พบผลลัพธ์ทั้งหมด 375 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้ซื้อเชื่อและการรับสภาพหนี้ที่ทำให้สะดุดหยุดลงตามกฎหมาย
จำเลยซื้อเชื่อกระดาษ เครื่องเขียน จากพ่อค้า(โจทก์)ไปขายต่อเด็กนักเรียน เช่นนี้หาใช่เป็นการทำเพื่ออุตสาหกรรมของจำเลยไม่ สิทธิเรียกร้องของโจทก์จึงมีอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1)
เมื่อ จำเลยรับสภาพหนี้ ย่อมทำให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 เมื่ออายุความสะดุดหยุดลงแล้ว การเริ่มต้นนับอายุความใหม่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 181 ก็ต้องถืออายุความเดิม เป็นแต่ตั้งต้นนับใหม่เท่านั้น
คู่ความแถลงขอให้ศาลชี้ขาดว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่เพียงประเด็นเดียวโดยไม่สืบพยานในประเด็นอื่นอีก เช่นนี้ ศาลจะชี้ขาดได้ต้องอาศัยข้อเท็จจริงซึ่งปรากฏในคำฟ้องคำให้การและคำแถลงของคู่ความประกอบด้วย การวินิจฉัยข้อเท็จจริงเช่นนี้ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกเหนือจากประเด็นแห่งคดี
เมื่อ จำเลยรับสภาพหนี้ ย่อมทำให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 เมื่ออายุความสะดุดหยุดลงแล้ว การเริ่มต้นนับอายุความใหม่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 181 ก็ต้องถืออายุความเดิม เป็นแต่ตั้งต้นนับใหม่เท่านั้น
คู่ความแถลงขอให้ศาลชี้ขาดว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่เพียงประเด็นเดียวโดยไม่สืบพยานในประเด็นอื่นอีก เช่นนี้ ศาลจะชี้ขาดได้ต้องอาศัยข้อเท็จจริงซึ่งปรากฏในคำฟ้องคำให้การและคำแถลงของคู่ความประกอบด้วย การวินิจฉัยข้อเท็จจริงเช่นนี้ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกเหนือจากประเด็นแห่งคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 434/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้ซื้อเชื่อและการรับสภาพหนี้: ผลกระทบต่อการนับอายุความใหม่
จำเลยซื้อเชื่อกระดาษ เครื่องเขียน จากพ่อค้า(โจทก์)ไปขายต่อเด็กนักเรียน เช่นนี้ หาใช่เป็นการทำเพื่ออุตสาหกรรมของจำเลยไม่ สิทธิเรียกร้องของโจทก์จึงมีอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1)
เมื่อจำเลยรับสภาพหนี้ ย่อมทำให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 172 เมื่ออายุความสะดุดหยุดลงแล้ว การเริ่มต้นนับอายุความใหม่ตามประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 181 ก็ต้องถืออายุความเดิมเป็นแต่ตั้งต้นนับใหม่เท่านั้น
คู่ความแถลงขอให้ศาลชี้ขาดว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ เพียงประเด็นเดียว โดยไม่สืบพยานในประเด็นอื่นอีก เช่นนี้ ศาลจะชี้ขาดได้ต้องอาศัยข้อเท็จจริงซึ่งปรากฎในคำฟ้องคำให้การและคำแถลงของคู่ความประกอบด้วย การวินิจฉัยข้อเท็จจริงเช่นนี้ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกเหนือจากประเด็นแห่งคดี
เมื่อจำเลยรับสภาพหนี้ ย่อมทำให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 172 เมื่ออายุความสะดุดหยุดลงแล้ว การเริ่มต้นนับอายุความใหม่ตามประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 181 ก็ต้องถืออายุความเดิมเป็นแต่ตั้งต้นนับใหม่เท่านั้น
คู่ความแถลงขอให้ศาลชี้ขาดว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ เพียงประเด็นเดียว โดยไม่สืบพยานในประเด็นอื่นอีก เช่นนี้ ศาลจะชี้ขาดได้ต้องอาศัยข้อเท็จจริงซึ่งปรากฎในคำฟ้องคำให้การและคำแถลงของคู่ความประกอบด้วย การวินิจฉัยข้อเท็จจริงเช่นนี้ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกเหนือจากประเด็นแห่งคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 281/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการยกอายุความในชั้นศาล แม้มิได้ยกในชั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และผลของการชำระหนี้บางส่วนต่ออายุความ
กรณีที่ผู้ร้องได้ปฏิเสธหนี้เมื่อถูกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกร้องให้ชำระตาม มาตรา 119แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 นั้นแม้ผู้ร้องจะมิได้กล่าวอ้างว่าหนี้รายนั้นขาดอายุความในชั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็ตาม ผู้ร้องก็มีสิทธิที่จะยกขึ้นกล่าวต่อสู้ในชั้นศาลได้
การชำระหนี้ให้บางส่วน อายุความย่อมสะดุดหยุดลงตามมาตรา 172 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และตั้งแต่นับอายุความใหม่โดยถืออายุความเดิมนั้น
การชำระหนี้ให้บางส่วน อายุความย่อมสะดุดหยุดลงตามมาตรา 172 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และตั้งแต่นับอายุความใหม่โดยถืออายุความเดิมนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 281/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการยกอายุความในชั้นศาล แม้มิได้ยกในชั้นบังคับคดี และผลของการชำระหนี้บางส่วนต่ออายุความ
กรณีที่ผู้ร้องได้ปฏิเสธหนี้เมื่อถูกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกร้องให้ชำระตามมาตรา 119 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 นั้น แม้ผู้ร้องจะมิได้กล่าวอ้างว่าหนี้รายนั้นขาดอายุความในชั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็ตาม ผู้ร้องก็มีสิทธิที่จะยกขึ้นกล่าวต่อสู้ในชั้นศาลได้
การชำระหนี้ให้บางส่วน อายุความย่อมสะดุดหยุดลงตามมาตรา 172 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และตั้งต้นนับอายุความใหม่โดยถืออายุความเดิมนั้น
การชำระหนี้ให้บางส่วน อายุความย่อมสะดุดหยุดลงตามมาตรา 172 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และตั้งต้นนับอายุความใหม่โดยถืออายุความเดิมนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 69/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่สมบูรณ์, อายุความละเมิด, อายุความค้ำประกัน, การรับสภาพหนี้, เริ่มนับอายุความใหม่
ฟ้องที่กล่าวเพียงว่า 'สินค้าอื่นๆ ซึ่งโจทก์จะได้เสนอหลักฐานต่อศาลในวันพิจารณาขาดไปคิดเป็นเงิน 57,266.58 บาท' เป็นฟ้องที่มิได้แสดงให้แจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและขาดข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 วรรค 2 โจทก์ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันคนที่ทำละเมิดต่อโจทก์เพื่อเรียกค่าเสียหายในการละเมิดนั้นเมื่อเกิน 1 ปี นับแต่วันที่โจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนคดีโจทก์ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 จำเลยซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันยกข้อต่อสู้เรื่องอายุความของผู้ที่ทำละเมิดต่อโจทก์ขึ้นต่อสู้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 694
อายุความเรียกค่าเสียหายในการละเมิดมี 1 ปี เมื่อจำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้จากการละเมิดอายุความก็สะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 ต้องเริ่มนับอายุความขึ้นใหม่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 181 วรรค 2 อายุความที่เริ่มนับใหม่ก็คือ 1 ปีเช่นเดิม ไม่ใช่ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164
อายุความเรียกค่าเสียหายในการละเมิดมี 1 ปี เมื่อจำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้จากการละเมิดอายุความก็สะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 ต้องเริ่มนับอายุความขึ้นใหม่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 181 วรรค 2 อายุความที่เริ่มนับใหม่ก็คือ 1 ปีเช่นเดิม ไม่ใช่ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 69/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่สมบูรณ์, อายุความละเมิด, อายุความรับสภาพหนี้, ผู้ค้ำประกัน, ข้อต่อสู้เรื่องอายุความ
ฟ้องที่กล่าวเพียงว่า"สินค้าอื่น ๆ ซึ่งโจทก์จะได้เสนอหลักฐานต่อศาลในวันพิจารณาขาดไปคิดเป็นเงิน 57,266.58 บาท" เป็นฟ้องที่มิได้แสดงให้แจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและขาดข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 วรรค 2 โจทก์ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันคนที่ทำละเมิดต่อโจทก์เพิ่อเรียกค่าเสียหายในการละเมิดนั้นเมื่อเกิน 1 ปี นับแต่วันที่โจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน คดีโจทก์ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 จำเลยซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันยกข้อต่อสู้เรื่องอายุความของผู้ที่ทำละเมิดต่อโจทก์ขึ้นต่อสู้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 68
อายุความเรียกค่าเสียหายในการละเมิดมี 1 ปี เมื่อจำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้จากการละเมิด อายุความก็สะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 ต้องเริ่มนับอายุความขึ้นใหม่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 181 วรรค 2 อายุความที่เริ่มนับใหม่ก็คือ 1 ปีเช่นเดิม ไม่ใช่ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
อายุความเรียกค่าเสียหายในการละเมิดมี 1 ปี เมื่อจำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้จากการละเมิด อายุความก็สะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 ต้องเริ่มนับอายุความขึ้นใหม่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 181 วรรค 2 อายุความที่เริ่มนับใหม่ก็คือ 1 ปีเช่นเดิม ไม่ใช่ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1887/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของผู้ค้ำประกัน, อายุความหนี้เงินกู้, และการรับสภาพหนี้หลังการเสียชีวิตของลูกหนี้
กรณีลูกหนี้ของธนาคารทำสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีให้ไว้แก่ธนาคารในวงเงินที่กำหนดไว้และมีระยะเวลา 2 เดือน นับแต่วันทำสัญญา ส่วนจำนวนเงินที่เบิกเกินบัญชีไปนั้น กำหนดให้ถือตามบัญชีกระแสรายวันของธนาคารแล้วมีผู้ค้ำประกันเข้าทำสัญญาค้ำประกันการชำระหนี้ตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีดังกล่าวนั้นจนกว่าธนาคารจะได้รับชำระหนี้โดยสิ้นเชิง ดังนี้ คำว่า "เบิกเงินเกินบัญชี" ย่อมหมายความเป็นการเบิกเงินเกินจากบัญชีเงินฝากของลูกหนี้ที่เป็นลูกหนี้ธนาคารอยู่ทั้งหมด การเข้าค้ำประกันการเบิกเงินเกินบัญชีของลูกหนี้ จึงเป็นการค้ำประกันหนี้ที่มีอยู่และหนี้ในอนาคตในวงเงินที่ค้ำประกันในระยะ 2 เดือนนั้นด้วย
แม้ในสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีจะมีข้อความว่า ถ้าผู้เบิกเงินเกินบัญชีไม่ส่งดอกเบี้ย (ในอัตราร้อยละ 8ต่อปี) ผู้เบิกเงินเกินบัญชียอมให้ดอกเบี้ยที่ค้างชำระนับทบเข้ากับจำนวนเงินเบิกเกินบัญชีทันทีที่ค้างชำระเป็นคราวๆ ไปก็ดี แต่ข้อสัญญานี้เป็นข้อตกลงในการเบิกเงินเกินบัญชีจะนำไปใช้ในกรณีที่มีการผิดนัดไม่ชำระหนี้มาได้ไม่ การที่ธนาคารโจทก์เจ้าหนี้ขอให้จำเลยซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันการเบิกเงินเกินบัญชีของลูกหนี้รับผิดใช้ดอกเบี้ยทบต้นต่อไปนับแต่วันฟ้องนั้น เป็นการที่โจทก์คิดดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดซึ่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 วรรคสองห้ามไว้
กรณีลูกหนี้ของธนาคารตายลง แล้วผู้เป็นทายาทได้ทำหนังสือรับสารภาพหนี้ให้ธนาคารเจ้าหนี้ไว้ อายุความเรียกร้องขอธนาคารเจ้าหนี้อันมีต่อลูกหนี้เจ้ามรดกก็ได้เปลี่ยนมาเป็นอายุความเรียกร้องอันมีต่อทายาทผู้รับสารภาพหนี้นั้น อายุความตามมาตรา 1754 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่มิให้เจ้าหนี้ฟ้องร้องเมื่อพ้นกำหนด 1 ปีนับแต่ความตายของเจ้ามรดกจึงสะดุดหยุดลง อายุความสำหรับสิทธิเรียกร้องของธนาคารเจ้าหนี้จึงต้องตั้งต้นนับใหม่ตามอายุความแห่งมูลหนี้
การที่ลูกหนี้ของธนาคารนำเงินเข้าบัญชีและถอนออกไปในระยะเวลาที่ยังมีการเบิกเงินเกินบัญชีอยู่ หาเป็นการชำระหนี้เงินเบิกเกินบัญชีต่อธนาคารไม่
ข้อสัญญาค้ำประกันที่ว่า เมื่อลูกหนี้ตาย ผู้ค้ำประกันยอมเข้าเป็นลูกหนี้ร่วม ย่อมมีความหมายว่าผู้ค้ำประกันยอมเข้าเป็นลูกหนี้ร่วมในหนี้ของลูกหนี้ซึ่งจะตกทอดไปยังทายาทของลูกหนี้นั้นตามกฎหมาย เมื่อปรากฏว่าทายาทของลูกหนี้ได้ทำหนังสือรับสารภาพหนี้ให้เจ้าหนี้ไว้ก่อนที่อายุความ 1 ปีได้สิ้นสุดลง ผู้ค้ำประกันก็ย่อมเป็นลูกหนี้ร่วมกับทายาทนั้นต่อไปตามจำนวนหนี้ที่ค้ำประกันไว้ และใช้อายุความตามมูลหนี้นั้น
แม้ในสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีจะมีข้อความว่า ถ้าผู้เบิกเงินเกินบัญชีไม่ส่งดอกเบี้ย (ในอัตราร้อยละ 8ต่อปี) ผู้เบิกเงินเกินบัญชียอมให้ดอกเบี้ยที่ค้างชำระนับทบเข้ากับจำนวนเงินเบิกเกินบัญชีทันทีที่ค้างชำระเป็นคราวๆ ไปก็ดี แต่ข้อสัญญานี้เป็นข้อตกลงในการเบิกเงินเกินบัญชีจะนำไปใช้ในกรณีที่มีการผิดนัดไม่ชำระหนี้มาได้ไม่ การที่ธนาคารโจทก์เจ้าหนี้ขอให้จำเลยซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันการเบิกเงินเกินบัญชีของลูกหนี้รับผิดใช้ดอกเบี้ยทบต้นต่อไปนับแต่วันฟ้องนั้น เป็นการที่โจทก์คิดดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดซึ่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 วรรคสองห้ามไว้
กรณีลูกหนี้ของธนาคารตายลง แล้วผู้เป็นทายาทได้ทำหนังสือรับสารภาพหนี้ให้ธนาคารเจ้าหนี้ไว้ อายุความเรียกร้องขอธนาคารเจ้าหนี้อันมีต่อลูกหนี้เจ้ามรดกก็ได้เปลี่ยนมาเป็นอายุความเรียกร้องอันมีต่อทายาทผู้รับสารภาพหนี้นั้น อายุความตามมาตรา 1754 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่มิให้เจ้าหนี้ฟ้องร้องเมื่อพ้นกำหนด 1 ปีนับแต่ความตายของเจ้ามรดกจึงสะดุดหยุดลง อายุความสำหรับสิทธิเรียกร้องของธนาคารเจ้าหนี้จึงต้องตั้งต้นนับใหม่ตามอายุความแห่งมูลหนี้
การที่ลูกหนี้ของธนาคารนำเงินเข้าบัญชีและถอนออกไปในระยะเวลาที่ยังมีการเบิกเงินเกินบัญชีอยู่ หาเป็นการชำระหนี้เงินเบิกเกินบัญชีต่อธนาคารไม่
ข้อสัญญาค้ำประกันที่ว่า เมื่อลูกหนี้ตาย ผู้ค้ำประกันยอมเข้าเป็นลูกหนี้ร่วม ย่อมมีความหมายว่าผู้ค้ำประกันยอมเข้าเป็นลูกหนี้ร่วมในหนี้ของลูกหนี้ซึ่งจะตกทอดไปยังทายาทของลูกหนี้นั้นตามกฎหมาย เมื่อปรากฏว่าทายาทของลูกหนี้ได้ทำหนังสือรับสารภาพหนี้ให้เจ้าหนี้ไว้ก่อนที่อายุความ 1 ปีได้สิ้นสุดลง ผู้ค้ำประกันก็ย่อมเป็นลูกหนี้ร่วมกับทายาทนั้นต่อไปตามจำนวนหนี้ที่ค้ำประกันไว้ และใช้อายุความตามมูลหนี้นั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1574/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์: เริ่มนับระยะเวลาหลังแบ่งแยกโฉนด, อายุความสะดุดหยุดเมื่อมีการฟ้องร้อง
อ.และฉ.กับคนอื่นมีชื่อในโฉนดว่าเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินแปลงหนึ่งซึ่งยังมิได้แบ่งแยกกันเป็นส่วนสัด การที่ อ.ครอบครองที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของที่ดินแปลงนั้นย่อมต้องถือว่าครอบครองที่ส่วนนั้นในฐานะเจ้าของร่วมคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ก่อให้เกิดสิทธิที่จะอ้างว่าตนครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเสียแต่คนเดียว ครั้นแบ่งแยกโฉนดเป็นที่ดิน 2 แปลงแล้วปรากฏว่าส่วนที่ อ.ครอบครองอยู่นั้นล้ำเข้าไปอยู่ในเขตโฉนดของฉ.8ตารางวา เมื่ออ.ยังคงครอบครองที่ส่วนนี้ต่อมา ก็อาจอ้างได้ว่าครอบครองในลักษณะปรปักษ์ตั้งแต่เวลาที่มีการแบ่งแยกโฉนดกันนั้น
อ.ครอบครองที่ดินพิพาทในลักษณะปรปักษ์อยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่งแล้วโอนให้ จ. ดังนี้ ย่อมนับเวลาซึ่ง อ.ครอบครองกับที่ จ.ครอบครอง รวมกันเป็นอายุความครอบครองโดยปรปักษ์ได้
จ.มีรั้วล้ำเข้าไปอยู่ในเขตที่ดินของ ฉ.เป็นเนื้อที่8 ตารางวา ฉ.ฟ้องจ.ขอบังคับให้รื้อรั้ว จ.ให้การว่าอ.สามีตนทำรั้วเข้าไปในเขตที่ดินของ ฉ.ฉ.ไม่ทักท้วงจนเกิน10ปีแล้ว ฉ.จึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายในการที่ไม่ได้ใช้ที่ดิน ศาลพิพากษาให้จ.รื้อรั้ว ดังนี้ อายุความการครอบครองโดยปรปักษ์ในที่ดิน 8 ตารางวานั้น ย่อมสะดุดหยุดลงนับแต่วันที่ฉ.ยื่นฟ้อง (แม้ศาลจะมิได้วินิจฉัยไว้โดยตรงในปัญหาที่ว่าฝ่าย จ.ครอบครองที่ดิน 8 ตารางวานี้มาเกิน10 ปีหรือไม่ก็ตาม)
อ.เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดที่ 5449 ได้ทำรั้วเขตรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของ ฉ.เป็นเนื้อที่8ตารางวา ต่อมาอ.โอนที่ดินโฉนดที่ 5449 นั้นให้แก่ จ.เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์คนเดียวและนับแต่นั้นเองก็ไม่ได้แสดงกิริยาอาการอย่างใดให้ถือว่าเป็นผู้ครอบครองที่ดิน 8 ตารางวานั้นอยู่โดยเฉพาะเจาะจงอีก ดังนี้ เมื่อ ฉ.จะฟ้องคดีเพื่อให้อายุความครอบครองโดยปรปักษ์สะดุดหยุดลงก็ชอบที่จะฟ้องแต่ จ.คนเดียวได้
อ.ครอบครองที่ดินพิพาทในลักษณะปรปักษ์อยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่งแล้วโอนให้ จ. ดังนี้ ย่อมนับเวลาซึ่ง อ.ครอบครองกับที่ จ.ครอบครอง รวมกันเป็นอายุความครอบครองโดยปรปักษ์ได้
จ.มีรั้วล้ำเข้าไปอยู่ในเขตที่ดินของ ฉ.เป็นเนื้อที่8 ตารางวา ฉ.ฟ้องจ.ขอบังคับให้รื้อรั้ว จ.ให้การว่าอ.สามีตนทำรั้วเข้าไปในเขตที่ดินของ ฉ.ฉ.ไม่ทักท้วงจนเกิน10ปีแล้ว ฉ.จึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายในการที่ไม่ได้ใช้ที่ดิน ศาลพิพากษาให้จ.รื้อรั้ว ดังนี้ อายุความการครอบครองโดยปรปักษ์ในที่ดิน 8 ตารางวานั้น ย่อมสะดุดหยุดลงนับแต่วันที่ฉ.ยื่นฟ้อง (แม้ศาลจะมิได้วินิจฉัยไว้โดยตรงในปัญหาที่ว่าฝ่าย จ.ครอบครองที่ดิน 8 ตารางวานี้มาเกิน10 ปีหรือไม่ก็ตาม)
อ.เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดที่ 5449 ได้ทำรั้วเขตรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของ ฉ.เป็นเนื้อที่8ตารางวา ต่อมาอ.โอนที่ดินโฉนดที่ 5449 นั้นให้แก่ จ.เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์คนเดียวและนับแต่นั้นเองก็ไม่ได้แสดงกิริยาอาการอย่างใดให้ถือว่าเป็นผู้ครอบครองที่ดิน 8 ตารางวานั้นอยู่โดยเฉพาะเจาะจงอีก ดังนี้ เมื่อ ฉ.จะฟ้องคดีเพื่อให้อายุความครอบครองโดยปรปักษ์สะดุดหยุดลงก็ชอบที่จะฟ้องแต่ จ.คนเดียวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1382/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความได้สิทธิครอบครองสะดุดหยุดลงจากการรับสภาพสิทธิ การร้องเรียนต่ออำเภอถือเป็นการรับสภาพได้
มาตรา 1386 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ให้นำบทบัญญัติว่าด้วยอายุความมาใช้บังคับในเรื่องอายุความได้สิทธิครอบครองด้วยโดยอนุโลม ฉะนั้น จึงนำบทบัญญัติว่าด้วยอายุความสะดุดหยุดลงมาใช้แก่การฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองได้
ฟ้องโจทก์ที่ระบุถึงเรื่องโจทก์ไปร้องต่ออำเภอว่าจำเลยบุกรุกล้อมรั้วจำเลยยอมรื้อรั้วกับอำเภอแล้ว เช่นนี้อย่างน้อยก็มีผลเป็นการรับสภาพตามสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงอย่างหนึ่ง
ฟ้องโจทก์ที่ระบุถึงเรื่องโจทก์ไปร้องต่ออำเภอว่าจำเลยบุกรุกล้อมรั้วจำเลยยอมรื้อรั้วกับอำเภอแล้ว เช่นนี้อย่างน้อยก็มีผลเป็นการรับสภาพตามสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงอย่างหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1382/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความครอบครอง: การรับสภาพสิทธิทำให้สะดุดหยุดลง
มาตรา 1386 แห่งประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ ให้นำบทบัญญัติว่าด้วยอายุความมาใช้บังคับในเรื่องอายุความได้สิทธิครอบครองด้วยโดยอนุโลม ฉะนั้น จึงนำบทบัญญัติว่าด้วยอายุความ สะดุดหยุดลงมาให้แก่การฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองได้
ฟ้องโจทก์ที่ระบุถึงเรื่องโจทก์ไปร้องต่ออำเภอว่าจำเลยบุกรุกล้อมรั้ว จำเลยยอมรื้อรั้วกับอำเภอแล้ว เช่นนี้ อย่างน้อยก็มีผลเป็นการรับสภาพตามสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงอย่างหนึ่ง
ฟ้องโจทก์ที่ระบุถึงเรื่องโจทก์ไปร้องต่ออำเภอว่าจำเลยบุกรุกล้อมรั้ว จำเลยยอมรื้อรั้วกับอำเภอแล้ว เช่นนี้ อย่างน้อยก็มีผลเป็นการรับสภาพตามสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงอย่างหนึ่ง