเสียหาย เสียหายช่วงละเท่าใด หรือเสียหายอย่างไร แต่โจทก์ก็ได้แนบแผนผังแสดงแนวรั้วไม้และรั้วตาข่ายที่เสียหายมาท้ายคำฟ้องด้วย คำฟ้องนี้จึงได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
จำเลยที่ 1 รื้อรั้วของโจทก์หลายครั้งโดยมิได้รับความยินยอมจากโจทก์ จึงเป็นการจงใจทำต่อโจทก์โดยผิดกฎหมายให้โจทก์เสียหายแก่ทรัพย์สินเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ การที่จำเลยที่ 1 มีหนังสือถึงโจทก์รับว่าจะซ่อมรั้วไม้ที่รื้อออกไป เมื่องานต่าง ๆ ที่จะต้องทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นการรับสภาพต่อโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามสิทธิเรียกร้อง อายุความเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดจากการที่จำเลยรื้อรั้วไม้ที่โจทก์รู้ก่อนวันที่13 ธันวาคม 2521 อันเป็นวันที่จำเลยทำหนังสือให้โจทก์จึงสะดุดหยุดลงตั้งแต่วันนั้น โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2522 จึงไม่ขาดอายุความ
ข้อที่จำเลยฎีกาว่า กรุงเทพมหานครได้จ่ายค่าเสียหายให้โจทก์ไปแล้วซึ่งคลุมถึงค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องในคดีนี้ด้วย จึงไม่มีค่าเสียหายที่โจทก์จะเรียกร้องจากจำเลยอีก เป็นปัญหาที่จำเลยมิได้ให้การต่อสู้เป็นประเด็นไว้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามเรียกค่าเสียหายในมูลละเมิดเป็นเงิน 362,537.70 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามชำระค่าเสียหายให้แก่โจทก์ 183,736.00 บาท โจทก์อุทธรณ์และฎีกาขอให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนตามฟ้อง เมื่ออุทธรณ์และฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น ศาลฎีกาเห็นสมควรให้จำเลยทั้งสามใช้ค่าขึ้นศาลแทนโจทก์เฉพาะในศาลชั้นต้นเท่าที่โจทก์ชนะคดี ส่วนค่าทนายความเมื่อคำนึงถึงเหตุสมควรและความสุจริตในการสู้ความและการดำเนินคดีของทั้งสองฝ่ายแล้ว เห็นควรให้จำเลยใช้ค่าทนายความทั้งสามศาลแทนโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดจากการรื้อรั้ว, อายุความ, การรับสภาพหนี้, และค่าฤชาธรรมเนียม
โจทก์บรรยายฟ้องว่ารั้วไม้ของโจทก์เสียหายรวม 74 ช่วงและรั้วลวดตาข่ายเสียหายราว 165 เมตรคิดเป็นค่าเสียหายทั้งสิ้น 335,295 บาทแม้มิได้แสดงว่ารั้วไม้ยาวช่วงละเท่าใด รั้วไม้และรั้วตาข่ายช่วงไหนเสียหายเสียหายช่วงละเท่าใดหรือเสียหายอย่างไรแต่โจทก์ก็ได้แนบแผนผังแสดงแนวรั้วไม้และรั้วตาข่ายที่เสียหายมาท้ายคำฟ้องด้วยคำฟ้องนี้จึงได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้วฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม จำเลยที่ 1 รื้อรั้วของโจทก์หลายครั้งโดยมิได้รับความยินยอมจากโจทก์จึงเป็นการจงใจทำต่อโจทก์โดยผิดกฎหมายให้โจทก์เสียหายแก่ทรัพย์สินเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์การที่จำเลยที่ 1 มีหนังสือถึงโจทก์รับว่าจะซ่อมรั้วไม้ที่รื้อออกไป เมื่องานต่างๆ ที่จะต้องทำเสร็จเรียบร้อยแล้วเป็นการรับสภาพต่อโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามสิทธิเรียกร้องอายุความเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดจากการที่จำเลยรื้อรั้วไม้ที่โจทก์รู้ก่อนวันที่13 ธันวาคม 2521อันเป็นวันที่จำเลยทำหนังสือให้โจทก์จึงสะดุดหยุดลงตั้งแต่วันนั้นโจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2522จึงไม่ขาดอายุความ ข้อที่จำเลยฎีกาว่า กรุงเทพมหานครได้จ่ายค่าเสียหายให้โจทก์ไปแล้วซึ่งคลุมถึงค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องในคดีนี้ด้วย จึงไม่มีค่าเสียหายที่โจทก์จะเรียกร้องจากจำเลยอีกเป็นปัญหาที่จำเลยมิได้ให้การต่อสู้เป็นประเด็นไว้ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามเรียกค่าเสียหายในมูลละเมิดเป็นเงิน362,537.70 บาทศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามชำระค่าเสียหายให้แก่โจทก์ 183,736.00 บาท โจทก์อุทธรณ์และฎีกาขอให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนตามฟ้องเมื่ออุทธรณ์และฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้นศาลฎีกาเห็นสมควรให้จำเลยทั้งสามใช้ค่าขึ้นศาลแทนโจทก์เฉพาะในศาลชั้นต้นเท่าที่โจทก์ชนะคดีส่วนค่าทนายความเมื่อคำนึงถึงเหตุสมควรและความสุจริตในการสู้ความและการดำเนินคดีของทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นควรให้จำเลยใช้ค่าทนายความทั้งสามศาลแทนโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 537/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสภาพหนี้และการสะดุดหยุดอายุความ การออกใบเสร็จรับรองจำนวนเที่ยวรถถือเป็นการรับสภาพหนี้ ทำให้ระยะอายุความเริ่มนับใหม่
โจทก์รับจ้างตักดินให้จำเลย โดยคิดค่าจ้างเป็นรายเที่ยวรถ การที่จำเลยออกใบเสร็จว่าโจทก์ได้ตักดินให้แล้ว เป็นจำนวนกี่เที่ยวรถมอบให้โจทก์ไว้ ดังนี้เป็นการยอมรับต่อโจทก์ว่าจำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์ตามข้อความในใบเสร็จดังกล่าวจึงเป็นการรับสภาพหนี้ อายุความในสิทธิเรียกร้องค่าจ้างของโจทก์ย่อมสะดุดหยุดลง และเริ่มนับใหม่ในวันที่ออกใบเสร็จคือวันที่ 23 พฤศจิกายน 2521 เมื่อโจทก์นำคดีมาฟ้องใน วันที่ 21 พฤศจิกายน 2523 คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 165(8)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 537/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสภาพหนี้จากการออกใบเสร็จ ยุติอายุความค่าจ้าง
โจทก์รับจ้างตักดินให้จำเลย โดยคิดค่าจ้างเป็นรายเที่ยวรถ การที่จำเลยออกใบเสร็จว่าโจทก์ได้ตักดินให้แล้ว เป็นจำนวนกี่เที่ยวรถมอบให้โจทก์ไว้ ดังนี้เป็นการยอมรับต่อโจทก์ว่าจำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์ตามข้อความในใบเสร็จดังกล่าวจึงเป็นการรับสภาพหนี้ อายุความในสิทธิเรียกร้องค่าจ้างของโจทก์ย่อมสะดุดหยุดลง และเริ่มนับใหม่ในวันที่ออกใบเสร็จคือวันที่ 23 พฤศจิกายน 2521 เมื่อโจทก์นำคดีมาฟ้องใน วันที่ 21 พฤศจิกายน 2523 คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 165 (8)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3889/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสภาพหนี้ทายาทตามสัญญากู้: การกระทำแสดงเจตนาชัดเจนเพียงพอ แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
จำเลยทั้งหกเป็นทายาทผู้รับมรดกของเจ้ามรดกซึ่งเป็นหนี้เงินกู้โจทก์ตามสัญญากู้ การที่จำเลยทั้งหกรับว่าจะชดใช้หรือให้โจทก์และได้ขอยืมโฉนดที่โจทก์ยึดถือไว้เป็นประกันไปจากโจทก์เพื่อนำไปขอจดทะเบียนรับมรดกแล้วนำมาคืนให้โจทก์ยึดถือไว้ตามเดิมนั้น ถือได้ว่าเป็นการกระทำอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 หาจำต้องทำหลักฐานเป็นหนังสือเสมอไปไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3889/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสภาพหนี้ทายาท: การชำระหนี้และคืนโฉนดถือเป็นการยอมรับหนี้โดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
จำเลยทั้งหกเป็นทายาทผู้รับมรดกของเจ้ามรดกซึ่งเป็นหนี้เงินกู้โจทก์ตามสัญญากู้ การที่จำเลยทั้งหกรับว่าจะชดใช้หรือให้โจทก์และได้ขอยืมโฉนดที่โจทก์ยึดถือไว้เป็นประกันไปจากโจทก์เพื่อนำไปขอจดทะเบียนรับมรดกแล้วนำมาคืนให้โจทก์ยึดถือไว้ตามเดิมนั้น ถือได้ว่าเป็นการกระทำอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 หาจำต้องทำหลักฐานเป็นหนังสือเสมอไปไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3443/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสภาพหนี้จากการยื่นคำขอรังวัดที่ดิน ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
จำเลยทำสัญญาจะขายที่พิพาทให้โจทก์เมื่อ พ.ศ.2512โจทก์ชำระราคาให้แล้วบางส่วน วันที่ 7 เมษายน 2518โจทก์จำเลยไปยื่นคำขอรังวัดแบ่งแยกที่ดินด้วยกัน การที่จำเลยยื่นคำขอดังกล่าวก็เพื่อจะดำเนินการโอนที่พิพาทให้โจทก์ตามสัญญา ถือได้ว่าจำเลยทำการอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่าจำเลยยอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องของโจทก์ที่มีอยู่ต่อจำเลยตามสัญญาจะซื้อจะขายที่พิพาทแล้ว จึงเป็นการรับสภาพหนี้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 ซึ่งมีผลให้อายุความสะดุดหยุดลง เมื่อเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2518 ถึงวันที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ยังไม่เกิน 10 ปี คดียังไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3443/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสภาพหนี้และการสะดุดหยุดอายุความจากการยื่นคำขอรังวัดที่ดินเพื่อโอนกรรมสิทธิ์
จำเลยทำสัญญาจะขายที่พิพาทให้โจทก์เมื่อ พ.ศ.2512 โจทก์ชำระราคาแล้วบางส่วน วันที่ 7 เมษายน 2518 โจทก์จำเลยไปยื่นคำขอรังวัดแบ่งแยกที่ดินด้วยกัน การที่จำเลยยื่นคำขอดังกล่าวก็เพื่อจะดำเนินการโอนที่พิพาทให้โจทก์ตามสัญญา ถือได้ว่าจำเลยทำการอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่า จำเลยยอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องของโจทก์ที่มีอยู่ต่อจำเลยตามสัญญาจะซื้อจะขายแล้ว จึงเป็นการรับสภาพหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 ซึ่งมีผลให้อายุความสะดุดหยุดลง เมื่อเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2518 ถึงวันที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ยังไม่เกิน 10 ปี คดียังไม่ขาดอายุความ
of 38